
จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง อาเซอร์ไบจาน 1-3 ฝรั่งเศส วันนี้ 17/11/68 – บ้านกีฬา
บ้านกีฬา พาเกาะติดศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม D คู่ระหว่าง อาเซอร์ไบจาน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ฝรั่งเศส เกมนี้สกอร์สุดท้ายออกมาที่เจ้าถิ่นพ่ายคาบ้าน 1-3 แม้จะออกนำเร็วแต่สุดท้ายโดนคุณภาพเกมรุกของ “ตราไก่” โหมกลับจนต้านไม่ไหว ใครที่เปิดจอเช็ก ผลบอลสด อยู่มีลุ้นตั้งแต่นาทีแรกก่อนที่รูปเกมจะค่อย ๆ เทมาทางทีมเยือนแบบเบ็ดเสร็จ
ฝั่งเจ้าบ้านช็อกสนามตั้งแต่ต้นเกม นาทีที่ 4 เรนาต ดาดาชอฟ หลุดเข้าไปยิงให้ อาเซอร์ไบจาน ขึ้นนำ 1-0 เสียงเฮทั้งสนาม แต่ความได้เปรียบอยู่ได้ไม่นาน นาที 17 ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า โฉบเข้ายิงตีเสมอให้ ฝรั่งเศส กลับมา 1-1 จากนั้นนาที 30 มักเนส อัคลิอูช ซัดประตูสุดคมพลิกให้ตราไก่นำ 2-1 ก่อนที่ช่วงทดเวลาครึ่งแรก นาที 45 ผู้รักษาประตู เชห์รูดดิน มาฮัมมาดาลีเยฟ ดันทำเข้าประตูตัวเอง กลายเป็น 3-1 ให้ทีมเยือน เล่นเอากำลังใจเจ้าถิ่นหายวับตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งเวลาแรก
⏱️ ครึ่งแรก: เจ้าถิ่นนำก่อน แต่โดนเกมรุกฝรั่งเศสบดจนพัง
เปิดฉากมา อาเซอร์ไบจาน วางแท็กติกบีบสูงและฉวยโอกาสจากจังหวะสวนกลับ ผลคือแค่ 4 นาทีแรก ดาดาชอฟ ใช้ความแข็งแกร่งเบียดแนวรับฝรั่งเศสก่อนกดเต็มข้อไม่เหลือ ทำเอาแฟนเจ้าบ้านดีใจกันยกใหญ่
แต่หลังเสียประตู ฝรั่งเศสเริ่มตั้งสติและครองบอลบุกแทบฝ่ายเดียว ไล่บีบตั้งแต่แดนคู่แข่ง บอลเปลี่ยนทางจากริมเส้นฝั่งขวาไปหากลางสนามตลอด นาที 17 มาล็อง กุสโต วิ่งเติมซ้อนขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดไปเสาแรกให้ มาเตต้า สอดมาแปเน้น ๆ ตีเสมอ 1-1 ชัดเจนว่าทีมเยือนเริ่มปลดล็อกเกมบุกของตัวเองได้ตรงจุด
จากนั้นเกมขยับเป็นของฝรั่งเศสเต็มตัว นาที 25 คริสโตเฟอร์ เอ็นкунคู เคยส่งบอลเข้าตุงตาข่ายแล้วแต่โดน VAR ริบคืนเพราะล้ำหน้า ทว่าความกดดันไม่จบ นาที 30 กุสโต คนเดิมหลุดขึ้นมาสุดเส้นอีกครั้งก่อนเปิดให้ อัคลิอูช เติมมาซัดไม่เหลือ 2-1 ตราไก่แซงนำ
ช่วงท้ายครึ่งแรกดราม่าเพิ่ม นาที 42 เคเฟรน ตูราม ยิงเข้าไปแต่โดน VAR ปฏิเสธอีกครั้ง อย่างไรก็ตามช่วงทดเวลา มาฮัมมาดาลีเยฟ รับบอลพลาดกลายเป็นทำเข้าประตูตัวเอง ฝรั่งเศสทิ้งห่าง 3-1 ก่อนจบครึ่งแรกแบบสุดโหด
⏱️ ครึ่งหลัง: ฝรั่งเศสครองบอลเนียนคุมเกมจนจบ
ครึ่งหลัง อาเซอร์ไบจาน แก้เกมด้วยการเปลี่ยนผู้รักษาประตู ส่ง อายดิน บายรามอฟ ลงมาแทนมาฮัมมาดาลีเยฟ พร้อมเติมตัวรุกอย่าง นาริมาน อักฮุนด์ซาเด ลงมาเพิ่มมิติแดนหน้า แต่รูปเกมก็ยังเป็นฝรั่งเศสที่คุมจังหวะได้อยู่
ลูกทีมของดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ผ่อนเกมลงเล็กน้อย เน้นครองบอลต่อบอลสั้นไปมา ใช้ประสบการณ์ดับความฮึกเหิมของเจ้าถิ่น ขณะที่โอกาสลุ้นเพิ่มก็ยังมีเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจากจังหวะวาบหวามของ เอ็นคุนคู และ อัคลิอูช ก่อนถูกถอดออกให้ รายาน แชร์กี กับ ฟลอริย็อง โตแว็ง ลงมาเติมสีสันในนาที 62
อาเซอร์ไบจาน พยายามเร่งเครื่องช่วงท้าย ส่ง อับบาส ฮูเซย์นอฟ และ มุสตาฟา อาห์มัดซาดา ลงมาแต่ก็เจอเกมรับแน่น ๆ ของคู่เซ็นเตอร์ อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ ธีโอ แอร์กน็องเดซ ปิดทุกช่องยิง จบ 90 นาที ฝรั่งเศสบุกชนะ 3-1 เก็บสามแต้มสำคัญกลับบ้านอย่างนิ่งกริบ

👥 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🇦🇿 อาเซอร์ไบจาน (ระบบ 3-4-3)
ผู้รักษาประตู
- เชาห์รูดดิน มาฮัมมาดาลีเยฟ (5.8) – ออกสตาร์ตดีแต่หลุดโฟกัสท้ายครึ่งแรกจนทำเข้าประตูตัวเอง
กองหลัง
- อันตอน คริวอตซยูก (6.0)
- เรนาต ดัชดามีรอฟ (6.8) – เติมเกมขึ้นมาช่วยทำแอสซิสต์ให้ประตูขึ้นนำ
- เอลบาก บาดาลอฟ (6.6)
กองกลาง
- บาห์ลุล มุสตาฟาซาดา (6.9)
- อาซาร์ คายบูลาเยฟ (6.3) – โดนใบเหลืองจากจังหวะเล่นหนัก
- เอมิน มัคห์มูดอฟ กัปตันทีม (6.4)
- การิม อาลีเยฟ (6.4)
กองหน้า
- คาเมราน อาลีเยฟ (6.6)
- เรนาต ดาดาชอฟ (7.2) – ยิงประตูเปิดหัวให้ทีม
- คอลลิน นูริเยฟ (6.4)
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- อายดิน บายรามอฟ (7.0) แทน มาฮัมมาดาลีเยฟ นาที 46
- นาริมาน อักฮุนด์ซาเด (6.7) แทน นูริเยฟ นาที 46
- ซาบูฮี อับดุลลาซาดา (6.6) แทน มัคห์มูดอฟ นาที 66
- อับบาส ฮูเซย์นอฟ (6.6) แทน ดาดาชอฟ นาที 75
- มุสตาฟา อาห์มัดซาดา (ประมาณ 6+) แทน คาเมราน อาลีเยฟ นาที 87
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้
ซาลาฮัต อากาเยฟ, บาดาวี ฮูเซย์นอฟ, จาลาล ฮูเซย์นอฟ, รูฟัต อับบาซอฟ, อนาโทลี นูริเยฟ, รูฟัต อับดุลลาซาดา
🇫🇷 ฝรั่งเศส (ระบบ 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- ลูคัส เชอวาลิเยร์ (6.4) – แทบไม่เจองานยากมากนักในช่วงหลัง
กองหลัง
- มาล็อง กุสโต (8.8) – ฟูลแบ็กขวาเครื่องจักร วิ่งขึ้นลงไม่มีหมด ทำสองแอสซิสต์เต็ม ๆ
- อิบราฮิมา โกนาเต้ กัปตันทีม (7.1) – ยืนคุมแผงหลังนิ่งมาก
- ลูกัส แอร์กน็องเดซ (6.7)
- ธีโอ แอร์กน็องเดซ (7.2) – เติมเกมรุกทางซ้ายตลอดทั้งเกม
กองกลางตัวรับคู่
- เคเฟรน ตูราม (8.0) – ขับเคลื่อนเกมตรงกลาง เปลี่ยนรับเป็นรุกได้เนียน
- วาร์เรน ซาอีร์-เอเมรี (7.3) – คุมจังหวะเกมได้ดีเกินวัย
ตัวรุกสามคนด้านหลังหน้าเป้า
- มักเนส อัคลิอูช (7.4) – ยิงหนึ่ง แอสซิสต์หนึ่ง ก่อนถูกเปลี่ยนออก
- คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (7.4) – ขยับหาพื้นที่อันตรายตลอด มีประตูโดน VAR ยึด
- อูโก เอกีตีเก้ (6.6) – ลากเลื้อยซ้าย สร้างความวุ่นวายให้แนวรับเจ้าบ้าน
กองหน้าตัวเป้า
- ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า (7.1) – ยิงตีเสมอให้ทีม คืนความมั่นใจตั้งแต่ต้นเกม
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- รายาน แชร์กี (7.0) แทน เอ็นคุนคู นาที 62
- ฟลอริย็อง โตแว็ง (6.8) แทน อัคลิอูช นาที 62
- แบรดลีย์ บาร์โกล่า (6.1) แทน มาเตต้า นาที 79
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้
บริส ซ็องบ้า, ไมค์ เมญอง, ลูกัส ดิญ, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, ชูลส์ กูนเด้, วิลเลียม ซาลิบา, ไมเคิล โอลิเซ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้
รายชื่อนักเตะสำคัญที่หายไปจากอาการบาดเจ็บ/โทษแบน
เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า, มานู โกเน่ (ติดโทษแบน), เดซีเร่ ดูเอ้, อุสมาน เดมเบเล่, คีลิยัน เอ็มบัปเป้
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม
ถ้ามองในเชิง วิเคราะห์บอล เกมนี้คือภาพสะท้อนชัดเจนของคุณภาพเชิงโครงสร้างทีมระดับท็อปอย่างฝรั่งเศส เมื่อเทียบกับทีมที่ยังสร้างตัวอย่างอาเซอร์ไบจาน เจ้าถิ่นวางระบบ 3-4-3 เน้นรับลึกแนวหลังสามคนแล้วดันวิงแบ็กช่วยเล่นสวนกลับ จุดเด่นคือจังหวะโต้กลับเร็วและการใช้ตัวใหญ่ลุยกับกองหลังฝรั่งเศส ทำให้ได้ประตูนำตั้งแต่ต้นเกม
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของอาเซอร์ไบจานคือเมื่อต้องถอยลงต่ำแล้วช่องว่างระหว่างกองหลังกับกองกลางถูกฝรั่งเศสใช้เจาะซ้ำ ๆ เอ็นคุนคู กับ อัคลิอูช ยืนระหว่างไลน์รับ-รับกลางได้ดี ทำให้แนวหลังเจ้าบ้านต้องวิ่งไล่หาบอลตลอด จนมักหลุดตำแหน่งและเปิดพื้นที่ให้ฟูลแบ็กอย่าง กุสโต กับ ธีโอ เติมขึ้นมาสร้างความได้เปรียบด้านจำนวนคน
ฝรั่งเศสในระบบ 4-2-3-1 เล่นด้วยความมั่นใจสูง ตูราม กับ ซาอีร์-เอเมรี คอยสลับกันดันสูงและคุมโซนหน้าเซ็นเตอร์ ไม่ปล่อยให้ดาดาชอฟได้พักบอลง่าย ๆ เมื่อเสียบอลก็เพรสซิ่งกลับทันที ทำให้เจ้าบ้านแทบตั้งเกมจากแดนตัวเองไม่ได้ ส่วนเกมรับของฝรั่งเศส เวลาถอยลงมาตั้งโซนจะเปลี่ยนเป็น 4-4-2 โดยให้หนึ่งในตัวรุกลงมาช่วยบีบด้านข้าง ทำให้บอลยาวของอาเซอร์ไบจาน แทบไม่มีพิษสงในครึ่งหลัง
โดยรวมแล้ว เกมรุกฝรั่งเศสใช้การเคลื่อนที่สลับตำแหน่งและการเติมของฟูลแบ็กเป็นอาวุธหลัก ขณะที่เกมรับของอาเซอร์ไบจานเมื่อโดนบุกล้อมนาน ๆ ก็เริ่มเสียสมาธิและผิดพลาดเอง จนโดนลงโทษแบบเจ็บ ๆ จากสองแอสซิสต์ของกุสโตและลูกทำเข้าประตูตัวเองของ มาฮัมมาดาลีเยฟ

📊 สถิติการแข่งขันสะท้อนความเหนือชั้นของฝรั่งเศส
ตัวเลขหลังเกมบอกทุกอย่าง อาเซอร์ไบจาน มีโอกาสยิงเพียง 3 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ขณะที่ฝรั่งเศสกดไปถึง 13 ครั้ง เข้ากรอบ 5 หน การครองบอลเป็นทีมเยือนที่เหนือกว่าอย่างชัดเจนถึง 68% ต่อ 32% เจ้าบ้านแทบต้องวิ่งไล่เงาบอลตลอดทั้งเกม
แม้จำนวนฟาวล์ของอาเซอร์ไบจานจะมากกว่า 10 ต่อ 12 ของฝรั่งเศส แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกมรุกตราไก่ชะงักลง แถมเจ้าบ้านยังโดนใบเหลืองถึง 2 ใบ ขณะที่ฝรั่งเศสเล่นกันค่อนข้างเนียน ไม่มีใบเหลืองเลย ส่วนลูกเตะมุม ฝรั่งเศสได้ถึง 8 ครั้ง ตอกย้ำว่าบุกกดอยู่ฝั่งเดียว ขณะที่อาเซอร์ไบจานมีแค่ 1 ครั้งเท่านั้น สถิติเหล่านี้ยืนยันว่าชัยชนะ 3-1 ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เป็นผลจากการควบคุมเกมที่เหนือกว่าทุกมิติ
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 4′ อาเซอร์ไบจาน ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะ เรนาต ดาดาชอฟ ซัดไม่เหลือ
- ⚽ 17′ ฝรั่งเศส ตีเสมอ 1-1 ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า แปจ่อ ๆ จากบอลครอสของ มาล็อง กุสโต
- ❌ 25′ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่าย แต่ VAR ยกเลิกประตูเพราะล้ำหน้า
- ⚽ 30′ มักเนส อัคลิอูช กดประตูสุดคมให้ฝรั่งเศสพลิกนำ 2-1 จากการเปิดของ กุสโต
- 🟨 39′ อันตอน คริวอตซยูก โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์ตัดเกม
- ❌ 42′ เคเฟรน ตูราม ยิงเข้าไปแล้ว แต่ VAR ริบคืนอีกครั้ง
- 😱 45′ เชาห์รูดดิน มาฮัมมาดาลีเยฟ ทำเข้าประตูตัวเอง ส่งฝรั่งเศสนำห่าง 3-1
- 🔁 46′ อาเซอร์ไบจาน เปลี่ยนตัวสองราย ส่ง อายดิน บายรามอฟ กับ นาริมาน อักฮุนด์ซาเด ลงสนาม
- 🔁 62′ ฝรั่งเศส เปลี่ยนเกมรุก ส่ง รายาน แชร์กี และ ฟลอริย็อง โตแว็ง แทน เอ็นคุนคู กับ อัคลิอูช
- 🟨 72′ อาซาร์ คายบูลาเยฟ รับใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงกรรมการ
- 🔁 75′ เจ้าบ้านส่ง อับบาส ฮูเซย์นอฟ ลงแทน ดาดาชอฟ
- 🔁 79′ ฝรั่งเศสถอด มาเตต้า ให้ แบรดลีย์ บาร์โกล่า ลงมาปิดเกม
- 🔁 87′ มุสตาฟา อาห์มัดซาดา ลงแทน คาเมราน อาลีเยฟ พยายามเร่งท้ายเกมแต่ไม่ทันการณ์
⭐ Player of the Match: มาล็อง กุสโต แบ็กขวาพายุหมุน
รางวัลแมนออฟเดอะแมตช์เกมนี้ต้องยกให้ มาล็อง กุสโต แบ็กขวาฝรั่งเศสที่ได้คะแนนสูงสุดถึง 8.8 และโชว์ฟอร์มสุดโหดทั้งรุกและรับ ตลอดเกมเขาเป็นคนสร้างความได้เปรียบเชิงจำนวนคนทางริมเส้นฝั่งขวา เติมขึ้นไปเปิดบอลอันตรายหลายครั้ง
สองประตูสำคัญของฝรั่งเศสในครึ่งแรกมาจากผลงานของกุสโตล้วน ๆ ลูกแรกเปิดให้มาเตต้าตีเสมอ ลูกที่สองลากขึ้นไปสุดเส้นก่อนถวายพานให้ อัคลิอูช ซัดขึ้นนำ เกมรับก็ไม่หลุดง่าย ๆ วิ่งไล่ปิดพื้นที่สุดทางฝั่งตัวเองจนแนวรุกอาเซอร์ไบจานแทบหาทางเจาะไม่ได้ กุสโตจึงเป็นจุดสมดุลสมบูรณ์แบบระหว่างเกมรุกกับเกมรับของตราไก่ในค่ำคืนนี้

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนกลุ่ม D หลังจบเกม
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ ฝรั่งเศส แข่ง 6 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 ยังไม่แพ้ใคร มี 16 คะแนนเต็ม ๆ นั่งตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม D อย่างมั่นคง ยิงได้ 16 ประตู เสียเพียง 4 ลูก ลูกได้เสีย +12 สะท้อนความแน่นทั้งเกมรุกและเกมรับ
ด้าน อาเซอร์ไบจาน สถานการณ์ค่อนข้างหนัก แข่ง 6 นัดยังสะกดคำว่าชนะไม่เจอ เสมอ 1 แพ้ 5 มีเพียง 1 แต้ม ประตูได้ 3 เสียไปแล้ว 16 ลูก ลูกได้เสีย -13 รั้งบ๊วยของกลุ่ม D แบบเต็มตัว ต้องกลับไปเคลียร์เกมรับและความผิดพลาดส่วนตัวให้เร็วที่สุดหากหวังมีแต้มในนัดต่อ ๆ ไป ขณะที่ ยูเครน และ ไอซ์แลนด์ ยังต้องลุ้นหนักในการเบียดกันรองจ่าฝูงตามหลังฝรั่งเศสอยู่ห่างพอสมควร
📅 ตารางบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก และโปรแกรมนัดถัดไป
แม้โปรแกรมนัดถัดไปของทั้ง ฝรั่งเศส และ อาเซอร์ไบจาน ในรอบคัดเลือกครั้งนี้จะยังมีการอัปเดตตามปฏิทินฟีฟ่า แต่แฟนบอลสามารถเช็ก ตารางบอล และ โปรแกรมบอล ของกลุ่ม D ได้ตลอดเวลา ทั้งเกมเหย้าและเยือนที่เหลือ ว่าใครจะเจอกับใครและมีโอกาสเก็บแต้มจากคู่แข่งโดยตรงแค่ไหน
บ้านกีฬา จะคอยเกาะติดสถานการณ์แบบใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมทีมชาติฝรั่งเศสที่เดินหน้าล่าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้าย หรืออาเซอร์ไบจานที่ต้องสู้เพื่อศักดิ์ศรี เรียกได้ว่าแฟนบอลห้ามพลาดอัปเดตในทุกช่วงฟีฟ่าเดย์
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามผลสกอร์สดแบบวินาทีต่อวินาที เช็กสถิติหลังเกม และอ่านบทวิเคราะห์จัดเต็มสไตล์นักข่าวลูกหนัง ต้องไม่พลาดติดตาม บ้านผลบอล ผ่านการรายงานของ บ้านกีฬา เราจะพาไปดูทุกคู่เดือดของ ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป รวมถึงลีกดังทั่วโลก อัปเดตให้ครบทั้งสกอร์สด ไฮไลท์เด็ด และมุมมองเชิงลึกแบบที่แฟนบอลตัวจริงต้องชอบ กดเข้ามาเช็กทุกคืน มีบอลเตะเมื่อไหร่ บ้านกีฬา ไม่เคยหลับ

