บ้านผลบอล สรุปหลังเกม ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ดราม่าท้ายเกม! บอบเช็กสวมบทฮีโร่ซัดทดเจ็บพา สโลวาเกีย เฉือน ไอร์แลนด์เหนือ 1-0 ลุ้นเข้ารอบเดือดต่อ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง สโลวาเกีย 1-0 ไอร์แลนด์เหนือ วันนี้ 15/11/68 – บ้านกีฬา

ในค่ำคืนที่แฟนบอลเช็ก ผลบอลสด กันแบบใจหายใจคว่ำ ทีมชาติสโลวาเกียเปิดบ้านรับมือไอร์แลนด์เหนือ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม A เกมนี้สำคัญสุด ๆ ต่อการลุ้นพื้นที่หัวตาราง และสุดท้ายเป็นเจ้าถิ่นที่บดเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+1 ของ โทมาช บอบเช็ก ก่อนที่ทีมเยือนจะมาเหลือ 10 คนในช่วงท้ายจากใบแดงของ ดาเนียล บัลลาร์ด นาที 90+9 ทำให้ “เหยี่ยวเขียวขาว” เก็บสามแต้มล้ำค่า ทะยานขึ้นไปมีแต้มเท่าจ่าฝูงเยอรมนีในตาราง บ้านผลบอล กลุ่มนี้

🕒 ครึ่งแรก: เกมแน่น เน้นรัดกุมมากกว่าบุกแลก

เปิดฉากมาฝั่งสโลวาเกียของกุนซือ ฟรานเชสโก กัลโซน่า วางระบบ 3-4-3 คุมพื้นที่แดนกลางแน่นหนา ใช้คู่เซนเตอร์อย่าง มิลาน ชคริเนียร์ ยืนคุมเกมรับคอยเริ่มต้นบอลจากแนวหลัง ขณะที่ไอร์แลนด์เหนือของ ไมเคิล โอนีล มาในผัง 3-4-2-1 ปิดพื้นที่ตรงกลางและรอจังหวะสวนกลับเร็วผ่านคู่หูแนวรุก ดิลลัน ชาลส์ กับ ไอแซค ไพรซ์

รูปเกมช่วง 20 นาทีแรก เจ้าบ้านพยายามเซ็ตบอลจากหลังขึ้นหน้า เน้นจ่ายสั้นสลับยาวออกริมเส้นให้ มัตเตย์ เบโร่ กับ ลูกาช ฮารัสลิน ลากตัดเข้าใน แต่แนวรับทีมเยือนอ่านเกมดี ตัดบอลแรกได้บ่อยครั้ง ทำให้โอกาสลุ้นเหน่ง ๆ ยังไม่ชัดนัก

นาที 23 เกิดจังหวะตึงเครียดแรกของเกม เมื่อ ดาเนียล บัลลาร์ด กองหลังไอร์แลนด์เหนือไปทำฟาวล์หนักใส่แนวรุกเจ้าบ้าน ได้รับใบเหลืองเป็นการเตือน เกมเริ่มเดือดขึ้น มีการปะทะกลางสนามมากขึ้นแต่ทั้งสองฝ่ายยังระวังตัว ไม่เปิดเกมรุกสุดตัว

ตลอดครึ่งแรก สโลวาเกียครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจนแต่ขาดความคมในพื้นที่สุดท้าย ส่วนไอร์แลนด์เหนือแทบไม่กล้าเติมสูงมากนัก เลือกแพ็กเกมรับแน่นหน้ากรอบเขตโทษเพื่อรอจังหวะสวนกลับ จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังเสมอ 0-0

🔥 ครึ่งหลัง: บดทั้งเกม ก่อนระเบิดดราม่านาทีบาป

กลับมาครึ่งหลัง เจ้าบ้านยิ่งเร่งเครื่อง เปิดเกมรุกจากทุกทิศทาง สแตนลาฟ โลบ็อตก้า ถอยต่ำลงมาเชื่อมเกมกับแนวรับ คอยเปลี่ยนทิศทางบอลฉับไว ทำให้สโลวาเกียต่อเกมได้ไหลลื่นขึ้น ขณะที่ไอร์แลนด์เหนือยังยืนโซนรับลึก เน้นปิดช่องยิงและพยายามถ่วงจังหวะเกมให้ช้าลง

นาที 57 มีจังหวะปะทะอีกครั้งเมื่อ ทอมมี่ ฮูม ไปทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นสโลวาเกีย กรรมการต้องเป่าหยุดเกมให้ทั้งสองทีมเย็นลง ก่อนที่เกมจะเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ

กัลโซน่าขยับหมากสำคัญในนาที 69 ส่ง เลโอ เซาเออร์ ลงมาเติมความสดแทน ดาวิด ดูริช จากนั้นนาที 84 เปลี่ยนสองคนรวด ลาสซ์โล เบเนส และ ลูโบเมียร์ ตุปต้า ลงมาสร้างมิติใหม่ในแดนหน้า เกมรุกเจ้าบ้านดูมีชีวิตชีวา หลายจังหวะปั่นป่วนแนวรับทีมเยือนจนออกอาการล้าให้เห็นชัด

จุดเปลี่ยนสำคัญมาในนาที 88 เมื่อสโลวาเกียตัดสินใจถอดแนวรับอย่าง นอร์แบร์ต กอยอมเบอร์ ออก แล้วส่งกองหน้าร่างใหญ่ โทมาช บอบเช็ก ลงมาเสริมคมในกรอบเขตโทษ เป็นการส่งสัญญาณชัดว่า “เอาชนะเท่านั้น”

และในที่สุด นาที 90+1 ความพยายามก็ให้ผล บอลครอสเข้าเขตโทษไปถึง บอบเช็ก ที่สอดเข้ามาในจังหวะพอดี ก่อนจะซัดผ่านมือ เบลีย์ พีค็อก-แฟร์เรลล์ เข้าไปอย่างเด็ดขาด ส่งทั้งสนามระเบิดเสียงเฮลั่น สโลวาเกียขึ้นนำ 1-0 แบบสุดดราม่า

ท้ายเกมไอร์แลนด์เหนือพยายามเปิดเกมบุกเอาคืน แต่ความหงุดหงิดทำให้เสียสมาธิ นาที 90+9 ดาเนียล บัลลาร์ด ไปเล่นแรงใส่คู่แข่งอีกครั้งผู้ตัดสินไม่รอช้า ควักใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้ทีมเยือนเหลือ 10 คน และไม่เหลือเวลาให้กลับมา สุดท้ายจบเกมสโลวาเกียเฉือนชนะ 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญได้ต่อหน้าแฟนบอลในบ้าน

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริง – คะแนน – การเปลี่ยนตัว

🇸🇰 สโลวาเกีย (ระบบ 3-4-3)

ผู้รักษาประตู

  • มาร์ติน ดูบราฟก้า – เรตติ้ง 7.2 เซฟจังหวะสำคัญ ช่วยให้ทีมไม่เสียประตู

กองหลังสามคน

  • อเล็กซ์ โอเบิร์ต – 7.3 อ่านเกมดี ดักบอลทางฝั่งซ้ายได้เยี่ยม
  • มิลาน ชคริเนียร์ (กัปตันทีม) – 7.2 หัวใจแนวรับ คุมไลน์กองหลังได้อย่างนิ่ง
  • นอร์แบร์ต กอยอมเบอร์ – 6.4 ได้ใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ ก่อนถูกถอดออกช่วงท้ายเกม

มิดฟิลด์และวิงแบ็ก

  • มัตเตย์ เบโร่ – 7.0 เติมเกมรุกทางขวาตลอดทั้งเกม สร้างความกดดันแนวรับทีมเยือน
  • สแตนลาฟ โลบ็อตก้า – 7.2 ห้องเครื่องตัวหลัก เชื่อมเกมจากรับสู่รุกอย่างต่อเนื่อง
  • โทมาช ริโก้ – 6.9 คอยเก็บบอลสองและช่วยเพรสแดนกลาง ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 84
  • ดาวิด ฮานโก้ – 7.0 ยืนวิงซ้าย ขึ้นลงไม่มีหมด เติมเกมและช่วยปิดพื้นที่ริมเส้น

แนวรุกสามประสาน

  • ลูกาช ฮารัสลิน – 7.5 ตัวปั่นป่วนริมเส้น สร้างโอกาสได้หลายครั้ง ก่อนถูกถอดช่วงท้าย
  • ดาวิด สเตรเลช – 6.2 พยายามหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษ แต่ยังเจอการประกบแน่นหนา
  • ดาวิด ดูริช – 6.2 ขยันไล่เพรสแดนหน้า ก่อนถูกเปลี่ยนออกเติมความสด

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • เลโอ เซาเออร์ – 6.7 (น.69 แทน ดูริช) เติมความเร็วทางริมเส้น
  • ลาสซ์โล เบเนส – 7.1 (น.84 แทน ริโก้) ช่วยคุมจังหวะเกมรุกและเปิดบอลได้อันตราย
  • ลูโบเมียร์ ตุปต้า – 6.4 (น.84 แทน ฮารัสลิน) ทำงานหนักดึงตัวประกบเปิดพื้นที่ให้เพื่อน
  • โทมาช บอบเช็ก – 7.6 (น.88 แทน กอยอมเบอร์) ซูเปอร์ซับฮีโร่ซัดประตูชัยช่วงทดเจ็บ
  • โรเบิร์ต โบเซนิค – 6.6 (น.88 แทน สเตรเลช) คอยพักบอลและดึงเกมรับคู่แข่ง

🇬🇧 ไอร์แลนด์เหนือ (ระบบ 3-4-2-1)

ผู้รักษาประตู

  • เบลีย์ พีค็อก-แฟร์เรลล์ – 6.2 เซฟหลายครั้ง แต่สุดท้ายต้านลูกยิงท้ายเกมไม่อยู่

กองหลังสามคน

  • ทอมมี่ ฮูม – 6.9 แน่นทางฝั่งขวา แต่มีจังหวะฟาวล์เสียใบเหลืองสำคัญ
  • ดาเนียล บัลลาร์ด – 6.8 ได้ทั้งใบเหลืองและใบแดง เป็นจุดเปลี่ยนของทีม
  • รอรี่ แมคคอนวิลล์ – 7.6 เล่นได้เหนียวแน่นที่สุดในแนวรับทีมเยือน

มิดฟิลด์และวิงแบ็ก

  • แพ็ตตี้ แม็คแนร์ – 6.6 ช่วยตัดเกมกลางสนาม ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 73
  • เบน ลายออนส์ – 7.0 ขยันวิ่งไล่บีบ สกัดหลายครั้ง
  • จอร์จ ซาวิลล์ – 7.0 ทำงานหนักทั้งรุกและรับในแดนกลาง
  • จอช เดเวนนี่ – 7.5 เติมเกมรุกด้านซ้าย มีจังหวะครอสบอลน่ากลัว

ตัวรุกหลังหน้าเป้า + หน้าเป้า

  • คอเนอร์ แบรดลีย์ (กัปตัน) – 6.9 เชื่อมเกมริมเส้นแต่โดนบีบพื้นที่ตลอด
  • ไอแซค ไพรซ์ – 7.1 พยายามสร้างสรรค์เกมรุกจากด้านหลัง
  • ดิลลัน ชาลส์ – 6.4 ศูนย์หน้าเดี่ยว เจอแนวรับสโลวาเกียรุมปิดอย่างหนัก ก่อนถูกถอดพักครึ่ง

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • เจมี่ รีด – 6.7 (น.46 แทน ชาลส์) พยายามวิ่งหาพื้นที่ด้านหน้า แต่โอกาสจบสกอร์น้อย
  • จอช มาเกนนิส – 6.6 (น.73 แทน แม็คแนร์) เพิ่มความแข็งแรงลูกกลางอากาศ
  • เจมี่ ดอนลีย์ – 6.1 (น.78 แทน รีด) ลงมาช่วงท้ายแต่แทบไม่มีจังหวะยิง
  • เซียราน บราวน์ – ลงนาที 90 แทน ฮูม เพื่อเติมความสดเกมรับช่วงท้าย

ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งานของทั้งสองทีมยังมีชื่ออย่าง มาเร็ค โรดัค, ปีเตอร์ เปการิค, เดนิส วาฟโรว์, อีวาน เมซิค, พาทริก โฮรอฟสกี้, อีวาน ชรานซ์ ฝั่งสโลวาเกีย และ ลุค เซาธ์วูด, จามาล ลูอิส, เทอร์รี เดฟลิน, แพทริก เคลลี, คัลลัม มาร์แชล, พอล สมิธ ฝั่งไอร์แลนด์เหนือ

🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

เกมนี้หากมองในเชิง วิเคราะห์บอล รูปแบบการเล่นของสโลวาเกียค่อนข้างชัดเจนในระบบ 3-4-3 ที่เน้นครองบอลและคุมแดนกลางเป็นหลัก สามเซนเตอร์ใช้การดันไลน์ขึ้นสูง ช่วยบีบพื้นที่ครึ่งสนามของไอร์แลนด์เหนือ ทำให้ทีมเยือนต้องเล่นบอลยาวหนีการเพรสซิ่งอยู่ตลอด

ในเกมรุก เจ้าถิ่นใช้คู่วิงแบ็ก เบโร่ กับ ฮานโก้ เป็นอาวุธสำคัญ เติมพร้อมกันสองฝั่ง เปิดพื้นที่ให้แนวรุกสามคนเคลื่อนที่หาช่องระหว่างกองหลังกับมิดฟิลด์ ไลน์บอลจากโลบ็อตก้าไปสู่ฮารัสลินทางซ้ายสร้างปัญหาให้แนวรับทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนจังหวะจากช้าเป็นเร็วในช่วงท้ายเกมยิ่งทำให้ไอร์แลนด์เหนือตั้งตัวไม่ทัน ก่อนที่ลูกครอสในช่วงทดเจ็บจะถูก บอบเช็ก ใส่สกอร์ปิดบัญชี

ด้านเกมรับ สโลวาเกียวางโครงสร้างแน่นหนา ใช้ชคริเนียร์เป็นตัวอ่านเกมหุบมาช่วยแก้สถานการณ์เวลาเพื่อนหลุดตำแหน่ง ส่วนโอเบิร์ตกับกอยอมเบอร์คอยดักบอลด้านข้าง ทำให้ไอร์แลนด์เหนือไม่ค่อยมีโอกาสทะลุช่องตรงกลาง ต้องหันไปเล่นลูกโยนและลูกครอสจากด้านข้างแทน

ฝั่งไอร์แลนด์เหนือในระบบ 3-4-2-1 เน้นรับลึกและคอมแพ็กตรงกลาง ใช้มิดฟิลด์สี่คนคอยบีบพื้นที่ ไม่ปล่อยให้โลบ็อตก้าและริโก้มีเวลาจ่ายบอลมากนัก เกมรับช่วง 70 นาทีแรกถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม ปิดโอกาสยิงตรงกรอบของเจ้าถิ่นได้หลายครั้ง แต่ปัญหาคือเกมสวนกลับขาดความเฉียบคม หน้าเป้าอย่างชาลส์และรีดไม่ได้รับบอลในจังหวะที่ได้เปรียบมากพอ

ท้ายที่สุดเมื่อความล้าสะสมบวกกับการยืนรับลึกเกินไป ทำให้ช่วงท้ายเกมไอร์แลนด์เหนือเสียสมาธิ ปล่อยให้บอบเช็กหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษได้ จนนำไปสู่ประตูสำคัญ และจบด้วยใบแดงของบัลลาร์ดที่ยิ่งตอกย้ำความผิดหวังของทีมเยือนในค่ำคืนนี้

📊 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพได้ชัดเจน สโลวาเกียเป็นฝ่ายคุมจังหวะและบุกกดดันมากกว่า ทั้งจำนวนการยิงรวม 14 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง ขณะที่ไอร์แลนด์เหนือได้ยิงเพียง 8 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้งเท่านั้น การครองบอลเจ้าถิ่นเหนือกว่าชัดเจนที่ 60% ต่อ 40% แสดงให้เห็นถึงการคอนโทรลเกมกลางสนามของโลบ็อตก้าและผองเพื่อน แม้จำนวนการส่งบอลและความแม่นยำไม่ได้ถูกระบุเป็นตัวเลข แต่ภาพรวมคือสโลวาเกียต่อบอลได้ต่อเนื่อง ส่วนไอร์แลนด์เหนือต้องเน้นบอลยาวเสียส่วนใหญ่ ฟาวล์ในเกมนี้เกิดขึ้นถึง 32 ครั้ง ฝั่งทีมเยือนทำไป 19 ครั้ง รับใบเหลือง 3 ใบและใบแดง 1 ใบ ขณะที่เจ้าบ้านทำฟาวล์ 13 ครั้ง ได้ใบเหลืองใบเดียว ลูกเตะมุมสโลวาเกียมากกว่าเล็กน้อยที่ 3 ต่อ 2 และมีล้ำหน้ามากกว่าที่ 2 ต่อ 1 บอกชัดว่าพวกเขาพยายามเล่นเกมรุกทะลุไลน์แนวรับตลอด 90 นาที

⏱️ เหตุการณ์สำคัญในเกม

  • ⚠️ 23′ ดาเนียล บัลลาร์ด (ไอร์แลนด์เหนือ) ทำฟาวล์หนักโดนใบเหลืองแรกของเกม
  • ⚠️ 46′ สับเปลี่ยนแดนหน้า ไอร์แลนด์เหนือส่ง เจมี่ รีด ลงแทน ดิลลัน ชาลส์ เพื่อเพิ่มความเร็วในแนวรุก
  • ⚠️ 57′ ทอมมี่ ฮูม ทำฟาวล์โดนใบเหลือง เกมเริ่มเดือดขึ้นเรื่อย ๆ
  • 🔁 69′ สโลวาเกียเปลี่ยนตัว เลโอ เซาเออร์ ลงแทน ดาวิด ดูริช เพิ่มความสดริมเส้น
  • 🔁 73′ ไอร์แลนด์เหนือส่ง จอช มาเกนนิส ลงแทน แพ็ตตี้ แม็คแนร์ หวังลุยบอลยาวมากขึ้น
  • ⚠️ 73′ นอร์แบร์ต กอยอมเบอร์ ทำฟาวล์โดนใบเหลืองฝั่งสโลวาเกีย
  • 🔁 78′ ไอร์แลนด์เหนือเปลี่ยน เจมี่ ดอนลีย์ ลงแทน เจมี่ รีด ปรับเกมรุกอีกรอบ
  • 🔁 84′ สโลวาเกียส่ง ลาสซ์โล เบเนส และ ลูโบเมียร์ ตุปต้า ลงแทน โทมาช ริโก้ กับ ลูกาช ฮารัสลิน เพิ่มมิติการบุก
  • 🔁 88′ เจ้าบ้านเล่นหมากเสี่ยง ถอดกองหลัง นอร์แบร์ต กอยอมเบอร์ ออก ส่งกองหน้า โทมาช บอบเช็ก พร้อม โรเบิร์ต โบเซนิค ลงล่าตาข่าย
  • ⚽ 90+1′ ประตูชัย! โทมาช บอบเช็ก ยิงจ่อ ๆ ในกรอบเขตโทษ ให้สโลวาเกียนำ 1-0 ท่ามกลางเสียงเฮสนั่นสนาม
  • 🟥 90+9′ ดาเนียล บัลลาร์ด เข้าปะทะรุนแรงโดนใบแดงโดยตรง ไอร์แลนด์เหนือเหลือ 10 คน ก่อนหมดเวลาทันที

⭐ Player of the Match – โทมาช บอบเช็ก

ฮีโร่ของเกมนี้หนีไม่พ้น โทมาช บอบเช็ก กองหน้าตัวสำรองของสโลวาเกียที่ถูกส่งลงมาเพียงไม่กี่นาทีก่อนหมดเวลา แต่ใช้โอกาสที่ได้รับอย่างคุ้มค่าที่สุด การเคลื่อนที่หาพื้นที่ในกรอบเขตโทษของเขาสร้างความกดดันให้แนวรับไอร์แลนด์เหนืออย่างต่อเนื่อง และในจังหวะตัดสินเกมนาที 90+1 บอบเช็กอ่านบอลครอสได้ขาด สอดเข้าไปจบสกอร์หนึ่งจังหวะจบแบบคมกริบ ส่งทีมชาติของตัวเองเก็บสามแต้มสุดสำคัญ พร้อมคว้าเรตติ้งสูงสุดในสนามที่ 7.6 สมฐานะ Player of the match อย่างแท้จริง

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม A

ชัยชนะนัดนี้ทำให้สโลวาเกียลงเล่น 5 นัด ชนะ 4 แพ้ 1 มี 12 คะแนน ประตูได้-เสีย 6-2 ลูก ผลต่างบวก 4 ขยับขึ้นไปมีแต้มเท่าจ่าฝูงเยอรมนีที่มี 12 คะแนนเช่นกัน แต่ประตูได้เสียของเยอรมนีดีกว่าที่ +7 ทำให้สโลวาเกียยังรั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม ส่วนไอร์แลนด์เหนือหยุดอยุ่ที่ 6 คะแนนจาก 5 นัด ชนะ 2 แพ้ 3 ประตูได้-เสียเท่ากันที่ 6-6 ยังอยู่อันดับ 3 ต้องเร่งฟอร์มอย่างหนักหากหวังลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ ขณะที่ลักเซมเบิร์กยังไม่มีแต้มจาก 5 นัด รั้งบ๊วยของตารางต่อไป ภาพรวมในกลุ่มนี้กำลังเดือดสุด ๆ และทุกแต้มหลังจากนี้มีผลโดยตรงต่อการลุ้นไปเล่นรอบสุดท้ายที่ทวีปอเมริกาเหนือ

📅 ตารางบอล ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก กลุ่ม A นัดถัดไป

โปรแกรมในกลุ่ม A นัดถัดไปที่แฟนบอลต้องจดลง ตารางบอล มีคู่เดือดให้ติดตามต่อเนื่อง คืนที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เวลา 02.45 น. ตามเวลาไทย เยอรมนีจะเปิดบ้านรับมือสโลวาเกีย ซึ่งถือเป็นศึกชี้ชะตาจ่าฝูงกลุ่มอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ไอร์แลนด์เหนือจะเล่นในบ้านพบลักเซมเบิร์ก ในวันและเวลาสดเดียวกัน ถือเป็นโอกาสทองให้ลูกทีมของไมเคิล โอนีล กลับมาคว้าแต้มเต็มเพื่อรักษาเส้นทางลุ้นเข้ารอบ หากแฟนบอลไม่อยากพลาดความมันส์ทั้งสองคู่ ต้องเตรียมเช็กตารางและอัปเดต โปรแกรมบอล กันให้ดี

📣 ติดตาม บ้านผลบอล สดใหม่ทุกคืนที่ บ้านกีฬา

ใครที่อยากเกาะติดทุกจังหวะของคัดบอลโลกยุโรป รวมถึงลีกดังทั่วโลก บ้านกีฬา ขอชวนทุกคนมาตามเช็ก บ้านผลบอล แบบอัปเดตนาทีต่อนาที พร้อมบทวิเคราะห์จัดเต็ม สถิติแน่น และสรุปหลังเกมสไตล์นักข่าวขาลุยเหมือนบทความนี้ ทุกประตู ทุกใบแดง ทุกดราม่าบนผืนหญ้า เราจะเก็บมาเล่าให้แฟนบอลชาวไทยฟังแบบถึงอารมณ์ ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวลูกหนังโลกที่ บ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา