
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง โบโด กลิมท์ 2-3 ยูเวนตุส วันนี้ 26/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกค่ำคืนนี้ในสายตาแฟนบอลที่เปิดดู ผลบอลสด ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “โหดจริง” เมื่อโบโด กลิมท์ เปิดรังรับการมาเยือนของยูเวนตุส และกลายเป็นเกมที่พลิกไปพลิกมาตลอด 90 นาทีเต็ม ก่อนที่ “ม้าลาย” จะกระชากชัย 3-2 จากประตูของ โจนาธาน เดวิด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+1 ทำเอาเจ้าถิ่นถึงกับทรุดคาสนาม ขณะที่ทีมเยือนเฮกันลั่นเหมือนได้หายใจต่อในเส้นทางยุโรป
ฝั่งโบโด กลิมท์ ได้สองประตูจาก โอเล ดิดริค บล็อมเบิร์ก นาที 27 และจุดโทษของ ซอนเดร เฟ็ท นาที 87 ส่วนยูเวนตุสได้จาก โลอีส โอเปนด้า นาที 48, เวสตัน แมคเคนนี นาที 59 และ เดวิด ปิดจ็อบในช่วงทดเวลา กลายเป็นเกมที่กองเชียร์ทั้งสองฝั่งแทบหัวใจวายไปตาม ๆ กัน
⏱ ครึ่งแรก – โบโด กลิมท์บุกไม่กลัวชื่อ “ม้าลาย”
ครึ่งแรกเจ้าถิ่นโบโด กลิมท์ ไม่ได้ลงมาเล่นแบบกลัวชื่อชั้นยูเวนตุสเลย แผงกลางนำโดย พาทริค เบิร์ก คุมจังหวะได้อย่างเนียนตา ต่อบอลสั้นเร็วขึ้นหน้า บีบให้เกมเพรสซิ่งแดนบนของยูเว่หลุดตำแหน่งบ่อยครั้ง
นาที 27 ความดุดันของเจ้าบ้านแปรเปลี่ยนเป็นประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่ คานส ฮอยก์ รับบอลในกรอบเขตโทษแล้วไหลคืนให้ โอเล ดิดริค บล็อมเบิร์ก สอดขึ้นมากดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาแบบ มัตเตีย เปริน หมดสิทธิ์เซฟ สนามแทบแตกเมื่อสกอร์บอร์ดขึ้นนำเหนือยักษ์ใหญ่จากอิตาลี
หลังจากนั้น โบโด กลิมท์ยังคงคุมโทนการเล่นไว้ได้ดี เน้นต่อบอลบนพื้นและหาจังหวะยิงไกล ขณะที่ยูเวนตุสพยายามเร่งสปีดเกมริมเส้นผ่าน เฟรเดริโก้ คอนไซเซา และ อันเดรีย คัมเบียโซ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ ช่วงท้ายครึ่งแรก ลูอิส เคลลี โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์ติด ๆ กัน ทำให้เกมรับม้าลายเริ่มเปราะบาง ทว่าเจ้าถิ่นก็เจาะเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกบนสกอร์ 1-0 แต่รูปเกมถือว่าโบโด กลิมท์ทำได้ตามแผนเป๊ะ
⏱ ครึ่งหลัง – ยูเว่พลิกโฉมเกมก่อนดราม่าทดเจ็บ
ครึ่งหลัง ลูชาโน สปัลเล็ตติ ไม่รอช้า ส่ง เคนัน ยิลดิซ ลงมาแทน วูคาน อัดซิช ตั้งแต่เริ่ม 45 นาทีหลัง เพื่อเพิ่มมิติในแดนรุก การเปลี่ยนตัวนี้กลายเป็นหมากสำคัญทันที
นาที 48 ยิลดิซหลุดมาทางซ้าย จ่ายหักข้อเข้ากลางอย่างเฉียบคมให้ โลอีส โอเปนด้า วิ่งสอดมาซัดจ่อ ๆ ไม่เหลือ ยูเวนตุสตีเสมอ 1-1 และโมเมนตัมเริ่มไหลไปหา “ม้าลาย”
เกมรุกยังคงกระหน่ำต่อเนื่อง นาที 55 แฟนทีมเยือนเกือบได้เฮอีกครั้งเมื่อ ฟาบิโอ มีเรตติ ส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ VAR ชี้ว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ทำให้สกอร์ยังเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม นาที 59 ความพยายามของยูเว่ก็เป็นผล เมื่อมีเรตติเปิดบอลจากด้านขวาเข้ากลางให้ เวสตัน แมคเคนนี โถมตัวโหม่งเต็ม ๆ เปลี่ยนสกอร์เป็น 1-2 ทีมเยือนแซงนำแบบสุดเดือด
ช่วงกลางครึ่งหลัง โบโด กลิมท์เริ่มปรับเกม ส่ง เบรเด โม และ ซอนดเร เอาก์เลนด์ ลงมาช่วยเกมรับและเชื่อมเกม ในขณะที่ยูเวนตุสพักมีเรตติ ส่ง เคฟเฟรน ตูราม ลงมายืนกลางให้แน่นขึ้น แต่เจ้าถิ่นยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ บุกกดดันจนแนวรับม้าลายต้องถอยลึก
ดราม่ามาเข้มข้นช่วงท้าย นาที 87 โบโด กลิมท์ได้จุดโทษและเป็น ซอนเดร เฟ็ท รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ตีเสมอ 2-2 ทำเอาเกมเหมือนจะจบด้วยผลแบ่งแต้ม ทว่าช่วงทดเวลา 6 นาที ยูเวนตุสโหมบุกสุดตัวและมาได้ประตูชัยจาก โจนาธาน เดวิด นาที 90+1 ซัดผ่านมือ นิกิต้า ไฮคิน เข้าไป กลายเป็นดาบแทงใจกลางเมืองโบโดแบบจัง ๆ
แม้ไฮคินจะงัดฟอร์มเซฟระดับโลกช่วยทีมไว้หลายครั้ง แต่ก็ไม่อาจต้านทานกระสุนของแนวรุกยูเว่ได้ครบทุกลูก จบเกมยูเวนตุสบุกชนะโบโด กลิมท์ 3-2 ในเกมที่เรียกได้ว่าระเบิดอารมณ์ทั้งสนาม

👥 รายชื่อนักเตะตัวจริง, นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
🟡 โบโด กลิมท์ (4-3-3)
ผู้รักษาประตู
- นิกิต้า ไฮคิน (9.5) – เซฟระห่ำทั้งเกม เป็นเหตุผลที่ทำให้สกอร์ไม่ไหลมากกว่านี้
กองหลัง
- โฟรเด อุลเวสเตด บยอร์กตูฟต์ (7.7)
- ฟริดท์ยอฟ โอกุสต์ บยอร์กาน (5.9)
- ฮายซัม อาลีซามี (5.8) – ถูกเปลี่ยนออกนาที 61
- ฟิลิปป์ ชเยโวลด์ (6.4)
กองกลาง
- พาทริค เบิร์ก (กัปตัน) (7.6) – คุมจังหวะกลางสนามเด่นชัด
- ฮูโก เอฟเยน (6.7)
- อิลลารี ดับเบิลยู ดี. เม็ตต้า (6.8) – ทำงานเชื่อมเกมก่อนโดนถอดนาที 61
กองหน้า
- โอเล ดิดริค บล็อมเบิร์ก (7.4) – ยิงเปิดหัว 1-0 ให้ทีม
- คานส ฮอยก์ (6.6) – แอสซิสต์ประตูแรก
- ซอนเดร เฟ็ท (7.0) – ซัดจุดโทษตีเสมอ 2-2 ในนาที 87
ตัวสำรองที่ได้ลงเล่น
- เบรเด โม (6.4) – ลงนาที 61 แทน อาลีซามี
- ซอนดเร เอาก์เลนด์ (7.4) – ลงนาที 61 แทน เม็ตต้า เติมพลังแดนกลาง
- มาธิอัส เยิร์กเซน (6.7) – ลงนาที 77 แทน เอฟเยน
- เยนส์ เพ็ตเตอร์ เฮาเก้ (6.6) – ลงนาที 77 แทน บล็อมเบิร์ก
- อันเดรียส เฮล์เมอร์เซน (6.4) – ลงนาที 87 แทน ฮอยก์
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้: จูเลียน เฟย์ ลุนด์, แม็กนุส เบรินด์โบ, วิลลัดส์ นีลเซน, แดเนียล บาสซี, อุลริก ซอลท์เนส, แอนเดอร์ส คลิงเย, แม็กนุส รีสเนส
⚫️ ยูเวนตุส (3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู
- มัตเตีย เปริน (7.7) – อาจเสียสองประตู แต่มีจังหวะเซฟสำคัญหลายครั้ง
กองหลัง
- ปิแอร์ คาลูลู (7.0)
- ลูอิส เคลลี (6.2) – มีใบเหลืองจากการฟาวล์ถี่ในครึ่งแรก
- ทวน คูปไมเนอร์ส (6.5)
กองกลางสี่คน
- เวสตัน แมคเคนนี (7.7) – เติมขึ้นโหม่งประตู 1-2 และขยันไล่เพรสทั้งเกม
- มานูเอล โลคาเตลลี (กัปตัน) (7.4) – ห้องเครื่องตัวจริงของยูเว่
- ฟาบิโอ มีเรตติ (6.8) – แอสซิสต์ให้แมคเคนนี, ยิงเข้าแต่โดน VAR ริบคืน
- อันเดรีย คัมเบียโซ (6.6) – ขึ้นลงริมเส้นซ้ายต่อเนื่อง
ตัวรุกสองคนหลังหอก
- เฟรเดริโก้ คอนไซเซา (7.5) – ขยันลากจี้และสร้างโอกาส
- วูคาน อัดซิช (6.2) – เล่นไม่เด่นมากและถูกถอดตอนพักครึ่ง
ศูนย์หน้าตัวเป้า
- โลอีส โอเปนด้า (8.1) – ยิงประตูตีเสมอ 1-1 เปิดทางคัมแบ็ก
ตัวสำรองที่ได้ลงเล่น
- เคนัน ยิลดิซ (8.0) – ลงมานาที 46 แทน อัดซิช และทำแอสซิสต์สวยให้โอเปนด้ายิง
- เคฟเฟรน ตูราม (6.5) – ลงนาที 68 แทน มีเรตติ เติมความแข็งแกร่งแดนกลาง
- ฮวน กาบาล (6.1) – ลงนาที 75 แทน คัมเบียโซ พร้อมโดนใบเหลืองนาที 85
- โจนาธาน เดวิด (6.5) – ลงนาที 75 แทน โอเปนด้า ก่อนยิงประตูชัยโคตรสำคัญ 90+1
- เอดอน เชโกรวา (6.7) – ลงนาที 83 แทน คอนไซเซา ช่วยดึงจังหวะเกมรุก
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้: มิคาเอล ดิ เกรโกริโอ, มาเตโอ ฟูสคัลโด, เชา มาริโอ, โยนาส รูยี, ฟิลิป คอสติช, ดูซาน วลาโฮวิช
ผู้เล่นบาดเจ็บ/ไม่ได้ลง: ดานิเอเล รูกานี, อาร์คาดิอุช มิลิค, เบรเมอร์, คาร์โล ปินโซโญ, เฟเดริโก กัตติ
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม
โบโด กลิมท์ เปิดเกมด้วยระบบ 4-3-3 ที่เน้นครองบอลและต่อเกมบนพื้นเป็นหลัก แบ็กสองฝั่งดันสูงช่วยสร้างความกว้างในแดนรุก ขณะที่สามกองกลางคอยหมุนตำแหน่งสร้างไลน์ผ่านบอลต่อเนื่อง การเล่นในครึ่งแรกจึงดูไหลลื่น ครองบอลเหนือกว่าและเผยให้เห็นว่าการบ้านด้านแท็กติกทำมาอย่างดี เกมรับใช้การดันไลน์ค่อนข้างสูงเพื่อบีบยูเวนตุสให้เล่นพลาด แต่จุดอ่อนคือเมื่อถูกสวนกลับจากการเสียบอลกลางสนาม แนวรับสี่คนถอยไม่ทัน เจอกองหน้าที่สปีดจัดอย่างโอเปนด้าแล้วเปราะทันที
ฝั่งยูเวนตุสยืนในระบบ 3-4-2-1 ซึ่งในเชิงรุกจะกลายเป็น 3-2-5 เมื่อวิงแบ็กทั้งสองข้างเติมสูง ในครึ่งแรกแผงมิดฟิลด์ของยูเว่ยังตามเกมไม่ทัน ทำให้โดนโบโด กลิมท์ครองบอลกดดันอยู่พักใหญ่ แต่การแก้เกมของสปัลเล็ตติในครึ่งหลังถือว่าสอบผ่าน เมื่อส่งยิลดิซลงมาสร้างความคล่องตัวตรงครึ่งช่อง (half-space) ซ้าย ทำให้แนวรับเจ้าบ้านต้องถ่างตำแหน่งออกไปเปิดพื้นที่ให้โอเปนด้าใช้สปีดโจมตี ช่องตรงกลางระหว่างเซ็นเตอร์ของโบโด กลิมท์จึงถูกเจาะซ้ำ ๆ
เกมรับของยูเว่แม้จะโดนยิงสองลูก แต่โดยรวมยังพอรับมือรูปแบบการต่อบอลของเจ้าถิ่นได้ดี สามเซ็นเตอร์ยืนบีบพื้นที่ในกรอบเขตโทษและให้มิดฟิลด์ลงมาซ้อนช่วยตัดบอล จังหวะเสียประตูจุดโทษตอนท้ายเกิดจากความกดดันที่ต้องรับลึกต่อเนื่องมากกว่าแท็กติกผิดพลาด ขณะที่แผงกลางอย่างโลคาเตลลีและแมคเคนนีช่วย cover พื้นที่หน้าแผงหลังไว้ได้ระดับหนึ่ง
มองโดยภาพรวม หากต้อง วิเคราะห์บอล เชิงแท็กติก เกมนี้คือบทเรียนของโบโด กลิมท์ที่ต้องเรียนรู้การปิดเกมเมื่อมีจังหวะเหนือกว่า ขณะที่ยูเวนตุสโชว์ให้เห็นถึงความเป็นทีมใหญ่ที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และใช้ศักยภาพผู้เล่นแนวรุกคม ๆ พลิกแมตช์ได้แม้รูปเกมไม่ได้เหนือกว่าแบบชัดเจน

📊 สถิติการแข่งขัน – ยิงกันดุเดือดไม่แพ้ทีมใหญ่ไหนในยุโรป
ตัวเลขหลังเกมบอกได้ทันทีว่านี่คือแมตช์ที่บ้าพลังสุด ๆ โบโด กลิมท์ยิงทั้งหมด 17 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง ขณะที่ยูเวนตุสจัดหนักถึง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 15 ครั้ง ชัดเจนว่าทีมเยือนมีประสิทธิภาพในการจบสกอร์เหนือกว่าเล็กน้อย แม้จะครองบอลน้อยกว่า โดยเจ้าบ้านครองบอล 56% ส่วนม้าลายมีเพียง 44% เท่านั้น
ด้านการผ่านบอล โบโด กลิมท์ออกบอลไป 443 ครั้ง ด้วยความแม่นยำสูงถึง 92% แสดงให้เห็นสไตล์ต่อบอลสวย ๆ ส่วนยูเวนตุสผ่านบอล 363 ครั้ง ความแม่นยำ 86% จังหวะพลาดมีให้เห็นบ้างเมื่อโดนบีบเร็ว แต่ก็ยังบริหารเกมรุกได้ดีในช่วงสำคัญๆ
สถิติการฟาวล์สะท้อนภาพแท็กติกชัดเจน เจ้าถิ่นทำฟาวล์แค่ 6 ครั้ง ในขณะที่ทีมเยือนทำถึง 16 ครั้ง พร้อมแจกใบเหลือง 4 ใบให้แนวรับยูเว่ แต่โบโด กลิมท์ไม่มีใบเหลืองเลย แสดงให้เห็นว่า ยูเวนตุสต้องยอมเสียฟาวล์เพื่อหยุดเกมสวนของเจ้าถิ่นหลายจังหวะ เตะมุมก็สูสีกัน โบโด กลิมท์ได้ 6 ครั้ง ยูเวนตุส 8 ครั้ง ทุกอย่างรวมกันแล้วคือเกมที่ทั้งคู่แลกหมัดกันแบบไม่กลัวเจ็บจริง ๆ
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 27′ โบโด กลิมท์ขึ้นนำ 1-0 – คานส ฮอยก์ ทำชิ่งคืนให้ โอเล ดิดริค บล็อมเบิร์ก ซัดเต็มข้อเสียบเสา
- 🟨 39′ ลูอิส เคลลี โดนใบเหลือง – ทำฟาวล์ตัดเกมบ่อยครั้งจนกรรมการต้องแจกใบ
- ⏱ 45+1′ จบครึ่งแรก โบโด กลิมท์นำยูเวนตุส 1-0
- 🔄 46′ ยูเวนตุสเปลี่ยนตัว – เคนัน ยิลดิซ ลงมาแทน วูคาน อัดซิช เพื่อเร่งเกมรุก
- ⚽ 48′ ยูเวนตุสตีเสมอ 1-1 – ยิลดิซเปิดจากซ้ายให้ โลอีส โอเปนด้า วิ่งมาซัดตุงตาข่าย
- 🟨 50′ ฟาบิโอ มีเรตติ รับใบเหลือง – เข้าปะทะช้าทำฟาวล์กลางสนาม
- ❌ 55′ ประตูของมีเรตติถูก VAR ยกเลิก – หลุดขึ้นมายิงเข้าไปแล้วแต่โดนจับล้ำหน้า
- ⚽ 59′ ยูเวนตุสแซงนำ 1-2 – มีเรตติครอสให้ เวสตัน แมคเคนนี โหม่งเสียบเสา
- 🔄 61′ โบโด กลิมท์เปลี่ยนสองคน – เบรเด โม แทน ฮายซัม อาลีซามี และ ซอนดเร เอาก์เลนด์ แทน เม็ตต้า เติมสดให้แดนกลาง
- 🔄 68′ ยูเวนตุสส่ง เคฟเฟรน ตูราม แทน มีเรตติ เสริมพละกำลังมิดฟิลด์
- 🔄 75′ “ม้าลาย” เปลี่ยนคู่ – โจนาธาน เดวิด ลงแทน โลอีส โอเปนด้า, ฮวน กาบาล ลงแทน คัมเบียโซ
- 🔄 77′ โบโด กลิมท์ส่ง มาธิอัส เยิร์กเซน และ เยนส์ เพ็ตเตอร์ เฮาเก้ ลงมาแทน เอฟเยน กับ บล็อมเบิร์ก ไล่ล่าประตูตีเสมอ
- 🔄 83′ ยูเวนตุสส่ง เอดอน เชโกรวา แทน คอนไซเซา เพื่อช่วยคุมจังหวะริมเส้น
- 🟨 85′ ฮวน กาบาล โดนใบเหลือง – เข้าบอลแรงเกินจำเป็น
- 🔄 87′ โบโด กลิมท์ส่ง อันเดรียส เฮล์เมอร์เซน ลงแทน ฮอยก์ เติมหอกสดปั้นท้ายเกม
- ⚽ 87′ เจ้าถิ่นได้จุดโทษ – ซอนเดร เฟ็ท รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ตีเสมอ 2-2
- ⏱ 90′ ผู้ตัดสินให้ทดเวลาบาดเจ็บ 6 นาที เกมยังเปิดหน้าแลกกันสุดเหวี่ยง
- ⚽ 90+1′ ยูเวนตุสยิงนำ 2-3 – โจนาธาน เดวิด ฉวยโอกาสในกรอบเขตโทษ ซัดผ่านมือไฮคินเข้าไป กลายเป็นประตูชัย
- 🟨 90+4′ เวสตัน แมคเคนนี รับใบเหลือง – โดนลงโทษข้อหาถ่วงเวลา
- 🔔 90+6′ เป่านกหวีดจบเกม ยูเวนตุสบุกชนะโบโด กลิมท์ 3-2 อย่างสุดมันส์
⭐ Player of the Match – นิกิต้า ไฮคิน ประตูมือกาวที่แพ้แต่ไม่ยอมก้มหัว
แม้ฝั่งผู้ชนะจะมีหลายคนเล่นโดดเด่น แต่รางวัล Player of the Match ครั้งนี้ไปตกอยู่ที่ นิกิต้า ไฮคิน นายด่านโบโด กลิมท์ ที่ได้คะแนนสูงถึง 9.5 บ้านกีฬา ต้องบอกว่าคู่ควรสุด ๆ เพราะตลอดทั้งเกมเขาโดนยูเวนตุสซัดใส่ถึง 15 ครั้งที่เข้ากรอบ แต่สามารถปฏิเสธประตูสวย ๆ ได้หลายจังหวะ ทั้งลูกยิงจ่อของโอเปนด้า, ลูกโหม่งของแมคเคนนี และลูกยิงไกลจากโลคาเตลลี
หากไม่มีไฮคินยืนคุมหลังบ้าน สกอร์อาจไหลเกิน 4–5 ลูกไปแล้ว ฟอร์มระดับนี้แม้ทีมจะแพ้ แต่ชื่อของเขาถูกพูดถึงบนโลกโซเชียลและหน้าเว็บ บ้านผลบอล แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นหนึ่งในเกมที่โชว์ให้เห็นว่านายประตูดี ๆ สามารถพาทีมรองบ่อนยืนหยัดสู้กับทีมใหญ่ได้จริง

🧮 สถานการณ์บนตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ยูเวนตุสขยับขึ้นมาที่อันดับ 21 ของตารางรูปแบบใหม่ของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มีสถิติลงเล่น 5 นัด ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 1 ยิงได้ 10 เสีย 10 มี 6 คะแนน ประตูได้เสียเท่ากัน แม้จะยังไม่ได้อยู่ในโซนลุ้นอันดับต้น ๆ แต่ก็กลับเข้าสู่เส้นทางการลุ้นพื้นที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์อีกครั้ง หากรักษาฟอร์มคัมแบ็กและความเด็ดขาดในช่วงท้ายเกมแบบนี้ได้ต่อเนื่อง
ฝั่งโบโด กลิมท์สถานการณ์เริ่มน่าห่วง เมื่อจบแมตช์นี้ทีมหล่นไปอยู่โซนท้ายตารางที่อันดับ 31 ลงเล่น 5 นัด ยังไม่ชนะใคร เสมอ 2 แพ้ 3 ยิงได้ 7 เสีย 11 มีเพียง 2 คะแนนเท่านั้น ต้องเร่งเก็บแต้มให้ได้ในเกมที่เหลือ ไม่อย่างนั้นความฝันจะยืนบนเวทียุโรปต่ออาจจบลงเร็วเกินคาด
📅 ตารางบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และโปรแกรมนัดถัดไปของทั้งสองทีม
สำหรับโบโด กลิมท์ ใน ตารางบอล ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนัดถัดไป พวกเขามีภารกิจหนักบุกเยือนโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในวันที่ 11/12/25 เวลา 03:00 น. เกมนี้ถือเป็นบททดสอบใหญ่สุดท้ายว่าจะพอมีคะแนนกลับบ้านเพื่อยื้อลมหายใจในยุโรปได้หรือไม่
ด้านยูเวนตุส โปรแกรมต่อจากนี้แม้ในตารางยูซีแอลยังต้องรอจับคู่ต่อไป แต่ในระดับชาติยังแน่นปึ้ก ทั้งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ที่จะเปิดบ้านรับกาญารี่ วันที่ 30/11/25 เวลา 00:00 น. และโคปปา อิตาเลีย ที่จะพบอูดิเนเซ วันที่ 03/12/25 เวลา 03:00 น. แฟนบอลม้าลายต้องลุ้นกันยาว ๆ ว่าฟอร์มฮึดจากเกมยุโรปนัดนี้จะถูกต่อยอดไปสู่ชัยชนะในลีกได้มากน้อยแค่ไหน
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และผลบอลสดมันส์ ๆ กับ บ้านกีฬา
ใครที่ดูเกมนี้ผ่านลิงก์เช็กสกอร์หรือเปิดตาม บ้านผลบอล กันแบบวินาทีต่อวินาที คงรู้ดีว่าฟุตบอลยุคนี้ไม่มีคำว่าจบจนกว่าจะเป่านกหวีดสุดท้าย บ้านกีฬา ขอย้ำอีกครั้งว่าถ้าไม่อยากพลาดดราม่าบิดเกมแบบโบโด กลิมท์ พบ ยูเวนตุส ต้องตามดู ผลบอลสด และข่าวสารจากเราให้ครบทุกช่องทาง เราจะเกาะติดทุกแมตช์ใหญ่ ทุกสกอร์สำคัญ พร้อมอัปเดตตารางคะแนน, วิเคราะห์เกม และอัปเดตโปรแกรมเตะให้แบบจัดเต็ม
แฟนบอลที่อยากอัปเดตทุกจังหวะของวงการลูกหนังทั้งไทยและต่างประเทศ แวะมาที่ บ้านกีฬา แล้วคุณจะไม่มีวันตกข่าวสำคัญของคืนวันมันส์ ๆ บนสังเวียนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและลีกดังทั่วโลก

