จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง แอตเลติโก้ มาดริด 2-1 อินเตอร์ มิลาน วันนี้ 27/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกค่ำคืนเดือด แอตเลติโก้ มาดริด เปิดว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ รับการมาเยือนของ อินเตอร์ มิลาน เกมนี้ทั้งสองทีมลงสนามด้วยสถานะทีมลุ้นหัวตารางลีกยุโรป ทำให้บรรยากาศตั้งแต่นกหวีดแรกอึดอัดเข้มข้นสุดๆ ตามหน้า ผลบอลวันนี้ และหน้า บ้านผลบอล ระบุชัด แอตเลติโก้ เฉือนชนะ 2-1 จากประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ โฆเซ่ มาเรีย กิเมเนซ ส่งเสียงเฮสะเทือนกรุงมาดริด ขณะที่ อินเตอร์ ต้องกล้ำกลืนความพ่ายแพ้นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มไปแบบเจ็บลึก แม้รูปเกมจะดูไม่เป็นรองก็ตาม บ้านกีฬา ขอบอกเลยว่าอารมณ์แฟนบอลทั้งสองฝั่งแกว่งกันทั้งคืนเหมือนกราฟหุ้น
⚔ ครึ่งแรก: อัลวาเรซกดโทน ปลุกไฟตราหมี
เปิดฉากมา แอตเลติโก้ ของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เลือกเปิดหน้าแลกตั้งแต่ต้น ใช้เกมเพรสซิ่งสูงบีบแนวรับอินเตอร์ให้เล่นยาก นาที 9 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮลั่น เมื่อบอลต่อเนื่องในกรอบเขตโทษหลุดมาเข้าทาง ฆูเลียน อัลวาเรซ แต่งหนึ่งจังหวะก่อนซัดเต็มข้อเสียบตาข่ายให้ตราหมีนำ 1-0
หลังโดนนำ อินเตอร์ของ คริสเตียน คิฟู ไม่ได้ถอยเกม แต่ค่อยๆเซ็ตบอลจากหลังขึ้นมาด้วยการคุมจังหวะของ ฮาคาน ชาลาโนกลู และ นิโกโล่ บาเรลล่า ใช้การขยับของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กับ อาร์กโน บอนนี่ ดึงแนวรับเจ้าบ้านให้ถ่างออก จังหวะสวนกลับของงูใหญ่จัดว่าน่ากลัวหลายครั้ง
นาที 11 แฟนงูใหญ่เสียววาบเมื่อ ฟีเดริโก้ ดิมาร์โก โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดเกม ทำให้ต้องเล่นอย่างระวังมากขึ้น แต่ยังโชคดีที่แอตเลติโก้ปั้นโอกาสจะแจ้งเพิ่มไม่ได้ แม้จะได้ยิงอยู่เรื่อยๆ ผ่าน 45 นาทีแรก สกอร์ยังคง 1-0 ให้เจ้าถิ่น แต่รูปเกมบอกชัดว่าครึ่งหลังยังเดือดกว่านี้แน่นอน
🔥 ครึ่งหลัง: งูใหญ่ตีเสมอ แต่โดนโขกฝังทดเจ็บ
กลับมาครึ่งหลัง อินเตอร์ยกระดับจังหวะรุกทันที กดให้แอตเลติโก้ต้องถอยมารับลึกมากขึ้น และความพยายามก็มาสำเร็จในนาที 54 เมื่อ อาร์กโน บอนนี่ ลากบอลลุยทะลุช่องก่อนจ่ายต่อให้ ปิออตร์ ซีลินสกี้ สอดขึ้นมากดเต็มข้อไม่เหลือ อินเตอร์ตีเสมอ 1-1 เกมกลับมาเริ่มใหม่ แต่โมเมนตัมเอนไปทางทีมเยือนชัดเจน
ซิเมโอเน่เห็นทีมเสียความคมจึงแก้เกมด้วยการเปลี่ยนทีเดียวสามคนช่วงนาที 58-59 ส่ง นิโกลัส กอนซาเลซ, มาร์ค ปูบิล และ โกเก้ ลงเติมพลังแดนกลางกับริมเส้น ก่อนจะจัดชุดใหญ่จัดเต็มในนาที 68 ด้วยการเข็น อองตวน กรีซมันน์ กับ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ลงยืนแนวรุก ผลคือแอตเลติโก้มีมิติการเข้าทำมากขึ้นทั้งลูกกลางอากาศและจังหวะเจาะช่อง
ฝั่งอินเตอร์ก็ไม่ยอมแพ้ ถอด ซีลินสกี้ กับ บอนนี่ ออก แล้วส่ง มาร์คุส ตูราม กับ เปตาร์ ซูซิช ลงมาสร้างความสด จากนั้นนาที 72 เปลี่ยนอีกชุดให้ ดาเวิเด ฟรัตเตซี่ กับ ฟรานเชสโก เอสโปซิโต้ ลงมาเสริมมิติเกมรุก แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบพอ
เกมทำท่าว่าจะจบด้วยการแบ่งแต้ม ทว่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+3 แฟนบอลตราหมีทั้งสนามแทบระเบิด เมื่อแอตเลติโก้ได้เตะมุมทางซ้าย กรีซมันน์เปิดโค้งเข้าเขตโทษ และเป็น โฆเซ่ มาเรีย กิเมเนซ ที่ทะยานโหม่งเต็มหัวส่งบอลเสียบเสาสองอย่างเฉียบขาด กลายเป็นประตูชัย 2-1 ให้เจ้าบ้าน ก่อนผู้ตัดสินเป่าจบเกมท่ามกลางความสะใจของฝ่ายหนึ่งและความเสียดายของอีกฝ่ายหนึ่งแบบสุดขั้ว
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔴 แอตเลติโก้ มาดริด (4-1-4-1)
ผู้รักษาประตู
- ฮวน มุสโซ่ (7.2)
กองหลัง
- นาอูเอล โมลินา (6.7)
- โฆเซ่ มาเรีย กิเมเนซ (กัปตัน) (8.4)
- คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (6.6)
- ดาวิด ฮันซ์โก้ (6.4)
กองกลางรับ
- ฆูเลียน การ์โดโซ (6.8)
กองกลางตัวรุกและริมเส้น
- มัตเตโอ รุจเจรี (6.7)
- อเล็กซ์ ไบเอน่า (6.3)
- ปาโบล บาร์รีออส (6.6)
- ฆูเลียน อัลวาเรซ (7.0)
กองหน้า
- โจนาส ซิเมโอเน (6.9)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- นิโกลัส กอนซาเลซ (6.8) แทน โมลินา นาที 58
- มาร์ค ปูบิล (7.0) แทน การ์โดโซ นาที 59
- โกเก้ (7.1) แทน กัลลาเกอร์ นาที 59
- อองตวน กรีซมันน์ (6.6) แทน ไบเอน่า นาที 68
- อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ (6.4) แทน รุจเจรี นาที 68
ตัวสำรองไม่ได้ลง
ซัลวาดอร์ เอสกีเวล, มาริโอ เด ลุยส์, เกลม็อง ล็องเล่ต์, ฆาบี กาลัน, ติอาโก้ อัลมาด้า, การ์ลอส มาร์ติน, จาโคโม่ ราสปาโดริ
อาการบาดเจ็บและเช็คฟิต
โรบิน เล นอร์ม็องด์ (เช็คฟิต), ยาน โอบลัค (เช็คฟิต), มาร์กอส ยอเรนเต้ (เจ็บ)
🔵 อินเตอร์ มิลาน (3-5-2)
ผู้รักษาประตู
- ยานน์ ซอมเมอร์ (7.1)
กองหลัง
- มานูเอล อคานจี (6.8)
- ยานน์ บิสเซค (7.5)
- อเลสซานโดร บาสตوني (7.1)
กองกลางวิงแบ็ก
- คาร์ลอส ออกุสโต้ (6.2)
- ฟีเดริโก้ ดิมาร์โก (6.4)
กองกลางตัวกลาง
- ฮาคาน ชาลาโนกลู (6.9)
- นิโกโล่ บาเรลล่า (7.3)
- ปิออตร์ ซีลินสกี้ (7.6)
กองหน้า
- เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (กัปตัน) (6.2)
- อาร์กโน บอนนี่ (7.1)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- เปตาร์ ซูซิช (6.4) แทน ซีลินสกี้ นาที 65
- มาร์คุส ตูราม (6.5) แทน บอนนี่ นาที 65
- ดาเวิเด ฟรัตเตซี่ (6.5) แทน ชาลาโนกลู นาที 72
- ฟรานเชสโก เปียสโปซิโต้ (6.4) แทน เลาตาโร่ นาที 72
- หลุยส์ เอ็นรีเก้ (6.6) แทน ดิมาร์โก นาที 79
ตัวสำรองไม่ได้ลง
โฆเซป มาร์ตีเนซ, อแลง ทาโฮ, สเตฟาน เดอ ฟราย, ฟรานเชสโก อาแชร์บี, มัตเตโอ ค็อกคี, คริสตอส อเลซิอู, แอนดี้ ดียุฟ
อาการบาดเจ็บและเช็คฟิต
เดนเซล ดุมฟรีส์, เฮนริค มคิทาร์ยาน, มัตเตโอ ดาร์เมียน, รัฟฟาเอเล ดิ เจนนาโร, โตมาส ปาลาซิออส (ทั้งหมดอยู่ในกลุ่มบาดเจ็บพักยาว)
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม
หากมองเชิง วิเคราะห์บอล แท็คติก แอตเลติโก้ ใช้ระบบ 4-1-4-1 ที่เน้นความแน่นของโซนกลางสนาม การ์โดโซ ยืนหน้าคู่เซ็นเตอร์คอยปิดพื้นที่หน้าเขตโทษ ทำให้ อินเตอร์ เจาะตรงกลางยาก ต้องออกบอลไปที่วิงแบ็กทั้งสองฝั่งบ่อยครั้ง จุดแข็งของตราหมีคือการยืนโซนแคบและขยับซ้อนเร็ว เมื่อเสียบอลบริเวณกลางสนามก็มีการเพรสซิ่งกลุ่ม 3-4 คน ทำให้ตัดเกมโต้กลับของงูใหญ่ได้บ่อย
เกมรุกของแอตเลติโก้ในช่วงแรกอาศัยการสลับตำแหน่งระหว่าง อัลวาเรซ กับ บาร์รีออส รวมถึงการเติมสูงของฟูลแบ็ก ทำให้แนวรับสามคนของอินเตอร์ต้องถ่างออก เปิดพื้นที่ให้เพลย์เมกเกอร์ได้ลองส่องไกลและแทงทะลุช่อง เมื่อส่ง กรีซมันน์ กับ ซอร์ลอธ ลงมา แผนก็ปรับไปใช้บอลครอสเข้าหัวมากขึ้น และประตูชัยของกิเมเนซก็มาจากไอเดียนี้เต็มๆ
ฝั่งอินเตอร์ในระบบ 3-5-2 ยังคงเอกลักษณ์เกมคุมจังหวะจาก ชาลาโนกลู และ บาเรลล่า ใช้การเคลื่อนที่ของ ซีลินสกี้ ร่วมกับคู่หน้าเพื่อหาช่องระหว่างไลน์ แถมเมื่อถูกนำก็กล้าเดินเกมสูง ดันแนวรับขึ้นมาที่ครึ่งสนามแล้วเก็บบอลสองต่อเนื่อง ทำให้ช่วงต้นครึ่งหลัง ตราหมีแทบออกบอลจากแดนตัวเองไม่ได้ จุดอ่อนเดียวคือเมื่อเปลี่ยนชุดใหญ่ช่วงนาที 65-72 โครงสร้างกลางสนามเสียสมดุลเล็กน้อย ทำให้โดนแอตเลติโก้ดันกลับมาบุกเป็นระลอกจนมาเสียประตูท้ายเกม
ภาพรวมแล้ว เกมรับของอินเตอร์ยังค่อนข้างเหนียว แต่การรับมือกับลูกตั้งเตะและลูกโด่งท้ายเกมยังมีช่องโหว่ให้คู่แข่งเล่นงาน ส่วนแอตเลติโก้แม้เสียประตู 1 ลูก แต่ยังรักษารูปแบบการยืนโซนได้ดี และเมื่อถึงเวลาต้องเสี่ยงดันเซ็นเตอร์ขึ้นไปลุ้นลูกโหม่ง ซิเมโอเน่ก็กล้าพอที่จะวัดดวงและได้ผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วย
📈 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมบอกชัดว่าคู่นี้สูสีกันเหลือเกิน แอตเลติโก้ยิงทั้งหมด 15 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง ส่วนอินเตอร์กดไป 16 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้งเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายเปิดเกมแลกแบบไม่มีใครกลัวใคร การครองบอล อินเตอร์เหนือกว่านิดๆ ที่ราว 52% ขณะที่ตราหมีถือบอล 48% แต่เวลาที่เจ้าถิ่นได้บอลมักเปลี่ยนเป็นจังหวะบุกเร็วได้ทันที
ในด้านการจ่ายบอล อินเตอร์จ่ายสำเร็จ 427 ครั้ง คิดเป็นความแม่นยำ 92% ส่วนแอตเลติโก้ไม่ได้น้อยหน้า จ่ายสำเร็จ 421 ครั้ง ด้วยความแม่นยำสูงถึง 93% สื่อให้เห็นว่าความกดดันในแดนกลางไม่ได้ทำให้ทั้งคู่เสียการครองบอลง่ายๆ เรื่องเกมหนัก แอตเลติโก้ทำฟาวล์ 12 ครั้ง อินเตอร์ 7 ครั้ง ใบเหลืองเกิดขึ้นฝั่งงูใหญ่เพียงใบเดียวจาก ดิมาร์โก ขณะที่เจ้าถิ่นรอดใบเหลืองแบบหวุดหวิดหลายจังหวะ ลูกเตะมุม แอตเลติโก้ได้ 7 ครั้ง อินเตอร์ 6 ครั้ง ซึ่งหนึ่งในเตะมุมเหล่านั้นก็คือลูกที่เปลี่ยนผลการแข่งขันในช่วงทดเจ็บนั่นเอง
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 9′ แอตเลติโก้ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ฆูเลียน อัลวาเรซ หลุดเข้าเขตโทษก่อนซัดผ่านมือ ซอมเมอร์ เสียบตาข่าย
- 🟨 11′ ฟีเดริโก้ ดิมาร์โก โดนใบเหลือง จากการเข้าตัดเกมริมเส้นฝั่งซ้าย
- ⏸ HT แอตเลติโก้ มาดริด นำ อินเตอร์ 1-0 เกมเปิดแลกแต่เจ้าบ้านคมกว่า
- ⚽ 54′ อินเตอร์ตามตีเสมอ 1-1 อาร์กโน บอนนี่ ลุยขึ้นมาทางขวาก่อนไหลให้ ปิออตร์ ซีลินสกี้ ซัดเต็มข้อไม่เหลือ
- 🔁 58′ แอตเลติโก้เปลี่ยน นิโกลัส กอนซาเลซ ลงแทน นาอูเอล โมลินา เพิ่มความสดริมเส้น
- 🔁 59′ มาร์ค ปูบิล ลงแทน ฆูเลียน การ์โดโซ ปรับบาลานซ์กลางสนาม
- 🔁 59′ โกเก้ ลงแทน คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เพิ่มประสบการณ์และการคุมจังหวะเกม
- 🔁 65′ อินเตอร์ส่ง เปตาร์ ซูซิช ลงแทน ซีลินสกี้ และ มาร์คุส ตูราม ลงแทน บอนนี่ เพื่อเพิ่มความเร็วแนวรุก
- 🔁 68′ ซิเมโอเน่เขย่าทีมอีกครั้ง ส่ง อองตวน กรีซมันน์ ลงแทน ไบเอน่า และ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ลงแทน รุจเจรี เพื่อเดินหน้าบุกเต็มตัว
- 🔁 72′ งูใหญ่เปลี่ยน ดาเวิเด ฟรัตเตซี่ แทน ชาลาโนกลู และ ฟรานเชสโก เปียสโปซิโต้ แทน เลาตาโร่ มาร์ติเนซ เพิ่มมิติการเข้าทำจากแดนสอง
- 🔁 79′ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ลงแทน ดิมาร์โก เติมความสดฝั่งซ้าย
- ⭐ 90+3′ ประตูชัย 2-1 แอตเลติโก้ได้เตะมุมฝั่งซ้าย กรีซมันน์ เปิดโค้งเข้าไปกลางประตู กิเมเนซ โหม่งเต็มแรงส่งบอลเสียบเสา เป็นประตูที่ทำให้ว่านต๋าระเบิดเฮ
- 🟨 90+ นาทีท้าย ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ โดนใบเหลืองจากการประท้วงผู้ตัดสินริมเส้น แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกเมื่อทีมเก็บสามแต้มสำคัญได้
⭐ Player of the Match: โฆเซ่ มาเรีย กิเมเนซ
กองหลังอุรุกวัยของตราหมีได้รับคะแนนเรตติ้งสูงสุดในสนามที่ 8.4 และสมควรอย่างยิ่งกับตำแหน่ง Player of the Match ตลอดทั้งเกม กิเมเนซอ่านจังหวะบอลยาวของอินเตอร์ได้ยอดเยี่ยม ชนะการดวลกลางอากาศหลายครั้ง เคลียร์บอลในกรอบเขตโทษแบบไม่กลัวเจ็บ ช่วยลดภาระให้ มุสโซ่ เหลือเพียงงานเซฟลูกยากไม่กี่จังหวะ
ที่สำคัญคือการเติมขึ้นไปโขกประตูชัยในนาที 90+3 ซึ่งไม่ใช่แค่ประตูสามแต้มธรรมดา แต่เป็นลูกที่สะท้อนคาแร็กเตอร์ “ไม่ยอมแพ้จนกว่านกหวีดสุดท้าย” ตามสไตล์แอตเลติโก้ ภาพกิเมเนซวิ่งเฮลั่นไปกับกองเชียร์คือโมเมนต์ระดับไอคอนของค่ำคืนนี้อย่างแท้จริง
🏆 ผลกระทบต่อสถานการณ์ตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ในตารางลีกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกซีซั่นนี้ อินเตอร์ยังคงยืนอยู่ในกลุ่มหัวตาราง แข่ง 5 นัด ชนะ 4 แพ้ 1 เก็บได้ 12 คะแนน รั้งโซนท็อป 4 มีโอกาสสูงที่จะการันตีพื้นที่เข้ารอบน็อกเอาต์แบบสบายๆ แม้ความพ่ายแพ้เกมนี้จะตัดสถิติไร้พ่าย แต่ด้วยผลงานก่อนหน้า ยังถือว่ากุมชะตาตัวเองแน่น
ส่วนแอตเลติโก้จากการเก็บสามแต้มในบ้าน ทำให้มี 9 คะแนนจาก 5 นัด กระโดดขึ้นมาบริเวณอันดับ 12 ของตาราง ซึ่งคือโซนลุ้นเพลย์ออฟและมีลุ้นไต่ขึ้นไปท็อป 8 หากรักษาฟอร์มแรงต่อเนื่อง เกมนี้จึงไม่ใช่แค่ชัยชนะหนึ่งนัด แต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ตราหมีกลับมาอยู่ใน “ภาพรวมการแข่งขัน” อย่างเต็มตัวอีกครั้ง
📅 ตารางบอลนัดถัดไปของทั้งสองทีม
มองไปข้างหน้า แฟนบอลที่เช็ก ตารางบอล และ โปรแกรมบอล ผ่านหน้าเว็บจะเห็นว่า แอตเลติโก้ มาดริด ต้องหันกลับไปโฟกัสเกมในประเทศ เริ่มจากบอลถ้วยที่มีคิวเปิดบ้านรับ เรอัล โอเบียโด้ ก่อนยกพลเยือน บาร์เซโลนา ในศึกลาลีกาสุดเดือด ซึ่งทั้งสองเกมถือเป็นบททดสอบความต่อเนื่องหลังจากปลุกความมั่นใจได้ในเวทียุโรป
ด้านอินเตอร์ มิลาน โปรแกรมถัดไปคือการบุกเยือน ปิซ่า ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา จากนั้นกลับมาเล่นบอลถ้วยพบ เวเนเซีย ในโคปปา อิตาเลีย สองนัดนี้คือโอกาสทองให้ลูกทีมของคิฟูรีบเรียกโมเมนตัมคืนและล้างแผลแพ้ที่มาดริดให้ไวที่สุด ก่อนจะกลับมาวัดกันใหม่ในเวทียุโรปช่วงโค้งท้ายของรอบลีก
📣 ติดตาม บ้านผลบอล และความมันส์ลูกหนังได้ที่ บ้านกีฬา
คอบอลที่อยากเกาะติดทุกฝีเท้าของ แอตเลติโก้ มาดริด และ อินเตอร์ มิลาน รวมถึงคู่เดือดจากลีกใหญ่ยุโรป สามารถตามเช็กสกอร์แบบเรียลไทม์ผ่านหน้า บ้านผลบอล และอัปเดตทุกจังหวะมันส์กับ บ้านกีฬา ได้ทุกวัน บ้านกีฬา จะคอยพาไปเจาะลึกทั้งสถิติ แท็คติก และเบื้องหลังในแบบที่แฟนบอลสายจริงจังต้องถูกใจแน่นอน
