จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง แอลเบเนีย 0-2 อังกฤษ วันนี้ 17/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม K นัดที่ 10 ปิดฉากด้วยเกมเดือดที่ติรานา แอลเบเนียเปิดบ้านรับการมาเยือนของอังกฤษ เกมนี้แฟนบอลที่ตามเช็กสกอร์แบบ ผลบอลสด และคอบอลสายสรุปสกอร์จาก บ้านกีฬา เห็นชัดเจนว่า “สิงโตคำราม” มาเพื่อปิดจ๊อบจ่าฝูงแบบไม่ทิ้งข้อกังขา หลังบุกกดเจ้าถิ่น 2-0 จากการเหมาคนเดียวของ แฮร์รี เคน
อังกฤษครองบอลเหนือกว่าแทบทั้งเกม แต่แอลเบเนียก็ไม่ยอมง่าย ๆ วางแผนตั้งรับแน่น รอจังหวะโต้กลับหวังลุ้นเซอร์ไพรส์ ทว่าความคมและคุณภาพในพื้นที่สุดท้ายของทีมเยือนยังจัดจ้านกว่า ส่งผลให้รูปเกมไหลไปตามทางของอังกฤษ ก่อนเก็บสามแต้มเต็มแบบสมราคาทีมแกร่งประจำกลุ่ม ขณะที่คนเช็กผลจาก บ้านผลบอล เห็นสกอร์ 0-2 แล้วต้องยอมรับว่าเป็นผลที่สะท้อนรูปเกมอย่างแท้จริง
⏱ ครึ่งแรก: สิงโตครองบอล แอลเบเนียอุดเอาอยู่
เปิดเกมมาอังกฤษยึดบอลได้ทันที จัดแนวรุกนำโดย เคน, โบเวน, เอเซ และจู๊ด เบลลิงแฮม ค่อย ๆ ต่อบอลกดเจ้าถิ่นลงไปในแดนตัวเอง แบ็กทั้งสองฝั่งอย่าง ดาเนียล เบิร์น และ โจ กวานซาห์ ดันสูงเติมเกมบุกช่วยกดดันริมเส้น แม้จะบุกหนักแต่แอลเบเนียที่จัดหลังบ้านแน่น 4 คน นำโดย โธมัส สตราโคชา กับคู่เซ็นเตอร์ ดจิมซิติ – อีสมัลลี ยังช่วยกันบล็อกได้ทุกจังหวะ
โอกาสจะแจ้งของอังกฤษมาจากลูกยิงไกลของเบลลิงแฮม และจังหวะหลุดเข้าไปยิงของเคน แต่สตราโคชางานแน่น เซฟเอาไว้ได้หมด ด้านแอลเบเนียอาศัยจังหวะสวนกลับของ มายร์โต อูซูนี กับ นาดีม บายรามี พยายามเล่นระยะไกลใส่แนวรับทีมเยือน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ
ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมเริ่มเดือด เมื่ออดัม วอร์ตัน ไปตัดเกมกลางสนามจนโดนใบเหลือง นาทีที่ 39 แต่สุดท้ายทั้งสองทีมยังเจาะกันไม่เข้า จบครึ่งแรกสกอร์ยังคง 0-0
🔥 ครึ่งหลัง: ทูเคิลแก้เกมเด็ด เคนแผลงฤทธิ์ปิดจ๊อบ
ครึ่งหลังอังกฤษยังคุมเกมไว้ในมือ แต่เริ่มเพิ่มสปีดการบุกมากขึ้น นาทีที่ 62 โธมัส ทูเคิลขยับเปลี่ยนสองตัวรวด ส่ง ฟิล โฟเดน แทน เดแคลน ไรซ์ และ บูกาโย่ ซาก้า แทน เอเบเรชี่ เอเซ เพื่อเติมความจัดจ้านริมเส้นและระยะยิงไกลจากนอกกรอบ
แรงกดดันทำให้แนวรับแอลเบเนียเริ่มหลวม นาทีที่ 74 อังกฤษก็ปลดล็อกสำเร็จ บอลต่อเนื่องจากริมเส้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลให้ แฮร์รี เคน แตะหาช่องแล้วซัดเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบตาข่ายให้ทีมเยือนนำ 1-0
ยังไม่พอ นาทีที่ 75 ทูเคิลเดินหน้าปิดเกม ส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เอลเลียต แอนเดอร์สัน ลงมาเติมความเร็ว ขณะที่ฝั่งเจ้าบ้านส่ง อาร์มานโด โบรยา ลงมายืนหอกตัวเป้า หวังฮึดตีเสมอ
แต่แทนที่แอลเบเนียจะกลับมาได้ กลายเป็นโดนคมของอังกฤษเล่นงานอีกดอก นาทีที่ 82 แรชฟอร์ดสปีดไลน์ทำชิ่งหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนเปิดให้เคนสอดเข้ามาจบสกอร์ไม่เหลือซาก กลายเป็นประตูที่สองของกัปตันทีม และเป็นสกอร์ 2-0 ที่ปิดเกมแบบจุก ๆ ให้แฟนเจ้าถิ่นเหงาไปทั้งสนาม
ท้ายเกมมีการเปลี่ยนตัวทั้งสองฝั่งเพื่อเติมความสด แต่ไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาที อังกฤษบุกเก็บสามแต้มพร้อมคลีนชีต เดินหน้าจบรอบแบ่งกลุ่มแบบสวยหรู
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🇦🇱 แอลเบเนีย
ระบบการเล่น: 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู
- โธมัส สตราโคชา (คะแนน 7.6) – เซฟช่วยทีมหลายครั้ง เป็นคนที่ทำให้สกอร์ไม่ไหลไปไกลกว่านี้
กองหลัง
- เอลเซอิด ฮีไซ (6.4)
- แบร์าต ดจิมซิติ (6.6)
- อาเดรียน อีสมัลลี (6.5)
- นาซิฟ อลิจิ (6.2)
กองกลางตัวรับ/กลางกลาง
- เบราร์ด ดจิมซิติ? (หมายเลข 6 บี. ดจิมซิติ – 6.6 เล่นยืนโฮลด์ในดาต้า)
- คริสเตียน อัสลลานี (6.5)
- อิวาน รามาดานี (6.5)
แนวรุก
- กาซิม ลาชี (6.9)
- มายร์โต อูซูนี (6.6)
- เนดิม บายรามี (6.4)
- อาร์เบอร์ ฮอกชา (6.5)
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- อีวาน บัลลิอู (6.4) ลงแทน ฮีไซ นาที 26
- อาร์มานโด โบรยา (6.6) ลงแทน บายรามี นาที 75
- อดรีออน ปาจาซิติ (6.5) ลงแทน ลาชี นาที 84
นักเตะโดดเด่นฝั่งแอลเบเนีย
สตราโคชา ยืนหนึ่งเรื่องเซฟ ขณะที่ ลาชี กับ อูซูนี ช่วยกันสร้างจังหวะโต้กลับให้ทีมได้ลุ้นอยู่บ้าง แม้จะจบไม่ลงก็ตาม
🏴 อังกฤษ
ระบบการเล่น: 4-3-3
ผู้รักษาประตู
- แซม จอห์นสตัน/ดีน เฮนเดอร์สัน (ในภาพระบุ 13. D. Henderson คะแนน 7.4) – เล่นได้มั่นคง แม้จะไม่เจองานหนักมาก แต่ก็จัดการบอลยากได้ดี
กองหลัง
- จาร์รัลด์ กวานซาห์ (7.4) แบ็กขวา
- จอห์น สโตนส์ (7.3) เซ็นเตอร์
- แดน เบิร์น (7.8) เซ็นเตอร์/แบ็กซ้ายสูงใหญ่ เกมรับนิ่งและเก็บลูกกลางอากาศหมด
- นาธาน โอไรลีย์ (7.4) แบ็กซ้ายที่เติมเกมตลอด
กองกลาง
- เดแคลน ไรซ์ (7.2) – คุมจังหวะก่อนโดนถอดพักช่วงครึ่งหลัง
- อดัม วอร์ตัน (7.3) – หัวใจในการตัดเกม มีใบเหลืองติดตัวแต่ยังเล่นอย่างมีวินัย
- จู๊ด เบลลิงแฮม (7.6) – ขับเคลื่อนเกมรุก สร้างโอกาสเข้าทำตลอด
แนวรุก
- จาร์รอด โบเวน (7.3) – วิ่งไม่มีหมด กดดันแบ็กเจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง
- เอเบเรชี่ เอเซ (6.6) – โชว์สกิลเลี้ยงกินตัว ก่อนถูกเปลี่ยนออกเพื่อเพิ่มความคม
- แฮร์รี เคน (8.8) – กัปตันทีมและฮีโร่สองประตูของเกม
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- ฟิล โฟเดน (6.9) ลงแทน ไรซ์ นาที 62 เติมมิติการยิงไกล
- บูกาโย่ ซาก้า (7.1) ลงแทน เอเซ นาที 62 เติมสปีดริมเส้นขวา
- มาร์คัส แรชฟอร์ด (7.4) ลงแทน โบเวน นาที 75 มีส่วนสำคัญกับประตู 2-0
- เอลเลียต แอนเดอร์สัน (7.1) ลงแทน วอร์ตัน นาที 75 ช่วยเก็บบอลช่วงท้ายเกม
- มอร์แกน โรเจอร์ส (6.5) ลงแทน เบลลิงแฮม นาที 84 ช่วยยื้อบอลปิดเกม
นักเตะโดดเด่นฝั่งอังกฤษ
เคน ชัดเจนที่สุดจากสองประตู ส่วน เบิร์น, เบลลิงแฮม และ วอร์ตัน ก็เล่นได้ตามมาตรฐานสูงของทีมชาติอังกฤษ ทำให้เกมไหลลื่นตั้งแต่หลังถึงหน้า
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
มองในมุม วิเคราะห์บอล เชิงแท็กติก เกมนี้คือภาพสะท้อนความต่างของโครงสร้างทีมและคุณภาพนักเตะอย่างชัดเจน แอลเบเนียยืนระบบ 4-2-3-1 เน้นปิดพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ ดันสองมิดฟิลด์รับลงต่ำช่วยเซ็นเตอร์ ทำให้ช่วง 45 นาทีแรก อังกฤษต้องหาทางเจาะกำแพงสองชั้น ทั้งการต่อบอลสั้นและสลับโยนข้ามไลน์ไปให้เคนพักบอล แต่การไล่บีบอย่างมีวินัยของเจ้าถิ่นก็ทำให้ทีมเยือนต้องออกบอลไปด้านข้างเป็นส่วนใหญ่
ในเกมรับ แอลเบเนียทำหน้าที่ได้ดีระดับหนึ่ง ทั้งการบีบซ้อนริมเส้นและการยืนโซนในกรอบเขตโทษ ทว่าจุดอ่อนคือเมื่อเกมยืดและเริ่มล้า พื้นที่ระหว่างไลน์หลังกับมิดฟิลด์ถูกอังกฤษเจาะซ้ำ ๆ โดยเฉพาะจากการสอดขึ้นมาของเบลลิงแฮมและโฟเดนในช่วงครึ่งหลัง รวมถึงการที่ฟูลแบ็กถอยไม่ทัน ทำให้ช่องระหว่างเซ็นเตอร์กับแบ็กถูกใช้เล่นงานอย่างต่อเนื่อง
ส่วนอังกฤษภายใต้การวางหมากของทูเคิล ใช้ระบบ 4-3-3 แต่ยืดหยุ่นสูง เวลาโต้กลับไว โบเวนและเอเซจะหุบเข้ากึ่งใน ให้ฟูลแบ็กดันสูงสร้างสถานการณ์ 2 ต่อ 1 ทางริมเส้น ขณะที่เคนไม่ได้ยืนเป็นหอกยืนค้ำอย่างเดียว แต่ถอยลงมาเชื่อมบอลแล้วสอดเข้าไปปิดสกอร์จังหวะสอง ทำให้แนวรุกยืดหยุ่นและหาพื้นที่ได้ตลอด
เกมรับของอังกฤษแทบไม่โดนทดสอบมากนัก เพราะการเพรสซิ่งแดนบนช่วยตัดบอลได้ก่อนถึงแนวหลัง เมื่อไหร่ที่แอลเบเนียพยายามดันสูง ก็เจอการตัดฟาวล์ฉลาด ๆ จาก วอร์ตัน หรือไรซ์ ตัดจังหวะไม่ให้สถานการณ์อันตราย ถึงจุดนี้จะเห็นว่าสมดุลเกมรุก-รับของอังกฤษสมบูรณ์กว่าอย่างชัดเจน และเป็นเหตุผลที่พวกเขาเดินหน้าเก็บชัยชนะแบบไร้เสียประตูตลอดทั้งกลุ่ม
📊 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมบอกเรื่องราวชัดเจน แอลเบเนียมีโอกาสยิงเพียง 7 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ขณะที่อังกฤษกดไปถึง 15 ครั้ง เข้ากรอบถึง 10 ลูก แสดงให้เห็นถึงการสร้างสรรค์โอกาสและความกดดันที่ยิงเข้าใส่เจ้าถิ่นแบบต่อเนื่อง การครองบอลยิ่งชัดเจน อังกฤษยึดเกมไว้ 66% ทิ้งห่างแอลเบเนียที่มีแค่ 34% เท่านั้น ซึ่งทำให้จังหวะเล่นของเจ้าบ้านส่วนใหญ่เป็นการตั้งรับลึกแล้วหวังบอลยาวสวนกลับมากกว่า
แม้จำนวนฟาวล์จะเท่ากันที่ 9 ครั้งต่อฝั่ง แต่ใบเหลืองของแอลเบเนียมี 1 ใบ ส่วนอังกฤษโดน 2 ใบ สะท้อนความดุดันในการไล่บีบของทีมเยือนที่ไม่ยอมให้คู่แข่งได้หมุนบอลอย่างสบาย ๆ เกมลูกตั้งเตะอย่างเตะมุมแบ่งกันไปฝั่งละ 5 ครั้ง และยังมีจังหวะล้ำหน้าฝั่งละ 1–2 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงการขึ้นเกมที่เน้นความเสี่ยงสูงของแนวรุกอังกฤษที่พร้อมสอดขึ้นไปหลังแนวรับอยู่เสมอ
⏰ เหตุการณ์สำคัญในเกม
- ⚠️ 15′ – ยาร์ดอน รามาดานี ทำฟาวล์กลางสนาม เกมเริ่มตึงตั้งแต่ต้น
- 🔁 26′ – แอลเบเนียเปลี่ยนตัวเร็ว ส่ง อีวาน บัลลิอู ลงแทน เอลเซอิด ฮีไซ ที่มีอาการเจ็บ
- 🟨 39′ – อดัม วอร์ตัน โดนใบเหลืองจากการตัดเกมกลางสนาม
- ⏱ HT – จบครึ่งแรก แอลเบเนีย 0-0 อังกฤษ เกมยังอึดอัดทั้งสองฝั่ง
- 🔁 62′ – อังกฤษขยับสองตัวรวด ฟิล โฟเดน แทน เดแคลน ไรซ์ และ บูกาโย่ ซาก้า แทน เอเบเรชี่ เอเซ เพื่อเติมมิติเกมรุก
- ⚽ 74′ – แฮร์รี เคน ซัดเปิดหัวให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 หลังรับบอลชิ่งหน้าเขตโทษแล้วกดเต็มข้อหนีมือสตราโคชา
- 🔁 75′ – แอลเบเนียส่ง อาร์มานโด โบรยา ลงแทน บายรามี เพิ่มน้ำหนักเกมรุก
- 🔁 75′ – อังกฤษส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงแทน จาร์รอด โบเวน และ เอลเลียต แอนเดอร์สัน ลงแทน อดัม วอร์ตัน เพื่อคุมเกมกลางสนาม
- 🟨 80′ – จู๊ด เบลลิงแฮม โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์
- ⚽ 82′ – เคน กดประตูที่สอง รับบอลจากแรชฟอร์ดก่อนซัดเสียบตาข่าย เป็นสกอร์ 2-0 ปิดเกมแทบจะทันที
- 🔁 84′ – แอลเบเนียส่ง อดรีออน ปาจาซิติ ลงแทน กาซิม ลาชี หวังหาจังหวะยิงไกล
- 🔁 84′ – อังกฤษถอด เบลลิงแฮม ส่ง มอร์แกน โรเจอร์ส ลงมาช่วยพักบอล
- 🔴/🟨 90+2′ – ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โบรยา ไปเล่นหนักใส่แนวรับอังกฤษ กรรมการต้องเรียกมาตักเตือนและฟาวล์ถูกบันทึกเป็นเหตุการณ์สุดท้ายของเกม
- ⏱ FT – จบเกม แอลเบเนีย 0-2 อังกฤษ
⭐ Player of the Match: แฮร์รี เคน
ไม่ต้องสงสัยว่าใครคือพระเอกของค่ำคืนนี้ แฮร์รี เคน กัปตันทีมชาติอังกฤษรับคะแนนสูงสุด 8.8 จากการเหมาสองประตูในช่วงเวลาที่ทีมต้องการความเด็ดขาด ลูกแรกคือการยิงเปิดหัวจากจังหวะกดดันต่อเนื่อง ช่วยปลดล็อกแนวรับที่เหนียวแน่นของแอลเบเนีย ส่วนประตูที่สองคือการจบสกอร์แบบกองหน้าระดับโลก รับบอลจากแรชฟอร์ดแล้วซัดจบแบบไม่เปิดโอกาสให้สตราโคชาคิดอะไร
นอกจากสกอร์ เคนยังถอยลงมาช่วยเชื่อมเกม คอยดึงตัวประกบ เปิดพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีมอย่างซาก้าและโฟเดนได้เล่นง่ายขึ้น เรียกว่ามีส่วนร่วมแทบทุกจังหวะสำคัญของเกม สมศักดิ์ศรีรางวัล Player of the Match อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
📌 สถานการณ์ในตารางคะแนน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม K
ชัยชนะเกมนี้ทำให้อังกฤษจบภารกิจรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ แข่ง 8 นัด ชนะรวด 8 นัด ยิง 22 ประตู เสีย 0 ลูก เก็บ 24 แต้มเต็ม พร้อมยึดจ่าฝูงกลุ่ม K แบบไร้ข้อครหา และตอกย้ำว่าเป็นหนึ่งในเต็งแชมป์ของทวีปในเส้นทางสู่ฟุตบอลโลก 2026
ฝั่งแอลเบเนียแม้จะพ่ายคาบ้าน แต่ผลงานโดยรวมในกลุ่มก็ยังถือว่าใช้ได้ เก็บ 14 แต้มจาก 8 นัด รั้งอันดับ 2 เหนือเซอร์เบียที่มี 13 แต้ม ลัตเวีย 5 แต้ม และอันดอร์รา 1 แต้ม ความพ่ายแพ้เกมนี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถไล่จี้อังกฤษได้ แต่ยังมีลุ้นจากเส้นทางเพลย์ออฟหรือโควตาพิเศษตามกติกาของรอบคัดเลือก
📅 ตารางบอล ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก กลุ่ม K นัดถัดไป
เกมนี้เป็นนัดที่ 10 จาก 10 นัดของกลุ่ม K หมายความว่ารอบแบ่งกลุ่มได้เดินทางมาถึงเส้นชัยเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีแมตช์ใน ตารางบอล กลุ่ม K ให้รอคิวกันต่อไป สำหรับอังกฤษโปรแกรมต่อจากนี้จะเข้าสู่รอบถัดไปของโซนยุโรป รวมถึงเกมอุ่นเครื่องเตรียมทีมระดับชาติ ส่วนแอลเบเนียต้องกลับไปจัดระเบียบทีม รอประกาศ โปรแกรมบอล ทางการจากสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรปว่าจะเดินหน้าต่อในเส้นทางใด
แฟนบอลที่อยากติดตามคู่แข่งในสายอื่น ๆ และเส้นทางของอังกฤษต่อจากนี้ ยังสามารถเช็กโปรแกรมรอบต่อไปได้ผ่านสื่อกีฬาและช่องทางออนไลน์ของ บ้านกีฬา ที่จะอัปเดตให้แบบวันต่อวัน
📣 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
สำหรับคอบอลที่อยากรู้ผลแบบสด ๆ ตามเกมแบบนาทีต่อนาที อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล และคอนเทนต์เจาะลึกจาก บ้านกีฬา เราจะพาไปเกาะติดทุกสนาม ตั้งแต่รอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2026 ไปจนถึงทัวร์นาเมนต์ใหญ่ทั้งในและนอกยุโรป พร้อมเสิร์ฟข่าวร้อน, บทวิเคราะห์, ไฮไลต์ และสกอร์สดให้คุณไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของวงการลูกหนัง
บ้านกีฬา ขอสัญญาว่าจะอยู่ข้างแฟนบอลแบบนี้ต่อไป อยากรู้คู่ไหนยิงกันกี่ลูก เปิดหน้าจอมาเจอกันได้ทุกวัน
