จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง สลาเวีย ปราก 0-3 อาร์เซนอล วันนี้ 5/11/68 – บ้านกีฬา
ค่ำคืนฟุตบอล ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ที่ปราก กลายเป็นสนามซ้อมยิงของ อาร์เซนอล อย่างแท้จริง เมื่อบุกถล่ม สลาเวีย ปราก 3-0 แบบเหนือชั้นทั้งรูปเกมและสกอร์ แฟนบอลที่ตามเช็ก ผลบอลสด น่าจะสัมผัสได้ตั้งแต่ต้นเกมแล้วว่า “ปืนใหญ่” มาเพื่อปิดจ๊อบรอบแบ่งกลุ่มให้ไวที่สุด
ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า โรเตชั่นหลายตำแหน่ง แต่ยังคุมเกมได้อยู่หมัด บูกาโย ซาก้า กดจุดโทษนำร่อง ก่อน มิเกล เมริโน่ จะสวมบทพระเอกยิงเพิ่มอีกสองเม็ดในครึ่งหลัง ส่งทีมคว้า 12 แต้มเต็มจาก 4 นัด ส่วนสลาเวีย ปราก จมปลักโซนล่างของตารางรวมศึกยุโรป
🕐 ครึ่งแรก – จุดโทษซาก้าปลดล็อก เกมรุกปืนเริ่มไหล
เปิดฉากมา สลาเวีย ปราก ในระบบ 3-4-3 ไม่ได้กลัวชื่อชั้นอาร์เซนอล เปิดเกมบีบสูง ไล่เพรสแนวรับทีมเยือนจนจ่ายบอลพลาดหลายครั้ง หัวหอก ทอมาช โครี่ พยายามใช้ร่างกายบังบอลปะทะกับ กาเบรียล และ ซาลิบา ขณะที่ ยูซุฟ ซันยัง กับ ลูคาช โปรวอด คอยกระชากจากริมเส้นเข้าใน ทำให้แนวรับปืนใหญ่ต้องถอยต่ำอยู่พักใหญ่
อย่างไรก็ตาม นาที 23 จุดเปลี่ยนแรกของเกมมาเยือนเมื่อ อีธาน เอ็นวาเนรี โดนทำฟาวล์กลางสนามรับใบเหลือง เป็นสัญญาณว่าจังหวะปะทะเริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ก่อนนาที 30 กาเบรียล ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที
นาที 32 บูกาโย ซาก้า รับหน้าที่สังหาร ยิงเสียบมุมแบบไม่เหลือ ส่งอาร์เซนอลขึ้นนำ 1-0 ต่อหน้าเสียงโห่ของเจ้าถิ่น แต่กลายเป็นเสียงเงียบกริบทั่วสนาม หลังเสียประตู สลาเวียพยายามเร่งเครื่องทวงคืน ทว่าติดเกมรับแพ็กแน่นของปืนใหญ่ ขณะที่ เมริโน่ เริ่มคุมจังหวะตรงกลาง เดแคลน ไรซ์ กับ คริสเตียน นอร์การ์ด ช่วยไล่บี้ไม่ให้เจ้าบ้านแทงทะลุช่องง่ายๆ
นาที 37 เมริโน่ โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดเกมรุก แต่โดยรวมอาร์เซนอลยังคุมสถานการณ์ได้หมด จบครึ่งแรก “ปืนใหญ่” นำ 1-0 ทั้งที่ครองบอลเหนือกว่าไม่มาก ทว่าคมกว่าชัดเจน
🔥 ครึ่งหลัง – เมริโน่โหมดพระเอก กดเบิ้ลปิดบัญชี 3-0
เริ่มครึ่งหลังได้ไม่กี่วินาที อาร์เซนอลก็ลงโทษเจ้าบ้านอีกครั้ง นาที 46 เลอันโดร ทรอสซาร์ด ลากตัดจากซ้ายก่อนแทงทะลุช่องให้ มิเกล เมริโน่ หลุดเข้าไปแปเน้นๆ ผ่านมือ มาร์โควิช เสียบเสาไกล กลายเป็นประตู 2-0 แบบที่สลาเวียยังตั้งเกมไม่ทัน
เจ้าถิ่นรีบแก้เกมทันที นาที 49 ส่ง มอยเมียร์ เคห์ติล ลงมาแทน โครี่ เพื่อเติมความวูบวาบ แต่รูปเกมกลับโดนสวนอยู่เรื่อยๆ จนต้องเสี่ยงแพ็กเกมรุกเพิ่มด้วยการเปลี่ยนรวดเดียวสองคนในนาที 70 ทั้ง ดาวิด ดูเดรา และ มูฮัมหมัด ชาม-ซาราเชวิช ลงมาช่วยริมเส้น
ฝั่งอาร์เตต้าเริ่มโรเตชั่นเช่นกัน นาที 65 ถอด เอ็นวาเนรี ให้ เอเบเรชี เอเซ่ ลงมาเปลี่ยนมิติ แนวรุกยังไหลลื่น และในนาที 68 ไรซ์ ค่อยๆ ลากขึ้นกลางสนามก่อนแทงทะลุช่องให้เมริโน่หลุดเดี่ยว ซัดด้วยซ้ายผ่านโกลเจ้าบ้านเป็น 3-0 อย่างเยือกเย็น
ท้ายเกม สลาเวีย ปราก พยายามกดดันแบบหมดหน้าตัก ได้ลุ้นจุดโทษในนาที 86 จากจังหวะที่ โปรวอด ล้มในเขตโทษ แต่ VAR ตรวจแล้วผู้ตัดสินกลับคำตัดสิน ยกเลิกจุดโทษ ท่ามกลางความหัวเสียของแฟนเจ้าถิ่น และในช่วงทดเวลา 90+6 ยุสซูฟ เอ็มโบด์จิ ยังโดนใบเหลืองจากการโวยกรรมการ
จบเกม อาร์เซนอล บุกถล่ม 3-0 สกอร์ขาดลอยตามรูปเกมที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน สมกับที่แฟนๆ กดรีเฟรชหน้า บ้านผลบอล แล้วเห็นชื่อปืนใหญ่ปรากฏพร้อมสามแต้มเต็ม
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริง, นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
🟥 สลาเวีย ปราก (3-4-3) – เรตติ้ง Sofascore
ผู้รักษาประตู
- 35 ยินดริช มาร์โควิช – 6.7
กองหลังสามคน
- 4 ดาวิด ซิม่าห์ – 6.1
- 2 สเตฟาน ชาลูเป็ก – 6.1
- 27 ทิม โวลเช็ก – 5.9
กองกลางและวิงแบ็ก
- 12 ยุสซูฟ เอ็มโบด์จิ – 6.8 (มีใบเหลืองช่วงท้ายเกม)
- 23 มิคาล ซาดเล็ค – 6.9
- 10 คริสโตส ซาเฟอริส – 6.3 (โดนใบเหลืองนาที 70 ก่อนถูกถอด)
- 16 เดวิด โมเสส – 6.2
แนวรุกสามประสาน
- 11 ยูซูฟ ซันยัง – 7.4 (หนึ่งในตัวรุกที่อันตรายสุดของเจ้าบ้าน)
- 25 ทอมาช โครี่ – 6.2
- 17 ลูคาช โปรวอด (กัปตัน) – 7.4
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 13 มอยเมียร์ เคห์ติล – 6.1 (ลงแทน โครี่ นาที 49)
- 21 ดาวิด ดูเดรา – 6.7 (ลงแทน โวลเช็ก นาที 70, โดนใบเหลืองนาที 83 จากจังหวะโวยผู้ตัดสิน)
- 7 มูฮัมหมัด ชาม-ซาราเชวิช – 6.7 (ลงแทน ซาเฟอริส นาที 70)
- 8 ไดกิ ฮาชิโอกะ – 6.6 (ลงแทน โมเสส นาที 74)
- 9 วาซิล คูเซย์ – 6.4 (ลงแทน ซันยัง นาที 74)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
อดัม เรเซ็ค, ยินดริช สตาเน็ก, ยาคุบ โคลิเซ็ก, ยาน บอริล, โทมาช เยลิเน็ก, เอริก เปรค็อป
🟦 อาร์เซนอล (4-3-3) – เรตติ้ง Sofascore
ผู้รักษาประตู
- 1 ดาบิด รายา – 6.6
กองหลังสี่คน
- 12 ยูร์เรียน ทิมเบอร์ – 6.8
- 2 วิลเลียม ซาลิบา – 6.4
- 6 กาเบรียล มากัลเญส – 7.5
- 5 ปิเอโร่ อินคาปิเอ – 7.3
กองกลางสามคน
- 16 คริสเตียน นอร์การ์ด – 6.4 (รับใบเหลืองนาที 75)
- 41 เดแคลน ไรซ์ – 7.8 (หนึ่งแอสซิสต์)
- 23 มิเกล เมริโน่ – 8.7 (สองประตู, 1 ใบเหลือง)
แนวรุกสามคน
- 7 บูกาโย ซาก้า (กัปตัน) – 7.3 (ยิงจุดโทษขึ้นนำ)
- 22 อีธาน เอ็นวาเนรี – 6.2 (โดนใบเหลืองนาที 23)
- 19 เลอันโดร ทรอสซาร์ด – 7.4 (หนึ่งแอสซิสต์)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 10 เอเบเรชี เอเซ่ – 6.6 (ลงแทน เอ็นวาเนรี นาที 65)
- 56 แม็กซ์ ดาว์แมน – 6.7 (ลงแทน ทรอสซาร์ด นาที 72)
- 4 เบน ไวท์ – 6.2 (ลงแทน ทิมเบอร์ นาที 73)
- 49 ไมล์ส ลูอิส–สเกลลี – 6.6 (ลงแทน อินคาปิเอ นาที 73, โดนใบเหลืองนาที 79)
- 71 อันเดร แฮร์ริมาน-แอนนูส – 6.6 (ลงแทน ไรซ์ นาที 81)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
ทอมมี เซ็ตฟอร์ด, อเล็กเซย์ โรฮาส, คริสเตียน มอสเกรา, ริคคาร์โด คาลาฟิออริ
⭐ นักเตะโดดเด่นของเกม
- มิเกล เมริโน่ (อาร์เซนอล) – 2 ประตู, คุมจังหวะเกมแดนกลาง, เรตติ้งสูงสุด 8.7
- เดแคลน ไรซ์ (อาร์เซนอล) – เก็บกวาดหน้าเซ็นเตอร์ไม่ให้สลาเวียเล่นเกมโต้กลับ แถมจ่ายให้เมริโน่ยิงลูก 3-0
- เลอันโดร ทรอสซาร์ด (อาร์เซนอล) – ขึ้นเกมซ้ายจัดจ้าน ทำแอสซิสต์ให้เมริโน่ในลูก 2-0
- ลูคาช โปรวอด และ ยูซูฟ ซันยัง (สลาเวีย) – ตัวรุกที่พอจะสร้างความอันตรายให้แนวรับปืนใหญ่ แม้จบสกอร์ไม่ได้
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในมุมมองสาย วิเคราะห์บอล เกมนี้แตกต่างกันชัดเจนทั้งแนวคิดและการจัดระบบระหว่างสองทีม
สลาเวีย ปราก ยืนระบบ 3-4-3 เน้นความแข็งแรงตรงกลางและริมเส้น วิงแบ็กอย่าง เอ็มโบด์จิ กับ โมเสส เติมสูงคอยเปิดบอลให้โครี่เป็นเป้า หลักการคือบีบบอลสูง ตั้งโซนเพรสบีบแนวรับอาร์เซนอลให้รีบเล่น อาศัยแฟนบอลเจ้าบ้านช่วยกดดันหวังฉวยโอกาสจากความผิดพลาด อย่างไรก็ดี การยืนแผงหลังสามคนที่ดันสูง ทำให้ช่องว่างด้านข้างและด้านหลังกองหลังเกิดบ่อย เมื่อเจอแนวรุกสปีดจัดของอาร์เซนอล โดนเจาะทะลุช่องและบอลสวนกลับอย่างต่อเนื่อง
เกมรับของสลาเวียแม้จะเล่นหนัก ไม่ถอยง่าย สถิติฟาวล์สูงถึง 27 ครั้ง ช่วยหยุดจังหวะต่อบอลของปืนใหญ่ แต่ก็ทำให้ทีมเสียจุดโทษและใบเหลืองหลายครั้ง ความผิดพลาดในการเลือกจังหวะเข้าสกัด – ทั้งจังหวะทำฟาวล์ในเขตโทษของกาเบรียล และการดึงรั้งกลางสนาม – เป็นตัวอย่างชัดเจนว่าทีมยังขาดความนิ่งในเกมใหญ่ระดับนี้
ด้าน อาร์เซนอล ใช้ระบบ 4-3-3 ที่ยืดหยุ่นมาก เมริโน่ยืนกองกลางตัวสูงคอยเชื่อมกับแนวรุก ขณะที่ไรซ์ยืนต่ำสุดเป็นตัวกวาดหน้าแผงหลัง ถ้าเสียบอลจะถอยลงไปยืนเกือบเป็นเซ็นเตอร์คนที่สาม ช่วยปิดช่องให้คู่เซ็นเตอร์ไม่ต้องดันสูงเกินไป นอร์การ์ดเติมขึ้นกดดันจุดเริ่มเกมของสลาเวีย ทำให้คู่แข่งต่อบอลจากหลังขึ้นหน้าได้ยาก
ในเกมรุก ปืนใหญ่ใช้การเคลื่อนที่สลับตำแหน่งเก่งเป็นพิเศษ ซาก้าสลับเข้ากลางเปิดพื้นที่ให้ทิมเบอร์เติมซ้อน ส่วนฝั่งซ้าย ทรอสซาร์ดลากกินตัวกองหลัง ดึงจังหวะก่อนจ่ายตัดหลังหรือแปะให้เมริโน่วิ่งสอด ตัวอย่างชัดคือประตู 2-0 และ 3-0 ที่เกิดจากการลากดึงแนวรับแล้วแทงทะลุช่องตามแบบฉบับอาร์เซนอลยุคอาร์เตต้า
เมื่อได้สกอร์นำ อาร์เซนอลถอยแผงรับลงยืนบล็อกกลางพื้นที่ปากประตู เน้นปิดครอสและคุมเซ็ตพีซให้แน่น ผลคือสลาเวียแม้จะครองบอลด้านข้างได้เรื่อยๆ แต่หาจังหวะยิงจะแจ้งได้ไม่มาก ยิงเข้ากรอบเพียง 3 ครั้งทั้งเกม สวนทางกับความเฉียบคมของปืนใหญ่ที่ยิงเข้ากรอบ 7 ครั้งและเปลี่ยนเป็น 3 ประตูเต็มๆ
📈 สถิติการแข่งขันสะท้อนความเหนือชั้นของปืนใหญ่
ตัวเลขสถิติหลังเกมบอกชัดว่าอาร์เซนอลไม่ได้ชนะเพราะจังหวะฟลุค แต่เหนือกว่าจริงทั้งเกมรุกและเกมรับ ทีมเยือนยิงทั้งหมด 14 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง ขณะที่สลาเวีย ปราก มีโอกาสยิงเพียง 8 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้งเท่านั้น การครองบอลก็เป็นของปืนใหญ่ 60% ต่อ 40% พร้อมจำนวนการส่งบอล 312 ต่อ 201 และความแม่นยำการจ่ายสูงถึง 88% เทียบกับเจ้าบ้านที่ 79%
ด้านเกมรับ สลาเวียต้องใช้การฟาวล์หยุดเกมถึง 27 ครั้ง และโดนใบเหลือง 3 ใบ ส่วนอาร์เซนอลทำฟาวล์แค่ 12 ครั้ง แต่ได้ใบเหลืองถึง 4 ใบ สะท้อนสไตล์การเล่นที่เน้นตัดฟาวล์แบบจำเป็นในจังหวะอันตรายมากกว่าจะชนทุกดอก ทั้งสองทีมไม่มีใบแดง ขณะที่ลูกเตะมุม อาร์เซนอลได้ถึง 7 ครั้ง ได้จังหวะเซ็ตเพลย์บ่อยครั้ง ส่วนสลาเวียได้ 4 ครั้ง แต่อาศัยความสูงใหญ่เจาะแนวรับปืนไม่ได้เลย
⏱️ เหตุการณ์สำคัญตลอด 90 นาที
- ⚽ 23′ – อีธาน เอ็นวาเนรี (อาร์เซนอล) ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลืองใบแรกของเกม
- ⚽ 30′ – กาเบรียล มากัลเญส ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษอาร์เซนอล
- ⚽ 32′ – บูกาโย ซาก้า สังหารจุดโทษไม่พลาด อาร์เซนอลนำ 1-0
- 🟨 37′ – มิเกล เมริโน่ เข้าสกัดช้ากลางสนาม โดนใบเหลือง
- ⏱️ 45+4′ – จบครึ่งแรก สลาเวีย ปราก 0-1 อาร์เซนอล
- ⚽ 46′ – เลอันโดร ทรอสซาร์ด จ่ายทะลุช่องให้ เมริโน่ หลุดเข้าไปยิง เป็น 2-0 ให้ปืนใหญ่
- 🔁 49′ – สลาเวียเปลี่ยน มอยเมียร์ เคห์ติล แทน ทอมาช โครี่ เติมความสดแดนหน้า
- 🔁 65′ – อาร์เซนอลถอด เอ็นวาเนรี ส่ง เอเบเรชี เอเซ่ ลงมาช่วยสร้างเกมรุก
- ⚽ 68′ – เดแคลน ไรซ์ แทงทะลุช่องให้ เมริโน่ หลุดเดี่ยวยิงผ่านโกล สกอร์ไหลเป็น 3-0
- 🟨 70′ – คริสโตส ซาเฟอริส ทำฟาวล์รุนแรง โดนใบเหลือง
- 🔁 70′ – สลาเวียเปลี่ยนสองคนรวด ส่ง มูฮัมหมัด ชาม-ซาราเชวิช แทน ซาเฟอริส และ ดาวิด ดูเดรา แทน ทิม โวลเช็ก
- 🔁 72′ – อาร์เซนอลส่ง แม็กซ์ ดาว์แมน แทน ทรอสซาร์ด
- 🔁 73′ – เบน ไวท์ ลงแทน ยูร์เรียน ทิมเบอร์ / ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี ลงแทน ปิเอโร่ อินคาปิเอ
- 🔁 74′ – สลาเวียส่ง ไดกิ ฮาชิโอกะ แทน เดวิด โมเสส และ วาซิล คูเซย์ แทน ยูซูฟ ซันยัง
- 🟨 75′ – คริสเตียน นอร์การ์ด ทำฟาวล์ตัดเกม โดนใบเหลือง
- 🟨 79′ – ไมล์ส ลูอิส–สเกลลี ทำฟาวล์หนัก รับใบเหลือง
- 🔁 81′ – อาร์เซนอลเปลี่ยน อันเดร แฮร์ริมาน-แอนนูส ลงแทน เดแคลน ไรซ์
- 🟨 83′ – ดาวิด ดูเดรา โดนใบเหลืองจากการโวยผู้ตัดสิน
- ⚽ 86′ – สลาเวียเหมือนจะได้จุดโทษจากจังหวะลูคาช โปรวอด ล้มในเขตโทษ แต่หลังเช็ก VAR ผู้ตัดสินยกเลิกจุดโทษ
- 🟨 90+6′ – ยุสซูฟ เอ็มโบด์จิ โดนใบเหลืองข้อหาโวยเกินเหตุในช่วงทดเวลา
- ⏱️ 90+6′ – จบเกม สลาเวีย ปราก แพ้ อาร์เซนอล 0-3
🏆 Player of the Match – มิเกล เมริโน่ ขุนพลมิดฟิลด์เพชฌฆาต
ตำแหน่ง Man of the Match เกมนี้ หนีไม่พ้น มิเกล เมริโน่ มิดฟิลด์สแปนิชที่คว้าเรตติ้ง 8.7 จากการยิงสองประตูและคุมเกมกลางสนามอย่างเบ็ดเสร็จ เมริโน่ไม่ใช่แค่ตัวเชื่อมเกม แต่คือหัวใจในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ทุกครั้งที่บอลมาถึงเท้า เขาจะมองหาช่องระหว่างเซ็นเตอร์กับวิงแบ็กของสลาเวียทันที
ประตู 2-0 แสดงให้เห็นการสอดวิ่งเข้าพื้นที่ว่างได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนลูก 3-0 มาจากการอ่านจังหวะวิ่งตัดไลน์กองหลังรับบอลจากไรซ์ ก่อนจบสกอร์ด้วยความนิ่งในระดับท็อปของยุโรป แม้จะมีใบเหลืองติดตัวแต่ยังคุมอารมณ์ดี ตัดเกมเท่าที่จำเป็น ทำให้แดนกลางสลาเวียแทบไม่มีโอกาสตั้งลำเล่นบอลสวยๆ ได้เลย บ้านกีฬา บอกได้คำเดียวว่า เมริโน่คือ “ตัวต่อชิ้นสำคัญ” ในแผนยุโรปของอาร์เตต้าในปีนี้
📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
เมื่อมองตารางคะแนนรวมของ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก หลังจบนัดที่ 4 จากภาพจะเห็นว่า บาเยิร์น มิวนิก ขึ้นนำด้วย 12 แต้มเต็มและผลต่างประตูดีที่สุด ขณะที่ อาร์เซนอล ตามมาแบบจี้ติดในอันดับต้นๆ มี 12 แต้มเต็มเช่นกันจาก 4 นัด ยิงได้ 11 เสียเพียง 3 ผลต่าง +8 ถือว่าจ่อเข้ารอบน็อกเอาต์แบบสบายๆ หากรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อไป
ฝั่ง สลาเวีย ปราก ภาพรวมกลับกันอย่างสิ้นเชิง ลงเตะ 4 นัดยังไม่ชนะใคร มีแค่ 2 คะแนนจากการเสมอ 2 แพ้ 2 ยิงได้ 2 เสียถึง 10 ประตู ผลต่าง -8 อยู่โซนครึ่งล่างของตารางรวม กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ต้องลุ้นหนักมากหากหวังยื้อโอกาสเข้ารอบต่อไปในกลุ่มของตัวเอง
📅 ตารางบอลยูฟ่า และโปรแกรมถัดไปของสองทีม
ในแง่ ตารางบอล จากภาพโปรแกรมที่ปรากฏ แม้จะเป็นเกมในลีกของแต่ละประเทศ แต่ก็สะท้อนว่าทั้งสองทีมยังมีภารกิจหนักรออยู่หลังจบศึกยุโรปนัดนี้
- ฝั่ง สลาเวีย ปราก มีคิวลงเล่นเช็กเฟิร์สต์ลีกกับ วิคตอเรีย พิลเซ่น และเกมสำคัญในบ้านพบ โบฮีเมียนส์ ต่อเนื่อง ซึ่งอาจต้องโรเตชั่นหลังกรำศึกยูซีแอล เพื่อกลับมากู้หน้าในลีก
- ส่วน อาร์เซนอล ต้องหันไปโฟกัสพรีเมียร์ลีกทันที มีเกมเยือน ซันเดอร์แลนด์ ก่อนเตรียมลงเล่นนัดใหญ่ “ลอนดอนดาร์บี” ปะทะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งแฟนบอลทั่วโลกจับตาอยู่แล้ว
สำหรับโปรแกรมในถ้วยยุโรปนัดถัดไปของทั้งสองทีม ยังต้องรออัปเดตจากฝ่ายจัดการแข่งขัน แต่จากฟอร์มตอนนี้ เชื่อได้เลยว่าเมื่อ โปรแกรมบอล ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบต่อไปถูกปล่อยออกมา แฟนปืนใหญ่จะยิ้มรอ ขณะที่สาวกสลาเวียคงต้องลุ้นหนักสุดๆ
🏠 ติดตาม บ้านผลบอล สดใหม่ได้ทุกคืนที่ “บ้านกีฬา”
ใครที่อยากตามลุ้นสกอร์สดแบบเรียลไทม์ หรืออ่านสรุปหลังเกมแบบจัดเต็มสไตล์คอลัมนิสต์ลูกหนัง บ้านกีฬา ขอย้ำเลยว่าห้ามพลาด การกดเข้ามาเช็ก บ้านผลบอล ที่นี่ คุณจะได้ทั้งสกอร์, สถิติ, บทวิเคราะห์ และมุมมองดุเดือดมันส์ๆ จากเกมใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะลีกยุโรปหรือลีกไทย บ้านกีฬาพร้อมเล่าให้ฟังเหมือนนั่งดูข้างสนาม ไปต่อด้วยกันทุกคืนบอลไม่ให้ตกเทรนด์ลูกหนังสักแมตช์เดียว
