Record of Ragnarok Season 3 ศึกเทพชนมนุษย์ซีซันใหม่ บู๊เดือดยิ่งกว่าบอลนัดชิง แฟนอนิเมะสายดุห้ามพลาด

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ภาพรวม Record of Ragnarok Season 3 – ศึกตัดสินอนาคตมนุษยชาติ

Record of Ragnarok Season 3 หรือ Record of Ragnarok III คือภาคต่อของอนิเมะสายบู๊ดาร์กแฟนตาซีจากมังงะ “Shuumatsu no Valkyrie” ผลงานของ Shinya Umemura, Takumi Fukui และ Azychika ที่เล่าเรื่อง “ศึกประลอง 13 คู่” ระหว่างเทพจากสารพัดศาสนา-ตำนาน ปะทะมนุษย์ระดับตำนานจากหน้าประวัติศาสตร์โลก เพื่อเดิมพันชะตากรรมว่า “มนุษย์จะได้อยู่ต่อ หรือถูกลบออกจากโลกนี้”

หลังจบซีซัน 2 สกอร์รวมของศึก Ragnarok อยู่ที่ 3-3 เทพชนะ 3 มนุษย์ชนะ 3 กลายเป็นจุดที่เดือดสุด ๆ ของเรื่อง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของซีซัน 3 ที่ลากอารมณ์เหมือนเกมนัดชี้แชมป์ในโลกกีฬา ใครพลาดคือจบ เจอคำว่า “สูญพันธุ์” รออยู่ตรงหน้า

ซีซันนี้ได้ทีมงานใหม่อย่างสตูดิโอ Yumeta Company จับมือ Maru Animation เข้ามารับไม้ต่อ งานภาพและความลื่นไหลของแอ็กชันถูกอัปเกรดจากซีซันก่อนชัดเจน แฟน ๆ หลายสำนักรีวิวกันตรงกันว่า “ภาพมันส์กว่าเดิม” ทั้งการเคลื่อนไหว มุมกล้อง และการเล่นกับพลังของตัวละครที่จัดเต็มกว่าที่เคย

Record of Ragnarok Season 3 ฉายเมื่อไหร่? มีกี่ตอน?

  • วันฉายทั่วโลก: 10 ธันวาคม 2025
  • แพลตฟอร์ม: สตรีมบน Netflix แบบเอ็กซ์คลูซีฟ
  • จำนวนตอน: 15 ตอนเต็ม ๆ ในซีซัน 3

ซีซันนี้ปล่อยรวดเดียวครบ 15 ตอน เหมาะกับสายดูรวดเดียวจบ (binge-watch) แบบสุด ๆ ใครรอเก็บตอนมาหลายปีตั้งแต่ซีซัน 2 ตอนนี้ถึงเวลาตามให้ทันแล้ว

หมายเหตุ: มีข้อยกเว้นบางประเทศ/ดินแดนที่ Netflix ให้บริการไม่ได้ เช่น จีน เกาหลีเหนือ ไครเมีย รัสเซีย และซีเรีย (อิงข้อมูลจากสิทธิ์สตรีมมิงของ Netflix ในหลายข่าวต่างประเทศ)

ดู Record of Ragnarok Season 3 ได้ที่ไหน? (How to watch Record of Ragnarok Season 3)

ดูในไทย

ในประเทศไทยสามารถดู Record of Ragnarok Season 3 ได้ทาง Netflix เหมือนหลายประเทศทั่วโลก เพียงสมัครสมาชิก Netflix (แบบรายเดือน) แล้วค้นหาชื่อเรื่อง “Record of Ragnarok” หรือ “Shuumatsu no Valkyrie” ก็จะเจอครบทั้ง 3 ซีซัน

ใครที่ชอบดูแบบเสียงญี่ปุ่นซับไทย หรือเสียงอังกฤษซับไทย ซีซัน 3 ก็ยังรองรับทั้ง เสียงพากย์ญี่ปุ่น/อังกฤษ พร้อมซับหลายภาษา ตามมาตรฐาน Netflix ทั่วโลก

ในสหรัฐอเมริกา (US)

ผู้ชมในสหรัฐฯ สามารถดูซีซัน 3 ได้ เฉพาะบน Netflix เท่านั้น มีให้เลือกทั้งความละเอียด HD และ 4K ตามแพ็กเกจสมาชิก เปิดดูได้ทั้งผ่านแอปบนมือถือ สมาร์ตทีวี หรือคอมพิวเตอร์

ในแคนาดา / สหราชอาณาจักร / ออสเตรเลีย

  • แคนาดา: สตรีมบน Netflix เต็มซีซันเหมือนกัน
  • สหราชอาณาจักร: มีให้ดูภายใต้หมวด Anime ใน Netflix
  • ออสเตรเลีย: อยู่ในไลน์อัปอนิเมะของ Netflix เช่นกัน

สรุปง่าย ๆ คือ ถ้าประเทศคุณมี Netflix แบบปกติ และไม่ใช่พื้นที่ที่ถูกจำกัดสิทธิ์ ซีซัน 3 ก็ดูได้บน Netflix ทั้งหมด

เนื้อเรื่องหลักของซีซัน 3 – จากศึกกษัตริย์ สู่วิทยาศาสตร์ปะทะเทพปีศาจ

ซีซัน 3 โฟกัส 3 ศึกใหญ่ต่อเนื่องที่หลายคนรอคอยจากมังงะ:

  1. Hades vs Qin Shi Huang
  2. Beelzebub vs Nikola Tesla
  3. Apollo vs Leonidas

ธีมของซีซันนี้ชัดมาก: มันไม่ได้มีแค่ “ใครเก่งกว่าใคร” แต่ลงลึกว่า “อะไรทำให้คน ๆ หนึ่งเลือกจะสู้” เราจะได้เห็นอดีตอันเจ็บปวดของ Beelzebub การไล่ล่าความก้าวหน้าของ Tesla ความดื้อด้านแต่มีเหตุผลของ Leonidas และความภักดีแบบบิดเบี้ยวของ Hades ที่พร้อมแลกทุกอย่างเพื่อพี่ชาย Poseidon

สำหรับสายวิเคราะห์ตัวละคร ซีซันนี้คือของดี ดูแล้วมีอะไรให้คิดต่อเหมือนดูสารคดีผสมเกมชิงแชมป์โลก

ผังตอน Record of Ragnarok Season 3 ทั้ง 15 ตอน

ทุกตอนในซีซันนี้ปล่อยทีเดียววันที่ 10 ธันวาคม 2025 ทั้งหมด 15 ตอน เนื้อหาไล่ตามนี้ (ชื่ออังกฤษตามต้นฉบับ):

  1. Episode 1 – Prologue: Recollections
    – Brunhilde และ Hermes ทบทวนศึกก่อนหน้า หลังผลการต่อสู้ครั้งที่ 6 ทำให้เหล่าเทพเริ่มสั่นคลอนความมั่นใจ
  2. Episode 2 – King vs. King
    – Hades อาสาลงสังเวียนเพื่อแก้แค้นแทน Poseidon ส่วน Qin Shi Huang ขึ้นเวทีในฐานะกษัตริย์ผู้ปกป้องเกียรติของมนุษย์
  3. Episode 3 – Chi You
    – ย้อนอดีต Qin Shi Huang ในการเดินทางขึ้นสู่เขาไท่ซาน เพื่อเผชิญหน้าปีศาจ Chi You และฝึกวิชาต่อสู้โบราณ
  4. Episode 4 – A Promise and an Oath
    – เผยวัยเด็กอันมืดหม่นและสายสัมพันธ์กับผู้ดูแล ที่กลายเป็นรากฐาน “หัวใจของกษัตริย์” ในวันนี้
  5. Episode 5 – Pride of the King of Helheim
    – Hades ทำร้ายตัวเองเพื่อปลดล็อกพลังใหม่ พร้อมดึงพลังมืดแห่ง Helheim เข้าสู่หอกเทพของตน
  6. Episode 6 – Return of the King
    – Qin Shi Huang ปล่อยไม้ตาย “Force of the Phoenix” ขณะที่ Hades เตรียมจังหวะสังหารครั้งสุดท้าย
  7. Episode 7 – Satan
    – Beelzebub ก้าวออกมาสู้ในฐานะตัวแทนของเหล่าทวยเทพ พร้อมเผยอดีตสุดโศกนาฏกรรมที่โยงกับ Satan
  8. Episode 8 – Light vs. Shadow
    – Nikola Tesla ขึ้นสังเวียนพร้อมอาวุธเทคโนโลยีสุดล้ำ ท้าชนคลื่นการสั่นสะเทือนทำลายล้างของ Beelzebub
  9. Episode 9 – A Curse and a Prayer
    – Tesla กางสนาม “Gematria Zone” ขัง Beelzebub ไว้กลางสมการ แต่เทพปีศาจเริ่มเรียนรู้และปรับตัวกลางการต่อสู้
  10. Episode 10 – The Torch Passed On
    – Tesla ฝืนร่างกายทนรับเทคนิคต้องห้ามจาก Helheim พร้อมระลึกถึงพี่ชายที่มอบไฟแห่ง “ความก้าวหน้า” ไว้ในมือเขา
  11. Episode 11 – Progress
    – การปะทะระหว่าง “วิทยาศาสตร์” กับ “ตำนานเทพ” ถูกดันไปสุดขอบ ทั้งคู่ถูกบีบให้โชว์ทุกอย่างที่มี
  12. Episode 12 – The Sun God and the Rebellious Hero
    – Apollo เทพสุริยันผู้หยิ่งผยอง vs Leonidas ราชาแห่งสปาร์ต้าผู้กล้าขวางชะตาฟ้า ศึกแห่ง “ศักดิ์ศรี” เริ่มต้น
  13. Episode 13 – Pride vs. Pride
    – Leonidasเดินหน้าบุกแบบไม่กลัวตาย ขณะเดียวกันก็ย้อนไปเล่าว่าทำไมเขาถึงกล้าท้าทายคำพยากรณ์และเหล่าทวยเทพ
  14. Episode 14 – Know Thyself
    – Leonidas บีบให้ Apollo ต้อง “จริงจัง” กับการต่อสู้ จนเหล่าเทพบางส่วนเริ่มยอมรับในความภาคภูมิใจของ Apollo
  15. Episode 15 – A Clash of Souls
    – เมื่อทั้งสองอยู่ในสภาพยับเยินแต่ไม่ยอมถอย พวกเขาจึงเดิมพันทุกอย่างกับการปะทะครั้งสุดท้ายของ “วิญญาณ”

แคสต์และทีมงาน – ใครพากย์ใครในซีซัน 3

ซีซัน 3 ได้แคสต์ชุดเดิมจากซีซันก่อนกลับมาเพียบ พร้อมเพิ่มเสียงใหม่ให้ตัวละครอย่าง Tesla, Leonidas, Apollo และ Hades โดยรวมแล้วฝั่งญี่ปุ่นที่เด่น ๆ มีดังนี้

ตัวละครหลัก

  • Miyuki Sawashiro ให้เสียง Brunhilde
  • Tomoyo Kurosawa ให้เสียง Göll
  • Wataru Takagi ให้เสียง Zeus
  • Junichi Suwabe ให้เสียง Hermes
  • Ryotaro Okiayu ให้เสียง Hades
  • Kaito Ishikawa ให้เสียง Qin Shi Huang
  • Daisuke Namikawa ให้เสียง Beelzebub
  • Makoto Furukawa ให้เสียง Nikola Tesla
  • Chris Hackney (เวอร์ชันอังกฤษ) ให้เสียง Apollo
  • David Hayter (เวอร์ชันอังกฤษ) ให้เสียง Leonidas

ฝั่งทีมงานเบื้องหลังที่น่าสนใจ:

  • สตูดิโอแอนิเมชัน: Yumeta Company + Maru Animation
  • ผู้กำกับ: Kōichi Hatsumi
  • มือเขียนบทหลัก: Yasuyuki Mutō
  • ออกแบบตัวละคร: Yōko Tanabe และ Hisashi Kawashima
  • เพลงเปิด (OP): “Dead or Alive” โดย GLAY
  • เพลงปิด (ED): “Last Breath, Last Record” โดย Saori Hayami

ทำไมซีซัน 3 ถึงถูกมองว่า “ดีกว่าที่เคย”?

จากรีวิวหลายสำนัก ซีซัน 3 ได้คำชมในจุดที่แฟน ๆ เคยบ่นหนักที่สุด คือ งานแอนิเมชันและจังหวะการเล่าเรื่อง

  • แอ็กชันลื่นขึ้น มีเฟรมเคลื่อนไหวมากกว่าเดิม ไม่ค่อยเจอฉาก “นิ่งสู้กัน” แบบซีซันแรก
  • การเล่าแฟลชแบ็กของแต่ละตัวละครผูกกับจังหวะไฟต์ได้ดี ไม่ดึงอารมณ์หลุด
  • เพลงประกอบช่วยขับอารมณ์ศึกใหญ่ให้รู้สึก “ใหญ่จริง” เหมือนดูแมตช์ชิงแชมป์โลกในเวอร์ชันอนิเมะ

ที่สำคัญ ซีซันนี้เน้นคำถามเชิงปรัชญาเบา ๆ เช่น

  • อะไรทำให้ “มนุษย์” ยังน่าปกป้อง ทั้งที่เต็มไปด้วยด้านมืด
  • ศักดิ์ศรีของกษัตริย์ ความหยิ่งของเทพ และความดื้อด้านของมนุษย์ มันต่างกันตรงไหน

ทำให้ซีซัน 3 ไม่ใช่แค่ดูเพราะ “อยากเห็นใครตีใคร” แต่ดูเพราะ “อยากรู้ว่าพวกเขาต่อสู้เพื่ออะไร” ด้วย

เหมาะกับวัยไหน? ระดับความรุนแรงและเนื้อหา

Record of Ragnarok Season 3 ถูกจัดเรตประมาณ TV-MA ในหลายประเทศ เพราะมี:

  • ฉากต่อสู้รุนแรง เลือดสาด การบาดเจ็บหนัก
  • ตัวละครบางส่วนสูบบุหรี่
  • การออกแบบตัวละครบางคนเซ็กซี่เล็กน้อย (เช่น Aphrodite) แต่ไม่ได้ลงลึกเชิงอนาจาร

ดังนั้นเหมาะกับ ผู้ชมวัยผู้ใหญ่ หรือวัยรุ่นที่อายุถึงเกณฑ์ตามกฎหมายของแต่ละประเทศ หากยังอายุน้อย ควรดูภายใต้การแนะนำของผู้ปกครอง และไม่ควรฝืนกฎเรตติ้งหรือหาช่องทางที่ผิดลิขสิทธิ์

ดูฟรีได้ไหม? ดาวน์โหลดเก็บไว้ดูออฟไลน์ได้หรือเปล่า

  • ซีซัน 3 ไม่มีให้ดูฟรีแบบถูกลิขสิทธิ์ ต้องใช้บัญชีสมาชิก Netflix แบบเสียเงิน เท่านั้น
  • แต่สมาชิก Netflix ส่วนใหญ่สามารถใช้ฟีเจอร์ ดาวน์โหลดเก็บไว้ดูแบบออฟไลน์ ได้บนมือถือ/แท็บเล็ต และบางเครื่อง Windows (ขึ้นกับแพ็กเกจและอุปกรณ์ที่รองรับ)

แนะนำให้เช็กให้แน่ใจว่าโหลดผ่านแอปทางการของ Netflix เท่านั้น เพื่อเลี่ยงปัญหาไวรัส เว็บไซต์เถื่อน และการละเมิดลิขสิทธิ์

ดู Record of Ragnarok Season 3 ได้บนอุปกรณ์อะไรบ้าง

Netflix รองรับอุปกรณ์หลากหลาย ทำให้ดู Record of Ragnarok Season 3 ได้แทบทุกที่ เช่น

  • สมาร์ตโฟน / แท็บเล็ต: iOS, Android
  • สมาร์ตทีวี: Samsung, LG, Sony, Panasonic, Hisense, TCL (รุ่นที่มีแอป Netflix)
  • กล่องสตรีมมิง: Roku, Apple TV, Chromecast, Amazon Fire TV
  • เครื่องเล่นเกม: PlayStation, Xbox (ที่มีแอป Netflix)
  • คอมพิวเตอร์: เว็บเบราว์เซอร์บน Windows, macOS
  • กล่อง Set-Top Box ของบางค่ายที่ฝังแอป Netflix มาให้

สายอนิเมะที่อยากดูภาพใหญ่ ๆ เสียงลั่น ๆ แนะนำดูผ่านทีวีจอใหญ่ ส่วนคนที่ชอบดูยาว ๆ ระหว่างเดินทาง ก็ใช้ฟีเจอร์ดาวน์โหลดในมือถือได้เลย

ถ้าชอบ Record of Ragnarok แล้วควรดูอะไรต่อ? (อนิเมะสายเทพ-ตำนาน-บู๊)

สำหรับคนที่ชอบฟีล “เทพ vs มนุษย์ / ประวัติศาสตร์ vs ตำนาน” แบบในเรื่องนี้ ยังมีอนิเมะและซีรีส์ที่บรรยากาศใกล้เคียงให้ตามต่อ เช่น

  • Blood of Zeus – เรื่องราวเทพกรีกในมุมมองดาร์ก ๆ สไตล์ Netflix เช่นกัน
  • Percy Jackson and the Olympians (ซีรีส์คนแสดง) – สำหรับคนชอบเทพกรีกในโทนเบากว่า
  • Kengan Ashura – สายต่อสู้ทัวร์นาเมนต์เลือดสาดแต่ไม่มีเทพ มีแต่นักสู้สายบ้าพลังฝั่งมนุษย์ล้วน ๆ
  • Fate/stay night และซีรีส์ในจักรวาล Fate – ประวัติศาสตร์และตำนานถูกเรียกมาเป็น “เซอร์แวนต์” สู้กันในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์
  • Bungo Stray Dogs – เปลี่ยนจากเทพเป็นนักเขียน/บุคคลสำคัญในโลกวรรณกรรมที่มีพลังเหนือธรรมชาติ

ทั้งหมดนี้เป็นคอนเทนต์แนว อนิเมะสายบู๊ และซีรีส์ที่ผูกเรื่องกับ “ตำนาน-ประวัติศาสตร์” คล้าย Record of Ragnarok และยังเป็นคีย์เวิร์ดที่ค้นหาได้ตลอดปี ไม่ว่าอนิเมะจะออนแอร์จบไปแล้วก็ตาม

FAQ – คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Record of Ragnarok Season 3

ซีซัน 3 ทำโดยสตูดิโอไหน?
– ใช้ทีมแอนิเมชันหลักคือ Yumeta Company ร่วมกับ Maru Animation แทน Graphinica ที่ทำซีซันแรก ๆ

ซีซัน 3 ดัดแปลงเนื้อหามังงะช่วงไหน?
– ครอบคลุมอาร์กใหญ่ 3 ศึก: Hades vs Qin Shi Huang, Beelzebub vs Nikola Tesla และ Apollo vs Leonidas ตามลำดับจากต้นฉบับมังงะ

มีเสียงพากย์อะไรให้เลือกบ้าง?
– โดยทั่วไปใน Netflix จะมีทั้งเสียงญี่ปุ่นและเสียงอังกฤษ พร้อมซับหลายภาษา (ขึ้นกับโซนที่คุณอยู่)

ต้องดูซีซัน 1–2 มาก่อนหรือไม่?
– แนะนำอย่างยิ่งให้ดูครบ เพราะความมันส์ของซีซัน 3 อยู่ที่การ “สานต่อ” สกอร์ 3-3 และพัฒนาการของทั้งฝ่ายเทพและมนุษย์ ถ้ามาเริ่มที่ซีซัน 3 เลยจะเข้าใจโครงเรื่องใหญ่ได้ แต่จะพลาดอารมณ์สะสมของศึกก่อนหน้า

 

 

สรุป – ซีซัน 3 คือแมตช์ชี้ชะตาที่แฟน Record of Ragnarok ห้ามพลาด

สำหรับแฟนอนิเมะสายดาร์กแฟนตาซีและคนที่ชอบแนว “เกมตัดสินโลก” Record of Ragnarok Season 3 คือภาคที่ยกระดับทั้งงานภาพ แอ็กชัน และความลึกเชิงอารมณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ

  • ศึก Hades vs Qin Shi Huang คือบิ๊กแมตช์กษัตริย์ปะทะกษัตริย์
  • ศึก Beelzebub vs Nikola Tesla คือการปะทะความหวังของวิทยาศาสตร์”
  • ศึก Apollo vs Leonidas คือสงครามศักดิ์ศรีที่ทำให้เราตั้งคำถามถึง “ความหยิ่ง” ในแบบเทพ และ “ความดื้อด้าน” ในแบบมนุษย์

ทั้งหมดนี้ถูกร้อยเข้าด้วยกันภายใต้ภาพสวยขึ้น เพลงโหดขึ้น และบทที่เน้นให้เรากลับมาถามตัวเองว่า “มนุษย์อย่างเรา…คุ้มค่าที่จะปกป้องไหม?”

ใครเป็นคออนิเมะสายบู๊ สายเทพเจ้า สายประวัติศาสตร์ตีลังกา ถ้าดูบอลจบแล้วกำลังหาอะไรเดือด ๆ ดูต่อบน Netflix บอกเลยว่า Record of Ragnarok ซีซัน 3 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ต้องมีในลิสต์

แฟนอนิเมะ แฟนกีฬา และคอความมันส์ทุกสาย อย่าลืมติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา ทุกวันนะคะ

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา