ดราม่าวงการเกมเดือดลามถึงเวทีซีเกมส์แบบหลบไม่พ้น เมื่อ สมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย (TESF) ออกแถลงยืนยัน “ยอมรับและปฏิบัติตามคำตัดสินฝ่ายเทคนิค” หลัง “Tokyogurl” ณภัทร วราสินธ์ นักกีฬา RoV ทีมหญิงทีมชาติไทย ถูกสั่งขับพ้นการแข่งขัน ซีเกมส์ 2025 (ซีเกมส์ครั้งที่ 33) จากกรณีถูกชี้ว่าฝ่าฝืนข้อกำหนดทางเทคนิคตามคู่มือการแข่งขัน โดยสมาคมย้ำชัดว่าถือหลัก Fair Play เป็นสำคัญ และจะเดินหน้าสอบสวนภายในเพื่อยกระดับมาตรฐานทั้งด้านเทคนิคและจริยธรรมนักกีฬาให้เข้มกว่าเดิม.

เกิดอะไรขึ้นในค่ายทีมชาติไทยหญิง RoV ถึงต้อง “ตัดออก” กลางทัวร์นาเมนต์
ตามรายงานข่าว ฝ่ายเทคนิคการแข่งขันตรวจสอบแล้วระบุว่า “Tokyogurl” กระทำผิดตาม ข้อ 9.4.3 ของคู่มือเทคนิคอีสปอร์ต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการ “ใช้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามที่ไม่ได้รับอนุญาต” หรือ “การดัดแปลงฮาร์ดแวร์ระหว่างการแข่งขัน” โดยเหตุเกิดวันที่ 15 ธันวาคม 2568 และมีบทลงโทษชัดเจนคือ “ขับออกจากการแข่งขัน” ซึ่งถูกอธิบายว่าเป็นคำตัดสินขั้นสุดท้ายตามระเบียบ.
TESF ย้ำอีกมุมที่หลายคนสงสัยว่า “บทลงโทษครั้งนี้พิจารณาจากข้อบังคับทางเทคนิคเป็นหลัก” ไม่ใช่การตัดสินตามกระแสภายนอก พร้อมประกาศว่าจะสอบสวนภายในและยกระดับมาตรฐานป้องกันเหตุซ้ำ.
กฎข้อ 9.4.3 ทำไม “แรง” และวงการอีสปอร์ตซีเรียสสุดๆ
ในโลกการแข่งขันอีสปอร์ต กติกาด้านเทคนิคคือหัวใจพอๆ กับฝีมือ เพราะ “อุปกรณ์” และ “ซอฟต์แวร์” มีผลต่อความได้เปรียบเสียเปรียบโดยตรง กฎลักษณะเดียวกับ ข้อ 9.4.3 จึงถูกออกแบบเพื่อปิดช่องทุกแบบที่อาจทำให้เกมไม่แฟร์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้โปรแกรมเสริมที่ไม่ได้รับอนุญาต การปรับแต่งอุปกรณ์ หรือการทำให้ระบบทำงานต่างจากมาตรฐานการแข่งขัน
พูดให้ชัดแบบไม่อ้อม: ต่อให้ผู้เล่นเก่งแค่ไหน แต่ถ้าถูกตรวจพบว่ามี “เครื่องมือ” ที่ขัดกับกฎ ความน่าเชื่อถือของการแข่งขันจะพังทั้งระบบ และนั่นคือเหตุผลที่เวทีระดับซีเกมส์ต้องเข้มเป็นพิเศษ
“ฝ่ายเทคนิค” ตัดสินกันยังไง? ทำไมคำว่า Fair Play ถึงไม่ใช่แค่คำสวยหรู
ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ บทบาทของทีมเทคนิค/ผู้กำกับกติกา คือการคุมมาตรฐานตั้งแต่ก่อนแข่งจนจบแมตช์ เช่น
การตรวจอุปกรณ์ก่อนขึ้นเวที (device check)
การกำหนดสภาพแวดล้อมการแข่งขันให้เท่าเทียม (มาตรฐานฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์)
การตรวจสอบพฤติกรรมที่เสี่ยงผิดกฎระหว่างเกม และการทบทวนหลักฐานหลังเกมตามกระบวนการ

กรณีนี้ TESF ระบุชัดว่าเคารพคำตัดสินที่เป็นที่สิ้นสุด และยึดหลัก Fair Play เป็น “เส้นแดง” ของทีมชาติ.
ผลกระทบไม่จบแค่คนเดียว: นายกสมาคมฯ ยืนยัน “ถอนทีม RoV หญิง” ออกจากซีเกมส์
ประเด็นที่ช็อกยิ่งกว่าการขับนักกีฬา คือรายงานว่า นายสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย แถลงยืนยัน “ถอนทีม RoV หญิงทีมชาติไทยออกจากการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33” พร้อมถ้อยแถลงในเชิงยึดกติกาและสปิริตของเจ้าภาพอย่างเข้มข้น.
การถอนทีมแบบนี้ในทางกีฬา มันเท่ากับยอมเสียโอกาสลุ้นผลงาน/เหรียญ เพื่อรักษามาตรฐานการแข่งขันของรายการและภาพรวมความน่าเชื่อถือของประเทศเจ้าภาพ ซึ่งเป็นราคาที่ “เจ็บ” แต่หลายสมาคมทั่วโลกก็เลือกทำเมื่อความน่าเชื่อถือถูกท้าทาย
ดราม่าโซเชียล-มารยาทบนเวที: ถูกวิจารณ์หนัก แต่สมาคมย้ำโทษมาจากกฎเทคนิค
อีกมุมที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ คือมีรายงานเกี่ยวกับภาพจากการถ่ายทอดสดที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ข่าวระบุว่า TESF ยืนยันการลงโทษยึดจาก “ข้อบังคับทางเทคนิค” เป็นหลัก ไม่เกี่ยวกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายนอก.
ตรงนี้สะท้อนความจริงของกีฬาอาชีพชัดมาก: ฝีมือสำคัญก็จริง แต่วินัย มารยาท และความเป็นมืออาชีพสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อคุณใส่เสื้อ “ทีมชาติ” และอยู่บนเวทีที่ทั้งภูมิภาคกำลังมอง
แรงกระเพื่อมถึงต้นสังกัด และมาตรการผู้จัดเกม
รายงานข่าวระบุว่า TALON ต้นสังกัดได้ออกแถลง “ยุติบทบาทการเป็นนักกีฬา” ของผู้เล่นรายดังกล่าว โดยให้เหตุผลสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของฝ่ายเทคนิคในรายการ AOV ประเภททีมหญิง.
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า Garena (ผู้ถือสิทธิ์การแข่งขันในไทย) ได้ตัดสินใจ “แบน” ออกจากการแข่งขันที่จัดโดยการีน่า และบางสำนักข่าวรายงานถึงระดับบทลงโทษที่เข้มมาก.

บทเรียนที่อีสปอร์ตไทยต้องเก็บให้หมด: ระบบคุมมาตรฐานต้อง “เหนือดราม่า”
เรื่องนี้สรุปเป็นบทเรียนแบบไม่ต้องแต่งเติมได้เลยว่า
มาตรฐานทีมชาติไม่ใช่แค่การซ้อมให้เก่ง แต่คือการซ้อมให้ “ถูกกติกา”
การจัดการอุปกรณ์/ซอฟต์แวร์ต้องมีระบบตรวจซ้ำหลายชั้น และมี checklist ที่ไม่มีคำว่า “พลาดได้”
นักกีฬาและสตาฟฟ์ต้องรู้กฎละเอียดระดับข้อย่อย เพราะเวทีใหญ่ไม่มีพื้นที่ให้ข้ออ้าง
TESF บอกแล้วว่าจะสอบสวนภายในและยกระดับมาตรฐานเพื่อกันเหตุซ้ำ นี่คือจุดที่แฟนกีฬาอยากเห็น “การแก้เชิงระบบ” มากกว่าการจบแค่ข่าวรายวัน.
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

