ภาพรวมเหตุการณ์เดือด เกมคัดบอลโลก ไอร์แลนด์ 2-0 โปรตุเกส
เกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอฟ นัดที่ ทีมชาติไอร์แลนด์ เปิดบ้านอัด โปรตุเกส 2-0 ไม่ได้มีเพียงผลแข่งที่พลิกล็อกเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยดราม่าควันหลง โดยเฉพาะจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกไล่ออกจากสนามแบบสุดร้อน พร้อมประเด็นปะทะเดือดนอกเกมที่ทำเอาสนามแทบลุกเป็นไฟ
หลังจบเกม ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมส์สัน กุนซือไอร์แลนด์ออกมาเปิดใจแบบตรงทุกดอกว่า โรนัลโด้พูดเหน็บใส่เขาเรื่องกดดันกรรมการ แถมชี้ชัดว่าที่ดาวยิงโปรตุเกสโดนไล่ ไม่ได้มาจากคำพูดของตน แต่เป็นเพราะพฤติกรรมของเจ้าตัวในสนามล้วนๆ
จุดเริ่มต้นความร้อน ก่อนบอลยังไม่เตะ
ในงานแถลงข่าวก่อนเกม ฮัลล์กริมส์สันเคยให้ความเห็นแบบมีนัยว่า ในหลายแมตช์ที่ผ่านมา ผู้ตัดสินมักเผชิญ “แรงกดดันบางอย่าง” เมื่อโปรตุเกสลงแข่งขัน พร้อมเบรกแรงว่า ผู้ตัดสินไม่ควรปล่อยให้โรนัลโด้มีอิทธิพลต่อการทำงานมากเกินไป ซึ่งประโยคนี้เองกลายเป็นชนวนที่ CR7 เก็บไปคิดเต็มๆ
จังหวะใบแดงที่ทั้งสนามตกใจ
เมื่อถึงวันแข่งจริง โรนัลโด้ถูกไล่ออกหลังกรรมการมองว่าเขา “ศอกใส่” ดาร่า โอเชีย กองหลังไอร์แลนด์อย่างตั้งใจ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกมเปลี่ยนทิศแบบทันทีทันใด และเป็นใบแดงที่ปลุกเสียงเชียร์ของแฟนเจ้าถิ่นให้กระหึ่มทั้งสนามอาวีว่า สเตเดียม
ตอนเดินออกจากสนาม กล้องจับภาพได้ชัดว่าโรนัลโด้หันไปพูดบางอย่างกับกุนซือไอร์แลนด์ราวกับจะสื่อความไม่พอใจ ก่อนจะเดินเข้าห้องแต่งตัว
คำตอบดุดันของฮัลล์กริมส์สัน เมื่อถูกถามว่าโรนัลโด้พูดอะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โรนัลโด้พูดอะไรในจังหวะเดินออกสนาม ฮัลล์กริมส์สันตอบตรงๆ ตามต้นฉบับว่า
“เขาชมผมในเชิงประชดที่กดดันกรรมการได้ แต่มันเป็นการกระทำของเขาในสนามเองต่างหากที่ทำให้เขาโดนใบแดง ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย นอกจากจะมองว่าผมปั่นหัวเขาได้ก็ตามน่ะนะ”
เป็นคำตอบที่ทั้งแรง ทั้งคม และสะท้อนว่าโค้ชชาวไอซ์แลนด์ไม่รับบทผู้ก่อชนวนตามที่ CR7 กล่าวหาแม้แต่น้อย
หลังเกมมีอะไรคุยกันไหม? คำตอบสั้นแต่จิกแรง
นักข่าวยังยิงคำถามต่อว่า หลังจบเกม โรนัลโด้มีมาคุยอะไรเพิ่มเติมไหม ฮัลล์กริมส์สันก็ตอบชัดเจนว่า
“ไม่มีนะ ผมคิดว่าเราคุยกันมากพอแล้วตั้งแต่ตอนที่เขาเดินออกจากสนาม มันไม่มีอะไรจำเป็นต้องคุยกัน มันเป็นแค่ช่วงเวลางี่เง่านิดๆ สำหรับเขาก็เท่านั้น”
ข้อความนี้ทำเอาหลายคนพยักหน้า เพราะมันสะท้อนว่ากุนซือไอซ์แลนด์ไม่ต้องการให้เหตุการณ์นี้บานปลาย และชี้ว่ามันเป็นเพียง “อารมณ์ชั่ววูบ” ของซูเปอร์สตาร์โปรตุเกสเท่านั้น
บริบทน่าสนใจที่แฟนบอลควรรู้
จังหวะใบแดงและดราม่ารอบนี้จะถูกพูดถึงอีกนาน เพราะโรนัลโด้เป็นนักเตะที่ไม่ค่อยโดนไล่ออกบ่อยนักในระดับทีมชาติ ยิ่งเกิดขึ้นในเกมคัดบอลโลกที่เดิมพันสูง ทำให้เหตุการณ์นี้ถูกขยายในโลกโซเชียลอย่างหนัก บทเรียนครั้งนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า แม้ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกก็ยังต้องรักษาความเยือกเย็นในสถานการณ์กดดัน เพราะคำพูดหรืออารมณ์เพียงวินาทีเดียวสามารถเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์เกมได้ทันที
สำหรับทีมไอร์แลนด์ นี่คือหนึ่งในผลงานระดับมาสเตอร์คลาส ที่ไม่เพียงชนะทีมยักษ์ยุโรป แต่ยังควบคุมอารมณ์ได้เหนือกว่า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในฟุตบอลระดับชาติยุคใหม่ที่ต้องละเอียดทั้งแท็กติกและการใช้สมาธิ
ติดตามทุกดราม่าเดือดและข่าวฟุตบอลเข้มข้นได้ที่ บ้านกีฬา
ฟุตบอลเต็มไปด้วยเรื่องราวทั้งในสนามและข้างสนามที่น่าติดตาม หากไม่อยากพลาดทุกมุมมองของเกมใหญ่ ข่าวสำคัญ และประเด็นร้อนในโลกลูกหนัง แฟนบอลชาวไทยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวแบบจัดเต็มได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

