
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง โอลิมเปียกอส ไพรีอัส 3-4 เรอัล มาดริด วันนี้ 27/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกค่ำคืนเดือดที่พีเรียส จบลงด้วยชัยชนะของ เรอัล มาดริด ที่บุกเฉือน โอลิมเปียกอส ไพรีอัส 4-3 ในเกมที่แฟนบอลสายเช็กสกอร์แบบ ผลบอลสด แทบไม่ได้หายใจ เพราะสกอร์ไหลกันไม่พัก และเต็มไปด้วยจังหวะพลิกไปมาทั้งเกม บ้านกีฬา ขอพาเกาะทุกช็อตแบบละเอียดสาย บ้านผลบอล ต้องถูกใจแน่นอน
เรอัล มาดริด ยิงนำขาดถึง 3-1 ตั้งแต่ครึ่งแรก จากแฮตทริกฉับไวของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ก่อนที่ครึ่งหลัง โอลิมเปียกอส จะฮึดคืนสองลูกจาก เมห์ดี้ ทาเรมี และ อายูบ เอล คาบี ไล่กดดันจน “ราชันชุดขาว” ต้องเอาตัวรอดแบบหืดจับ แต่สุดท้ายยังรักษาสกอร์ 4-3 เก็บสามแต้มสำคัญกลับมาดริดได้สำเร็จ
🕒 ครึ่งแรก: เอ็มบัปเป้โชว์โหด กดแฮตทริกใน 7 นาที
เริ่มเกม โอลิมเปียกอสเปิดฉากกดดันใส่เสียงเชียร์จากแฟนบอลเต็มสนาม และมาได้ประตูนำเร็ว 1-0 นาทีที่ 8 จากจังหวะต่อบอลฝั่งขวา อายูบ เอล คาบี ไหลต่อให้ ชิควินโญ่ หลุดยิงไม่เหลือ เจ้าถิ่นกดดันทีมเยือนเต็มสูบ
แต่หลังเสียประตู เรอัล มาดริด ไม่เสียทรง ใช้การครองบอลเหนือกว่าและจังหวะสวนกลับความเร็วสูง ก่อนที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ จะเริ่มเปิดโหมดพระเอก นาที 22 รับบอลจากเพื่อนหลุดเข้าไปยิงตีเสมอ 1-1
ความมันส์ยังไม่หยุด นาที 24 เอ็มบัปเป้ใช้ความเร็วฉีกแนวรับอีกครั้ง ก่อนซัดแสกหน้า ตโซลากิส ให้ราชันพลิกนำ 2-1 จากนั้นเพียงอีกไม่กี่อึดใจ นาที 29 สตาร์ฝรั่งเศสทำแฮตทริกได้สำเร็จ ยิงลูกที่สามของตัวเองให้สกอร์ไหลเป็น 3-1 ทำเอาแนวรับโอลิมเปียกอสแตกกระเจิง
ท้ายครึ่งแรก โอลิมเปียกอสพยายามตั้งเกมสู้ และมีจังหวะทำฟาวล์หนักของ ฟรานซิสโก ออร์เตก้า ใส่ผู้เล่นมาดริด แต่ยังเอาคืนไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก เรอัล มาดริด บุกนำ 3-1 รูปเกมบอกชัดว่าจังหวะเข้าทำและคุณภาพแดนหน้า “ราชัน” อยู่คนละระดับ
🔁 ครึ่งหลัง: เจ้าถิ่นฮึดเกือบแชร์แต้ม แต่เอ็มบัปเป้ยังปิดจ๊อบ
ลงครึ่งหลัง โอลิมเปียกอสแก้เกมทันที ส่ง ดานิเอเล ซานติอาโก เฮซเซ และ เมห์ดี้ ทาเรมี ลงมาเพิ่มมิติในแดนกลางและแดนหน้า การเปลี่ยนตัวได้ผล นาที 52 ทาเรมีหลุดเข้าไปยิงจ่อ ๆ ไล่มาเป็น 2-3 ให้เกมกลับมาลุ้นเดือดทั้งสนาม
เรอัล มาดริดตอบโต้ด้วยการปรับแดนกลาง ส่ง ดานี เซบาญอส แทน เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า เพื่อเพิ่มการพักบอล แต่เอ็มบัปเป้ยังไม่หยุด นาที 59 เจ้าตัวสอดขึ้นไปรับบอลจาก วินิซิอุส จูเนียร์ แล้วซัดประตูที่ 4 ของตัวเอง และประตูที่ 4 ของทีม นำห่าง 4-2 ทำให้แนวรับโอลิมเปียกอสต้องถอยกันทั้งแผง
ท้ายเกม เจ้าถิ่นไม่ยอมแพ้ โหมบุกด้วยการโยนและเจาะด้านข้าง นาที 81 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮอีกครั้ง เมื่อ กาเบรียล สเตรเฟซซา เปิดให้ อายูบ เอล คาบี โหม่งจ่อ ๆ ตุงตาข่าย ไล่มา 3-4 และช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็ยังบุกต่อเนื่อง แต่แนวรับมาดริดกับ อันเดรย์ ลูนิน ยืนกันเหนียว สุดท้ายจบเกมด้วยชัยชนะแบบหวาดเสียวของทีมเยือน 4-3

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔴 โอลิมเปียกอส ไพรีอัส (4-2-3-1) – เรตติ้ง Sofascore
ผู้รักษาประตู
- 88 คอนสแตนตินอส ตโซลากิส – 5.7
กองหลัง
- 3 ฟรานซิสโก ออร์เตก้า – 5.4
- 5 โลเรนโซ่ ปีโรลา – 5.9
- 45 (กัปตัน) พานาโยติส เรตซอส – 5.7
- 23 โรดิเนย์ – 6.4
กองกลางตัวรับ/เชื่อมเกม
- 96 คอนสแตนตินอส มูซากิติส – 6.9
- 14 ดานี การ์เซีย – 6.5
กองกลางตัวรุกและริมเส้น
- 56 ดาเนียล โพเดนซ์ – 6.3
- 10 กาเบรียล มาร์ตินส์ – 6.5
- 22 ชิควินโญ่ – 7.4 (ยิง 1 ประตู เปิดหัวเกมสุดคม)
กองหน้า
- 9 อายูบ เอล คาบี – 7.4 (ยิง 1 ประตูช่วงท้ายเกม)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 99 เมห์ดี้ ทาเรมี – 7.7 (ลงนาที 28’ แทน ชิควินโญ่ / ยิง 1 ประตูสำคัญไล่เป็น 2-3)
- 32 ซานติอาโก เฮซเซ – 6.7 (ลงนาที 52’ แทน ดานี การ์เซีย แอสซิสต์ประตูของทาเรมี)
- 4 จูลิยอง เบียงโกเน่ – 7.6 (ลงนาที 62’ แทน ปีโรลา เพิ่มความแข็งแกร่งแนวรับ)
- 20 คอสตินญา – 6.8 (ลงนาที 72’ แทน โรดิเนย์)
- 27 กาเบรียล สเตรเฟซซา – 6.7 (ลงนาที 72’ แทน โพเดนซ์ แอสซิสต์ประตู 3-4 ให้เอล คาบี)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
โบติส, คาลอเฆโรปูลอส, โอนเยมาเอกี, นาสซิเมนโต้, สคิปิโอนี, ยาเรมชุก, พเนฟมนิดิส
⚪ เรอัล มาดริด (4-2-3-1) – เรตติ้ง Sofascore
ผู้รักษาประตู
- 13 อันเดรย์ ลูนิน – 6.3
กองหลัง
- 12 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – 6.7 (เติมเกมรุกฝั่งขวาเรื่อย ๆ)
- 17 ราอูล อาเซนซิโอ – 6.5
- 18 อเล็กซ์ การ์เรราส – 6.5
- 23 แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – 6.2
กองกลางตัวรับ/เชื่อมเกม
- 6 เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า – 7.4 (อ่านเกมดี มีส่วนกับจังหวะบุกหลายครั้ง)
- 14 ออเรลิย็อง ชูอาเมนี่ – 7.5 (ตัดเกมและเชื่อมแดนกลางยอดเยี่ยม)
มิดฟิลด์ตัวรุกและริมเส้น
- 8 (กัปตัน) เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ – 6.1
- 15 อาร์ดา กูเลอร์ – 6.5
- 7 วินิซิอุส จูเนียร์ – 7.6 (ทำแอสซิสต์และสร้างปัญหาให้แนวรับเจ้าบ้าน)
กองหน้า
- 10 คีเลียน เอ็มบัปเป้ – 10.0 (ยิง 4 ประตู สร้างความต่างทั้งเกม)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 19 ดานี เซบาญอส – 6.2 (ลงนาที 46’ แทน คามาวิงก้า ช่วยคุมจังหวะเกมกลางสนาม)
- 5 จู๊ด เบลลิงแฮม – 6.7 (ลงนาที 61’ แทน กูเลอร์ เพิ่มความแข็งแรงแดนกลาง)
- 21 บราฮิม ดิอาซ – 6.1 (ลงนาที 73’ แทน อาเซนซิโอ เติมความคล่องตัวริมเส้น)
- 20 ฟราน การ์เซีย – 6.3 (ลงนาที 90’ แทน วินิซิอุส ช่วยปิดเกมริมเส้น)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
ฟราน กอนซาเลซ, ฆาเบียร์ นาบาร์โร, โรดรีโก้, เอ็นดริก, กอนซาโล การ์เซีย
นักเตะโดดเด่น
ฝั่งโอลิมเปียกอส ต้องยกให้ เมห์ดี้ ทาเรมี, จูลิยอง เบียงโกเน่ และ อายูบ เอล คาบี ที่ช่วยให้ทีมกลับมามีลุ้น ส่วน เรอัล มาดริด แน่นอนว่า คีเลียน เอ็มบัปเป้ และ ออเรลิย็อง ชูอาเมนี่ ขับเคลื่อนเกมได้เหนือชั้น
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้ทั้งสองทีมยืนระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน แต่คุณภาพในรายละเอียดคือจุดตัดสินชัย ตามสาย วิเคราะห์บอล แล้ว โอลิมเปียกอสเน้นบีบเพรสซิ่งช่วงต้นเกม ใช้ เอล คาบี ยืนหน้าเป้าให้ ชิควินโญ่, โพเดนซ์ และ มาร์ตินส์ ขยับเชื่อมระหว่างไลน์ กลยุทธ์คือบุกเร็วจากริมเส้น แล้วโยนหรือตัดเข้าในหาช่องยิง ผลคือได้ประตูนำและส่องไปถึง 19 ครั้ง แต่ปัญหาคือแนวรับดันสูงแล้วถอยไม่ทัน เมื่อเจอสปีดและการวิ่งตัดหลังของเอ็มบัปเป้
ฝั่งเรอัล มาดริด เล่นแบบราชันตัวจริง ครองบอลด้วยคู่มิดฟิลด์ คามาวิงก้า–ชูอาเมนี่ ที่จ่ายบอลสั้นแม่นยำถึง 91% และคอยสวิตช์บอลออกข้างให้ วินิซิอุส กับ กูเลอร์ คอยลากเจาะริมเส้น ช่องว่างที่เกิดระหว่างฟูลแบ็กกับเซ็นเตอร์ของโอลิมเปียกอสถูกใช้จนคุ้ม แฮตทริกในครึ่งแรกของเอ็มบัปเป้เกิดจากการวิ่งหาช่องระดับเวิลด์คลาส และการจ่ายทะลุไลน์แนวรับที่เฉียบขาด
ในเกมรับ โอลิมเปียกอสพยายามตั้งโซนลึกลงในครึ่งหลังเมื่อโดนนำขาด แต่การสื่อสารแนวรับยังมีช่องหลุดให้เห็นบ่อย โดยเฉพาะระหว่างคู่เซ็นเตอร์กับฟูลแบ็ก ส่วนมาดริดแม้จะครองบอลมากกว่า แต่เมื่อตั้งรับก็เลือกบีบกลางสนาม ปล่อยให้โอลิมเปียกอสโยนจากด้านข้างแล้วไปชนะลูกกลางอากาศในกรอบ อย่างไรก็ตามช่วงท้ายเกมเมื่อเปลี่ยน คามาวิงก้า ออก ความแน่นของแดนกลางลดลงเล็กน้อย ทำให้เจ้าถิ่นมีพื้นที่เล่นมากขึ้นและไล่สกอร์จนเกือบตามทัน
โดยรวม เกมรุกของมาดริดเฉียบคมกว่าจากประสิทธิภาพในการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู ส่วนเกมรับแม้จะเสียถึงสามลูก แต่เมื่อดูรูปเกมและจำนวนโอกาสของเจ้าถิ่น ก็ถือว่าราชันยังเอาตัวรอดได้ดีในเกมเยือนสุดกดดันแบบนี้

📈 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพชัดเจน โอลิมเปียกอสยิงมากกว่า 19 ต่อ 13 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ต่อ 5 แสดงให้เห็นว่าพวกเขากดดันแนวรับมาดริดได้จริง แต่เรอัล มาดริดถือบอลเหนือกว่าด้วยการครองบอล 58% ต่อ 42% ส่งบอลรวมกว่า 508 ครั้ง เทียบกับเจ้าถิ่น 312 ครั้ง และมีความแม่นยำในการส่งสูงถึง 91% ซึ่งช่วยให้ทีมคุมจังหวะเกมได้เนียนกว่า
ด้านเกมรับ โอลิมเปียกอสทำฟาวล์ 12 ครั้ง รับใบเหลือง 1 ใบ ขณะที่มาดริดทำฟาวล์เพียง 6 ครั้ง แต่โดนใบเหลือง 2 ใบ แสดงให้เห็นสไตล์เข้าบอลหนักแบบ “ต้องตัดก่อนหลุด” โดยเฉพาะในช่วงที่ถูกไล่กดดัน ส่วนลูกเตะมุม เจ้าถิ่นได้ 3 ครั้ง ทีมเยือนได้ 5 ครั้ง บ่งบอกถึงการบุกจากด้านข้างของมาดริดที่ไหลลื่นกว่าเล็กน้อย แม้สกอร์จะสูสีจนถึงวินาทีสุดท้ายก็ตาม
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽️ 8′ โอลิมเปียกอสขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะ อายูบ เอล คาบี จ่ายให้ ชิควินโญ่ ซัดไม่เหลือ
- ⚽️ 22′ เรอัล มาดริดตีเสมอ 1-1 คีเลียน เอ็มบัปเป้ หลุดเดี่ยวกดผ่านมือนายทวารเจ้าถิ่น
- ⚽️ 24′ เอ็มบัปเป้ยิงประตูที่สองของตัวเอง พลิกสกอร์ให้มาดริดนำ 2-1
- ⚽️ 29′ เอ็มบัปเป้ทำแฮตทริกในเวลาเพียง 7 นาที สกอร์ไหลเป็น 3-1 ให้ราชันชุดขาว
- 🟨 23′ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดเกมกลางสนาม
- ⛔️ 33′ วินิซิอุส จูเนียร์ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ถูก VAR ยกเลิกประตู
- 🟨 40′ ฟรานซิสโก ออร์เตก้า โดนใบเหลืองจากการฟาวล์หนักริมเส้น
- 🔁 46′ เรอัล มาดริดเปลี่ยน ดานี เซบาญอส ลงมาแทน คามาวิงก้า เพื่อคุมแดนกลาง
- 🔁 52′ โอลิมเปียกอสส่ง ซานติอาโก เฮซเซ ลงแทน ดานี การ์เซีย
- ⚽️ 52′ เมห์ดี้ ทาเรมี ยิงไล่มาเป็น 2-3 จากการแอสซิสต์ของเฮซเซ จุดไฟในสนามกลับมาลุกโชน
- 🟨 56′ อาร์ดา กูเลอร์ ทำฟาวล์หนักกลางสนาม รับใบเหลือง
- ⚽️ 59′ เอ็มบัปเป้ซัดประตูที่ 4 ของตัวเอง จากการประสานงานกับวินิซิอุส สกอร์ห่างเป็น 4-2
- 🔁 61′ จู๊ด เบลลิงแฮม ลงสนามแทน กูเลอร์ เสริมความดุดันแดนกลางให้มาดริด
- 🔁 62′ โอลิมเปียกอสส่ง จูลิยอง เบียงโกเน่ แทน ปีโรลา เพื่ออุดแนวรับ
- 🔁 72′ เจ้าถิ่นเปลี่ยนสองคนรวด ส่ง คอสตินญา แทน โรดิเนย์ และ กาเบรียล สเตรเฟซซา แทน โพเดนซ์ เพื่อเร่งเกมรุก
- 🔁 73′ เรอัล มาดริดส่ง บราฮิม ดิอาซ แทน อาเซนซิโอ เติมความเร็วริมเส้น
- ⚽️ 81′ โอลิมเปียกอสไล่มา 3-4 จากการโหม่งของ อายูบ เอล คาบี รับบอลครอสจาก สเตรเฟซซา
- 🔁 90′ ฟราน การ์เซีย ลงมาแทน วินิซิอุส เพื่อช่วยปิดเกมริมเส้นให้มาดริด
- ⏱ 90+’ ทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่นโหมบุกแต่ไม่สามารถเจาะแนวรับราชันได้ จบเกมที่สกอร์ 3-4
🌟 Player of the Match – คีเลียน เอ็มบัปเป้
รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมนี้ไม่มีใครกล้าแย่งจาก คีเลียน เอ็มบัปเป้ ได้เลย ด้วยเรตติ้งเต็ม 10 จาก Sofascore สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศสกดคนเดียว 4 ประตู แทบทุกครั้งที่บอลหลุดมาถึงเขา แนวรับโอลิมเปียกอสต้องระส่ำ ทั้งสปีดต้นอันจัดจ้าน การวิ่งตัดไลน์เซ็นเตอร์ และความเยือกเย็นจังหวะจบสกอร์ เป็นตัวอย่างชั้นดีของกองหน้าระดับท็อปของโลก
นอกจากจำนวนประตู เอ็มบัปเป้ยังช่วยดึงตัวประกบ เปิดพื้นที่ให้ วินิซิอุส และแผงมิดฟิลด์ทำเกมได้ง่ายขึ้น เห็นชัดว่าเมื่อไหร่ที่เขาได้บอลตรงหน้าเขตโทษ ความหวังของมาดริดแทบจะกลายเป็นประตูทุกครั้ง เกมนี้จึงเป็นเหมือนการประกาศอย่างเป็นทางการว่า “ยุคใหม่ของราชัน” กำลังถูกแบกด้วยเบอร์ 10 คนนี้อย่างแท้จริง

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
สามแต้มจากชัยชนะนัดนี้ทำให้ เรอัล มาดริด เก็บได้ 10 คะแนนจาก 5 นัด ขยับขึ้นไปอยู่กลุ่มบนของตารางรวมรอบลีกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มีลุ้นเบียดแย่งตำแหน่งท็อปโฟร์เพื่อต่อยอดไปสู่รอบน็อกเอาต์แบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อยในเกมสุดท้าย
ในทางกลับกัน โอลิมเปียกอส ยังจมอยู่โซนท้ายตาราง มีเพียง 2 แต้มจาก 5 นัด ต้องลุ้นหนักในช่วงที่เหลือ หากหวังโอกาสเล็ก ๆ ในการไต่อันดับไปโซนโควต้าแข่งขันยุโรปฤดูกาลหน้า เกมต่อไปทุกนัดของทีมกรีกจึงแทบกลายเป็น “นัดชิงเล็ก ๆ” ไปโดยปริยาย
📅 ตารางบอล และโปรแกรมนัดถัดไปของทั้งสองทีม
แม้ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกจะเข้มข้น แต่โปรแกรมบอลของทั้งสองทีมยังแน่นต่อเนื่อง สำหรับแฟนสายเช็ก ตารางบอล ต้องจดไว้ให้ดี
ฝั่งโอลิมเปียกอส มีคิวบุกไปเยือน พาเนโทลิคลอส ในศึก Stoiximan Super League วันที่ 30/11 ก่อนกลับมาเล่นบอลถ้วย Greek Football Cup เยือน เอลลาส ไซรู วันที่ 03/12 ซึ่งทั้งสองนัดถือว่าสำคัญต่อการเรียกความมั่นใจหลังเพิ่งเจ็บตัวจากการพ่ายมาดริดในบ้าน
ส่วน เรอัล มาดริด จะหันไปโฟกัสศึกลาลีกา เริ่มจากบุกเยือน กิโรน่า วันที่ 01/12 และตามด้วยเกมใหญ่เยือน แอธเลติก คลับ วันที่ 04/12 ซึ่งทั้งสองแมตช์ในลาลีกาอาจมีผลโดยตรงต่อการล่าแชมป์ลีกสเปนของราชัน ถ้าเอ็มบัปเป้คงฟอร์มแบบเกมนี้ได้ เราอาจได้เห็นสกอร์โหด ๆ ต่อเนื่องในโปรแกรมลีกเช่นกัน
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และความมันส์ลูกหนังได้ที่ บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากตามทุกช็อตเดือดแบบสดใหม่ ทั้งไฮไลต์, สถิติเกม, บทวิเคราะห์เจาะลึก และสกอร์แบบเรียลไทม์สไตล์ บ้านผลบอล ไม่ควรพลาด บ้านกีฬา เรารวบรวมทุกแมตช์ใหญ่ ทุกลีกดัง มาเสิร์ฟให้แบบครบจบที่เดียว ใครอยากรู้ว่าคืนนี้ทีมรักยิงกี่ลูก ใครฟอร์มหลุด ใครเป็นฮีโร่ เข้ามาเช็กที่ บ้านกีฬา แล้วคุณจะไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของโลกฟุตบอล

