
จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ระหว่าง อิสราเอล 2-4 นอร์เวย์ วันนี้ 26/3/68 – บ้านกีฬา
ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม I คู่ระหว่าง อิสราเอล เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ นอร์เวย์ กลายเป็นอีกหนึ่งแมตช์สุดมันส์ที่แฟนบอลได้ลุ้นกันตั้งแต่ต้นจนจบ โดยผล บ้านผลบอล รายงานสดระบุชัดว่า เกมนี้เต็มไปด้วยจังหวะเข้าทำสุดเฉียบ ดุเดือด และเปี่ยมด้วยคุณภาพ ก่อนที่นอร์เวย์จะบุกมายัดเยียดความพ่ายแพ้ให้เจ้าถิ่น 4-2 พร้อมคว้า 3 คะแนนเต็มและยึดจ่าฝูงอย่างสง่างาม
เริ่มเกมในครึ่งแรก แม้อิสราเอลจะตั้งรับแน่นในช่วงแรก แต่นาทีที่ 39 นอร์เวย์ก็ปลดล็อกประตูแรกจนได้ จากจังหวะที่ มาร์ติน โอเดการ์ด จ่ายทะลุช่องให้ ดาวิด โมลเลอร์ วูล์ฟ หลุดเข้าไปซัดแบบไม่พลาด ส่งทีมเยือนนำ 0-1 ก่อนหมดครึ่งแรก แม้อิสราเอลจะพยายามโต้กลับ แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของนอร์เวย์ได้ จบ 45 นาทีแรกด้วยความกดดันจากเสียงเชียร์เจ้าถิ่นที่ยังรอประตูตีเสมอ
เข้าสู่ครึ่งหลัง เกมของอิสราเอลมีความหวังมากขึ้น นาทีที่ 55 โมฮัมหมัด อาบู ฟานี่ สอดมายิงในกรอบเขตโทษแบบสุดคม ช่วยตีเสมอเป็น 1-1 และสร้างแรงกระตุ้นให้แฟนบอลเฮลั่นสนาม แต่เพียงแค่ 4 นาทีให้หลัง โอเดการ์ดก็แผลงฤทธิ์อีกครั้ง จ่ายถวายพานให้ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ หลุดเข้าไปยิงให้ทีมเยือนกลับมานำอีกครั้ง 1-2 จากนั้นนอร์เวย์เริ่มกดดันต่อเนื่องและได้ประตูที่สามในนาที 65 จากลูกโหม่งของ คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ และปิดเกมเกือบสนิทในนาที 83 เมื่อ เออร์ลิง ฮาแลนด์ สังหารประตูจากจังหวะที่โอเดการ์ดจ่ายให้เป็นแฮตทริกแอสซิสต์ 1-4
แม้อิสราเอลจะฮึดตีไข่แตกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากลูกยิงของ ดอร์ ทูร์เจอมัน นาที 90+3 แต่ก็ไล่ไม่ทัน จบเกม นอร์เวย์ บุกชนะ อิสราเอล ด้วยสกอร์ 4-2 แบบขาดลอย แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมของทีมที่เต็มไปด้วยแข้งระดับโลก พร้อมเดินหน้าล่าโควต้าฟุตบอลโลกต่อไป
รายชื่อนักเตะตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
ทีมชาติอิสราเอล (แผน 4-4-1-1)
ผู้รักษาประตู: ดาเนียล เปเรตซ์ (8.6)
กองหลัง: เอียน นัคเมียส (6.6), โรอี ชโลโม (6.5), โดเลฟ เปเรตซ์ (6.1), โกลด์เบิร์ก (7.2)
กองกลาง: โอซการ์ กลู๊คห์ (7.3), มานอร์ โซโลมอน (7.0), โมฮัมหมัด จาเบอร์ (6.7), เอเลียเนฟ เปเรตซ์ (6.7)
ตัวรุก: ลีล อาบาดา (6.5)
กองหน้า: ดอร์ ทูร์เจอมัน (7.1)
ตัวสำรอง
-
รอย เรวิโว (6.5) แทน โกลด์เบิร์ก นาที 46
-
โมฮัมหมัด อาบู ฟานี่ (7.2) แทน จาเบอร์ นาที 46
-
เอลี ดาซ่า (6.3) แทน อาบาดา นาที 61
-
แดน บิตัน (6.4) แทน โดเลฟ เปเรตซ์ นาที 61
-
อานาน คาลายี (6.3) แทน เอเลียเนฟ เปเรตซ์ นาที 78
ทีมชาตินอร์เวย์ (แผน 4-4-2)
ผู้รักษาประตู: ออร์ยาน นีลันด์ (6.9)
กองหลัง: คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ (7.1), พาทริก เบิร์ก (7.3), มาร์ติน โวลฟ์ (7.6), เฮกเกม (6.4)
กองกลาง: มาร์ติน โอเดการ์ด (9.5), ซานเดอร์ เบิร์ก (8.0), พาทริค เบิร์ก (7.3), ยูเลียน ไรเออร์สัน (7.0)
กองหน้า: เออร์ลิง ฮาแลนด์ (7.2), อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ (7.7)
ตัวสำรอง
-
อารอน ดอนนัม (6.3) แทน อันเดรียส เชลเดอรูป นาที 61
-
เยนส์ ฮาอูเก้ (6.5) แทน ซอร์ลอธ นาที 74
-
ลาสเซ จอห์นเซ่น (6.6) แทน พาทริก เบิร์ก นาที 75
-
เกรเกอร์เซ่น (–) แทน โวลฟ์ นาที 90
-
มาร์คุส เพเดอร์เซ่น (–) แทน โอเดการ์ด นาที 90
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
จากมุมมอง วิเคราะห์บอล เกมนี้เห็นได้ชัดว่ารูปแบบการเล่นของนอร์เวย์ในระบบ 4-4-2 มีความสมดุลทั้งรุกและรับ โดยมิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง เบิร์ก และ โอเดการ์ด สามารถควบคุมจังหวะของเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้แนวรุกอย่าง ฮาแลนด์ และ ซอร์ลอธ ได้รับบอลในจังหวะที่มีคุณภาพ ส่วนอิสราเอลเน้นการตั้งรับแล้วโต้กลับโดยใช้ กลู๊คห์ และ ทูร์เจอมัน เป็นตัวทะลุทะลวง แต่เมื่อเจอกับแนวรับของนอร์เวย์ที่แข็งแกร่งและจัดระบบดี เกมรุกของอิสราเอลจึงไม่สามารถสร้างความอันตรายได้มากพอ ความแตกต่างในเรื่องความแม่นยำในการจ่ายบอล และการครองพื้นที่แดนกลางคือปัจจัยหลักที่ตัดสินผลเกมนี้
สถิติการแข่งขัน
ในเกมนี้ นอร์เวย์แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นในทุกด้าน โดยครองบอลถึง 56% และผ่านบอลมากถึง 566 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 92% เทียบกับอิสราเอลที่ผ่านบอล 468 ครั้ง และแม่นยำ 89% ขณะที่จำนวนการยิง นอร์เวย์ลั่นไปถึง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 12 หน ส่วนอิสราเอลยิงเพียง 10 ครั้ง เข้ากรอบ 6 หน การฟาวล์ใกล้เคียงกันที่ 9 ต่อ 7 และใบเหลืองฝั่งละ 1-2 ครั้ง แต่ที่น่าสนใจคือจำนวนนอร์เวย์ได้ลูกเตะมุมถึง 7 ครั้ง เทียบกับอิสราเอลที่มีแค่ 2 บ่งบอกถึงการขึ้นเกมบุกที่หลากหลายและจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้ายได้ต่อเนื่อง
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 39’ นอร์เวย์นำ 0-1 จาก ดาเนียล โมลเลอร์ วูล์ฟ (แอสซิสต์: โอเดการ์ด)
🟨 31’ ทอร์เกียร์ เฮกเกม โดนใบเหลือง
🔁 46’ อิสราเอลเปลี่ยนตัว: เรวิโว แทน โกลด์เบิร์ก
🔁 46’ อิสราเอลเปลี่ยนตัว: อาบู ฟานี่ แทน จาเบอร์
⚽ 55’ อิสราเอลตีเสมอ 1-1 จาก อาบู ฟานี่ (แอสซิสต์: อาบาดา)
⚽ 59’ นอร์เวย์นำ 1-2 จาก ซอร์ลอธ (แอสซิสต์: โอเดการ์ด)
🔁 61’ อิสราเอลเปลี่ยนตัว: ดาซ่า แทน อาบาดา
🔁 61’ นอร์เวย์เปลี่ยนตัว: ดอนนัม แทน เชลเดอรูป
⚽ 65’ นอร์เวย์นำห่าง 1-3 จาก อาเยอร์ (แอสซิสต์: เบิร์ก)
🟨 72’ ซอร์ลอธ โดนใบเหลือง
🔁 74’ นอร์เวย์เปลี่ยนตัว: ฮาอูเก้ แทน ซอร์ลอธ
🔁 75’ นอร์เวย์เปลี่ยนตัว: จอห์นเซ่น แทน เบิร์ก
🔁 78’ อิสราเอลเปลี่ยนตัว: คาลายี แทน เปเรตซ์
🟨 82’ นัคเมียส ฟาวล์ โดนใบเหลือง
⚽ 83’ นอร์เวย์นำขาด 1-4 จาก ฮาแลนด์ (แอสซิสต์: โอเดการ์ด)
🔁 90’ นอร์เวย์เปลี่ยนตัว: เกรเกอร์เซ่น แทน โวลฟ์
🔁 90’ นอร์เวย์เปลี่ยนตัว: เพเดอร์เซ่น แทน โอเดการ์ด
⚽ 90+3’ อิสราเอลไล่มาเป็น 2-4 จาก ทูร์เจอมัน (แอสซิสต์: กลู๊คห์)
Player of the match
มาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันทีมชาติ นอร์เวย์ คือผู้เล่นที่เปลี่ยนเกมได้อย่างแท้จริง ด้วยการทำถึง 3 แอสซิสต์ และควบคุมจังหวะเกมอย่างเหนือชั้น ได้คะแนนสูงสุด 9.5 จากระบบ Sofascore ไม่เพียงแค่สร้างสรรค์เกม แต่ยังมีส่วนร่วมในแทบทุกจังหวะอันตรายของทีม นี่คือฟอร์มที่สะท้อนความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ นอร์เวย์ เก็บเพิ่มเป็น 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัด นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม I อย่างมั่นคง ยิงได้ 9 ประตู เสียเพียง 2 ส่วน อิสราเอล ยังมี 3 คะแนนเท่าเดิมจาก 2 นัด หล่นลงมาอยู่อันดับ 3 โดยมีประตูได้เสีย -1 ต้องกลับมาวางแผนใหม่หากยังหวังลุ้นเข้ารอบในกลุ่มนี้ เพราะคู่แข่งอย่างอิตาลีที่ยังไม่ลงสนามนัดแรกยังรอโอกาสเบียดขึ้นมาได้เช่นกัน
การแข่งขันนัดถัดไป
แม้ว่า อิสราเอล จะสู้เต็มที่แต่ก็ยังต้านความดุดันของ นอร์เวย์ ไม่ไหว แพ้ไปด้วยสกอร์ 2-4 โดยนัดถัดไปพวกเขาต้องออกไปเยือน เอสโตเนีย ในวันที่ 7 มิถุนายน 2025 เวลา 01:45 น. ขณะที่ นอร์เวย์ เตรียมเปิดศึกดวลเดือดกับ อิตาลี ซึ่งน่าจะเป็นเกมที่ตัดสินอนาคตของกลุ่ม I ได้เลยทีเดียว บ้านกีฬา ขอเชิญแฟนบอลทุกท่านติดตามโปรแกรมแข่งขันล่าสุดได้ผ่าน ตารางบอล ที่เราอัปเดตให้ครบทุกลีก ทุกโซนทั่วโลก
ติดตาม บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
ไม่ว่าจะเป็น บ้านผลบอล อัปเดตผลสด หรือบทวิเคราะห์เจาะลึกทุกคู่การแข่งขัน บ้านกีฬา คือแหล่งรวมข้อมูลที่แม่นยำ ครบถ้วน และเข้มข้นที่สุด พร้อมเสิร์ฟให้แฟนบอลทุกท่านแบบทันใจ