
จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง มอลโดวา 0-2 อิตาลี วันนี้ 14/11/68 – บ้านกีฬา
บ้านกีฬา พาเกาะจอเช็ก ผลบอลสด เกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม I ที่สนามสต๊าด เดอ ลักเซมเบิร์ก มอลโดวาเปิดรังรับการมาเยือนของทีมชาติอิตาลี เกมนี้ลูกทีมของเจนนาโร่ กัตตูโซ่ต้องการชัยชนะเพื่อกดดันนอร์เวย์จ่าฝูง และสุดท้ายพวกเขาก็ทำได้ บดเอาชนะ 2-0 จากประตูช่วงท้ายเกมของ จานลูก้า แมนชินี และ ฟรานเชสโก้ ปิโอ เอสโปซิโต้ ทำให้ในมุมมองของสายเช็ก บ้านผลบอล นี่คือเกมที่อิตาลีเล่นเหนือกว่าทั้งรูปและสกอร์แบบไม่เผื่อหน้า
⏱️ ครึ่งแรก – อิตาลีบุกทั้งเกม แต่มอลโดวายังยืนได้
ตั้งแต่เสียงนกหวีดดัง อิตาลีในระบบ 4-2-3-1 เปิดเกมรุกใส่ทันที บอลไหลจากกลางอย่าง คริสตันเต้ กับ โตนาลี ออกไปให้สามประสานแนวรุก ออร์โซลินี–ราสปาดอรี–ซัคคันญี ป่วนริมเส้นเข้าใส่แผงหลังห้าคนของมอลโดวาแบบต่อเนื่อง โอกาสยิงของอิตาลีทะลุสองหลักตั้งแต่ยังไม่ครบครึ่งชั่วโมง ขณะที่เจ้าถิ่นแพ็กแผงหลังเล่น 5-3-2 ลงไปยืนในเขตโทษตัวเองแทบทั้งทีม รอหวังจังหวะสวนกลับของ นิโคเลสคู กับ โปสโตลาชี่
ช่วงกลางครึ่งแรก มอลโดวาต้องตัดฟาวล์หนัก ๆ หลายครั้ง ทั้ง ดุมบราวานู กับ เรเวนโก้ โดนใบเหลืองตั้งแต่ต้น ทำให้รูปเกมยิ่งเทไปทางอิตาลี แต่จังหวะสุดท้ายทั้ง ซคามัคก้า และ ราสปาดอรี ยังหาเหลี่ยมจบแบบเฉียบ ๆ ไม่ได้ รวมถึงติดเซฟของโคชูคาร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นที่เล่นได้เหนียวหนึบ ครึ่งแรกจบลงที่สกอร์ 0-0 แม้ด้านสถิติจะชี้ชัดว่าทีมเยือนยิงมากกว่า ครองบอลมากกว่าแบบคนละโลก
🔥 ครึ่งหลัง – เปลี่ยนตัวแล้วเดินหน้าอุดมอลโดวาจนกำแพงแตก
เข้าสู่ครึ่งหลัง บ้านกีฬาเห็นชัดว่าอิตาลีเร่งจังหวะเกมรุกขึ้นไปอีกระดับ บอลถูกกระจายออกข้างให้แบ็กสองฝั่งอย่าง เบลลาโนว่า และ คัมเบียโซ่ เติมสูงแทบจะยืนเป็นปีก ทำให้มอลโดวาถอยลงมาปักหลักแนวรับห้าคนในกรอบเขตโทษตัวเองแบบยาว ๆ
นาที 65 กัตตูโซ่ขยับหมากสำคัญ ส่ง มาเตอ เรเตกี ลงมาแทน สคามัคก้า และเปลี่ยนเอา ฟรานเชสโก้ ปิโอ เอสโปซิโต้ ลงมาแทน ราสปาดอรี ทำให้แดนหน้าอิตาลีสดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่นาที 75 จะส่ง เฟเดริโก้ ดิมาร์โก และ มัตเตโอ โปลิตาโน ลงเสริมริมเส้น เกมบุกของอิตาลีจึงยิ่งไหลลื่นและต่อเนื่อง
แรงกดดันมหาศาลทำให้กำแพงมอลโดวาแตกในที่สุด นาที 88 ดิมาร์โก เปิดลูกเตะมุมโค้งไปเสาแรก จานลูก้า แมนชินี พุ่งโหม่งเต็มศีรษะ บอลเสียบเสาแบบหมดสิทธิ์เซฟ ส่งอิตาลีขึ้นนำ 1-0 จากนั้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+2 โปลิตาโน หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนหยอดบอลเข้าเขตโทษให้ เอสโปซิโต้ ชาร์จจ่อ ๆ ไม่เหลือ กลายเป็น 2-0 ปิดจ๊อบให้แฟนบอลได้เฮสะใจก่อนจบนัดนี้แบบสมศักดิ์ศรีทีมใหญ่ของยุโรป

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริง คะแนน และการเปลี่ยนตัว
🇲🇩 มอลโดวา – ระบบ 5-3-2
ผู้รักษาประตู
- อังเดร โคชูคาร์ (23) คะแนน 8.3
กองหลัง
- โอเล็ก เรอับชุค (2) คะแนน 6.8
- เดนิส ดุมบราวานู (19) คะแนน 6.6
- อเล็กซานดรู คราชิอุน (14) คะแนน 7.0
- มิไฮ สเตฟาน (3) คะแนน 6.2
- อิกอร์ เรเวนโก้ (4) คะแนน 7.0
กองกลาง
- อาร์ตูร์ โยนิต्सा (7) คะแนน 6.5
- วาดิม ราต้า กัปตันทีม (22) คะแนน 6.6
- คอร์แนล เปอร์คิอุน (21) คะแนน 6.6
กองหน้า
- ยอน นิโคเลสคู (9) คะแนน 6.6
- วลาดิสลาฟ โปสโตลาชี่ (17) คะแนน 6.5
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงสนาม
- สเตฟาน บิตคา (6) คะแนน 6.6 แทน เรอับชุค นาที 55
- วิตาเล ดามาชาน (10) คะแนน 6.7 แทน โปสโตลาชี่ นาที 56
- วิคเตอร์ โบกาชิอุค (18) คะแนน 6.4 แทน เปอร์คิอุน นาที 61
- สเตฟาน โบดิสเตียนู (8) คะแนน 6.2 แทน ราต้า นาที 75
- วลาดิเมียร์ ฟราเทีย (13) คะแนน 6.5 แทน นิโคเลสคู นาที 75
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
ติมบูร์, อาฟราม, คูคอส, บอรช์, พลาติคา, ไคมาคอฟ, โฟรอฟ
🇮🇹 อิตาลี – ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู
- กูเยลโม่ วีคาริโอ (14) คะแนน 6.9
กองหลัง
- ราอูล เบลลาโนว่า (2) คะแนน 7.7
- จานลูก้า แมนชินี (23) คะแนน 8.4
- อเลสซานโดร บวนจอร์โน (4) คะแนน 7.5
- อันเดรีย คัมเบียโซ (19) คะแนน 7.7
กองกลางตัวรับ
- ซานโดร โตนาลี (8) คะแนน 7.2
- ไบรอัน คริสตันเต้ กัปตันทีม (16) คะแนน 7.8
กองกลางตัวรุก
- ริคคาร์โด ออร์โซลินี (17) คะแนน 7.9
- จาโคโม ราสปาดอรี (10) คะแนน 7.6
- มัตเตโอ ซัคคันญี (20) คะแนน 8.0
กองหน้า
- จานลูก้า สคามัคก้า (11) คะแนน 7.1
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงสนาม
- มาเตอ เรเตกี (9) คะแนน 7.0 แทน สคามัคก้า นาที 65
- ฟรานเชสโก้ ปิโอ เอสโปซิโต้ (18) คะแนน 7.6 แทน ราสปาดอรี นาที 65
- เฟเดริโก้ ดิมาร์โก (3) คะแนน 7.3 แทน คัมเบียโซ นาที 75
- มัตเตโอ โปลิตาโน (7) คะแนน 7.3 แทน ออร์โซลินี นาที 75
- ดาวิเด้ ฟรัตเตซี (15) คะแนน 6.3 แทน ซัคคันญี นาที 82
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
ดอนนารุมมา, คาร์เนเชชชี, กาบเบีย, บาสโตนี, ดิ โลเรนโซ, โลคาเตลลี, ริชชี่
นักเตะที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ
- ซานโดร โตนาลี ถูกระบุในลิสต์ว่า “Doubtful” แต่ยังฝืนลงสนามได้
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ – อิตาลีบีบพื้นที่บดขยี้มอลโดวา
ถ้ามองในแง่แท็กติก เกมนี้คือหนังคนละม้วนอย่างแท้จริง และเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับสายอ่านเกมและสายเล่น วิเคราะห์บอล ที่ชอบดูรายละเอียดรูปแบบการยืนตำแหน่ง
มอลโดวาเลือกเล่น 5-3-2 ตั้งรับลึกมาก แบ็กสองข้างถอยลงไปแทบจะยืนเรียงกับเซ็นเตอร์สามคน ปิดพื้นที่หน้าปากประตูให้แน่นที่สุด สามกองกลางยืนแคบ ไล่บีบโซนกลางเพื่อไม่ให้โตนาลีกับคริสตันเต้มีเวลายืนเงยหน้าจ่ายบอลทะลุช่อง เกมรุกฝากความหวังไว้ที่คู่หน้าคอยไล่ไล่บีบแนวรับอิตาลีและรอสวนกลับ ซึ่งก็ทำได้เพียงแค่สร้างความลำบากเล็กน้อย เพราะจำนวนคนในแดนบนมีน้อยเกินไปจนไม่สามารถพักบอลได้จริงจัง
ขณะที่อิตาลีใช้ 4-2-3-1 แบบยืดหยุ่น เวลาได้บอลแบ็กทั้ง เบลลาโนว่า และ คัมเบียโซ จะดันสูงขึ้นไปจนเหมือนเป็นปีก สร้างสถานการณ์ “โอเวอร์โหลด” ด้านข้างให้กับแนวรับห้าคนของมอลโดวา กลางสองคนอย่าง โตนาลี–คริสตันเต้ รับบทจ่ายบอลสั้นไล่หาช่อง ทำเกมสลับซ้าย–ขวาเพื่อดึงตัวประกบและรอจังหวะเปิดคัทแบ็กหรือหยอดเข้ากรอบเขตโทษ
ถ้าโฟกัสเกมรับ อิตาลีเก็บงานได้เนียนกริบ แทบไม่ปล่อยให้มอลโดวามีโอกาสจบสกอร์ชัดเจนเลย เกาะสถิติไว้แค่ 3 ครั้งตลอด 90 นาที แมนชินีกับบวนจอร์โนอ่านจังหวะยืนดักบอลยาวได้หมด แถมแบ็กสองฝั่งช่วยไล่ตามบีบริมเส้นจนเจ้าถิ่นทำเกมขึ้นไม่ได้ เมื่อเสียบอล อิตาลีก็ใส่เกียร์เพรสซิ่งกลับทันที ไม่เปิดโอกาสให้มอลโดวาได้หายใจ
ช่วงท้าย กัตตูโซ่เติม ดิมาร์โก กับ โปลิตาโน ลงมาทำให้การขึ้นเกมริมเส้นจัดจ้านขึ้นไปอีก ความหลากหลายตรงนี้เองที่ทำให้มอลโดวาเริ่มหลุดตำแหน่ง และสุดท้ายก็โดนลูกนิ่งกับลูกครอสเล่นงานสองกระทงรวดในนาที 88 และ 90+2 ตามลำดับ

📊 สถิติการแข่งขัน – ตัวเลขยืนยันความเหนือชั้นของอิตาลี
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพชัดเจนว่าอิตาลีครองเกมอยู่ฝ่ายเดียว พวกเขายิงรวมถึง 25 ครั้ง เข้ากรอบ 9 ครั้ง ขณะที่มอลโดวามีโอกาสเพียง 3 ครั้ง และเข้ากรอบแค่ลูกเดียวเท่านั้น การครองบอลก็ห่างกันสุดขั้ว เจ้าถิ่นมีเพียง 30% ส่วนอิตาลียึดเกมไว้ถึง 70% เล่นบอลกันอยู่แดนคู่แข่งเป็นส่วนใหญ่
แม้ในเรื่องฟาวล์ มอลโดวาจะทำไป 13 ครั้ง มากกว่าอิตาลีที่ทำเพียง 8 ครั้ง แต่การตัดฟาวล์ก็ไม่สามารถหยุดความต่อเนื่องของเกมบุกทีมเยือน แถมยังต้องรับใบเหลืองถึง 3 ใบ ขณะที่อิตาลีไม่มีใครโดนใบเหลืองเลย ลูกเตะมุมคืออีกหนึ่งตัวเลขที่บอกเล่าเรื่องราวได้ดี อิตาลีได้เตะมุมถึง 13 ครั้ง ส่วนมอลโดวาเพียงแค่ 1 ครั้ง และหนึ่งใน 13 ครั้งนั้นก็คือลูกเปิดของดิมาร์โกที่แมนชินีโขกขึ้นนำในช่วงท้ายเกม
⏰ เหตุการณ์สำคัญในสนาม
- 🟨 นาทีที่ 2 ดาน อูมบราวานู (มอลโดวา) ทำฟาวล์หนัก โดนใบเหลืองเร็วตั้งแต่ต้นเกม
- 🟨 นาทีที่ 28 อิกอร์ เรเวนโก้ (มอลโดวา) รับใบเหลืองจากจังหวะตัดเกมริมเส้น
- 🔁 นาทีที่ 55 มอลโดวาเปลี่ยนตัว ส่ง สเตฟาน บิตคา ลงแทน โอเล็ก เรอับชุค
- 🔁 นาทีที่ 56 มอลโดวาเปลี่ยนตัวอีกครั้ง ส่ง วิตาเล ดามาชาน ลงแทน วลาดิสลาฟ โปสโตลาชี่
- 🔁 นาทีที่ 61 มอลโดวาเปลี่ยนตัว วิคเตอร์ โบกาชิอุค ลงแทน คอร์แนล เปอร์คิอุน
- 🔁 นาทีที่ 65 อิตาลีขยับหมาก ส่ง มาเตอ เรเตกี ลงแทน จานลูก้า สคามัคก้า
- 🔁 นาทีที่ 65 อิตาลีส่ง ฟรานเชสโก้ ปิโอ เอสโปซิโต้ ลงแทน จาโคโม ราสปาดอรี เติมความสดแดนหน้า
- 🔁 นาทีที่ 75 มอลโดวาเปลี่ยนตัว สเตฟาน โบดิสเตียนู ลงแทน วาดิม ราต้า เพื่ออัดกลางเพิ่ม
- 🔁 นาทีที่ 75 มอลโดวาส่ง วลาดิเมียร์ ฟราเทีย ลงแทน ยอน นิโคเลสคู
- 🔁 นาทีที่ 75 อิตาลีเพิ่มเกมริมเส้น ส่ง เฟเดริโก้ ดิมาร์โก ลงแทน อันเดรีย คัมเบียโซ
- 🔁 นาทีที่ 75 อิตาลีส่ง มัตเตโอ โปลิตาโน ลงแทน ริคคาร์โด ออร์โซลินี
- ⚽ นาทีที่ 88 ประตู 0-1 ของอิตาลี จากลูกเตะมุมของ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก เปิดให้ จานลูก้า แมนชินี โหม่งเสียบเสา
- ⚽ นาทีที่ 90+2 ประตู 0-2 อิตาลีปิดกล่อง เมื่อ มัตเตโอ โปลิตาโน เปิดบอลให้ ฟรานเชสโก้ ปิโอ เอสโปซิโต้ ชาร์จจ่อ ๆ
- 🟨 นาทีที่ 90+5 มิไฮ สเตฟาน (มอลโดวา) ไปตัดฟาวล์ท้ายเกม รับใบเหลืองปิดท้ายค่ำคืนสุดหินของเจ้าถิ่น
⭐ Player of the Match – จานลูก้า แมนชินี หัวใจเกมรับ-ตัวจบสกอร์
รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเกมนี้ต้องยกให้ จานลูก้า แมนชินี เซ็นเตอร์ฮาร์ดแมนจากอิตาลีที่ได้คะแนนสูงถึง 8.4 ไม่ใช่แค่คุมแนวรับได้อย่างอยู่หมัด อ่านจังหวะบล็อกยิงและตัดบอลยาวของมอลโดวาได้ตลอดทั้งเกม แต่ยังรับบทฮีโร่โผล่มาโขกประตูปลดล็อก 1-0 ในนาที 88 ซึ่งเป็นประตูเปลี่ยนทิศของเกมอย่างแท้จริง
ตลอด 90 นาที แมนชินีแทบไม่พลาดจังหวะดวลตัวต่อตัว แถมยังคุมไลน์กับบวนจอร์โนได้เนี้ยบ ทำให้อิตาลีเก็บคลีนชีตแบบแทบไม่ต้องเสียวหลังเลย สำหรับ บ้านกีฬา แล้วนี่คือฟอร์มระดับผู้นำแนวรับที่ทีมชาติอัซซูร์รีต้องการในทัวร์นาเมนต์ใหญ่

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนกลุ่ม I หลังจบเกม
ชัยชนะเกมนี้ทำให้อิตาลีเก็บเพิ่มเป็น 18 คะแนน จากการลงสนาม 7 นัด ชนะ 6 แพ้ 1 ยิงได้ 20 เสีย 8 ประตู ลูกได้เสีย +12 รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม I ไล่จี้นอร์เวย์จ่าฝูงที่มี 21 คะแนนจาก 7 นัดเท่านั้น ช่องว่างเหลือ 3 แต้ม และมีโอกาสพลิกสถานการณ์แย่งแชมป์กลุ่มกันแบบตรง ๆ ในนัดต่อไป
ด้านมอลโดวายังจมบ๊วยของกลุ่ม มีเพียง 1 คะแนนจาก 7 นัด ยิงได้ 4 เสียถึง 28 ลูก ลูกได้เสีย -24 เส้นทางลุ้นตั๋วฟุตบอลโลกแทบจะปิดประตูลงสนิท เหลือเพียงภารกิจเล่นเพื่อศักดิ์ศรีในเกมที่เหลือเท่านั้น ขณะที่อิสราเอลเก็บไป 9 แต้มอยู่อันดับ 3 และเอสโตเนียมี 4 แต้มอยู่อันดับ 4 ภาพรวมตารางคะแนนยิ่งทำให้เกมต่อไปของอิตาลีกับนอร์เวย์ยกระดับความเดือดขึ้นอีกขั้น
📅 ตารางบอลกลุ่ม I นัดถัดไป – เกมชี้ชะตาอิตาลีดวลนอร์เวย์
สำหรับโปรแกรมในกลุ่ม I นัดต่อไป แฟน ๆ ที่ชอบเช็ก ตารางบอล ต้องไม่พลาด คืนวันที่ 17 พฤศจิกายน 2025 ตามเวลาไทย 02.45 น. จะมีสองคู่สำคัญ
- อิสราเอล พบ มอลโดวา – เจ้าถิ่นต้องการสามแต้มเพื่อการันตีอันดับกลางตาราง ส่วนมอลโดวาลงเล่นเพื่อเกียรติยศ
- อิตาลี พบ นอร์เวย์ – เกมใหญ่ที่อาจตัดสินแชมป์กลุ่มโดยตรง แฟนอัซซูร์รีต้องลุ้นเต็มที่ หากชนะได้จะทำให้สถานการณ์พลิกทันที
สองแมตช์นี้จะเป็นตัวชี้วัดภาพรวมกลุ่ม I อย่างแท้จริง ว่าใครจะวิ่งเข้าเส้นชัยสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และทุกจังหวะบอลเดือดได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากเกาะติดทุกสกอร์แบบเรียลไทม์ ทั้งผลการแข่งขัน โปรแกรมล่วงหน้า และสถิติละเอียดทุกคู่ อย่าลืมตามเช็ก บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา เราจะเก็บทุกช็อตสำคัญ ทุกประตู และทุกดราม่าจากเวทีฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รวมถึงลีกดังยุโรป มาอัปเดตให้แฟนบอลชาวไทยได้มันส์กันตลอดฤดูกาล
บ้านกีฬา อยู่ข้างจอบอลของคุณทั้งคืน คืนไหนมีบอลเดือด เข้ามาเช็กสกอร์และเรื่องราวหลังเกมได้ที่นี่ที่เดียว

