
จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง คาซัคสถาน 1-1 เบลเยียม วันนี้ 15/11/68 – บ้านกีฬา
บ้านกีฬา พาเกาะขอบจอศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม J คู่สุดเดือด คาซัคสถาน เปิดรังรับการมาเยือนของทีมแกร่งอย่างเบลเยียม เกมนี้แฟนบอลหลายคนเปิดดูผ่านสกอร์แบบเรียลไทม์เช็ก ผลบอลสด กันแบบวินาทีต่อวินาที เพราะมีผลโดยตรงต่อเส้นทางลุ้นตั๋วไปอเมริกา–แคนาดา–เม็กซิโกของทั้งสองชาติ
สุดท้ายรูปเกมออกมามันส์เกินคาด เจ้าถิ่นยิงนำก่อน, ทีมเยือนบุกอยู่ข้างเดียว, ใบแดงโผล่ และจบด้วยสกอร์ 1-1 ที่ทำให้เบลเยียมเสียวท้ายเกม ส่วนคาซัคสถานได้แรงใจเต็มถัง แม้ต้องเล่น 10 คนช่วงสำคัญของการแข่งขัน
⏱️ ครึ่งแรก – คาซัคสถานยิงนำเร็ว เบลเยียมช็อกแต่ยังตั้งลำได้
เปิดฉากมาไม่ทันได้หายใจหายคอ นาทีที่ 9 กองเชียร์เจ้าถิ่นเฮลั่นสนาม เมื่อ ดัสตัน ซัตปาเยฟ ฉวยโอกาสจากจังหวะผิดพลาดเล็กๆ ของแนวรับเบลเยียม หลุดขึ้นไปกดเต็มข้อส่งบอลตุงตาข่าย ให้คาซัคสถานนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว กลายเป็นหมัดแรกที่ทำให้เบลเยียมถึงกับเซ
หลังเสียประตู ทีมเยือนเร่งจังหวะบุกทันที ใช้การกระจายบอลจากแดนกลางของ ฮานส์ วานาเกน ร่วมกับความเร็วของ เจเรมี่ โดกู และการเลี้ยงกินตัวของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ถล่มใส่แนวรับเจ้าถิ่นต่อเนื่อง ลูกยิงทั้งนอกกรอบในกรอบมาเป็นชุด แต่ยังไม่ผ่านมือผู้รักษาประตูฟอร์มโหดอย่าง ทิมูร์ อนาร์เบคอฟ ที่เซฟสำคัญหลายหน
ช่วงกลางครึ่งแรก คาซัคสถานเริ่มถอยลงไปแพ็กเกมแน่น ใช้เกมโต้กลับฝากความหวังไว้ที่ ซัตปาเยฟ และ กาอิรอฟ ทางริมเส้น ขณะที่เบลเยียมครองบอลบุกเกือบสองในสามของสนาม แต่ยังหาจังหวะจบคมๆ ไม่ได้ ก่อนจบ 45 นาทีแรกที่สกอร์ 1-0 ให้เจ้าบ้านสร้างเซอร์ไพรส์นำทีมเต็งของกลุ่ม
🔁 ครึ่งหลัง – วานาเกนกู้ชีพ, ใบแดงพลิกเกมแต่เบลเยียมบุกไม่คม
กลับมาครึ่งหลัง เบลเยียมเดินเกมโหมทันทีเพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยนานกว่านี้ความกดดันจะยิ่งถาโถม นาทีที่ 48 ความพยายามก็เป็นผล เมื่อบอลต่อเนื่องทางกราบซ้ายถูกครอสเข้าเขตโทษ และเป็น ฮานส์ วานาเกน กัปตันทีมที่สอดขึ้นมาโขกจ่อๆ ไม่เหลือ ทำให้สกอร์กลับมาเสมอ 1-1 และโมเมนตัมไหลไปฝั่งทีมเยือนเต็มที่
หลังจากได้ประตู เบลเยียมครองบอลแทบจะข้างเดียว บุกทางสองฟูลแบ็กโดยเฉพาะฝั่งซ้ายของ ทิโมธี กาสตาญ ที่เติมเกมอย่างบ้าคลั่ง ทั้งเปิด ทั้งตัดเข้าในยิงเอง ขณะที่คาซัคสถานเริ่มเปิดช่องให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
นาที 71 คลอดชุดเปลี่ยนตัวของเบลเยียมรวดเดียวสามคน ส่ง ยูริ ตีเลอม็องส์, อเล็กซิส ซาเลอมาเกอร์ส และ โลอิส โอเปนดา ลงมาช่วยเร่งจังหวะเกมรุกหวังปิดจ๊อบ แต่ดราม่ามาโผล่ฝั่งเจ้าบ้าน นาที 79 เมื่อ อิสลาม เชสนอคอฟ ฟูลแบ็กตัวเก่งโดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้คาซัคสถานเหลือ 10 คนในช่วงท้ายเกมสำคัญ
แม้ตัวผู้เล่นจะเหนือกว่า แต่เบลเยียมยังหาจังหวะจบสกอร์เฉียบๆ ไม่ได้ โอกาสมากมายโดนบล็อกบ้าง หลุดกรอบบ้าง ส่วนเจ้าถิ่นเน้นแพ็กเกมรับเต็มรูปแบบ เพื่อรักษาหนึ่งแต้มทองเอาไว้ให้ได้ สุดท้ายหมดเวลา 90 นาที บวกทดเจ็บแล้วสกอร์ยังอยู่ที่ 1-1 บ้านกีฬายืนยันอีกครั้งจากหน้า บ้านผลบอล ว่านี่คือผลการแข่งขันจริงที่ทำให้ทั้งสองทีมได้–เสียกันไปคนละแบบ

🧾 รายชื่อ 11 ตัวจริง & การเปลี่ยนตัว
🇰🇿 คาซัคสถาน (4-2-3-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.81
ผู้รักษาประตู
- ทิมูร์ อนาร์เบคอฟ (15) – 8.4
กองหลัง
- บากดัต ไกรอฟ (5) – 7.0
- นูราลี อาลิป (3, กัปตัน) – 7.0
- ไอบ เบ็ก คาซิม (6) – 7.1
- เยอร์คิน วอโรกอฟสกีย์ (11) – 6.8
กองกลางตัวรับ
- เอย์ซาน ทาปาลอฟ (16) – 6.6
- รามาซาน โอราซอฟ (20) – 7.2
กองกลางตัวรุก / ตัวริมเส้น
- กัลย์ซาน เคนเชเบ็ก (7) – 7.1
- มัคซัต ซามอโรดอฟ (10) – 6.3
- ดัสตัน ซัตปาเยฟ (19) – 6.9 (ผู้ทำประตูให้ทีมนำ 1-0)
กองหน้า
- อิสลาม เชสนอคอฟ (9) – 5.6 (โดนใบแดงนาที 79)
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม
- อีวาน สวีริดอฟ (17) แทน ซัตปาเยฟ นาที 56
- อาร์เซน อาชิร์เบก (4) แทน เคนเชเบ็ก นาที 57
- ดิมนุคฮาเหม็ด คารามาน (18) แทน ซามอโรดอฟ นาที 80
- จอร์กี ชูคอฟ (13) แทน ทาปาลอฟ นาที 90+2
- ดามีร์ คาซาบูลาต (23) แทน โอราซอฟ นาที 90+2
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน
เบกคาน ชายซาดา, มูคฮาเมดจัน เซย์เซน, เซอร์เกย์ มาลี, เดาเรน ชูมาต, เนารีซเบก ซากอรอฟ, ซุลตันเบก อัสตานอฟ, เอลคาน อัสตานอฟ
นักเตะเด่นฝั่งคาซัคสถานคือ อนาร์เบคอฟ ที่เซฟอุตลุตจนได้คะแนนสูงสุดของทีม รวมถึงคู่เซ็นเตอร์ อาลิป–คาซิม ที่ช่วยกันบล็อกลูกครอสจากฝั่งเบลเยียมได้หลายครั้ง
🇧🇪 เบลเยียม (4-2-3-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 7.24
ผู้รักษาประตู
- มัดส์ เซลส์ (13) – 7.0
กองหลัง
- ยาสเปอร์ เซย์ส์ (2) – 7.6
- คิลเลียน เดอ วินเทอร์ (16) – 7.3
- อาร์ตูร์ เตียเต้ (3) – 6.5
- ทิโมธี กาสตาญ (21) – 8.5
กองกลางตัวรับ
- อมาดู โอนานา (18) – 7.2
- นิโกลัส ราสกิน (23) – 7.7
กองกลางตัวรุก / ตัวริมเส้น
- เจเรมี่ โดกู (11) – 8.3
- ชาร์ลส์ เดอ เคเตลาเร (17) – 6.9
- เลอันโดร ทรอสซาร์ (10) – 7.0
กองหน้า
- ฮานส์ วานาเกน (20, กัปตัน) – 8.4 (ผู้ยิงประตูตีเสมอ 1-1)
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม
- ยูริ ตีเลอม็องส์ (8) แทน โอนานา นาที 71
- อเล็กซิส ซาเลอมาเกอร์ส (22) แทน ทรอสซาร์ นาที 71
- โลอิส โอเปนดา (9) แทน เดอ เคเตลาเร นาที 71
- แม็กซิม เดอ คุยเปอร์ (5) แทน เซย์ส์ นาที 81
- โรเมโอ เวอร์มองต์ (19) แทน ราสกิน นาที 89
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน
เซนน์ แลมเมนส์, มาร์เทน ฟานเดอโวร์ดต์, แบรนดอน เมเคเล, อักเซล วิตเซล, โดดี ลูเคบากิโอ, ชาร์ลส์ ฟานฮูตต์, ดีเอโก โมเรยรา
ฝั่งเบลเยียมดาวเด่นยกให้ ทิโมธี กาสตาญ, วานาเกน และ โดกู ที่สร้างปัญหาให้แนวรับเจ้าบ้านตลอดทั้งเกม
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หากมองในมุม วิเคราะห์บอล แท็กติก เกมนี้แสดงให้เห็นภาพชัดเจนว่า เบลเยียมของโค้ช เคลาด์ ฟิโชซ์ เน้นคอนโทรลบอลด้วยระบบ 4-2-3-1 แบบยืดหยุ่น วาง โอนานา–ราสกิน คุมจังหวะตรงกลาง เปิดทางให้สามตัวรุกด้านบนเคลื่อนที่สลับตำแหน่งตลอดเวลา โดยเฉพาะ โดกู ที่รับบอลด้านข้างแล้วเลี้ยงหักเข้าในยิงหรือจ่ายต่อไปยัง วานาเกน ที่ยืนหาช่องในเขตโทษ การเติมเกมของฟูลแบ็กสองฝั่ง โดยเฉพาะ กาสตาญ ทางซ้าย ก็ช่วยให้ทีมสร้างโอเวอร์โหลดริมเส้นจนคาซัคสถานต้องถอยลงมาตั้งโซนรับลึก
ในมุมเกมรับ เบลเยียมใช้การไล่เพรสตั้งแต่แดนบน เมื่อเสียบอลพยายามบีบเก็บคืนอย่างรวดเร็ว ทำให้คาซัคสถานแทบไม่มีโอกาสต่อบอลยาวขึ้นมาทำเกมสวนกลับมากนัก ยกเว้นจังหวะที่หลุดเป็นประตูนำ 1-0 ต้นเกม ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนที่ไม่ทันจังหวะกันของเซ็นเตอร์และฟูลแบ็ก
ฝั่งคาซัคสถาน แท็กติกชัดเจนคือเล่น 4-2-3-1 รูปแบบรับลึก เน้นบล็อกกลางสนามให้แน่นด้วยคู่กลาง ทาปาลอฟ–โอราซอฟ ตัดเกมก่อนถึงเขตโทษ จากนั้นใช้ความขยันของ ซามอโรดอฟ และ เคนเชเบ็ก ไล่บีบ ปล่อยให้ ซัตปาเยฟ ยืนค้ำรอจังหวะโต้กลับ เมื่อมีพื้นที่พวกเขาจะโยนบอลยาวไปหลังแนวรับเบลเยียมทันที
จุดเปลี่ยนคือใบแดงของ เชสนอคอฟ ทำให้แผงรับฝั่งขวาโหว่อย่างชัดเจน ต้องขยับระบบเป็น 4-4-1 เน้นแพ็กหน้าปากประตู แต่ต้องยอมรับว่าทั้งคู่เซ็นเตอร์และผู้รักษาประตูเล่นได้เกินร้อย ทำให้ต้านแรงกดดันได้ตลอดจนจบเกม

📊 สถิติการแข่งขัน – เบลเยียมบุกกระหน่ำแต่เจาะไม่เข้า
เมื่อดูจากตัวเลขในเกมนี้ เบลเยียมเหนือกว่าทุกด้านอย่างชัดเจน พวกเขายิงทั้งหมด 16 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครั้ง ขณะที่คาซัคสถานมีโอกาสเพียง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ลูก การครองบอลก็เป็นภาพขาว–แดงชัดเจน ทีมเยือนครองบอลถึง 67% ทิ้งห่างเจ้าถิ่นที่มีเพียง 33% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่ารูปเกมส่วนใหญ่ถูกดันไปอยู่หน้าเขตโทษคาซัคสถานตลอด
แม้จะครองเกมได้ แต่เบลเยียมกลับทำฟาวล์เพียง 6 ครั้งเทียบกับเจ้าบ้านที่ต้องตัดเกมถึง 15 หน ใบเหลืองออกทั้งหมด 5 ใบ แบ่งเป็นคาซัคสถาน 4 ใบ เบลเยียม 1 ใบ และใบแดงสำคัญของ เชสนอคอฟ ที่ทำให้เจ้าถิ่นเหลือ 10 คน ขณะที่ลูกเตะมุม เบลเยียมได้ถึง 12 ครั้ง เทียบกับคาซัคสถาน 5 ครั้ง ตัวเลขทั้งหมดตอกย้ำว่าเบลเยียมบุกแหลก แต่วันนั้นความเฉียบคมและความนิ่งหน้าประตูยังไม่มากพอจะคว้า 3 แต้มเต็มจากเกมเยือนสุดโหดนี้
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 9: ดัสตัน ซัตปาเยฟ หลุดเข้าไปยิงให้คาซัคสถานนำ 1-0
- 🟨 นาที 29: เอย์ซาน ทาปาลอฟ โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดเกมกลางสนาม
- ⏱️ จบครึ่งแรก: คาซัคสถาน 1-0 เบลเยียม
- ⚽ นาที 48: ฮานส์ วานาเกน โขกประตูตีเสมอให้เบลเยียม 1-1
- 🔁 นาที 56: คาซัคสถานเปลี่ยนตัว ส่ง อีวาน สวีริดอฟ ลงแทน ซัตปาเยฟ
- 🔁 นาที 57: เจ้าบ้านส่ง อาร์เซน อาชิร์เบก แทน เคนเชเบ็ก เติมความสดริมเส้น
- 🟨 นาที 67: บากดัต ไกรอฟ แบ็กซ้ายคาซัคสถานโดนใบเหลืองจากจังหวะดึงฟาวล์ โดกู
- 🔁 นาที 71: เบลเยียมเปลี่ยนสามคนรวด ส่ง ตีเลอม็องส์, ซาเลอมาเกอร์ส, โอเปนดา ลงสนาม
- 🟥 นาที 79: อิสลาม เชสนอคอฟ รับใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง ถูกไล่ออกจากสนาม คาซัคสถานเหลือ 10 คน
- 🔁 นาที 80: คาซัคสถานส่ง คารามาน แทน ซามอโรดอฟ เพื่อถอยตัวรับเพิ่ม
- 🔁 นาที 81: เบลเยียมส่ง เดอ คุยเปอร์ ลงแทน เซย์ส์ ปรับเกมรุกริมเส้น
- 🟨 นาที 84: ทิมูร์ อนาร์เบคอฟ โดนใบเหลืองจากจังหวะถ่วงเวลา
- 🔁 นาที 89: เบลเยียมส่ง เวอร์มองต์ ลงแทน ราสกิน หวังเพิ่มมิติเกมรุกท้ายเกม
- 🔁 นาที 90+2: คาซัคสถานเปลี่ยนสองคนสุดท้าย ส่ง ชูคอฟ แทน ทาปาลอฟ และ คาซาบูลาต แทน โอราซอฟ
- 🔔 จบเกม: คาซัคสถาน 1-1 เบลเยียม แบ่งแต้มสุดดราม่าในกลุ่ม J
🏅 Player of the Match – ทิโมธี กาสตาญ ฟูลแบ็กเครื่องยนต์ไม่รู้หมด
แม้ วานาเกน จะยิงประตูสำคัญ แต่รางวัล Player of the match จากสถิติถูกยกให้ ทิโมธี กาสตาญ ที่ได้คะแนนสูงถึง 8.5 บ้านกีฬาเห็นด้วยเต็มๆ เพราะตลอด 90 นาทีเขาคือเครื่องยนต์ทางกราบซ้ายของเบลเยียม เติมเกมขึ้น–ลงไม่มีหมด ทั้งครอสบอลอันตราย, ประสานงานกับ โดกู และ วานาเกน ได้ลื่นไหลหลายจังหวะ แถมยังช่วยเก็บกวาดในเกมรับเมื่อทีมโดนสวนกลับ
หลายครั้งที่คาซัคสถานพยายามเจาะฝั่งของ กาสตาญ กลับโดนตัดบอลกระชากขึ้นไปสวนแทน เรียกได้ว่าแบ็กซ้ายรายนี้แบกเกมบุกของทีมเอาไว้เกือบทั้งฝั่ง ถ้าความคมของเพื่อนร่วมทีมเฉียบกว่านี้ เบลเยียมอาจชนะขาดและชื่อของ กาสตาญ จะดังยิ่งกว่านี้อีก

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม J
หลังจบเกมนี้ ตารางคะแนนกลุ่ม J อัปเดตล่าสุด เบลเยียมแข่ง 7 นัด ชนะ 4 เสมอ 3 ยังไม่แพ้ใคร เก็บเพิ่มเป็น 15 แต้ม รั้งจ่าฝูงต่อไป แต่ช่องว่างกับอันดับ 2–3 อย่าง นอร์ธมาซิโดเนีย และ เวลส์ ที่ตามอยู่ 13 แต้ม ยังห่างกันแค่สองคะแนนเท่านั้น หมายความว่าหากพลาดอีกแมตช์เดียว ทุกอย่างมีสิทธิ์พลิกได้ทันที
ด้านคาซัคสถานแข่งไปแล้ว 8 นัด เก็บได้ 8 แต้ม จากผลงานชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 4 อยู่กลาง–ล่างของกลุ่ม แต่หนึ่งแต้มจากทีมเบอร์ใหญ่สุดของสายทำให้พวกเขายังมีความหวังในทางคณิตศาสตร์ และที่สำคัญคือเพิ่มความมั่นใจให้ทีมก่อนโปรแกรมนัดต่อๆ ไป
📅 ตารางบอลกลุ่ม J นัดถัดไป & โปรแกรมที่ต้องจับตา
มองไปข้างหน้าใน ตารางบอล รอบคัดเลือกโซนยุโรป กลุ่ม J นัดถัดไป เบลเยียมมีคิวเปิดบ้านรับมือ ลิกเตนสไตน์ ซึ่งบนกระดาษถือว่าเป็นงานที่ง่ายกว่าเกมเยือนคาซัคสถานหลายเท่า หากเก็บสามแต้มได้ตามคาด พวกเขาจะขยับเข้าใกล้ตั๋วไปฟุตบอลโลกเต็มตัว
ส่วนคาซัคสถานมีโปรแกรมอุ่นเครื่องกับ หมู่เกาะแฟโร ให้ใช้ลองระบบและปรับจูนทีมก่อนกลับมาลุยเกมอย่างเป็นทางการต่อไป แมตช์นี้จะเป็นโอกาสดีให้โค้ชลองแท็กติกใหม่ๆ หลังได้บทเรียนสำคัญจากการเล่น 10 คนเจอกับทีมระดับท็อปอย่างเบลเยียม
📣 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลเดือดๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากเช็กสกอร์แบบเรียลไทม์ ดูฟอร์มทีมรักแบบนาทีต่อนาที หรืออยากอ่านบทสรุปหลังเกมแบบจัดหนักสไตล์นักข่าวขอบสนาม อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล และคอลัมน์วิเคราะห์–สรุปเกมมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา เราจะเกาะทุกสนามใหญ่–เล็ก อัปเดตให้แฟนบอลได้มันส์ไปพร้อมกันทุกคืน

