บ้านผลบอล สรุปหลังเกม ฟุตบอลโลก 2026 คัดเลือกโซนยุโรป เดือด! ชาก้า-เอ็มโบโล่-เอ็นดอย “กดโชว์คลาส” สวิตอัดสวีเดน 4-1 จ่อลิ่วบอลโลก

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์ 4-1 สวีเดน วันนี้ 16/11/68 – บ้านกีฬา

ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม B ที่สนามเหย้าของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟนบอลต้องย้อนกลับมาไฮไลต์ซ้ำ เมื่อทัพแดนนาฬิกาเดินหน้าบดแหลกไวกิ้งเหลือง ก่อนถล่มไป 4-1 เกมนี้ภาพรวมจากจอ ผลบอลสด ชัดเจนมากว่าสวิตเซอร์แลนด์เหนือกว่าทั้งรูปเกม ความเฉียบคม และความเยือกเย็นในพื้นที่สุดท้าย บ้านกีฬา ขอพาไล่เจาะทุกจังหวะสำคัญแบบละเอียดยิบ

🕐 ครึ่งแรก – เอ็มโบโล่เปิดหัว แต่สวีเดนตีคืน

เปิดฉากเพียง 13 นาที สวิตเซอร์แลนด์กดดันอย่างต่อเนื่องก่อนที่ บรีล เอ็มโบโล่ จะใช้ความแข็งแกร่งและความคมในกรอบเขตโทษ ซัดให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 ตามฟอร์มทีมเต็งของกลุ่ม B ที่ไม่รอให้เกมเยิ่นเย้อ ครองบอลบุกใส่และเน้นเจาะแนวรับสวีเดนทางด้านข้างตลอด

แต่ไวกิ้งเหลืองไม่ยอมพับสนามง่าย ๆ นาที 33 เบนจามิน ไนเกรน ฉวยจังหวะหลุดเข้าไปยิงตีเสมอ 1-1 แบบเฉียบคม เปลี่ยนอารมณ์เกมให้กลับมาสูสี ช่วงท้ายครึ่งแรก สวิตเซอร์แลนด์ยังโหมหนัก โดยมี ดาน เอ็นดอย ลากจี้ริมเส้นสร้างปัญหาใส่แบ็กขวาสวีเดนอย่างต่อเนื่อง ทว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดพอ จบครึ่งแรกสกอร์เสมอกัน 1-1 แต่โมเมนตัมเอียงไปทางเจ้าบ้านชัดเจน

🔁 ครึ่งหลัง – จุดโทษชาก้าพลิกโมเมนตัม ก่อนรัวปิดบัญชี

ครึ่งหลัง สวิตเซอร์แลนด์ยังเดินหน้าเปิดเกมรุกเหมือนเดิม บีบให้สวีเดนถอยลงไปแพ็กเกมรับลึก นาที 60 จุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง เมื่อแนวรับสวีเดนทำฟาวล์ในเขตโทษ และเป็น กรานิต ชาก้า กัปตันทีมประจำแดนกลางที่รับหน้าที่สังหารไม่เหลือ ช่วยให้สวิตเซอร์แลนด์แซงนำ 2-1

หลังจากนั้นสวีเดนพยายามตอบโต้ด้วยการส่ง อเล็กซานเดอร์ อิซัค และ เบสฟอร์ท เซเนลี ลงมาเพิ่มมิติในแนวรุก แต่เกมสวนกลับกลับโดนดักตัดกลางทางอยู่เรื่อย นาที 75 เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สาม ดาน เอ็นดอย ที่เล่นโดดเด่นตลอดทั้งเกมสปรินต์หลุดเข้าไปจบสกอร์อย่างใจเย็น กลายเป็น 3-1 และปิดไฟความหวังทีมเยือนแทบจะทันที

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สวิตเซอร์แลนด์ยังไม่เพลาเกมบุก และเป็นตัวสำรอง โยฮัน มานซัมบี ที่ลงมาปิดกล่องยิงประตู 4-1 ในนาที 90+4 จบเกมทัพแดนนาฬิกาโชว์คลาสเหนือชั้น เปิดบ้านถล่มสวีเดนแบบขาดลอย ได้เสียงเฮสนั่นทั้งสนาม

📋 รายชื่อ 11 ตัวจริงและคะแนนผู้เล่น

🇨🇭 สวิตเซอร์แลนด์ – ระบบ 4-2-3-1

ผู้รักษาประตู

  • เกร็กโกร์ โกเบิล 6.7

กองหลัง

  • ซิลวาน วิดเมอร์ 6.8
  • มานูเอล อาคานจี 6.8
  • นิโก เอลเวดี้ 6.6
  • ริคาร์โด โรดริเกซ 6.4

กองกลางตัวรับ/โฮลดิ้ง

  • มิชาเอล เอบิเชอร์ 6.8
  • กรานิต ชาก้า (กัปตัน) 7.7

กองกลางตัวรุก/ตัวริมเส้น

  • ดาน เอ็นดอย 8.2
  • ฟาเบียน รีเดอร์ 6.7
  • รูเบน วาร์กัส 7.0

กองหน้า

  • บรีล เอ็มโบโล่ 7.7

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • มีโร มูไฮม์ (แทน โรดริเกซ นาที 70) 6.9
  • ฌิบรีล โซว์ (แทน รีเดอร์ นาที 70) 6.4
  • คริสเตียน ฟัสส์นาคท์ (แทน วาร์กัส นาที 85) 6.6
  • โยฮัน มานซัมบี (แทน เอ็มโบโล่ นาที 85) 7.2
  • อันดี เซกีรี (แทน เอ็นดอย นาที 90)

ตัวสำรองไม่ได้ลง
ยฟอน เอ็มโวโก, มาร์วิน เคลเลอร์, เบชิร์ โอเมรากิช, ออเรล อาเมนด้า, ไอแซค ชมิดท์, ซิโมน โซห์ม, เซดริก อิตเตน

🇸🇪 สวีเดน – ระบบ 4-4-2

ผู้รักษาประตู

  • วิคเตอร์ โยฮันส์สัน 6.3

กองหลัง

  • ดาเนียล สเวนส์สัน 6.1
  • อิซัค ฮีน (กัปตัน) 6.2
  • กุสตาฟ ลาเกอร์บีลเค 6.5
  • อันตอน แบร์นฮาร์ดส์สัน 6.4

กองกลาง

  • อ็องโตนี่ เอลังกา 6.4
  • เยンス คาร์ลสตรอม 6.2
  • เยอรามี่ อายารี 6.2
  • มัตติอัส สวานเบิร์ก 7.0

กองหน้า

  • เอริค โฮล์ม 6.7
  • เบนจามิน ไนเกรน 7.3

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • กาเบรียล กุดมุนด์สสัน (แทน โฮล์ม นาที 50) 6.1
  • อเล็กซานเดอร์ อิซัค (แทน สวานเบิร์ก นาที 62) 6.8
  • เบสฟอร์ท เซเนลี (แทน อายารี นาที 63) 6.5
  • เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (แทน เอลังกา นาที 78) 6.4
  • ไอแซค ลิดเบิร์ก (แทน แบร์นฮาร์ดส์สัน นาที 78) 6.5

ตัวสำรองไม่ได้ลง
คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดเฟลดท์, ยาค็อบ วีเดลล์ เซ็ตเตอร์สตรอม, คาร์ล สตาร์เฟลต์, เอมิล คราฟธ์, เคน เซมา, รูนี่ย์ บาร์ดจี, กุสตาฟ ลุนด์เกรน

อาการบาดเจ็บ/ติดโทษ
ฝั่งสวิตเซอร์แลนด์ขาด ลูก้า ฮาควซ และ เรโม ฟรอยเลอร์ ส่วนสวีเดนไม่มีหัวหอกตัวเก่ง วิคเตอร์ กโยเคเรส และต้องเช็กฟิต ลูคัส แบร์กวัลล์

🔍 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม

ในเชิงแท็กติก สวิตเซอร์แลนด์ของ มูรัต ยาคิน ยืนพื้นด้วยระบบ 4-2-3-1 ที่ยืดหยุ่นสูง การขึ้นเกมเริ่มจากคู่เซ็นเตอร์ อาคานจี–เอลเวดี้ ต่อบอลสั้นกับคู่มิดฟิลด์ เอบิเชอร์–ชาก้า ก่อนกระจายบอลออกสู่ริมเส้นให้ เอ็นดอย กับ วาร์กัส ดึงตัวประกบออกจากพื้นที่ตรงกลาง จุดเด่นคือการซ้อนเกมรับเร็ว เมื่อเสียบอลจะมีการ “เคาน์เตอร์เพรส” แถวกลางสนาม ทำให้สวีเดนสร้างเกมรุกจากแดนตัวเองได้ลำบาก

เกมรุกสวิตใช้การเปลี่ยนแกนเร็วและการแทงช่องให้ เอ็มโบโล่ สลัดตัวประกบเข้าเขตโทษ รวมถึงการเติมสูงของฟูลแบ็ก วิดเมอร์ และโรดริเกซ สร้างสถานการณ์สองต่อหนึ่งทางด้านข้างหลายครั้ง นี่คือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงยิงได้ถึง 4 ลูก และสร้างโอกาสจะแจ้งตลอดทั้งครึ่งหลัง การเคลื่อนที่ของ เอ็นดอย ถือเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้แนวรับสวีเดนปั่นป่วน

ฝั่งสวีเดนของ แกรม พอตเตอร์ เลือกใช้ 4-4-2 ที่เน้นวินัยเกมรับเป็นหลัก พยายามปิดพื้นที่กลางสนามด้วยคู่กลาง คาร์ลสตรอม–อายารี แล้วปล่อยให้ สวานเบิร์ก กับ เอลังกา ช่วยสวนกลับทางริมเส้น อย่างไรก็ดี เมื่อทีมต้องรับลึกต่อเนื่องแถวกรอบเขตโทษ การเช็กล้ำหน้าและการเก็บจังหวะสองยังไม่แน่นพอ ทำให้หลุดช่องให้แนวรุกสวิตเจาะซ้ำ ๆ

ในเชิง วิเคราะห์บอล หากมองจากรูปเกม สวิตเซอร์แลนด์มีบาลานซ์เกมรุก–รับที่ดีกว่า ชัดเจนว่ากลางสนามคุมจังหวะได้หมด ส่วนสวีเดนยังต้องเร่งปรับเรื่องเกมรับริมเส้นและการยืนโซนในกรอบเขตโทษ หากจะกลับมาลุ้นแต้มในเกมถัดไปให้ได้

📊 สถิติการแข่งขัน

ภาพรวมตัวเลขบ่งบอกทุกอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ครองบอลถึง 64% ขณะที่สวีเดนครองบอลเพียง 36% เท่านั้น เจ้าถิ่นยิงทั้งสิ้น 9 ครั้ง เข้ากรอบ 7 หน เรียกได้ว่ามีโอกาสแล้วแทบจบสกอร์ได้ทุกครั้ง ตรงข้ามกับสวีเดนที่ยิง 6 ครั้ง เข้ากรอบเพียง 3 ครั้ง โอกาสจบสกอร์คุณภาพถูกจำกัดอย่างชัดเจน

ด้านเกมรับ สวิตเซอร์แลนด์ทำฟาวล์ 13 ครั้ง น้อยกว่าสวีเดนที่ต้องตัดเกมถึง 17 ครั้ง และไวกิ้งเหลืองยังโดนใบเหลืองมากถึง 4 ใบ เทียบกับเจ้าบ้านเพียง 1 ใบ สะท้อนให้เห็นถึงความกดดันที่แนวรับทีมเยือนต้องเผชิญตลอดทั้งเกม ส่วนลูกเตะมุม สวิตเซอร์แลนด์ได้ 4 ครั้ง มากกว่าสวีเดนที่ได้ 3 ครั้ง เป็นอีกตัวเลขหนึ่งที่ยืนยันว่าเจ้าบ้านบุกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบ

⏱️ เหตุการณ์สำคัญในเกม

  • ⚽ 12′ บรีล เอ็มโบโล่ ยิงให้สวิตเซอร์แลนด์ขึ้นนำ 1-0
  • ⚠️ 18′ เยอรามี่ อายารี ทำฟาวล์โดนใบเหลือง
  • ⚽ 33′ เบนจามิน ไนเกรน ยิงตีเสมอให้สวีเดน 1-1
  • ⚠️ 36′ ดาน เอ็นดอย ทำฟาวล์ รับใบเหลือง
  • 🔁 50′ สวีเดนเปลี่ยนตัว กาเบรียล กุดมุนด์สสัน ลงแทน เอริค โฮล์ม
  • ⚠️ 51′ เยนส์ คาร์ลสตรอม ทำฟาวล์ โดนใบเหลือง
  • ⚠️ 58′ วิคเตอร์ โยฮันส์สัน ผู้รักษาประตูสวีเดน รับใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์
  • ⚽ 60′ กรานิต ชาก้า สังหารจุดโทษให้สวิตเซอร์แลนด์นำ 2-1
  • 🔁 62′ สวีเดนส่ง อเล็กซานเดอร์ อิซัค ลงแทน มัตติอัส สวานเบิร์ก
  • 🔁 63′ เบสฟอร์ท เซเนลี ลงแทน เยอรามี่ อายารี
  • 🔁 70′ สวิตเซอร์แลนด์เปลี่ยนสองคน มีโร มูไฮม์ ลงแทน โรดริเกซ, ฌิบรีล โซว์ ลงแทน รีเดอร์
  • ⚽ 75′ ดาน เอ็นดอย ยิงประตูสุดเฉียบ เพิ่มสกอร์เป็น 3-1 ให้เจ้าบ้าน
  • 🔁 78′ สวีเดนส่ง เอมิล ฟอร์สเบิร์ก และ ไอแซค ลิดเบิร์ก ลงแทน เอลังกา และ แบร์นฮาร์ดส์สัน
  • 🔁 85′ สวิตเซอร์แลนด์ถอด เอ็มโบโล่ กับ วาร์กัส ออก ส่ง โยฮัน มานซัมบี และ คริสเตียน ฟัสส์นาคท์ ลงสนาม
  • ⚠️ 90′ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ทำฟาวล์โดนใบเหลือง
  • 🔁 90′ อันดี เซกีรี ลงแทน เอ็นดอย
  • ⚽ 90+4′ โยฮัน มานซัมบี ยิงปิดกล่อง สวิตเซอร์แลนด์ถล่มสวีเดน 4-1

⭐ Player of the match – ดาน เอ็นดอย

ดาวเด่นของเกมนี้ต้องยกให้ ดาน เอ็นดอย ปีกตัวจี๊ดของสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้คะแนนสูงถึง 8.2 เขาเล่นงานแบ็กขวาสวีเดนตลอด 90 นาที ด้วยสปีดต้นที่จัดจ้านและจังหวะเลี้ยงหักเข้าในที่อ่านเกมยาก สร้างทั้งโอกาสทำประตูให้เพื่อน และจบสกอร์เองหนึ่งลูกในช่วงนาทีสำคัญ เอ็นดอยยังมีส่วนช่วยเกมรับ ไล่บีบสูงจนแผงหลังสวีเดนจ่ายบอลพลาดหลายครั้ง เป็นรูปแบบปีกสมัยใหม่ที่ทั้งบุกและรับครบเครื่อง สมควรอย่างยิ่งกับตำแหน่ง Player of the match

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม B

ชัยชนะนัดนี้ส่งให้สวิตเซอร์แลนด์เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนน จาก 5 นัด สถิติชนะ 4 เสมอ 1 ยิงไป 13 เสียเพียง 1 ลูก ผลต่างประตูได้เสีย +12 นั่งจ่าฝูงกลุ่ม B แบบสง่างาม เปิดทางสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 อย่างเต็มตัว

ด้านคอซอวอมี 10 คะแนน ตามมาห่าง ๆ ส่วนสโลวีเนียมีเพียง 3 คะแนน และสวีเดนจมบ๊วยของกลุ่ม มีแค่ 1 แต้มจาก 5 นัด กับผลงานแพ้ถึง 4 เกม เกมนี้จึงเป็นเหมือน “หมุดตอกย้ำ” ว่าสวีเดนอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ยากลำบาก หากไม่เร่งปรับทัพ มีโอกาสสูงที่จะหลุดวงโคจรลุ้นไปเล่นรอบสุดท้ายอย่างน่าเสียดาย

📅 ตารางบอลฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป นัดถัดไป

โปรแกรมในกลุ่ม B ยังไม่เปิดโอกาสให้พักหายใจยาว สวิตเซอร์แลนด์ต้องยกพลบุกไปเยือนคอซอวอ ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงในเส้นทางลุ้นแชมป์กลุ่ม เกมนี้ใน ตารางบอล ถูกมองว่าเป็นนัดชี้ชะตาอันดับหนึ่งของสาย หากแดนนาฬิกาบุกคว้าชัยได้อีก ก็แทบการันตีการผ่านเข้ารอบทันที

ขณะเดียวกัน สวีเดนจะเปิดบ้านรับมือสโลวีเนีย ซึ่งเป็นโอกาสทองในการเอาชนะนัดแรกของรอบคัดเลือก หากพลาดอีกครั้งแรงกดดันต่อทีมและโค้ชจะทวีคูณหลายเท่า แฟนบอลไวกิ้งเหลืองจึงจับตาเกมนี้อย่างหนัก เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นการกู้ศรัทธาหรือจุดจบของความหวังไปพร้อมกัน

🏠 ติดตาม บ้านผลบอล และทุกจังหวะเดือดได้ที่ บ้านกีฬา

สำหรับคอบอลที่อยากตามทันทุกสกอร์ ทุกข่าว และทุกเกมร้อนแรงจากยุโรป บ้านกีฬา ขอย้ำเลยว่าอย่าพลาดเช็ก บ้านผลบอล ครบทุกคู่ที่นี่ เราจะเกาะติดทั้งผลการแข่งขันแบบเรียลไทม์ บทวิเคราะห์ก่อน-หลังเกม มุมมองเชิงแท็กติก และอัปเดตตารางคะแนน–โปรแกรมเตะให้คุณไม่หลุดเทรนด์โลกฟุตบอล ใครอยากอินไปกับจังหวะมันส์ ๆ แบบเกมสวิตเซอร์แลนด์ถล่มสวีเดน 4-1 เข้ามาเช็กทุกอย่างได้ที่ บ้านกีฬา เราพร้อมลุยไปกับคุณทุกค่ำคืนบอลยุโรป

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา