
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง คาราบัค 2-2 เชลซี วันนี้ 6/11/68 – บ้านกีฬา
บ้านกีฬา พาเกาะติดบรรยากาศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แบบเกาะจอในโหมดเช็ก ผลบอลสด กันยาวๆ เกมนี้ คาราบัค เปิดรังรับการมาเยือนของ เชลซี ในสถานการณ์ที่ทั้งคู่ต้องการแต้มเพื่อลุ้นพื้นที่น็อกเอาต์ ผลจบลงด้วยสกอร์ 2-2 แต่ระหว่างทางเต็มไปด้วยดราม่า ใบเหลืองรัว เปลี่ยนตัวแก้เกมทั้งสองฝั่ง และสองดาวรุ่งจากลอนดอนอย่าง เอสเตวาโอ กับ อเลฆันโดร การ์นาโช่ ช่วยกันแบกทีมเยือนเอาไว้
🕰 ครึ่งแรก – คาราบัคโดนก่อนแต่แซงนำสุดคึก
เปิดเกมมา เชลซีของเอนโซ่ มาเรสก้า เริ่มได้ดีกว่า คุมบอลเหนือกว่าเจ้าบ้านชัดเจน ก่อนจะขึ้นนำ 1-0 นาที 16 จากจังหวะสวนสวยๆ อันเดรย์ ซานโตส ไหลบอลให้ เอสเตวาโอ ล็อกหนึ่งจังหวะแล้วกดเรียดเสียบเสา ประตูแรกของค่ำคืนนี้ทำเอาแฟนบอลทีมเยือนเฮกันลั่น
แต่คาราบัคไม่ถอดใจ กลับยกระดับเกมรุกขึ้นเรื่อยๆ นาที 29 เลอันโดร อันดราเด หลุดมาในกรอบก่อนกดเต็มข้อ ตีเสมอ 1-1 ช่วยปลุกเสียงเชียร์ในสนามกลับมาดังสนั่น
ยังไม่พอ นาที 39 เกมรับเชลซีพลาดโดนทะลุช่องจนแนวรับเสียจุดโทษ มาร์โก ยานโควิช รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เจ้าบ้านพลิกแซง 2-1 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ และรูปเกมช่วงท้ายครึ่งแรก คาราบัคต่อบอลมั่นใจขึ้น ส่วนเชลซีเริ่มเสียสมาธิ โดนใบเหลืองของอันเดรย์ ซานโตสในช่วงทดเวลาเป็นสัญญาณชัดว่าคืนนี้ไม่ง่ายเลย
🔁 ครึ่งหลัง – มาเรสก้าปรับเกมเร็ว การ์นาโช่ซัดเจ๊าคืน
ลงครึ่งหลัง เอนโซ่ มาเรสก้าไม่รอช้า เปลี่ยนรวดเดียวสามคนส่ง เอ็นโซ่ แฟร์นันเดซ, อเลฆันโดร การ์นาโช่ และ เลียม เดลาป ลงมาแทน อันเดรย์ ซานโตส, เจย์เดน กิทเทนส์ และ ทอม จอร์จ เพื่อเพิ่มความสดและสปีดเกมรุก
การเปลี่ยนตัวได้ผลทันตา นาที 52 บอลบุกทางซ้ายถูกเปิดลึกเข้าเขตโทษ การ์นาโช่จับหนึ่งจังหวะก่อนซัดเสียบเสาอย่างเฉียบ เกมกลับมาเท่ากัน 2-2 และหลังจากนั้นเชลซียังโหมต่อเนื่อง ทั้งการ์นาโช่และเอสเตวาโอสร้างปัญหาให้แนวรับเจ้าบ้านตลอด
คาราบัคเองไม่ยอมถอย เปลี่ยนตัวเสริมเกมรุกส่ง นาริมาน อัคนุนซาเด กับ ทอรัล ไบย์รามอฟ ลงมากดดันแดนกลางและริมเส้น นาที 75 มีการเติมเกมของ ดานี โบลต์ และ โอเล็กซี คัชชุค ลงมาอีกระลอก ทำให้ช่วงท้ายเกมกลายเป็นช็อตสวนกันไปมาแบบลุ้นทุกจังหวะ
ท้ายเกมอารมณ์เดือดจัด คาเรล เมดินา โดนเหลืองจากการถ่วงเวลา ก่อนที่ โมอิสเซส ไคเซโด จะรับใบเหลืองช่วงทดเจ็บจากจังหวะโวยผู้ตัดสิน สุดท้ายไม่มีใครยิงเพิ่ม จบเกมคาราบัคเสมอเชลซี 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้มแบบแฟนบอลทั้งสองฝั่งหายใจไม่ทั่วท้อง

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🏠 คาราบัค (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- มัตเธอุส ซิลวา (เรตติ้ง 6.9)
กองหลัง
- มาร์ติน โคคัลสกี (99) – แบ็กขวา (6.3)
- บาห์รูซ มุสตาฟาซาดา (13) – เซ็นเตอร์แบ็กซ้าย (6.2)
- เปโดร บิคัลโฮ (35) – เซ็นเตอร์แบ็กขวา (6.7)
- เควิน บอร์เกส (20) – แบ็กซ้าย (6.5) → ถูกเปลี่ยนออกน.31
กองกลางตัวรับ
- คาเรล เมดินา (81) – มิดฟิลด์รับ (6.8)
- มาร์โก ยานโควิช (8) – มิดฟิลด์เชื่อมเกม (7.1) ผู้ทำจุดโทษขึ้นนำ 2-1
ตัวรุกสามประสาน
- เอมิน จาฟาร์กูลิเยฟ (44) – ปีกขวา (6.1) → ออกน.75
- อับเดลลาห์ ซูเบียร์ (กัปตัน, เบอร์ 10) – เพลย์เมกเกอร์ (6.7) → ออกน.75
- เลอันโดร อันดราเด (15) – ปีกซ้าย (7.2) ยิงตีเสมอ 1-1 → ออกน.61
กองหน้า
- คริสเตียน ดูรัน (17) – หน้าเป้า (6.3) → ออกน.61
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- เอ็มมานูเอล อัดได (11, 6.8) ลงแทน บอร์เกส น.31
- ทอรัล ไบย์รามอฟ (27, 6.4) ลงแทน อันดราเด น.61
- นาริมาน อัคนุนซาเด (7, 6.6) ลงแทน ดูรัน น.61
- โอเล็กซี คัชชุค (21, 6.8) ลงแทน ซูเบียร์ น.75
- ดานี โบลต์ (18, 6.5) ลงแทน จาฟาร์กูลิเยฟ น.75
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง
ฟาบียาน บุนติช, ชาห์รูดิน มาฮัมมัดาลีเยฟ, อับบาส ฮูเซย์นอฟ, บาดาวี ฮูเซย์นอฟ, แซมี มมาเอ, ฮิกมัต คับรายซิลซาดา, คริส คูอาคู
🚌 เชลซี (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- โรเบิร์ต ซานเชซ (1) – (6.9)
กองหลัง
- รีซ เจมส์ (กัปตัน, เบอร์ 24) – แบ็กขวา (6.5) ได้ใบเหลือง น.47
- โทซิน อดาราบิโอยо (4) – เซ็นเตอร์แบ็กขวา (7.3)
- เจอร์รัลโด้ ฮาโต (21) – เซ็นเตอร์แบ็กซ้าย (5.9)
- มาร์ค กูกูเรยา (3) – แบ็กซ้าย (6.0)
กองกลางตัวรับ
- โรเมโอ ลาเวีย (45) – มิดฟิลด์รับ (6.6) → เจ็บออกเร็ว น.8
- อันเดรย์ ซานโตส (17) – มิดฟิลด์เชื่อมเกม (6.5) → ออกน.46
สามแนวรุก
- เอสเตวาโอ (41) – ปีกขวา (7.7) ยิงประตูขึ้นนำ 1-0
- ทอม จอร์จ (32) – ตัวรุกตรงกลาง (6.0) → ออกน.46
- เจย์เดน กิทเทนส์ (11) – ปีกซ้าย (6.5) → ออกน.46
กองหน้า
- เจา เปโดร (20) – หน้าเป้า (6.5) → ออกน.71
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- โมอิสเซส ไคเซโด (25, 6.7) ลงแทน ลาเวีย น.8 และโดนเหลืองช่วงทดเจ็บ 90+1
- เอ็นโซ่ แฟร์นันเดซ (8, 7.0) ลงแทน ซานโตส น.46 เพิ่มจังหวะบอลสั้นกลางสนาม
- อเลฆันโดร การ์นาโช่ (49, 7.2) ลงแทน กิทเทนส์ น.46 ยิงตีเสมอ 2-2
- เลียม เดลาป (9, 6.6) ลงแทน จอร์จ น.46 เติมมิติพักบอล
- ฟาคุนโด บวนาโนตเต้ (40, 6.6) ลงแทน เจา เปโดร น.71
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง
แม็กซ์ เมอร์ริก, ฟิลิป เยอร์เกนเซน, มาโล กุสโต, เวสลีย์ โฟฟานา, เทรฟโวห์ ชาโลบาห์, จอช อาเชมปง, มาร์ก กียู
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในเชิงแท็กติก เกมนี้น่าสนใจมากเพราะทั้งสองทีมเลือกยืนระบบ 4-2-3-1 และเล่นกันแบบหมัดต่อหมัด การ วิเคราะห์บอล เชิงลึกจะเห็นว่า เชลซีพยายามใช้คุณภาพเทคนิคของตัวรุกวัยหนุ่มบุกใส่เจ้าบ้านตลอด โดยเฉพาะทางขวาที่มี รีซ เจมส์ ซ้อนกับ เอสเตวาโอ ทำให้ปีกซ้ายของคาราบัคต้องลงมาช่วยรับจนเสียสมดุล
เกมรุกเชลซีเน้นต่อบอลสั้นจากกลางสนาม ไคเซโด–แฟร์นันเดซ คุมจังหวะในครึ่งหลังได้ดีมาก จ่ายบอลแม่น 90% ขึ้นไป ก่อนโยนภาระจบสกอร์ให้ การ์นาโช่, เอสเตวาโอ และ เดลาป ที่วิ่งสลับตำแหน่งกันตลอด ในช่วงก่อนตีเสมอ 2-2 จะเห็นได้ชัดว่าเชลซีบีบคาราบัคให้ถอยลงไปตั้งโซนลึก แบ็กสองข้างของเจ้าบ้านแทบไม่ได้เติมสูงเหมือนช่วงต้นเกม
ฝั่งคาราบัคใช้เกมรับแบบ 4-4-1-1 เมื่อไม่มีบอล บีบเพรสสูงเป็นช่วงๆ แล้วถอยลงมาแพ็กในพื้นที่อันตราย พอได้จังหวะสวนก็โยนภาระให้ อันดราเด กับ ซูเบียร์ ใช้ความคล่องตัวดึงแนวรับเชลซีหลุดตำแหน่ง ประตู 1-1 ของอันดราเดจึงเกิดจากการวิ่งตัดหลังตัวรับได้อย่างเฉียบคม
แนวรับเชลซียังมีช่องโหว่ให้เห็น โดยเฉพาะการป้องกันพื้นที่หน้าเขตโทษและจังหวะสวิตช์ตำแหน่งระหว่างฮาโต–อดาราบิโอยอ ขณะที่คาราบัคเองแม้จะมีระเบียบเกมรับดี แต่เมื่อโดนบุกต่อเนื่องในครึ่งหลัง ความล้าเริ่มเห็นชัด ทำให้ปล่อยให้การ์นาโช่รับบอลในพื้นที่อันตรายได้หลายครั้ง
โดยสรุป เชลซีคือทีมที่เล่นบอลเป็นระบบและสร้างโอกาสได้มากกว่า แต่คาราบัคมีความคมและใจสู้ในแดนหน้า ทำให้รูปเกมออกมาเปิดแลกและจบลงด้วยผลเสมอที่แฟร์ต่อทั้งสองฝ่าย

📈 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนชัดว่า เชลซีเหนือกว่าเล็กน้อยในหลายมิติ ทีมเยือนครองบอลถึงราว 60% ต่อ 40% ของคาราบัค ส่งบอลกว่า 430 ครั้งด้วยความแม่นยำสูงถึง 91% ขณะที่เจ้าบ้านส่งได้ 231 ครั้ง แม่นยำ 85% เท่านั้น โอกาสยิงรวม เชลซีทำได้ 14 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ส่วนคาราบัคมีโอกาส 8 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง หมายความว่าจำนวนจบสกอร์ของเชลซีมากกว่า แต่ประสิทธิภาพในการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูกลับไม่หนีห่างกันมากนัก
ในเกมฟาวล์ เชลซีทำฟาวล์มากถึง 16 ครั้งมากกว่าคาราบัคที่ทำเพียง 8 ครั้ง และยังโดนใบเหลืองถึง 3 ใบ (เจมส์, ซานโตส, ไคเซโด) ส่วนเจ้าบ้านโดน 2 ใบ (ซิลวา, เมดินา) แสดงให้เห็นว่าทีมเยือนต้องตัดเกมบ่อยครั้งเพื่อหยุดจังหวะสวนกลับของเจ้าถิ่น ลูกเตะมุมก็ชัดเจนว่าเชลซีบุกมากกว่า ได้ถึง 8 ครั้ง ขณะที่คาราบัคได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น
⏱ เหตุการณ์สำคัญในเกม
- ⚽ นาที 16 – เชลซีขึ้นนำ 0-1 จากจังหวะที่ อันเดรย์ ซานโตส จ่ายให้ เอสเตวาโอ กดเสียบเสา
- 🔁 นาที 8 – โรเมโอ ลาเวีย เจ็บ ต้องถูกเปลี่ยนออก ให้ โมอิสเซส ไคเซโด ลงมาแทนตั้งแต่ต้นเกม
- ⚽ นาที 29 – เลอันโดร อันดราเด ยิงตีเสมอ 1-1 ให้คาราบัค เกมกลับมาสนุกทันที
- 🔁 นาที 31 – เอ็มมานูเอล อัดได ลงแทน เควิน บอร์เกส เสริมสปีดริมเส้นฝั่งซ้ายให้เจ้าบ้าน
- ⚽ นาที 39 – มาร์โก ยานโควิช ซัดจุดโทษให้คาราบัคแซงนำ 2-1
- 🟨 นาที 44 – อันดเรย์ ซานโตส รับใบเหลืองจากการฟาวล์ตัดเกมกลางสนาม
- 🔁 นาที 46 – เชลซีเปลี่ยนรวดเดียวสามคน ส่ง เอ็นโซ่ แฟร์นันเดซ, อเลฆันโดร การ์นาโช่ และ เลียม เดลาป ลงมาแทน ซานโตส, กิทเทนส์ และ จอร์จ
- 🟨 นาที 47 – รีซ เจมส์ โดนใบเหลืองจากการฟาวล์ ขณะที่ มัตเธอุส ซิลวา นายด่านคาราบัคโดนเหลืองจากจังหวะโวยผู้ตัดสิน
- ⚽ นาที 52 – การ์นาโช่ ยิงประตูสุดเฉียบ ตีเสมอ 2-2 ให้เชลซี
- 🔁 นาที 61 – คาราบัคส่ง ทอรัล ไบย์รามอฟ ลงแทน อันดราเด และ นาริมาน อัคนุนซาเด ลงแทน ดูรัน เพื่อเพิ่มความสด
- 🔁 นาที 71 – ฟาคุนโด บวนาโนตเต้ ลงแทน เจา เปโดร เติมมิติเกมรุกให้เชลซี
- 🔁 นาที 75 – ดานี โบลต์ ลงแทน เอมิน จาฟาร์กูลิเยฟ และ โอเล็กซี คัชชุค ลงแทน ซูเบียร์ ให้คาราบัคเดินเกมรุกสุดตัว
- 🟨 นาที 87 – คาเรล เมดินา โดนใบเหลืองจากการถ่วงเวลา
- 🟨 นาที 90+1 – โมอิสเซส ไคเซโด โดนใบเหลืองช่วงทดเจ็บจากการโต้เถียงผู้ตัดสิน
🌟 Player of the Match – เอสเตวาโอ
แม้ว่าผลออกมาเสมอ แต่รางวัล Man of the Match ตกเป็นของ เอสเตวาโอ ปีกดาวรุ่งของเชลซี ด้วยคะแนน 7.7 เจ้าหนูบราซิเลียนรายนี้คือคนที่เปิดสกอร์แรก ใช้ความเร็วและเทคนิคพาบอลเจาะแนวรับคาราบัคได้ตลอด แทบทุกครั้งที่เขาได้บอลฝั่งขวา กองหลังเจ้าถิ่นต้องดร็อปตัวช่วยกันสองคน ทำให้เพื่อนร่วมทีมมีพื้นที่เล่นมากขึ้น
นอกจากประตูแล้ว เอสเตวาโอยังมีจังหวะลากตัดเข้าในแล้วไหลให้เพื่อนจบหลายครั้ง สถิติเลี้ยงผ่านคู่แข่งและสร้างโอกาสยิงถือว่าสูงที่สุดในทีมเยือน เป็นภาพชัดว่าตอนนี้เขากำลังกลายเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของเชลซีในเวทีใหญ่ยุโรป

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
จากตารางรวมของ บ้านผลบอล หลังผ่าน 4 นัด เชลซีเก็บเพิ่มเป็น 7 คะแนน ประตูได้–เสีย 9-6 ผลต่าง +3 ขยับรั้งอันดับ 12 ของตารางรวมทัวร์นาเมนต์ อยู่ในโซนที่ยังมีลุ้นผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ หากรักษาฟอร์มและเก็บชัยชนะในเกมที่เหลือได้
ส่วนคาราบัคมี 7 คะแนนเท่ากัน แต่ผลต่างประตูได้–เสีย 8-7 (+1) ทำให้รั้งอันดับ 15 เล็กน้อยด้อยกว่าเชลซีในเรื่องประตูได้เสีย อย่างไรก็ตามการแบ่งแต้มเกมนี้ถือว่าสำคัญ เพราะช่วยให้ทีมจากอาเซอร์ไบจานยังยืนอยู่ครึ่งบนของตารางและมีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ในช่วงโค้งสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม
📅 ตารางบอล – โปรแกรมนัดถัดไปของทั้งสองทีม
ในแง่ ตารางบอล และโปรแกรมแข่งขันนัดต่อไป หลังศึกยุโรปนัดนี้ ทั้งสองทีมต้องหันกลับไปโฟกัสเกมลีกของตัวเอง
ในฝั่งคาราบัค ศึก Misli Premier League พวกเขามีคิวบุกไปเยือน ซุมกายิต วันที่ 21/11/25 เวลา 22.00 น. หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งเล่นเกมลีกกับ เนฟต์ชิ ไปหมาดๆ เกมกับซุมกายิตจึงสำคัญมากต่อการลุ้นแชมป์ลีกในประเทศ
ด้านเชลซี โปรแกรมใน พรีเมียร์ลีก นั้นแน่นไม่แพ้กัน นัดถัดไปจะบุกเยือน เบิร์นลีย์ วันที่ 22/11/25 เวลา 19.30 น. ก่อนจะกลับมาเล่นในบ้านพบ วูล์ฟส์ ช่วงต้นสัปดาห์ถัดไป ทั้งสองแมตช์คือบททดสอบสำคัญว่าทีมของมาเรสก้าจะสามารถต่อยอดฟอร์มในเวทียุโรปไปสู่ความคงเส้นคงวาในลีกได้หรือไม่
📣 ติดตาม บ้านผลบอล และคอบอลต้องไม่พลาดที่ บ้านกีฬา
สำหรับคอบอลที่อยากอัปเดต บ้านผลบอล, เช็กสกอร์แบบเรียลไทม์, ดูสถิติลึกๆ พร้อมมุมมองแบบจัดเต็มสไตล์นักข่าวลูกหนัง อย่าลืมติดตาม บ้านกีฬา ไว้ให้ดี เรารวมทุกอย่างตั้งแต่ ผลบอลสด, ไฮไลต์เด็ด, บทวิเคราะห์ก่อน–หลังเกม ไปจนถึงอัปเดต โปรแกรมบอล รายวัน ให้แฟนบอลไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของโลกฟุตบอล

