จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 3-1 โรมาเนีย วันนี้ 16/11/68 – บ้านกีฬา
ศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม H ค่ำคืนนี้ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเปิดบ้านรับโรมาเนีย เกมที่มีเดิมพันคือการลุ้นอันดับท็อปทูของกลุ่ม บ้านกีฬาเกาะติดรายงาน ผลบอลสด แบบตาต่อ ตา และต้องบอกเลยว่าดราม่าท้ายเกมมาเต็ม
ครึ่งแรก
เริ่มมาแค่ 6 นาที แนวรับเจ้าถิ่นออกอาการเกร็ง นิโกล่า คาติช โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์หนักตั้งแต่หัววัน ก่อนที่นาที 17 แนวรับบอสเนียจะถูกเจาะจนได้ประตู วาเลนติน มิไฮลา สอดเข้ากรอบเขตโทษรับบอลจาก ดาเนียล เบิร์ลิเกีย แล้วยิงไม่พลาด โรมาเนียบุกมานำ 1-0 ทำเอาแฟนเจ้าถิ่นเงียบกริบ
หลังโดนนำ บอสเนียพยายามเร่งเกมบุกผ่าน เอสมีร์ บาจรัคตาเรวิช และ เอ็ดิน เชโก้ แต่ยังเจาะเกมรับทีมเยือนที่คุมโซนเหนียวแน่นไม่ได้ แถมแบ็กขวา อาเมียร์ เดดิช กับเซ็นเตอร์ โตนี่ มูฮาเรโมวิช ยังโดนใบเหลืองเพิ่มในนาที 36 และ 44 จากจังหวะเข้าสกัดหนัก ก่อนหมดครึ่งแรก บ็อกดาน ราโควิตาน กองหลังโรมาเนียโดนเหลืองจากการตัดฟาวล์สำคัญ ทว่าโรมาเนียยังรักษาสกอร์นำ 1-0 เข้าห้องแต่งตัว
ครึ่งหลัง
เซร์เกย์ บาร์บาเรซ แก้เกมทันทีด้วยการส่ง ฮาริส ทาบาโควิช กับ เคริม อลายเบโกวิช ลงมาแทน ซินิซ่า บัซดาร์ และ อเด็ม มาลิช แล้วก็เปลี่ยนรูปเกมได้จริง นาที 49 เจ้าถิ่นตีเสมอ 1-1 เมื่อ เชโก้ ฉีกมารับบอลในเขตโทษก่อนซัดผ่านมือ ราดู อย่างเฉียบขาด จุดประกายให้สนามเดือดอีกครั้ง
จากนั้นบอสเนียยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ เดินหน้าบดกดดันต่อเนื่อง ส่วนโรมาเนียเริ่มเสียจังหวะ นาที 64 ดาริโอ บูร์นิช เจอใบเหลืองเพิ่มให้ฝั่งเจ้าบ้าน ก่อนที่เกมจะหักมุมในนาที 67 เมื่อ เดนิส ดรากุช ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ทิ้งให้โรมาเนียเหลือ 10 คนและต้องถอยลงไปอุด
บอสเนียไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดมือ นาที 79 เอสมีร์ บาจรัคตาเรวิช สอดเข้าไปยิงจากลูกทำทางของ เบนจามิน ทาฮิโรวิช บอลพุ่งเสียบตาข่าย พลิกแซงเป็น 2-1 ท่ามกลางเสียงเฮลั่นสนาม
ท้ายเกมโรมาเนียพยายามปรับหมากส่งดาวรุกเพิ่ม แต่แรงเริ่มหมด แถม ดานิส มัน ยังโดนใบเหลืองช่วงทดเจ็บ นาที 90+3 บอสเนียตอกฝาโลง จากจังหวะที่ ทาบาโควิช เก็บบอลในกรอบเขตโทษแล้วกดไม่เหลือ จบเกมบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาแซงชนะ 3-1 ได้สามแต้มสำคัญต่อหน้ากองเชียร์เจ้าบ้านแบบสะใจแฟน บ้านผลบอล
👥 รายชื่อ 11 ตัวจริง, คะแนน และการเปลี่ยนตัว
🇧🇦 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- นิโกล่า วาซิลย์ (6.8) เซฟได้ตามมาตรฐาน ออกมาตัดบอลยาวได้ดี
กองหลัง
- แบ็กขวา อาเมียร์ เดดิช (6.9) เติมเกมรุกบ่อยแม้มีใบเหลืองติดตัว
- เซ็นเตอร์แบ็ก โตนี่ มูฮาเรโมวิช (6.9) เล่นหนัก อ่านจังหวะสกัดกลางอากาศได้ดี
- เซ็นเตอร์แบ็ก นิโกล่า คาติช (6.6) เริ่มเกมมีใบเหลืองเร็ว แต่ครึ่งหลังนิ่งขึ้น
- แบ็กซ้าย อเด็ม มาลิช (6.6) เกมรับเหนียว ก่อนถูกถอดพักตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
กองกลางตัวรับ
- เบนจามิน ทาฮิโรวิช (7.5) ห้องเครื่องคอยคุมจังหวะ ต่อบอลแม่น และมีแอสซิสต์ลูก 2-1
- ดาริโอ บูร์นิช (6.8) วิ่งไล่บี้ตัดเกมแดนกลาง ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 70
มิดฟิลด์ตัวรุก
- ขวา อาดี เมมิค (7.2) เลี้ยงกินตัว เปิดบอลกดดันแนวรับโรมาเนียตลอด
- กลางรุก ซินิซ่า บัซดาร์ (6.5) พยายามเชื่อมเกมระหว่างกลางกับหน้า แต่เจอเกมรับเหนียวจึงถูกเปลี่ยนตั้งแต่พักครึ่ง
- ซ้าย เอสมีร์ บาจรัคตาเรวิช (7.6) เด่นสุดในแนวรุกริมเส้น ปั่นป่วนคู่แข่งและทำประตูสำคัญ 2-1
ศูนย์หน้า
- เอดิน เชโก้ (กัปตัน, 7.7) หัวหอกตัวเก๋า อ่านเกมสุดเฉียบ ยิงตีเสมอ 1-1 และคอยพักบอลให้เพื่อน ก่อนถูกถอดปลายเกม
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- ฮาริส ทาบาโควิช (7.4) ลงมาครึ่งหลังและทำประตูปิดกล่อง 3-1 นาที 90+3
- เคริม อลายเบโกวิช (7.0) เติมเกมรุกฝั่งซ้ายได้ครอสอันตรายหลายครั้ง
- อีวาน บาซิช (6.6) ลงมาช่วยคุมจังหวะกลางสนามช่วงท้าย
- อามีร์ ฮัดซิอาห์เมโตวิช (6.5) เสริมความเหนียวตรงกลางหลังนำ
- อาร์มิน กิโกวิช (6.7) ลงมาปิดเกมแทน เชโก้ ในช่วงทดเจ็บ
🇷🇴 โรมาเนีย (4-3-3)
ผู้รักษาประตู
- ยอนุต ราดู (5.9) เซฟได้หลายครั้งแต่โดนบอสเนียบุกหนักจนเสียสามประตู
กองหลัง
- แบ็กขวา อันดรี เซ ราติอู (6.5) เจองานหนักกับปีกเจ้าบ้าน
- เซ็นเตอร์แบ็ก บ็อกดาน ราโควิตาน (6.6) มีใบเหลืองก่อนพักครึ่ง แต่คุมแผงหลังได้เป็นช่วงๆ
- เซ็นเตอร์แบ็ก วลัด กีต้า (6.0) เจอความแข็งของ เชโก้ ตลอดทั้งเกม
- แบ็กซ้าย อเล็กซานดรู คิปชิว (6.3) เติมเกมซ้ายบ้างแต่ต้องถอยลงมารับลึกส่วนใหญ่
กองกลาง
- มาริอุส มาริน (6.2) ช่วยไล่บดในแดนกลาง แต่เสียบอลบ่อยเมื่อทีมเหลือ 10 คน
- ยานิส ฮาจี (กัปตัน, 6.8) สร้างสรรค์เกมรุกได้ดีในครึ่งแรก ก่อนถูกถอดนาที 75
- วลัด ดรากอเมียร์ (6.6) เคลื่อนที่เชื่อมกลางกับหน้า ก่อนถูกเปลี่ยนออกในช่วงท้าย
แนวรุก
- ดานิส มัน (7.3) ตัวริมเส้นฝั่งขวาที่สร้างโอกาสได้หลายครั้ง แม้ท้ายเกมเจอใบเหลือง
- ดาเนียล เบิร์ลิเกีย (7.4) ศูนย์หน้าตัวเป้าทำแอสซิสต์ให้ประตูขึ้นนำ 1-0 และทำงานหนักก่อนถูกเปลี่ยน
- วาเลนติน มิไฮลา (7.4) ยิงประตูเบิกสกอร์ให้โรมาเนีย เล่นได้อันตรายทุกครั้งที่ได้บอล
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- เดนิส ดรากุช (3.8) ลงมาครึ่งหลังแต่โดนใบแดงไล่ออกนาที 67 กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกม
- ราซวาน มาริน (6.6) ลงมาช่วยยืนกลางแต่เกมรับทีมเริ่มรูรั่ว
- ดาวิด มิเคลูสคู (6.4) พยายามพาบอลขึ้นหน้าแต่โดนเพรสเร็ว
- ฟลอริน ทานาเซ (ไม่ได้ให้คะแนนชัดแต่ลงนาที 90) มีเวลาในสนามไม่มาก
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในมุมมองของ บ้านกีฬา หากพูดถึงมิติเกมรุก–เกมรับแบบ วิเคราะห์บอล แท็กติก บอสเนียยึดโครงสร้าง 4-2-3-1 ที่สมดุลกว่าอย่างชัดเจน คู่กลาง ทาฮิโรวิช–บูร์นิช คอยคุมโซนหน้าแผงแบ็กโฟร์ เปิดทางให้ เมมิค, บาจรัคตาเรวิช และ บัซดาร์ (ก่อนถูกเปลี่ยน) ได้ดันสูงกดดันแนวรับโรมาเนีย เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลังการส่ง ทาบาโควิช ลงมายืนหน้าเป้าแล้วขยับ เชโก้ ไปเล่นกึ่งหน้าต่ำ ทำให้การจับบอลด้านหลังแนวรับคู่แข่งมีมิติขึ้นอีกระดับ
การบุกของบอสเนียเน้นต่อบอลเท้าสู่เท้าและเปลี่ยนจังหวะเร็วทางริมเส้น โดยเฉพาะฝั่งซ้ายของ บาจรัคตาเรวิช ที่ลากตัดเข้าในพร้อมยิงหรือไหลต่อ ส่วนฝั่งขวา เมมิค เติมเล่นกับ เดดิช ได้หลายครั้ง เมื่อโรมาเนียเหลือ 10 คน ช่องว่างระหว่างแบ็กกับเซ็นเตอร์ถูกฉีกกว้าง ทำให้ลูก 2-1 และ 3-1 มาจากการจ่ายแล้ววิ่งเติมเข้าเขตโทษแบบเกือบจะ “ซ้อมมา” อย่างนั้นเลย
ฝั่งโรมาเนียใช้ 4-3-3 ที่เน้นสวนกลับเร็ว สามแนวรุก มิไฮลา–เบิร์ลิเกีย–มัน ใช้สปีดโจมตีแนวรับเจ้าถิ่น ซึ่งได้ผลดีในครึ่งแรก แต่ปัญหาคือแดนกลางเสียการคอนโทรล เมื่อโดนเพรสสูงของบอสเนีย พอ ดรากุช มาโดนใบแดง เกมรับก็ยิ่งถอยลึก กลายเป็นบล็อก 4-4-1 ที่ทำได้แค่กันลูกครอสและรอเคลียร์ทิ้ง สุดท้ายไม่รอดโดนรัวสองเม็ดในช่วงท้าย
📈 ภาพรวมสถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนรูปเกมชัดเจน บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนายิงทั้งหมด 12 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง ขณะที่โรมาเนียยิง 9 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง แต่ความต่างที่เห็นได้ชัดคือการครองบอล เจ้าถิ่นยึดเกมไว้ถึง 66% ส่วนทีมเยือนมีเพียง 34% เท่านั้น
ด้านเกมปะทะ ฟาวล์ใกล้เคียงกัน บอสเนียทำ 13 ครั้ง โรมาเนีย 14 ครั้ง แต่เรื่องใบโทษ บอสเนียโดนใบเหลืองถึง 5 ใบ ส่วนโรมาเนียแม้จะมีใบเหลือง 2 ใบ ทว่ามีใบแดงของ ดรากุช เพิ่มเข้ามา ทำให้ช่วงท้ายต้องเล่นแบบเสียเปรียบคน บอสเนียยังได้ลูกล้ำหน้า 2 ครั้งและเตะมุม 4 ครั้ง ขณะที่โรมาเนียได้เตะมุมเพียงหนเดียว สะท้อนว่าทีมเจ้าบ้านกดเกมไว้หน้าเขตโทษคู่แข่งตลอดครึ่งหลัง
⏱️ เหตุการณ์สำคัญตลอด 90 นาที
- 🟨 นาที 6 นิโกล่า คาติช (บอสเนีย) โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์
- ⚽ นาที 17 วาเลนติน มิไฮลา ยิงให้โรมาเนียนำ 1-0 จากการแอสซิสต์ของ ดาเนียล เบิร์ลิเกีย
- 🟨 นาที 36 อาเมียร์ เดดิช (บอสเนีย) เข้าบอลแรงโดนเหลือง
- 🟨 นาที 44 โตนี่ มูฮาเรโมวิช (บอสเนีย) โดนเหลืองจากจังหวะโวยกรรมการ
- 🟨 นาที 45+1 บ็อกดาน ราโควิตาน (โรมาเนีย) รับใบเหลืองจากการตัดเกมรุก
- 🔄 นาที 46 ฮาริส ทาบาโควิช ลงแทน ซินิซ่า บัซดาร์ / เคริม อลายเบโกวิช ลงแทน อเด็ม มาลิช
- ⚽ นาที 49 เอดิน เชโก้ ยิงตีเสมอให้บอสเนีย 1-1
- 🟨 นาที 64 ดาริโอ บูร์นิช (บอสเนีย) โดนเหลืองจากการฟาวล์กลางสนาม
- 🔄 นาที 65 เดนิส ดรากุช ลงแทน ดาเนียล เบิร์ลิเกีย ให้โรมาเนีย
- 🟥 นาที 67 เดนิส ดรากุช โดนใบแดง ไล่ออกจากสนาม กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
- 🔄 นาที 70 อีวาน บาซิช ลงแทน ดาริโอ บูร์นิช ให้บอสเนีย
- 🟨 นาที 75 เอดิน เชโก้ รับใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์
- 🔄 นาที 75 โรมาเนียเปลี่ยนสองคน ดาวิด มิเคลูสคู ลงแทน ยานิส ฮาจี และ ราซวาน มาริน ลงแทน วลัด ดรากอเมียร์
- ⚽ นาที 79 เอสมีร์ บาจรัคตาเรวิช ยิงให้บอสเนียนำ 2-1 จากการจ่ายของ เบนจามิน ทาฮิโรวิช
- 🔄 นาที 83 อามีร์ ฮัดซิอาห์เมโตวิช ลงแทน ทาฮิโรวิช เพื่อเพิ่มความเหนียวในแดนกลาง
- 🔄 นาที 90 อาร์มิน กิโกวิช ลงแทน เชโก้
- 🟨 นาที 90+2 ดานิส มัน (โรมาเนีย) โดนเหลืองในช่วงท้ายเกม
- 🔄 นาที 90+3 ฟลอริน ทานาเซ ลงแทน ดานิส มัน
- ⚽ นาที 90+3 ฮาริส ทาบาโควิช ยิงประตูปิดกล่องให้บอสเนียชนะ 3-1
🌟 Player of the Match – เอดิน เชโก้ หัวใจเกมรุกบอสเนีย
แม้จะยิงได้ “แค่” หนึ่งประตู แต่ผลงานโดยรวมของ เอดิน เชโก้ สมตำแหน่ง Player of the Match เต็ม ๆ เขาไม่ใช่แค่ศูนย์หน้าที่จบสกอร์เฉียบ แต่ยังถอยลงมาเป็นเพลย์เมกเกอร์ชั่วคราว รับบอลพักไว้แล้วจ่ายต่อให้ปีกสองฝั่งทำเกม จังหวะตีเสมอ 1-1 นาที 49 คือภาพชัดเจนของความเก๋า การหาพื้นที่ว่างในกรอบเขตโทษ พลิกยิงในจังหวะเดียวแบบไม่ลังเล ทำให้เกมที่กำลังตึงเปลี่ยนมาอยู่ฝั่งเจ้าบ้านทันที
นอกจากประตูแล้ว เชโก้ยังเป็นคนคอยเรียกฟาวล์ ดึงตัวประกบ และเปิดพื้นที่ให้ ทาบาโควิช กับ บาจรัคตาเรวิช เข้ามามีส่วนร่วม สถิติเรตติ้ง 7.7 สูงสุดในสนาม สะท้อนว่ากัปตันบอสเนียยังคงเป็นเสาหลักให้ทีมชาติชุดนี้อย่างแท้จริง
📋 ผลต่อสถานการณ์ในตารางคะแนน กลุ่ม H
ชัยชนะเกมนี้ทำให้บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเก็บเพิ่มเป็น 16 คะแนน จาก 7 นัด ยิงได้ 16 เสีย 6 ผลต่างประตูได้เสีย +10 รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม H ไล่จี้จ่าฝูงออสเตรียที่มี 18 คะแนนแบบหายใจรดต้นคอ โอกาสลุ้นตั๋วไปเล่นรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2026 ยังเปิดกว้างเต็มที่ ขณะที่ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของบอสเนียก็ยังดูดี มีทั้งชนะสลับแพ้แต่ภาพรวมกำลังไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ
ด้านโรมาเนีย แพ้เกมนี้ทำให้หยุดอยู่ที่ 10 คะแนน จาก 7 นัด ผลต่างประตูได้เสีย +3 หล่นห่างทั้งออสเตรียและบอสเนียออกไปอีกขั้น เส้นทางลุ้นอันดับท็อปทูเริ่มยากขึ้น และแรงกดดันจากแฟนบอลก็จะถาโถมใส่ทีมของ มิร์เซีย ลูเชสคู มากขึ้นเรื่อย ๆ
📅 ตารางบอล กลุ่ม H นัดถัดไป
โปรแกรมใน ตารางบอล กลุ่ม H นัดต่อไป บอสเนียต้องออกไปเยือนจ่าฝูงออสเตรีย วันที่ 19 พฤศจิกายน เวลา 02.45 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เกมนี้คือแมตช์ชี้ชะตา การลุ้นแชมป์กลุ่มอย่างแท้จริง หากบอสเนียบุกไปเก็บสามแต้มได้ สถานการณ์จะกลับมาสูสีทันที
ส่วนโรมาเนียจะได้กลับไปเล่นในบ้านพบ ซาน มาริโน วันและเวลาเดียวกัน ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเรียกความมั่นใจและเก็บสามแต้มเพื่อรักษาโอกาสลุ้นพื้นที่บนของตารางต่อไป แฟนบอลรอติดตามโปรแกรมเต็ม ๆ และอัปเดตได้ที่ บ้านกีฬา เช่นเคย
📺 ติดตามสรุป บ้านผลบอล สดใหม่ทุกคืนกับ บ้านกีฬา
ใครที่พลาดชมเกมนี้สด ๆ บ้านกีฬา ขอย้ำว่าไม่ต้องห่วง เพราะเราพร้อมเสิร์ฟสรุปสกอร์ สถิติ และไฮไลต์สำคัญจากทุกคู่ให้คุณทุกคืน ติดตามเช็ก บ้านผลบอล เช็กสกอร์แบบเรียลไทม์ รวมถึงข่าวเด็ดก่อน–หลังเกมจากลีกใหญ่ทั่วโลกได้ที่นี่ แฟนบอลตัวจริงถ้าไม่อยากตกข่าวฟุตบอล อย่าลืมกดเข้ามาเช็กกันทุกวันกับ บ้านกีฬา
