
ศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำผลงานสุดแข็งแกร่งบุกไปเอาชนะ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม 1-0 ส่งผลให้ทีมแชมป์ไทยลีกผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 1-0 หลังเกมแรกเสมอ 0-0 ที่บุรีรัมย์ สนามสุลต่าน อิบราฮิม สเตเดียม กลายเป็นดินแดนพิชิตของทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ที่ทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นต้องอกหักไปตามๆ กัน บ้านกีฬา พร้อมพาทุกท่านไปติดตามบทสรุปเกมที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นในค่ำคืนนี้
ครึ่งแรก – ยะโฮร์ครองบอลมากกว่าแต่ยังเจาะไม่เข้า
เกมเปิดฉากมา ยะโฮร์ เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า ด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นการจ่ายบอลสั้นและคุมจังหวะของเกม ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วางแผนมาอย่างรัดกุม เล่นเกมรับเหนียวแน่นและอาศัยเกมสวนกลับที่เป็นอาวุธหลัก
ช่วง 10 นาทีแรก ยะโฮร์พยายามเจาะแนวรับของบุรีรัมย์จากเกมริมเส้น โดยมี โจนาธาน วิเอร่า และ ซามู คาสติลเยโฆ เป็นตัวปั้นเกม แต่แนวรับของทีมเยือนนำโดย คาร์ลอส ดักลาส และ นีล เอเธอริดจ์ ช่วยกันป้องกันได้ดี
จังหวะหวาดเสียวของเจ้าถิ่นมาถึงในนาทีที่ 24 เมื่อ เบิร์กสัน หลุดไปยิงผ่านมือ เอเธอริดจ์ แต่ถูก VAR ปฏิเสธเนื่องจากล้ำหน้า ก่อนที่เกมจะดำเนินไปอย่างอึดอัดและจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลัง – บุรีรัมย์ฉวยโอกาสยิงนำ ยะโฮร์ไล่ไม่ทัน
กลับมาครึ่งหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการปรับจังหวะการเล่นมากขึ้น โดยเน้นการบุกสวนกลับที่รวดเร็ว และในนาทีที่ 58 พวกเขาก็สามารถทำประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนกดเต็มข้อส่งบอลตุงตาข่าย
ยะโฮร์พยายามเร่งเครื่องอย่างหนักในช่วงท้ายเกม แต่แนวรับของบุรีรัมย์ยังเล่นกันอย่างมีวินัย และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+4 ซามู คาสติลเยโฆ ของยะโฮร์มีปากเสียงกับผู้ตัดสินจนได้รับใบเหลือง ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยชัยชนะของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม (3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู: อาเมียร์ ซูเบียร์เร
กองหลัง: เอ็นริเก้ อิสราฟิลอฟ, อาเดรียน ฟาซาอิล, อาริฟ ไอมาน ฮานาปิ
กองกลาง: ซามู คาสติลเยโฆ, โจนาธาน วิเอร่า, นาตู อินซ่า (C), ออสการ์ พาเซโร่, ซานโตส กอนซาเลซ
กองหน้า: เบิร์กสัน, อเล็กซ์ โลวรีย์
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลง:
- เฮแบร์ตี้ (แทน อาเดรียน ฟาซาอิล) 71’
- โฆเซ่ โรดริเกซ (แทน เบิร์กสัน) 77’
- ฮอร์เก้ โอบรีกอน (แทน ออสการ์ พาเซโร่) 87’
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู: นีล เอเธอริดจ์
กองหลัง: คาร์ลอส ดักลาส (C), กีเญร์เม บิซโซลี, คอนเนอร์ กู๊ด
กองกลาง: ดีออน คูลส์, มาร์โก ซูลิช, ลาซารัส คริสพิม, สเตฟาน มูเอนตา
กองหน้า: มิเชล โบอาเย่, กาเบรียล คาซิช
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลง:
- มิน-ฮยอก คิม (แทน คอนเนอร์ กู๊ด) 67’
- ซาซาลัก หายประกอน (แทน มิเชล โบอาเย่) 67’
- เจฟเฟอร์สัน ตาบินาส (แทน สเตฟาน มูเอนตา) 78’
- พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (แทน ลาซารัส คริสพิม) 88’
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ยะโฮร์ ครองบอลได้มากกว่า (60%) แต่จังหวะจบสกอร์ยังขาดความเฉียบคม โดยเฉพาะในเกมรุกที่แม้จะมีโอกาสยิงมากถึง 16 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียง 5 ครั้งเท่านั้น ในขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาศัยเกมรับที่เหนียวแน่นแล้วใช้จังหวะสวนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นแท็กติกที่ได้ผลในเกมนี้ วิเคราะห์บอล โดยรวมถือว่าบุรีรัมย์อ่านเกมได้ดี และรู้จักใช้โอกาสอย่างคุ้มค่า
สถิติการแข่งขัน
แม้ ยะโฮร์ จะครองบอลได้มากกว่า แต่ บุรีรัมย์ มีเกมรับที่แข็งแกร่งและสวนกลับได้ดี จบเกมด้วยชัยชนะของทีมเยือน
- การครองบอล: ยะโฮร์ 60% – 40% บุรีรัมย์
- การยิง: ยะโฮร์ 16 – 13 บุรีรัมย์
- การผ่านบอลสำเร็จ: ยะโฮร์ 484 ครั้ง – 336 ครั้ง บุรีรัมย์
- การเข้าทำในกรอบเขตโทษ: ยะโฮร์ 6 ครั้ง – 2 ครั้ง บุรีรัมย์
- ใบเหลือง: ยะโฮร์ 4 – 3 บุรีรัมย์
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 58’ ประตู – ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
🟨 24’ ใบเหลือง – มาร์โก ซูลิช (บุรีรัมย์)
🟨 52’ ใบเหลือง – อาริฟ ไอมาน ฮานาปิ (ยะโฮร์)
🟨 90+4’ ใบเหลือง – ซามู คาสติลเยโฆ (ยะโฮร์)
Player of the Match
เคนนี่ ดักลาส (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) – 7.9 คะแนน
คุมเกมแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม มีส่วนช่วยทั้งเกมรับและเกมรุก เป็นหัวใจสำคัญของชัยชนะ
การแข่งขันนัดถัดไป
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมกลับมาลงสนามในศึก ไทยลีก 1 โดยจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ นครราชสีมา เอฟซี ในวันที่ 16 มีนาคม 2025 เวลา 19:00 น. และต่อด้วยเกมเยือน ลำพูน วอริเออร์ วันที่ 26 มีนาคม 2025 เวลา 18:00 น.
ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม จะต้องลงเล่นในศึก มาเลเซีย ซูเปอร์ลีก โดยมีโปรแกรมออกไปเยือน ปีนัง เอฟซี วันที่ 16 มีนาคม 2025 เวลา 21:00 น. และตามด้วยเกมเยือน เคดาห์ ดารุล อามาน วันที่ 29 มีนาคม 2025 เวลา 21:00 น. สามารถเช็คโปรแกรมการแข่งขันเพิ่มเติมผ่าน ตารางบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
อย่าพลาดทุกความเคลื่อนไหวของ บ้านผลบอล และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท 2024 ติดตามข่าวสารได้ที่ บ้านกีฬา