
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล 1-4 พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น วันนี้ 27/11/68 – บ้านกีฬา
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ค่ำคืนที่แอนฟิลด์กลายเป็นฝันร้ายของสาวกหงส์แดง เมื่อ ลิเวอร์พูล โดน พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น บุกมายิงยับ 1-4 ทั้งที่รูปเกมและตัวเลขบนจอ ผลบอลสด แสดงชัดว่าเจ้าถิ่นเหนือกว่าทั้งการครองบอลและโอกาสยิง แต่คมไม่พอ ขณะที่ทีมเยือนจากฮอลแลนด์เล่นเนียน ใช้โอกาสไม่กี่ครั้งเปลี่ยนเป็นสกอร์แบบโหดเหี้ยม บ้านกีฬา มองว่านี่คือเกมที่แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางเวลา ลิเวอร์พูล ต้องรับมือเกมสวนกลับเร็วระดับเวทียุโรป
⏱ ครึ่งแรก – จุดโทษเปิดหัว หงส์ตีเจ๊าไวแต่คุมเกมไม่อยู่
เริ่มเกมมาแค่ 6 นาที กองเชียร์เจ้าบ้านต้องช็อก เมื่อแนวรับลิเวอร์พูลเสียจุดโทษ และเป็น อิวาน เปริซิช รับหน้าที่สังหารให้พีเอสวีขึ้นนำ 0-1 แบบเฉียบขาด กีออร์กี มามาร์ดาชวิลี พุ่งถูกทางแต่ปัดไม่ถึง บอลพุ่งเสียบมุมเรียกความมั่นใจให้ทีมเยือนเต็มถัง
อย่างไรก็ตามแอนฟิลด์ยังไม่ยอมเงียบ นาที 16 ดอมินิค โซบอสซ์ไล วิ่งสอดขึ้นมาซัดเต็มข้อจากหน้าเขตโทษ ตีเสมอ 1-1 ให้ลิเวอร์พูล เกมกลับมาเดือดอีกครั้ง ก่อนที่นาที 17 เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะโดนใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม เป็นสัญญาณว่ากองหลังหงส์เริ่มหัวร้อนกับเกมเพรสซิ่งของพีเอสวี
หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล เดินหน้าบุกต่อเนื่อง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ โคดี กัคโป มีจังหวะส่องหลายครั้งแต่เจอ มัตเยย์ โควาร์ นายด่านพีเอสวีโชว์ฟอร์มหนึบ เซฟลูกยากๆ ไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังเท่ากันที่ 1-1 ทั้งๆ ที่เจ้าถิ่นยิงไปแล้ว 2 หลัก
⏱ ครึ่งหลัง – พีเอสวีเปลี่ยนเครื่องติด ดริโอเอชลงมาปิดบัญชี
ครึ่งหลังรูปเกมยังเป็นลิเวอร์พูลที่เดินเกมรุกใส่ แต่พีเอสวีเริ่มอ่านทางได้และฉวยจังหวะเปลี่ยนเกม นาที 56 มาร์ลอน จูเนียร์ ทำชิ่งกับ กุส ทิล หลุดเข้าไปจบสกอร์ไม่พลาด ทีมเยือนพลิกนำ 1-2 ทั้งที่โดนกดอยู่พักใหญ่
อาร์เน่ สลอต แก้เกมทันที นาที 61 ส่ง อเล็กซานเดอร์ อิซัค ลงแทน ฮูโก้ เอคิติเก้ เพื่อเพิ่มความสดในแดนหน้า แต่จุดเปลี่ยนจริงๆ อยู่ที่ฝั่งพีเอสวี นาที 70 ปีเตอร์ บอสซ์ เปลี่ยนคู่หน้า ส่ง ริคาร์โด เปปี และ คูอาอิบ ดริโอเอช ลงสนามแทน กุส ทิล กับ อิวาน เปริซิช
เพียง 3 นาทีหลังลงมา ดริโอเอช ใช้ความเร็วลากตัดเข้าในก่อนกดด้วยซ้ายเสียบเสาสองสุดสวย พีเอสวีหนีเป็น 1-3 นาที 73 ลิเวอร์พูลพยายามเอาคืน ส่ง เฟเดริโก้ เคียซา ลงมาเติมริมเส้น แต่แนวรับทีมเยือนยังรับมือได้ดี
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+1 แฟนหงส์ต้องเงียบกริบทั้งสนามเมื่อ เซอร์จิโน เดสต์ เติมขึ้นมาทางขวาแล้วเปิดให้ ดริโอเอช โฉบโหม่งจ่อๆ เป็นประตูที่สองของตัวเอง ปิดจ๊อบให้พีเอสวีบุกถล่มลิเวอร์พูล 1-4 แบบคมกริบ และคว้าชัยกลับฮอลแลนด์ด้วยสกอร์ที่เจ็บลึกถึงใจเจ้าบ้าน

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริง คะแนน และการเปลี่ยนตัว
🔴 ลิเวอร์พูล (แผน 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- กีออร์กี มามาร์ดาชวิลี (6.2)
กองหลัง
- คอนอร์ เบรดลีย์? (ตามภาพจริง: แบ็กซ้าย) มิลอส เคอร์เคซ (6.1)
- เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม, 6.4)
- อิบราฮิมา โกนาเต้ (5.9)
- เคอร์ติส โจนส์ (6.0)
กองกลางตัวรับ
- ไรอัน กราเวนเบิร์ช (7.4)
- ดอมินิค โซบอสซ์ไล (7.9 – ทำประตูตีเสมอให้ทีม)
ตัวรุกสามคนหลังหน้าเป้า
- โคดี กัคโป (6.7)
- อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (6.8)
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (7.5)
กองหน้าตัวเป้า
- ฮูโก้ เอคิติเก้ (6.2)
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- อเล็กซานเดอร์ อิซัค (6.3) ลงแทน เอคิติเก้ นาที 61
- เฟเดริโก้ เคียซา (6.6) ลงแทน โกนาเต้ นาที 76
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
- เฟร็ดดี้ วูดแมน, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, วาตารุ เอ็นโดะ, เทรย์ นโยนี, ริโอ งูมอฮา, คอร์เนล มิซิอูร์
⚪ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (แผน 4-4-2)
ผู้รักษาประตู
- มัตเยย์ โควาร์ (8.3 – เซฟสำคัญหลายจังหวะ)
กองหลัง
- อานาส ซาลาห์-เอดดิน (6.9)
- ยาคุบ กาซิโอรอฟสกี (7.3)
- แยนดรี เชาต์เทน (กัปตันทีม, 7.6)
- เซอร์จิโน เดสต์ (7.0 – แอสซิสต์ประตู 1-4)
กองกลาง
- ดาเลีย มาน (6.7)
- มาร์ลอน จูเนียร์ (7.0 – ทำประตูนำ 1-2)
- โจอี้ เฟียร์มัน (6.6)
- อิสมาเอล ไซบารี (7.5)
กองหน้า
- กุส ทิล (7.5 – ทำเกมและแอสซิสต์สำคัญ)
- อิวาน เปริซิช (6.7 – ยิงจุดโทษขึ้นนำ 0-1)
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- ริคาร์โด เปปี (6.6) ลงแทน ทิล นาที 70
- คูอาอิบ ดริโอเอช (9.1 – ลงแทน เปริซิช นาที 70 ยิง 2 ประตู)
- เอสมีร์ บาจรักตาเรวิช ลงแทน ดาเลีย มาน นาที 89
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
- นิค โอลาย, ตีน สมอเลนาร์ส, อาร์มันโด โอบิสโป, ไรอัน ฟลามินโก, คิเลียน ซิดลิลเดีย, อดาโม นากาโล, พอล วานเนอร์, โนอาห์ เฟร์นานเดซ, ไมรอน โบดู
ผู้ตัดสิน
- อเลฆานโดร เอร์นานเดซ
ผู้จัดการทีม
- ลิเวอร์พูล: อาร์เน่ สลอต
- พีเอสวี: ปีเตอร์ บอสซ์
นักเตะโดดเด่น
- ลิเวอร์พูล: ดอมินิค โซบอสซ์ไล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ไรอัน กราเวนเบิร์ช
- พีเอสวี: คูอาอิบ ดริโอเอช, มัตเยย์ โควาร์, แยนดรี เชาต์เทน
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในเชิงแท็กติก หากมองด้วยมุมมองของการ วิเคราะห์บอล เกมนี้ ลิเวอร์พูล วางระบบ 4-2-3-1 เน้นคุมแดนกลางด้วยคู่ห้องเครื่อง โซบอสซ์ไล – กราเวนเบิร์ช ให้ขยับขึ้นลงเชื่อมเกมกับสามตัวรุกด้านหน้า จุดแข็งคือการเคลื่อนที่รับส่งบอลเร็ว ครองบอลได้ถึง 58% และผ่านบอลมากกว่าเกือบเท่าตัว แต่ปัญหาคือจังหวะสุดท้ายไม่คมพอและการยืนโซนเกมรับเมื่อเสียบอลยังหลวม เปิดพื้นที่ให้พีเอสวีฉกฉวยเล่นสวนกลับ
แนวรับหงส์แดงยืนไลน์สูง ฟาน ไดค์ กับ โกนาเต้ ต้องวิ่งถอยหลังตลอด เมื่อโดนเจาะช่องว่างระหว่างฟูลแบ็กกับเซ็นเตอร์ ขณะที่โครงสร้างเกมรับแดนกลางขาดตัวตัดเกมธรรมชาติ ทำให้เวลาพีเอสวีตัดบอลได้ มิดฟิลด์อย่าง จูเนียร์ หรือ ไซบารี สามารถหันหน้าเข้าหาประตูได้ทันที
ด้านพีเอสวี ใช้ระบบ 4-4-2 ที่ยืดหยุ่น เปิดเกมรุกจากริมเส้นทั้งสองฝั่ง โดย เดสต์ กับ ซาลาห์-เอดดิน เติมสูงค้ำกับวิงเกอร์เพื่อสร้างสถานการณ์สองต่อหนึ่งใส่ฟูลแบ็กลิเวอร์พูล จุดเด่นคือการเปลี่ยนแกนเร็วและการวิ่งทำทางของ ทิล กับ เปริซิช ช่วงครึ่งแรก ซึ่งดึงไลน์เซ็นเตอร์เจ้าถิ่นให้แตกออก
ครึ่งหลัง บอสซ์กล้าเสี่ยงด้วยการส่ง เปปี และ ดริโอเอช ลงมาใช้สปีดเล่นกับพื้นที่ด้านหลังแนวรับหงส์แดง ทำให้แผงหลังลิเวอร์พูลเละเทะทันที การรับของพีเอสวีแม้จะถอยต่ำแต่มีวินัย เกมเพรสซิ่งโซนกลางรัดกุม ปิดช่องยิงในกรอบเขตโทษ ทำให้แม้ลิเวอร์พูลจะสร้างโอกาส 24 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นประตูได้แค่ลูกเดียว ต่างจากพีเอสวีที่ใช้ 9 ครั้งยิงได้ถึง 4 ลูก แสดงให้เห็นถึงคุณภาพในการจบสกอร์และการตัดสินใจในจังหวะสำคัญที่เหนือกว่า

📊 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมบอกเรื่องราวได้ชัด ลิเวอร์พูลยิงไปถึง 24 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครั้ง ขณะที่พีเอสวีมีโอกาสยิงเพียง 9 ครั้งแต่เข้ากรอบถึง 6 ครั้ง และเปลี่ยนเป็น 4 ประตู ความคมจึงเป็นจุดชี้ขาดอย่างแท้จริง เจ้าถิ่นครองบอล 58% ผ่านบอลสำเร็จ 548 ครั้ง ด้วยความแม่นยำสูงถึง 91% แต่ทีมเยือนแม้จะครองบอลเพียง 42% ผ่านบอล 282 ครั้ง ความแม่นยำ 86% ก็เพียงพอสำหรับการเล่นสวนกลับเร็วที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ในเชิงเกมรับ ลิเวอร์พูลทำฟาวล์ 8 ครั้ง ได้ใบเหลือง 1 ใบ ขณะที่พีเอสวีฟาวล์ 9 ครั้งแต่ไม่มีใบเหลืองเลย แสดงให้เห็นถึงการเข้าสกัดที่ค่อนข้างเคลียร์บอลได้เนียนกว่า ลูกเตะมุมเจ้าบ้านมากถึง 11 ครั้ง เทียบกับพีเอสวีแค่ 4 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลขที่ตอกย้ำว่าหงส์แดงไม่เฉียบคมพอในเกมนี้
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 6′ พีเอสวีขึ้นนำ 0-1 จากลูกจุดโทษ อิวาน เปริซิช ซัดไม่เหลือ
- ⚽ 16′ ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1 ดอมินิค โซบอสซ์ไล ซัดไกลสุดแรงผ่านมือโควาร์
- 🟨 17′ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รับใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม
- ⚽ 56′ พีเอสวีพลิกนำ 1-2 มาร์ลอน จูเนียร์ ทำประตูจากจังหวะประสานงานกับกุส ทิล
- 🔁 61′ ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัว ส่ง อเล็กซานเดอร์ อิซัค ลงแทน ฮูโก้ เอคิติเก้
- 🔁 70′ พีเอสวีปรับแนวรุก เปปี ลงแทน ทิล และ ดริโอเอช ลงแทน เปริซิช
- ⚽ 73′ คูอาอิบ ดริโอเอช ลากตัดเข้าในก่อนซัดเสียบเสา พีเอสวีหนี 1-3
- 🔁 76′ ลิเวอร์พูลส่ง เฟเดริโก้ เคียซา ลงแทน อิบราฮิมา โกนาเต้ เพื่อเติมความจัดจ้านริมเส้น
- 🔁 89′ พีเอสวีส่ง เอสมีร์ บาจรักตาเรวิช ลงแทน ดาเลีย มาน เพื่อปิดเกม
- ⚽ 90+1′ ประตูตอกฝาโลง ดริโอเอช โหม่งระยะเผาขนจากการเปิดของ เซอร์จิโน เดสต์ ทำให้พีเอสวีชนะขาด 1-4
⭐ Player of the Match – คูอาอิบ ดริโอเอช ตัวสำรองที่เปลี่ยนเกม
ตำแหน่ง Man of the Match แบบไร้ข้อกังขาตกเป็นของ คูอาอิบ ดริโอเอช ปีกความเร็วสูงของพีเอสวีที่ได้รับคะแนนโหวตถึง 9.1 ทั้งที่ลงสนามมาเพียงครึ่งชั่วโมง ดริโอเอช เติมมิติใหม่ให้เกมรุกทีมเยือนทันทีที่ถูกส่งลงมา วิ่งไล่ฉีกแนวรับลิเวอร์พูลจนเละ สร้างโอกาสหลายครั้ง และจบด้วยการกดสองประตูทั้งลูกยิงเองและลูกโหม่งปิดกล่อง บ้านกีฬา มองว่าเขาคือจุดแตกหักของเกม เพราะทำให้ฟาน ไดค์ กับเพื่อนเซ็นเตอร์ไม่กล้าดันสูงเหมือนเดิม เปิดทางให้พีเอสวีคุมเกมสวนกลับได้หมดจด

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
หลังผ่าน 5 นัดในรอบลีกแบบตารางรวม ลิเวอร์พูลหล่นลงไปอยู่อันดับ 13 มี 9 คะแนน จากผลงานชนะ 3 แพ้ 2 ยิงได้ 9 เสีย 8 ผลต่างประตูได้เสีย +1 ฟอร์ม 5 นัดหลังในกลุ่มทีมยุโรปยังถือว่าขึ้นๆ ลงๆ และความพ่ายแพ้คาบ้านเกมนี้ทำให้แรงกดดันถาโถมเข้าใส่ทีมของสลอตเต็มๆ
ด้านพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนน จากผลงานชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ถึง 13 ประตู เสีย 8 ประตู ผลต่าง +5 ขยับขึ้นมาอยู่แถวกลางบนของตาราง มีลุ้นเบียดโควตาเข้ารอบน็อกเอาต์อย่างเต็มตัว หากรักษามาตรฐานเกมรุกเฉียบคมแบบนัดนี้ต่อไปได้ โอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ในช่วงโค้งสุดท้ายของรอบลีกก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
📅 ตารางบอล และโปรแกรมนัดถัดไปของสองทีม
เมื่อมองไปที่โปรแกรมจาก ตารางบอล ล่าสุด ลิเวอร์พูลยังต้องรีบเรียกความมั่นใจกลับมาก่อนกลับไปลุยพรีเมียร์ลีก โดยมีเกมหนักไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด วันที่ 30/11/25 เวลา 21.05 น. จากนั้นกลับมาเล่นในแอนฟิลด์พบ ซันเดอร์แลนด์ วันที่ 04/12/25 เวลา 03.15 น. สองเกมนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญว่าหงส์แดงจะฟื้นจากแผลยุโรปได้เร็วแค่ไหน
ขณะที่ พีเอสวี ต้องหันไปโฟกัสเวทีลีกดัตช์ เริ่มจากเปิดบ้านรับการมาเยือนของ โฟเลนดัม วันที่ 30/11/25 เวลา 18.15 น. ก่อนจะบุกเยือน ฮีเรนวีน วันที่ 06/12/25 เวลา 22.30 น. หากรักษาระดับการเล่นจากเกมนี้ได้ โอกาสโกยแต้มยึดหัวตารางเอเรดิวิซีถือว่าสดใสมาก
🏠 ติดตามบ้านผลบอล และความเคลื่อนไหวฟุตบอลได้ที่บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากตามเช็กสกอร์สด เช็กฟอร์มทีมรัก และเกาะทุกประเด็นร้อนจากทั้งเวทียุโรปและบอลลีกทั่วโลก อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล และบทวิเคราะห์สไตล์จัดจ้านจาก บ้านกีฬา เราจะเกาะทุกสนาม อัปเดตทุกสกอร์ทุกจังหวะสำคัญให้แบบละเอียดเหมือนนั่งดูข้างสนาม เพื่อไม่ให้คุณพลาดแม้แต่นัดเดียว

