เหตุการณ์เดือดกลางเกมคัดบอลโลกที่ไอร์แลนด์
เกมคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2026 โซนยุโรป ระหว่าง โปรตุเกส บุกเยือน ไอร์แลนด์ กลายเป็นเรื่องร้อนทันทีหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์กัปตันทีม ถูกใบแดงไล่ออกครั้งแรกในชีวิตการเล่นทีมชาติชุดใหญ่ แม้จะกรำศึกมาแล้วถึง 226 นัด จนแฟนบอลทั่วโลกต่างช็อกกับภาพที่เกิดขึ้น ก่อนที่ โรเบร์โต้ มาร์ตีเนซ เทรนเนอร์ทีมชาติโปรตุเกส จะออกมาปกป้องลูกทีมแบบสุดตัว ชี้ชัดว่าเป็นการตัดสินที่รุนแรงเกินเหตุ และภาพช้าก็ทำให้จังหวะปะทะดูแรงเกินจริง
ฉากเหตุการณ์ใบแดง: จังหวะ VAR ที่เปลี่ยนเกม
นาทีที่ 58 โปรตุเกสตามหลังไอร์แลนด์ 0-2 โรนัลโด้มีจังหวะพยายามสลัดหนีการประกบของ ดาร่า โอเชีย แนวรับเจ้าบ้าน ก่อนที่โอเชียจะล้มลงในเขตโทษ
ตอนแรกผู้ตัดสินควักแค่ใบเหลือง แต่ VAR เรียกเช็ก ก่อนเปลี่ยนเป็น ใบแดงตรง ด้วยเหตุผลว่า โรนัลโด้ “ตั้งใจศอก” ใส่อีกฝ่าย
ซึ่งทันทีที่รู้ผลคำตัดสิน CR7 ถึงกับปรบมือเชิงประชด พร้อมสีหน้าไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน
แม้กระนั้น ภาพจากมุมอื่นก็ชี้ให้เห็นว่าโรนัลโด้น่าจะเพียงแค่พยายามใช้ลำตัวสลัดตัวประกบมากกว่าเจตนาเล่นนอกเกม แต่สุดท้ายคำตัดสินก็ไม่อาจเปลี่ยนได้
โรนัลโด้: ใบแดงแรกในเส้นทางทีมชาติกว่า 2 ทศวรรษ
นี่คือใบแดงครั้งแรกของโรนัลโด้ในการเล่นทีมชาติชุดใหญ่ตลอดกว่า 20 ปี ซึ่งถือเป็นสถิติที่สะท้อนถึงวินัยอันยอดเยี่ยมของกัปตันโปรตุเกส แม้จะเคยโดนไล่ออกในระดับสโมสรมาก่อนถึง 12 ครั้ง แต่กับบ้านเกิด เขาไม่เคยมีประวัติด้านวินัยเสียมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
การถูกไล่ออกครั้งนี้จึงกลายเป็นประเด็นใหญ่ในโลกฟุตบอลทันที
มาร์ตีเนซยกย่องวินัย CR7 พร้อมชี้ชัดเป็นการตัดสินที่เกินกว่าเหตุ
มาร์ตีเนซกล่าวชัดเจนว่าเหตุการณ์นี้ไม่ควรจบลงด้วยใบแดง พร้อมชมลูกทีมอย่างหนักว่าเป็นนักเตะที่มีวินัยสูงมาตลอด
โค้ชชาวสเปนเผยว่า
“ใบแดงครั้งนี้ถือเป็นใบแดงแรกของกัปตันทีมที่ไม่เคยโดนไล่ออกมาก่อนเลย ซึ่งผมคิดว่าเรื่องแบบนั้นสมควรได้รับคำชมอยู่นะ”
พร้อมเสริมถึงจังหวะปัญหาแบบตรงไปตรงมาว่า
“ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินที่โหดร้ายเกินไปนิดหน่อย เพราะว่าเขาน่ะแคร์ทีมสุดๆ ตลอดทั้ง 60 นาทีหรือ 58 นาทีในเกมนี้เขาทั้งโดนเหนี่ยว, โดนดึง, โดนผลักในกรอบเขตโทษอยู่ตลอด แต่พอเขาพยายามที่จะฉีกตัวหนีมาจากกองหลังมันก็เป็นอย่างที่เห็น”
มาร์ตีเนซยังเน้นเพิ่มว่า
“ผมคิดว่าภาพที่ฉายจากกล้องมันดูรุนแรงกว่าความเป็นจริง ผมไม่คิดว่ามันเป็นการศอกใส่อีกฝ่ายด้วยซ้ำ ผมคิดว่ามันเป็นการปะทะกันด้วยลำตัวตามปกติ แต่ภาพจากกล้องมันทำให้ดูเหมือนเป็นการศอก ยังไงก็ตามเราก็ยอมรับกับคำตัดสินที่ออกมา”
มาร์ตีเนซเหน็บโค้ชไอร์แลนด์—พูดเรื่องกรรมการโดนกดดัน แต่ลูกทีมกลับล้มง่าย
เทรนเนอร์ฝั่งโปรตุเกสยังพูดถึงประเด็นดราม่าก่อนเกม เมื่อโค้ชไอร์แลนด์ออกมาพูดว่าในอดีตกรรมการอาจได้รับอิทธิพลบางอย่าง แต่สุดท้ายผู้เล่นตัวเองกลับล้มง่ายในจังหวะปะทะกับโรนัลโด้
เขากล่าวว่า
“สิ่งเดียวที่ผมคาใจก็คือในงานแถลงข่าวก่อนหน้านี้น่ะโค้ชของอีกฝ่ายออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าที่ผ่านมากรรมการโดนกดดันจากอิทธิพลบางอย่าง แต่พอวันนี้กองหลังร่างใหญ่ของพวกเขากลับล้มลงไปนอนโอดครวญทั้งที่แค่ร่างกายปะทะกับ คริสเตียโน่ ซะอย่างงั้น”
สถานการณ์เข้มข้นในกลุ่ม เอฟ: โปรตุเกสยังนำ แต่กดดันหนัก
ความพ่ายแพ้เกมนี้ทำให้โปรตุเกสยังต้องลุ้นต่อในเกมสุดท้ายกับอาร์เมเนียว่าจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก 2026 ได้หรือไม่
ตอนนี้พวกเขามี 10 คะแนนจาก 5 นัด รั้งจ่าฝูงกลุ่ม เอฟ โดยนำฮังการีอยู่ 2 แต้ม แต่ความพ่ายแพ้นัดนี้ก็ทำให้ความกดดันถาโถมอย่างหนัก
ข้อมูลน่ารู้เพิ่มเติม: บทบาทผู้นำและแรงกดดันของซูเปอร์สตาร์ระดับ CR7
ตลอดเส้นทางกว่า 20 ปีในนามทีมชาติ โรนัลโด้เป็นศูนย์รวมใจของโปรตุเกสมาตลอด เขาไม่เพียงเป็นดาวซัลโวประจำชาติ แต่ยังแบกรับแรงกดดันระดับที่นักเตะเพียงไม่กี่คนบนโลกต้องเผชิญ
ไม่ว่าจะเป็นการคาดหวังจากแฟนบอลทั่วโลก ความสำเร็จที่ต้องรักษาไว้ หรือเสียงวิจารณ์ที่ดังขึ้นทุกครั้งเมื่อผลงานทีมไม่ดี
เหตุการณ์ใบแดงครั้งนี้จึงเป็นเพียงอีกหนึ่งบททดสอบในเส้นทางอันยาวนานของยอดนักเตะที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อแรงกดดันใดๆ
ติดตามความเคลื่อนไหวฟุตบอลโลก และเกมสำคัญแบบเข้มข้นต่อเนื่องได้ที่ บ้านกีฬา
ทุกประเด็นร้อนในโลกฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นใบแดงดราม่า ผลงานของทีมชาติชั้นนำ หรือฟอร์มของสตาร์ระดับโลก ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬานำมาวิเคราะห์ให้แฟนบอลไทยได้ชมแบบลึก ซัดแบบเต็มข้อเหมือนเดิม

