เคปเวิร์ดสร้างประวัติศาสตร์ลุยฟุตบอลโลกครั้งแรก
บรรยากาศฉลองสุดคลั่งที่สนามเอสตาดิโอ นาซิอองนาล เดอ ไปรอา เมื่อเดือนตุลาคม คือภาพที่บอกทุกอย่างได้ชัดเจนว่า เคปเวิร์ด กำลังเขียนหน้าประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ หลังการันตีตั๋วไปเล่น ฟุตบอลโลก 2026 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก และสำหรับคนอย่าง Ryan Mendes แล้ว ความฝันที่เคยคิดว่าไกลเกินเอื้อม กำลังจับต้องได้จริงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
วันจับสลาก รอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลกที่จะมาถึง คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทุกอย่าง “จับต้องได้” มากขึ้นสำหรับแฟนบอลหมู่เกาะเล็ก ๆ แห่งแอฟริกา ที่เคยมีเพียงบทบาท “ผู้ชม” มาตลอดทุกครั้งที่ทัวร์นาเมนต์ระดับโลกเริ่มขึ้น แต่คราวนี้พวกเขาจะได้เห็นชื่อประเทศของตัวเองปรากฏเคียงข้างชาติยักษ์ใหญ่ของโลกฟุตบอล
“พอเวลาผ่านไป คุณจะเริ่มตระหนักจริง ๆ ว่าคุณทำอะไรลงไปบ้าง”
“เคปเวิร์ดกำลังจะไปฟุตบอลโลก มันเหลือเชื่อจริง ๆ ตอนนี้พวกเรามีความสุขมากที่ปิดจ๊อบคว้าตั๋วไปได้สำเร็จ”
นั่นคือคำให้สัมภาษณ์แบบตรงไปตรงมาจากปีกจอมเก๋า ที่รู้ดีว่าช่วงเวลานี้ ไม่ได้เป็นเพียงชัยชนะของทีมฟุตบอล แต่เป็นชัยชนะของทั้งประเทศ
ทีมชาติหมู่เกาะเคปเวิร์ด: ม้านอกสายตาที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ในเวทีคัดเลือกโซนแอฟริกาที่ดุเดือดขึ้นทุกปี ทีมขาประจำหลายชาติยังผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้ตามมาตรฐาน แต่ชื่ออย่างแคเมอรูน หรือไนจีเรียกลับหลุดโผ ทว่ากลับเป็น ทีมชาติหมู่เกาะเคปเวิร์ด ที่โผล่ขึ้นมาเป็น “ม้ามืด” แบบเต็มตัว และเป็นชาติเดียวจากแอฟริกาที่จะได้ประเดิม World Cup เป็นครั้งแรก
สิ่งที่ทำให้ทีมชุดนี้แข็งแกร่ง ไม่ได้มีแค่แท็กติกหรือคุณภาพนักเตะ แต่คือ “ตัวตน” และ “บรรยากาศในทีม” ที่เรียบง่าย และเต็มไปด้วยพลังบวกในแบบของพวกเขาเอง
“พวกเราเคปเวิร์ดเป็นแบบนี้แหละ เราอยู่ร่วมกันได้ดีเสมอจริง ๆ ในทุกเจเนอเรชันที่ผมเคยสัมผัสมา”
“ตั้งแต่ปี 2010 ที่ผมเข้ามาติดทีม ทุกอย่างในห้องแต่งตัวไม่เคยเปลี่ยนเลย สิ่งที่ต่างคือเรามีคุณภาพในสนามมากขึ้น แต่ในฐานะมนุษย์ เราเหมือนเดิมทุกอย่าง”
นี่คือหัวใจของทีมเล็กที่ไม่มีซูเปอร์สตาร์ระดับโลก แต่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นแบบครอบครัว ซึ่งกลายเป็นอาวุธลับในการลุยเวทีระดับทวีปและระดับโลก
ไดลอน ลิเวอร์เมนโต้ ดาวยิงที่กลายเป็นตัวแทนของ “คุณภาพใหม่”
อีกกุญแจสำคัญที่ยกระดับทีมชาติชุดนี้ คือการแจ้งเกิดของดาวยิงอย่างไดลอน ลิเวอร์เมนโต้ แข้งของเฮลลาส เวโรนา (ยืมตัวมาจาก Casa Pia) ที่ระเบิดฟอร์มซัด 4 ประตูในรอบคัดเลือก กลายเป็นตัวความหวังในแดนหน้าอย่างเต็มตัว
ไดลอน ตอนที่เขาเพิ่งเข้ามา ผมจำได้ว่าเขาขี้อายมาก และต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่พักหนึ่ง”
“ผมจำได้ดี ผมบอกเขาว่า ‘ไม่ต้องกังวล นายมีศักยภาพ ทุกอย่างจะมาของมันเอง แค่ใจเย็นและนิ่งเข้าไว้’ ตอนนี้เขายิงประตูได้ต่อเนื่อง แถมมักเป็นประตูสำคัญด้วย ซึ่งดีทั้งกับเขาและกับทีม เราดีใจมากที่มีเขาอยู่ในทีม”
จากเด็กขี้อายสู่หัวหอกตัวหลัก คือภาพสะท้อนเส้นทางของทีมชุดนี้ที่เต็มไปด้วยการให้โอกาส และการผลักดันกันเองในหมู่เพื่อนร่วมทีม
เตรียมความพร้อมสู่เวทีใหญ่ที่สุดของโลก
สำหรับประเทศเล็ก ๆ ที่มีประชากรราวห้าแสนคน การได้ไปฟุตบอลโลกไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอล แต่มันคือโปรเจกต์ระดับชาติ ทั้งสมาคม ทีมงาน นักเตะ และคนทั้งประเทศต้องเดินไปในทิศทางเดียวกันในช่วงก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่มขึ้น
“สมาคมจะทำทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้เราพร้อมที่สุด เราจะมีเกมอุ่นเครื่องหลายแมตช์เพื่อเคาะสนิม”
“ในมุมของนักเตะ แน่นอนว่าผมหวังจะได้ไปแบบไม่เจ็บและอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด หน้าที่ของเราคือดูแลร่างกายให้ดีที่ต้นสังกัด และเมื่อกลับมาเข้าแคมป์ทีมชาติ เราก็ต้องใส่เต็มเหมือนเคย เพราะฟุตบอลโลกจะมาถึงเร็วกว่าที่คิด”
ด้วยรูปแบบใหม่ของฟุตบอลโลกที่เพิ่มเป็น 48 ทีม และจัดแข่งในสามประเทศเจ้าภาพอย่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก การเตรียมตัวทั้งเรื่องแท็กติก การเดินทาง สภาพอากาศ และความกดดันจากแฟนบอลทั่วโลกจะยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นไปอีก
รอจับสลาก – อยากเจอทีมใหญ่เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
แม้จะยังไม่รู้ว่าจะต้องเจอใครบ้างในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ Mendes ก็ชัดเจนว่า เคปเวิร์ดไม่ได้ไปเพื่อแค่ “ทัวร์สนาม” แน่นอน พวกเขาอยากเจอของจริง เจอกับทีมระดับท็อปของโลก
“แน่นอนว่าเราต้องมีเป้าหมาย แต่ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเราจะเจอใคร จากนั้นค่อยว่ากันอีกที”
“ไม่ว่าอย่างไร สิ่งที่เราต้องการคือการสนุกไปกับทัวร์นาเมนต์นี้ ผมเชื่อว่ามันจะเป็นฟุตบอลโลกที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะฟุตบอลโลกครั้งต่อ ๆ ไปมักดีกว่าครั้งก่อนหน้าเสมอ”
และเมื่อถูกถามว่าอยากเจอใครที่สุด แข้งวัย 35 ปีก็ยิ้มก่อนตอบอย่างไม่ลังเล
“ได้เจอบราซิลคงเท่มาก”
“แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งที่เราต้องการคือการได้อยู่กลุ่มเดียวกับชาติใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส อาร์เจนตินา บราซิล โปรตุเกส หรือเยอรมนี… จากนั้นค่อยว่ากันต่อ แต่ใช่เลย ผมอยากให้มีหนึ่งในทีมเหล่านี้อยู่ในกลุ่มของเรา”
นี่คือทัศนคติของทีมเล็กที่ไม่ได้กลัวชื่อชั้นของใคร แต่อยากใช้โอกาสนี้พิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ “ตัวประกอบ”
ฟุตบอลโลกหนนี้คือชัยชนะของคนทั้งชาติ
ความสวยงามที่สุดของเรื่องนี้ ไม่ได้อยู่แค่บนสนาม แต่คือความรู้สึกของชาวเคปเวิร์ดทั่วโลก ที่จะได้เห็นประเทศของตัวเองบนเวทีที่ทั้งโลกจับตามอง หลังเคยต้อง “เลือกเชียร์ชาติอื่น” มาตลอดทุกครั้งที่ฟุตบอลโลกเริ่มเตะ
“นี่คือความฝันของเราในฐานะนักฟุตบอล”
“เรามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้คนในเคปเวิร์ด และตอนนี้พวกเขาจะได้ดูทีมชาติของตัวเองลงเล่นฟุตบอลโลก ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้าน อยู่ที่ทำงาน อยู่ในเคปเวิร์ดหรืออยู่ปารีส ถ้าคุณเดินเข้าบาร์แล้วมีฟุตบอลโลกเปิดอยู่ คุณจะสามารถพูดกับตัวเองได้ว่า ‘วันนี้ทีมของฉันกำลังเจอกับฝรั่งเศส หรือบราซิล…’ นั่นคือสิ่งที่เราตั้งใจจะมอบให้พวกเขา”
สำหรับประเทศที่เคยมีฐานะเพียง “ผู้ชมไกล ๆ” การได้ยืนอยู่ในรายชื่อชาติผู้เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ระดับโลก คือการยืนยันว่าพวกเขามาไกลกว่าที่ใครเคยคิด
“ผมเข้ามาติดทีมชาติเมื่อ 15 ปีก่อน ตอนนั้นเราไปไม่ถึงแม้แต่รอบแบ่งกลุ่มของรอบคัดเลือก ผู้คนไม่รู้หรอกว่าเราเดินทางมาไกลแค่ไหน… หลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ ชาวเคปเวิร์ดจะสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่าประเทศของพวกเขาเคยไปฟุตบอลโลกมาก่อน ซึ่งเมื่อก่อนมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย”
บทเรียนจากม้านอกสายตาบนเวทีฟุตบอลโลก
ในมุมของแฟนบอลทั่วโลก เรื่องราวของเคปเวิร์ดคือหนึ่งใน “เส้นทางม้ามืด” ที่ทำให้ฟุตบอลโลกยังคงมีเสน่ห์เสมอ ทัวร์นาเมนต์นี้ไม่ได้มีไว้เพียงให้ทีมใหญ่แย่งถ้วยกันเท่านั้น แต่เป็นเวทีให้ชาติเล็กได้ฝันไกล และใช้เกมลูกหนังเป็นภาษากลางเชื่อมโยงผู้คนทั้งประเทศ
ตลอดประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เราเคยเห็นทีมเล็กแจ้งเกิด สร้างเซอร์ไพรส์ เขย่าโลกฟุตบอลมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นซาอุดีอาระเบียที่ล้มอาร์เจนตินา เกาหลีใต้ที่ทะลุเข้ารอบลึกในบ้านตัวเอง หรือคอสตาริกาที่ชนทุกทีมแบบไม่กลัวหน้าไหนในรอบแบ่งกลุ่ม สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำว่า ฟุตบอลโลกไม่ได้วัดกันแค่เรื่องชื่อชั้น แต่วัดกันที่ใจ ความพร้อม และความกล้าที่จะท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง
เคปเวิร์ดใน ฟุตบอลโลก 2026 จึงไม่ใช่แค่ทีมหน้าใหม่ แต่คือบทพิสูจน์อีกครั้งว่า ถ้าประเทศเล็ก ๆ มีโครงสร้างดี เชื่อในกระบวนการ และไม่กลัวที่จะฝัน วันหนึ่งพวกเขาก็มีสิทธิ์ยืนบนเวทีเดียวกับชาติใหญ่ได้เช่นกัน
แฟนบอลไทยจับตาเคปเวิร์ด – แล้วมาตามลุ้นไปพร้อมกันกับบ้านกีฬา
สำหรับแฟนบอลชาวไทยที่หลงรักบรรยากาศฟุตบอลโลก การได้เห็นทีมใหม่อย่างเคปเวิร์ดก้าวขึ้นมาบนเวทีนี้ คือสีสันสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะได้ลุ้นว่า “ม้ามืดจากหมู่เกาะแอฟริกา” จะเขย่าทัวร์นาเมนต์ได้แค่ไหน ยังได้เห็นพลังของฟุตบอลที่เปลี่ยนความฝันทั้งประเทศให้เป็นความจริง
ใครที่เตรียมตัวเปิดหน้าจอรอดูไฮไลท์ เช็กผลคู่ใหญ่ และตามเชียร์ทีมขวัญใจในศึก ฟุตบอลโลก 2026 อย่าลืมเก็บชื่อเคปเวิร์ดไว้ในลิสต์ทีมที่ต้องจับตา เพราะนี่อาจเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวคลาสสิกที่เราจะพูดถึงกันไปอีกหลายปีข้างหน้า
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งข่าวเด็ด มุมมองเข้มข้น และเรื่องเล่าจากเวทีระดับโลก อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

