สมาคมวอลเลย์บอลยกทีมลงพื้นที่ ปลูกป่าฉลองวันพ่อ
ในโอกาส วันพ่อ 5 ธันวาคม สมาคม สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ไม่ได้มีดีแค่ในสนามแข่ง แต่ขยับตัวครั้งใหญ่ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาสังคม ลงพื้นที่ปลูกป่าฟื้นฟูธรรมชาติอย่างจริงจัง เปลี่ยนบรรยากาศจากเสียงตบลูกยางในฮอลล์ มาเป็นเสียงจอบ เสียม และต้นกล้า ณ พื้นที่อาสาชาวนามหานคร วิสาหกิจเพื่อสังคม เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นโซนชานเมืองที่ยังมีพื้นที่สีเขียวให้ต่อยอดได้อีกมาก
รวมพลังเครือข่ายรักษ์โลก ปลูกป่ากรุงเทพฝั่งตะวันออก
งานนี้ไม่ได้มาแบบเดี่ยวๆ แต่เป็นการผนึกกำลังกับมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ, บริษัท อาสาชาวนามหานคร วิสาหกิจเพื่อสังคม Ecovillege บึงน้ำรักษ์, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), มูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา และโรงเรียนบ้านเจียรดับ ร่วมกันจัดกิจกรรม ปลูกป่า เนื่องในโอกาสวันพ่อ 5 ธันวาคม 2568 ควบวันดินโลกในครั้งเดียว เป้าหมายไม่ใช่แค่เพิ่มต้นไม้ แต่คือการสร้างพื้นที่เรียนรู้ให้เด็ก เยาวชน และคนกีฬาได้เห็นภาพจริงว่า “การลงมือทำ” สำคัญแค่ไหนต่ออนาคตสิ่งแวดล้อมของประเทศ
น้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านการลงมือทำจริง
หัวใจของกิจกรรมครั้งนี้ คือการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พ่อหลวงของคนไทยทั้งชาติ ที่ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องโลกร้อน 🌎 และการจัดการดิน น้ำ ป่า อย่างเป็นระบบ แนวคิด “คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้” ถูกถอดแบบมาสู่กิจกรรมนี้อย่างชัดเจน เหมือนเป็นการต่อยอดพระราชดำริผ่านพลังของวงการลูกยางไทยให้เป็นรูปธรรม
ต่อยอดสู่ Green Heart Event และ Carbon Neutral Event
เบื้องหลังโปรเจกต์ปลูกป่าไม่ได้จบแค่วันเดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งของกรอบการทำงาน Green Heart Event ♻️ และการผลักดันสู่ Carbon Neutral Event ในวงการกีฬา หลังประเทศไทยได้รับความไว้วางใจจากสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึง 7 กันยายน 2568 ซึ่งไทยกลายเป็นประเทศแรกที่สามารถขับเคลื่อนแนวคิดงานแข่งขันกีฬาที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม จนกลายเป็น “ต้นแบบ” ที่ FIVB เตรียมนำไปใช้กับทัวร์นาเมนต์นานาชาติในประเทศอื่นต่อไปในอนาคต
ขุนพลลูกยางทีมชาติไทยลงสนามปลูกป่าแบบฟูลทีม
สีสันของกิจกรรมอยู่ที่การรวมตัวของอดีตและปัจจุบันนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ที่สลัดเสื้อแข่งมาใส่ชุดลุยดิน ไม่ว่าจะเป็น ปริม อินทวงศ์ (เจน), บุษบรรณ จันทรารังษี (เอ๋), นราพร ผงทอง (ภาพ), วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ (กิ๊ฟ), ปลื้มจิตร์ ถินขาว (หน่อง), อรอุมา สิทธิรักษ์ (อร) พร้อมด้วย ปาร์ค คี วอน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยประเภททีมชาย ที่มาร่วมทำกิจกรรมเคียงข้างนักกีฬาวอลเลย์บอลชาย-หญิงทีมชาติไทย ทั้งชุดใหญ่ ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี และ 19 ปีหญิง อาทิ หัตถยา บำรุงสุข (เตย), ณัฏฐนิชา ใจแสน (นุ๊กนิก), วริศรา สีทาเลิศ (เฟิร์น), อมรเทพ คนหาญ (จูน), กฤษฎา นิลไสว, อนุรักษ์ พันธุ์รัมย์, อนุชิต ภักดีแก้ว ฯลฯ บรรยากาศเต็มไปด้วยภาพนักตบระดับประเทศลงมือขุด หลุม ปลูกกล้าไม้ สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมเห็นชัดว่า “ฮีโร่ในสนาม” ก็จริงจังกับการช่วยโลกไม่แพ้ตอนลุยในคอร์ทแข่งขัน
เยาวชนหนองจอกได้เรียนรู้จากไอดอลลูกยางตัวจริง
อีกมุมที่น่าสนใจคือการมีส่วนร่วมของนักเรียนระดับยุวชนจากโรงเรียนบ้านเจียรดับ ในเขตหนองจอก ที่ยกทีมมาร่วมปลูกป่า เรียนรู้เรื่องดิน น้ำ ป่า และการจัดการพื้นที่เกษตรผสมผสานไปพร้อมกัน เด็กๆ ได้ลงมือทำจริง แถมยังได้เดินเคียงข้างไอดอลนักวอลเลย์บอลทีมชาติที่เคยเห็นแค่ในทีวีหรือถ่ายทอดสด บรรยากาศแบบนี้คือการสร้าง “ประสบการณ์ตรง” ที่จะฝังอยู่ในความทรงจำของเยาวชนไปอีกยาวนาน
เวที “ตบให้โลกเย็น กับ พลังของนักตบ” จุดประกายคิด
ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำจร นายกสมาคมดินโลก และประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขึ้นบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ตบให้โลกเย็น กับ พลังของนักตบ” ร่วมกับ คุณวรเกียรติ สุจิวโรดม ผู้ก่อตั้งอาสาชาวนามหานครวิสาหกิจ ที่เล่าถึงจุดเริ่มต้นและพัฒนาการของพื้นที่แห่งนี้ จากผืนนาและพื้นที่รกร้าง สู่การเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านกสิกรรมธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เวทีพูดคุยครั้งนี้ช่วยเชื่อมโยงให้ทุกคนเห็นภาพว่า นักกีฬา แฟนกีฬา และชุมชน สามารถเดินไปด้วยกันบนเส้นทาง “กีฬาเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม” ได้จริง ไม่ใช่แค่สโลแกนสวยหรู
กีฬา สิ่งแวดล้อม และวันพ่อ – เรื่องที่เดินคู่กันได้เสมอ
สำหรับแฟนกีฬา แนวคิด “เล่นกีฬาไปด้วย รักษ์โลกไปด้วย” กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในหลายประเทศ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่เริ่มคิดถึงการลดคาร์บอน ปรับการใช้พลังงาน ทิ้งขยะอย่างมีระบบ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวควบคู่กับการจัดแข่ง ในบริบทของไทย การขับเคลื่อนจากวงการวอลเลย์บอลที่มีฐานแฟนเหนียวแน่น ช่วยทำให้เรื่องสิ่งแวดล้อมจับต้องง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผูกโยงกับวันสำคัญอย่างวันพ่อและวันดินโลก แสดงให้เห็นว่า “การให้” ที่ดีที่สุดรูปแบบหนึ่งต่อพ่อของแผ่นดินและต่อโลกใบนี้ คือการลงมือดูแลดิน น้ำ ป่า อย่างต่อเนื่องในทุกปี ไม่ใช่แค่ทำกิจกรรมครั้งเดียวแล้วจบ
แฟนลูกยางไทยรอติดตามภารกิจรักษ์โลกครั้งต่อไปได้ที่ไหน
จากวันนี้ วงการวอลเลย์บอลไทยไม่ได้มีดีแค่เรื่องฟอร์มในสนาม แต่ยังยกระดับบทบาทด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง กิจกรรมปลูกป่าวันพ่อในครั้งนี้ จึงเหมือนเป็น “จุดสตาร์ต” ของการเดินทางระยะยาว ที่จะเห็นนักตบ ทีมงาน และแฟนกีฬาร่วมกันผลักดันให้โลกเย็นลงทีละนิด สำหรับใครที่อยากตามเกาะติดทั้งข่าวสารวงการลูกยาง ผลงานทีมชาติ และกิจกรรมดีๆ แบบนี้ต่อเนื่อง แฟนกีฬาอย่าพลาดติดตามทุกความเคลื่อนไหวได้ที่ วอลเลย์บอลสดบ้านกีฬา
