
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง นาโปลี 2-0 คาราบัค วันนี้ 26/11/68 – บ้านกีฬา
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ค่ำคืนฟุตบอลยุโรปที่เนเปิลส์ นาโปลีของอันโตนิโอ คอนเต้ เปิดบ้านจัดหนักใส่คาราบัค ก่อนปิดบัญชีด้วยสกอร์ 2-0 จากประตูของสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์และลูกทำเข้าประตูตัวเองของมาร์โก ยานโควิช เกมนี้อาจไม่ได้ถล่มเละ แต่รูปเกมและจังหวะดราม่าทั้งใบเหลือง-ลูกเซฟโหดของโกลทีมเยือน ทำให้แฟนบอลที่ตามเช็ก ผลบอลสด กันหน้าจอหายใจไม่ทั่วท้องตลอด 90 นาที
🔵 ครึ่งแรก: นาโปลีลุยแหลกแต่ติดกำแพงโคชาลสกี
เปิดฉากมานาโปลีในระบบ 3-4-2-1 เดินเกมบุกทันที ใช้การต่อบอลสั้นจากคู่กลาง ลาโบตก้า–แม็คโทมิเนย์ ควบคู่กับการฉีกออกริมเส้นของโอลิเวร่าและดานิโล เนเรส เพื่อเปิดพื้นที่ให้ราสมุส ฮอยลุนด์ได้ปักหลักในเขตโทษ
แม้สถิติจะบอกว่านาโปลียิงแค่ 12 ครั้ง แต่แต่ละลูกมีน้ำหนักและคุณภาพ โดยเฉพาะลูกโหม่งและยิงไกลที่บังคับให้มาเตอุส โคชาลสกี นายด่านคาราบัคโชว์ซูเปอร์เซฟหลายครั้ง ฝั่งทีมเยือนแม้จะครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อยแต่แทบไม่มีโอกาสจะแจ้ง เน้นสวนกลับจากความเร็วของลูคัส อันดราเด้ และอาเด็ม โซูบีร์เป็นหลัก
นาที 43 คาราบัคมาโดนใบเหลืองแรกจากคามิล เมดินา ที่ไปรวบคู่แข่งกลางสนาม เป็นสัญญาณว่าความกดดันเริ่มถาโถม ก่อนจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0 แต่รูปเกมชัดเจนว่าบ้านใครบ้านมัน นาโปลีบุกข้างเดียว ส่วนแฟน บ้านผลบอล ที่กำลังเช็กสถิติก็รู้เลยว่าประตูแรกกำลังมา
🔥 ครึ่งหลัง: แม็คโทมิเนย์ปลดล็อก ก่อนยานโควิชทำเข้าประตูตัวเอง
ครึ่งหลังรูปเกมยังเป็นของนาโปลีเหมือนเดิม จนนาที 50 โนอาห์ ลัง โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ตัดเกม แต่แท็คติกของคอนเต้ยังไม่เปลี่ยน ใช้ความดุดันกลางสนามบดต่อเนื่อง
นาที 55 มาร์โก ยานโควิชของคาราบัคไปตัดฟาวล์หนักจนโดนใบเหลือง และแค่ไม่กี่อึดใจ นาที 56 ฮอยลุนด์เกือบเบิกสกอร์แต่โดนโคชาลสกีปัดออกไปอย่างเหลือเชื่อ
เกมมาพลิกสำคัญนาที 65 เมื่อบอลครอสทางซ้ายถูกสกัดมาเข้าทางสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แต่งหนึ่งจังหวะแล้วกดเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบเสาอย่างเฉียบขาด นาโปลีขึ้นนำ 1-0 สนามระเบิดเสียงเฮทันที
คาราบัคพยายามเร่งเกมแต่กลับซวยซ้ำ นาที 72 ลูกครอสด้านขวาของนาโปลีไปเข้าทางยานโควิชที่พยายามเคลียร์แต่โดนผิดเหลี่ยมกลายเป็นเข้าประตูตัวเองให้เจ้าบ้านหนีเป็น 2-0 ชนิดแฟนทีมเยือนกุมหัวกันทั้งแถบ
ช่วงท้ายคอนเต้ส่งเอลมาสและลูกก้าเติมความสดแดนหน้า ก่อนเปลี่ยนฮวน เฮซุสและเวอร์การ่า ลงมาปิดเกมในช่วงทดเวลา คาราบัคแม้จะพยายามเปิดหน้าบุกแต่ก็เจอเกมรับแน่นๆ ของราห์มานีและดี โลเรนโซ่ จบเกมนาโปลีเก็บสามแต้มสำคัญในถิ่นแบบสุดเข้ม

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน Sofascore
🔹 นาโปลี (3-4-2-1) เรตติ้งทีม 7.06
ผู้รักษาประตู
- วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช 7.3
กองหลัง 3 คน
- อเลสซานโดร บูโอนจอร์โน 7.0
- อามีร์ ราห์มานี 8.0
- ซามูเอล เบาเคมา 7.1
มิดฟิลด์ตัวกลางและวิงแบ็ก
- มาเธียส โอลิเวร่า (วิงซ้าย) 7.2
- สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ 7.6 (ทำประตู 1-0 นาที 65)
- สตานิสลาฟ ลาโบตก้า 7.2
- โจวานนี ดิ โลเรนโซ่ (กัปตัน/วิงขวา) 7.7
ตัวรุกด้านหลังหน้าเป้า
- โนอาห์ ลัง 7.2 (ใบเหลือง น.50)
- ดานิโล เนเรส 6.8
กองหน้า
- ราสมุส ฮอยลุนด์ 5.9
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- มัตเตโอ โปลิตาโน 7.0 (น.64 แทน เบาเคมา)
- เอลยิฟ เอลมาส 6.5 (น.75 แทน ลัง)
- ลอเรนโซ่ ลูกกา 6.4 (น.75 แทน ฮอยลุนด์)
- ฮวน เฮซุส (น.90 แทน บูโอนจอร์โน)
- อันโตนิโอ เวอร์การ่า (น.90 แทน เนเรส)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
- นิกิต้า คอนตินี
- มาธิอัส เฟอร์รานเต
- จูเซปเป้ อัมโบรซิโน
🔸 คาราบัค (4-2-3-1) เรตติ้งทีม 6.65
ผู้รักษาประตู
- มาเตอุส โคชาลสกี 8.9 (เซฟอุตลุต เจ้าของรางวัล Player of the match)
กองหลัง 4 คน
- มาร์โก ซิลวา 6.1
- คามิล เมดินา 6.7 (ใบเหลือง น.43)
- เอลวิน จาฟาร์กูลิเยฟ / คาเฟอร์คูลิเยฟ 6.8
- เอมานูเอล อัดได 6.3
คู่มิดฟิลด์ตัวรับ
- เปโดร บิคัลโญ 6.8
- บาฮรูซ มุสตาฟาซาดา 6.5
สามตัวรุกด้านหลังศูนย์หน้า
- ลูคัส อันดราเด้ 6.5
- อาเด็ม โซูบีร์ (กัปตัน) 6.5
- มาร์โก ยานโควิช 5.8 (ใบเหลือง น.55 / OG นาที 72)
กองหน้า
- คาร์ลอส ดูรัน 6.2
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ซามี มมาเอ 6.6 (น.61 แทน เมดินา)
- โอเล็กซีย์ คัชชุค 6.6 (น.61 แทน อันดราเด้)
- ทอรัล บายรามอฟ 6.8 (น.76 แทน จาฟาร์กูลิเยฟ)
- ดานี โบลต์ 6.8 (น.76 แทน มาร์โก ซิลวา)
- นาริมาน อัคนุนซาเด 6.5 (น.76 แทน ดูรัน)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
- ชาห์รูดิน มาฮัมหมัดาลิเยฟ
- ฟาบิยัน บุนติช
- บาดาวี ฮูเซย์นอฟ
- คริส คัวคู
- โจนิ มอนติเอล
- มูซา เคอร์บันลี
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
รูปเกมนี้แสดงให้เห็นชัดว่าแผน 3-4-2-1 ของนาโปลีเริ่มลงตัว ภายใต้การคุมทีมของคอนเต้ เกมรุกเน้นการขึ้นบอลผ่านคู่กลางอย่างลาโบตก้า–แม็คโทมิเนย์ แล้วเคลื่อนที่ทำสามเหลี่ยมร่วมกับวิงแบ็กทั้งสองฝั่ง เมื่อบอลไปถึงโซนสุดท้าย ลังและเนเรสช่วยดึงตัวประกบเปิดพื้นที่ให้ฮอยลุนด์เจาะในกรอบเขตโทษ แม้กองหน้าดาวรุ่งจะยังไม่คม แต่การเคลื่อนที่ของเขาทำให้แนวรับคาราบัคเปิดช่องอยู่ตลอด
เกมรับของนาโปลีใช้ไลน์กองหลังสามคนดันสูง พร้อมให้วิงแบ็กถอยลงเวลาคาราบัคสวนกลับ ทำให้รูปแบบในยามไม่มีบอลกลายเป็น 5-4-1 ปิดพื้นที่ด้านในได้ดี ราห์มานีอ่านเกมยอดเยี่ยม ตัดบอลกลางอากาศและดักบอลบนพื้นได้หลายครั้ง เป็นหัวใจของแนวรับอย่างแท้จริง
ด้านคาราบัคเลือกใช้แผน 4-2-3-1 ที่เน้นแพ็กเกมรับแน่นสองชั้นหน้ากรอบเขตโทษ คู่กลางมุสตาฟาซาดา–บิคัลโญพยายามตัดเกมตั้งแต่กลางสนาม แต่เมื่อโดนนาโปลีเปลี่ยนจังหวะเร็วก็เริ่มไล่ไม่ทัน ทำให้แนวรับต้องถอยลึก แล้วปล่อยให้ตัวรุกเจ้าถิ่นมีพื้นที่หน้าเขตโทษอยู่พอสมควร สิ่งเดียวที่พยุงทีมไว้ได้คือฟอร์มระดับโลกของโคชาลสกีที่เซฟลูกยากต่อเนื่อง
หากมองในเชิง วิเคราะห์บอล แท็คติกแล้ว เกมนี้คือบทเรียนสำคัญของคาราบัคว่าการเล่นรับลึกอย่างเดียวในยุโรปไม่พอ ต้องมีทางเลือกสวนกลับที่เฉียบคมกว่านี้ ส่วนฝั่งนาโปลีถือว่าเริ่มเข้าเกียร์ หลังจากก่อนหน้านี้ฟอร์มในถ้วยใหญ่ยุโรปยังแกว่ง

📊 สถิติการแข่งขัน
แม้สกอร์จบที่ 2-0 แต่สถิติชี้ว่าทั้งสองทีมสู้กันใกล้เคียง นาโปลียิงทั้งหมด 12 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง ขณะที่คาราบัคมีโอกาสยิง 9 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง การครองบอลแบ่งกันแทบเท่า ๆ กัน เจ้าถิ่น 49% ทีมเยือน 51% แต่จุดต่างสำคัญคือคุณภาพเกมรับและการจัดการจังหวะสำคัญ
นาโปลีจ่ายบอลมากถึง 504 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 91% แสดงให้เห็นว่าสไตล์ต่อบอลภายใต้คอนเต้เริ่มลื่นไหล ส่วนคาราบัคจ่าย 425 ครั้ง ความแม่นยำ 90% ใกล้เคียงกัน แต่ถูกบีบให้เล่นเลียบเส้นและคืนหลังบ่อยครั้ง ทำให้ไม่ค่อยได้พาบอลเข้าไปในกรอบอันตราย
จำนวนฟาวล์บ่งบอกถึงความดุดันของเกม นาโปลีทำฟาวล์ถึง 17 ครั้ง แสดงถึงการไล่บี้ไม่ให้คู่แข่งได้หายใจ ขณะที่คาราบัคฟาวล์แค่ 5 ครั้ง ใบเหลืองฝั่งละ 2 ไม่มีใบแดง ลูกเตะมุมเจ้าบ้าน 6 ครั้ง ทีมเยือน 4 ครั้ง ทุกอย่างรวมกันแล้วสะท้อนว่า นาโปลีคุมจังหวะเกมได้เหนือกว่าแม้จะไม่ได้ครองบอลมากกว่าอย่างชัดเจน
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ นาที 43 คามิล เมดินา (คาราบัค) ทำฟาวล์หนักกลางสนาม โดนใบเหลืองใบแรกของเกม
- ⚠️ นาที 50 โนอาห์ ลัง (นาโปลี) เข้าบอลช้าใส่คู่แข่ง กรรมการควักใบเหลืองเตือน
- ⚠️ นาที 55 มาร์โก ยานโควิช (คาราบัค) ตัดฟาวล์ตรงกลางสนาม รับใบเหลืองเพิ่มความเดือด
- 😱 นาที 56 ราสมุส ฮอยลุนด์ หลุดเดี่ยวไปดวลโคชาลสกี แต่ยิงไปติดเซฟสุดยอด พลาดโอกาสทองนาโปลี
- 🔁 นาที 61 คาราบัคเปลี่ยนตัวสองรายส่งซามี มมาเอ กับโอเล็กซีย์ คัชชุค ลงมาแทนเมดินาและอันดราเด้ หวังเพิ่มความสดทั้งรับและรุก
- 🔁 นาที 64 นาโปลีขยับเปลี่ยน ซามูเอล เบาเคมา ออก แล้วส่งมัตเตโอ โปลิตาโน ลงเติมเกมริมเส้นขวา
- ⚽ นาที 65 นาโปลีขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะบอลชุลมุนหน้าเขตโทษ บอลเด้งมาเข้าทางสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แต่งหนึ่งจังหวะก่อนซัดเต็มข้อเสียบเสา
- ⚽ นาที 72 สกอร์ขยับเป็น 2-0 เมื่อบอลครอสจากขวาของนาโปลีไปโดนมาร์โก ยานโควิชสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง เป็น OG สุดช็อกของคาราบัค
- 🔁 นาที 75 คอนเต้ส่งเอลยิฟ เอลมาส แทนโนอาห์ ลัง และลอเรนโซ่ ลูกกา แทนฮอยลุนด์ เพื่อคุมเกมและใช้ความสดช่วงท้าย
- 🔁 นาที 76 คาราบัคแก้เกมชุดใหญ่ ส่งทอรัล บายรามอฟ, ดานี โบลต์ และนาริมาน อัคนุนซาเด ลงสนามแทนจาฟาร์กูลิเยฟ, มาร์โก ซิลวา และคาร์ลอส ดูรัน
- ⚠️ นาที 77 อามีร์ ราห์มานี ไปตัดเกมแรงเกินโดนใบเหลือง แต่ยังยืนคุมแผงหลังต่อ
- 🔁 นาที 90 นาโปลีถอดบูโอนจอร์โนกับเนเรสออก ส่งฮวน เฮซุส และอันโตนิโอ เวอร์การ่า ลงสนามเพื่อเผาเวลา ก่อนจบเกมที่สกอร์ 2-0
⭐ Player of the match: มาเตอุส โคชาลสกี
แม้ทีมจะแพ้ 2-0 แต่รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมตกเป็นของมาเตอุส โคชาลสกี นายทวารคาราบัค ด้วยเรตติ้งสูงถึง 8.9 เขาเซฟลูกสำคัญหลายครั้ง ทั้งลูกยิงจ่อ ๆ ของฮอยลุนด์และแม็คโทมิเนย์ รวมถึงลูกโขกจากเซ็ตเพลย์ที่ปกติเข้าแน่ หากไร้โคชาลสกีเกมนี้มีสิทธิ์กลายเป็นสกอร์ 4-0 หรือ 5-0 สบาย ๆ
รีเฟล็กซ์ยอดเยี่ยม การออกมาตัดบอลกลางอากาศมั่นใจ และสั่งการแนวรับตลอด 90 นาที ทำให้ชื่อของเขาถูกพูดถึงไม่น้อยในหมู่แฟนบอลที่ตามอ่านสรุปหลังเกมและเช็กเรตติ้งบนเว็บสายสถิติ

📈 สถานการณ์บนตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
หลังจบเกมนี้ ภาพรวมในตารางคะแนนรวมของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเริ่มอึดแน่นยิ่งขึ้น คาราบัคแม้จะพ่ายแต่ยังรั้งอันดับ 16 มี 7 คะแนน จาก 5 นัด ยิงได้ 8 เสีย 9 ผลต่างประตู -1 ส่วนชัยชนะเกมนี้ทำให้นาโปลีขยับมี 7 คะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้เสีย 6-9 อยู่ที่อันดับ 18
เหนือพวกเขาขึ้นไปคือบาร์เซโลนาที่มี 7 คะแนนเท่ากันเช่นกัน ขณะที่โซนหัวตารางยังเป็นบาเยิร์น, อาร์เซนอล และอินเตอร์ที่โกยแต้มหนีไปไกลแล้ว ความหมายคือทั้งนาโปลีและคาราบัคยังมีลุ้นในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม หากใครเก็บชัยได้อีกครั้ง มีโอกาสขยับเข้าใกล้โซนบนมากขึ้นทันที แต่ถ้าพลาดสะดุดก็มีสิทธิ์ร่วงลงไปกลางตารางทันทีเช่นกัน
🗓 ตารางบอลและโปรแกรมถัดไปของทั้งสองทีม
มองไปข้างหน้าในเชิง ตารางบอล นาโปลีมีโปรแกรมหนักต่อเนื่อง เริ่มจากบุกเยือนโรม่าในศึกเซเรีย อา วันที่ 01/12/25 เวลา 02:45 น. ก่อนจะกลับมาเล่นถ้วยโคปปา อิตาเลีย เปิดบ้านรับกาญารีในวันที่ 04/12/25 เวลา 00:00 น. สองเกมนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญว่าฟอร์มแรงจากถ้วยยุโรปจะต่อยอดไปสู่ผลงานในลีกได้มากแค่ไหน
ด้านคาราบัคต้องหันไปโฟกัสงานหนักในประเทศ เริ่มจากเกมลีก Misli Premier League พบคาร์วาน วันที่ 29/11/25 เวลา 20:00 น. ก่อนจะเจอกันอีกครั้งในฟุตบอล Azerbaijan Cup วันที่ 02/12/25 เวลา 19:00 น. หากเก็บชัยได้ต่อเนื่อง ความมั่นใจอาจกลับมาพอให้ลุ้นสร้างเซอร์ไพรส์ในนัดสุดท้ายของถ้วยยุโรปเช่นกัน
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากเกาะติดทุกจังหวะของนาโปลี, คาราบัค และทีมดังทั่วยุโรปทั้งสกอร์สด สถิติในสนาม รวมถึงวิเคราะห์ก่อน-หลังเกมแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะสายเช็ก บ้านผลบอล หรือสายเสพสตอรี่ดราม่าลูกหนัง บ้านกีฬา พร้อมเสิร์ฟให้ครบจบในที่เดียว ทั้งข่าวร้อน ผลการแข่งขัน และประเด็นนอกสนามแบบถึงใจคอลูกหนังชาวไทย

