รัฐบาลกำลังจะกดปุ่มปล่อยมาตรการใหญ่ “คนละครึ่งพลัสเฟส 2” เติมเงินเข้ากระเป๋า เป๋าตัง ต้นปี 2569 เป้าคืออัดพลังจับจ่ายให้เศรษฐกิจในประเทศยังคงเดือดต่อเนื่องหลังปีใหม่ โดยคราวนี้ไม่ได้ช่วยแค่คนเมือง แต่ยังหันไปโฟกัสกลุ่มที่เปราะบางจริงๆ ทั้งพื้นที่น้ำท่วม ภาคใต้ และจังหวัดชายแดนกัมพูชาที่มีการสู้รบ บ้านกีฬาเลยพามาไล่ให้ครบทุกมุม ตั้งแต่ “แจกเท่าไหร่ – ใครได้ – ใครหลุด – ต้องเตรียมตัวยังไง” อ่านจบวางแผนรอวันกดสิทธิได้เลย
ภาพรวมคนละครึ่งพลัสเฟส 2: มาตรการ Quick Win กระตุ้นเศรษฐกิจ
ตามไทม์ไลน์ที่ โฆษกรัฐบาล ระบุ โครงการ คนละครึ่งพลัสเฟส 2 จะถูกเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ภายในเดือนธันวาคม 2568 และหากไฟเขียว คาดว่าจะเปิดให้ประชาชนเริ่มใช้สิทธิจริงในช่วงเดือนมกราคม 2569 เพื่อให้เม็ดเงินหมุนแรงตั้งแต่ต้นปี ไม่ให้กำลังซื้อของคนไทยตกหลังเทศกาลปีใหม่
คนละครึ่งพลัสถูกวางให้เป็นมาตรการ “ช่วงสั้นแต่แรง” คล้ายยาชูกำลังของเศรษฐกิจ โดยรัฐร่วมจ่ายบางส่วนให้ประชาชนในทุกการใช้จ่าย ผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อให้เงินวิ่งเข้าร้านค้ารายย่อย ตลาดชุมชน และ SME ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันก็ใช้เป็นเครื่องมือดันให้คนคุ้นชินกับการจ่ายผ่านวอลเล็ตและระบบดิจิทัลของรัฐมากขึ้นด้วย
ลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสเฟส 2 เมื่อไหร่ – ใช้สิทธิได้ตอนไหน
จากข้อมูลเบื้องต้น โครงร่างเวลาของโครงการถูกวางไว้ “คร่าวๆ” ดังนี้
- เปิดลงทะเบียน ปลายเดือนธันวาคม 2568
- เริ่มใช้สิทธิ เดือนมกราคม 2569 ผ่านแอปฯ เป๋าตัง
- ระยะเวลาโครงการ คาดว่าจะครอบคลุมช่วง 2–3 เดือนแรกของปี เพื่อดันกำลังซื้อในช่วงที่เศรษฐกิจมักชะลอหลังเทศกาล
รายละเอียดวันเป๊ะๆ ยังต้องรอมติ ครม. เศรษฐกิจและ ครม. ใหญ่เคาะอีกครั้ง แต่สัญญาณชัดแล้วว่า “ต้นปี 69 ได้ใช้แน่” ถ้าไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในนาทีสุดท้าย
แจกกี่บาท แบ่งสิทธิยังไง? 10 ล้านสิทธิ ชิงก่อนมีสิทธิก่อน
กรอบล่าสุดของ คนละครึ่งพลัสเฟส 2 ระบุว่า จะมีวงสิทธิรวม 10 ล้านสิทธิ และคาดว่าจะจัดสรรวงเงินให้ประชาชน คนละ 2,000 บาท ในเฟสนี้ โดยกำลังพิจารณารูปแบบที่ยุติธรรมระหว่าง “คนที่เคยได้แล้ว” กับ “คนที่ไม่เคยแตะโครงการมาก่อน”
เบื้องต้นมีแนวคิดแบ่ง 10 ล้านสิทธิออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มละประมาณ 5 ล้านสิทธิ ดังนี้
กลุ่มที่ 1 – 5 ล้านสิทธิแรก (กลุ่มเก็บตก/พื้นที่เสี่ยง)
- คนที่ ไม่เคยร่วมโครงการคนละครึ่ง/คนละครึ่งพลัสเลย ตั้งแต่เฟส 1 จนถึงเฟสล่าสุด
- ประชาชนใน พื้นที่ประสบอุทกภัย ช่วงปลายปี 2568
- ประชาชนใน จังหวัดชายแดนกัมพูชาที่มีการสู้รบ ซึ่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยตรง
กลุ่มที่ 2 – 5 ล้านสิทธิที่เหลือ (คนเคยใช้สิทธิแล้ว)
- คนทั่วไปที่เคยร่วมโครงการมาก่อน แต่ยังต้องการแรงเสริมเพื่อพยุงค่าครองชีพ
- แนวโน้มจะเปิดให้ลงทะเบียนแข่งกันตามปกติ “มาก่อนได้ก่อน” ผ่านแอปฯ เป๋าตัง
ขณะเดียวกัน บางสำนักข่าวระบุว่า โครงสร้างเงินอาจออกแบบให้ “กลุ่มที่ไม่เคยได้เลย” ได้รับวงเงินรวมสูงกว่า หรือได้รับเติมเพิ่มจากเฟสแรก เพื่อให้ภาพรวมใกล้เคียงความเท่าเทียมกันมากที่สุด
ใครมีสิทธิร่วมคนละครึ่งพลัสเฟส 2? เช็กคุณสมบัติให้ชัด
เกณฑ์คุณสมบัติของผู้มีสิทธิโครงการ คนละครึ่งพลัส จากข้อมูลอย่างเป็นทางการของภาครัฐและเว็บไซต์โครงการ มีแนวทางดังนี้
- ต้องมี สัญชาติไทย
- อายุ ตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- มี บัตรประจำตัวประชาชน แบบสมาร์ตการ์ด
- ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ณ วันตัดข้อมูลล่าสุดของกระทรวงการคลัง (เพราะจะมีมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางอื่น)
- ไม่เคยถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืน ในโครงการรัฐมาก่อน เช่น คนละครึ่งทุกเฟส หรือโครงการอื่นที่มีการโกงสิทธิ
- ต้องมี สมาร์ตโฟน และสามารถใช้งานแอปฯ เป๋าตังได้
ตรงนี้สำคัญมาก เพราะหลายคนพลาดตั้งแต่ขั้นแรก แค่เพราะมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว หรือเคยถูกระงับสิทธิโครงการก่อนหน้า ถ้าไม่แน่ใจ ควรเช็กฐานข้อมูลตัวเองก่อนลงมือกดลงทะเบียนจริง
ใคร ‘ไม่ได้สิทธิ’ คนละครึ่งพลัสเฟส 2
ในมุมกลับกัน กลุ่มต่อไปนี้มีแนวโน้ม “หลุด” จากคนละครึ่งพลัสเฟส 2 หรือถูกกันอยู่ในมาตรการอื่นแทน
- ผู้ที่ ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะรัฐบาลจะใช้มาตรการเฉพาะทางผ่านบัตรโดยตรง แยกจากคนละครึ่งพลัส
- คนที่ อายุต่ำกว่า 16 ปี ณ วันที่ลงทะเบียน แม้จะเป็นนักเรียน-นักศึกษาในครอบครัวรายได้น้อยก็ไม่เข้าเกณฑ์
- คนที่ เคยถูกระงับสิทธิในโครงการรัฐ เช่น พบการใช้สิทธิผิดปกติ ใช้สิทธิเกินเกณฑ์ หรือถูกเรียกเงินคืน
- ชาวต่างชาติ หรือคนไทยที่ ไม่มีบัตรประชาชน
- ผู้ที่ลงทะเบียนเกินโควตา 10 ล้านสิทธิ แม้มีคุณสมบัติครบแต่กดไม่ทัน ก็จะต้องไปรอรอบถัดไป หรือมาตรการอื่นแทน
ตรงนี้จึงไม่ใช่แค่ “กดเร็วให้ทัน” แต่ต้อง “กดอย่างถูกเกณฑ์” ด้วย เพราะระบบสามารถตรวจสอบข้อมูลประชาชนกับฐานข้อมูลภาครัฐแบบอัตโนมัติ ถ้าโกงหรือใช้ข้อมูลเท็จ โดนยึดคืนย้อนหลังแน่นอน
คนละครึ่งพลัสต่างจากคนละครึ่งเดิมยังไง?
จากโครงการคนละครึ่งเดิมที่เคยฮิตจนร้านหน้าปากซอย – ฟู้ดคอร์ท – คาเฟ่เล็กๆ คึกคักกันทั้งประเทศ รัฐบาลหยิบไอเดียเดิมมาปรับเป็น คนละครึ่งพลัส ให้เข้ายุคมากขึ้น ทั้งการเพิ่มเพดานใช้จ่ายต่อวัน การขยายกลุ่มอายุให้ครอบคลุมคนรุ่นใหม่ และเปิดโอกาสให้ นิติบุคคลรายเล็ก เข้าร่วมโครงการได้ ไม่จำกัดแค่ร้านบุคคลธรรมดาเหมือนก่อน
เป้าคือ
- ให้ประชาชนใช้จ่ายง่ายขึ้น
- ให้ร้านค้ารายย่อย-ไมโคร SME ได้ลูกค้าเพิ่ม
- ให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากเห็นเงินหมุนอย่างชัดเจน
- และเชื่อมทุกอย่างผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลเดียวกัน
การต่อยอดมาเป็นเฟส 2 จึงไม่ใช่แค่ “แจกเงินรอบใหม่” แต่เป็นการรักษาโมเมนตัมของมาตรการที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้จริงในเฟสแรก
เผยตัวเลขเฟสแรก: เม็ดเงินหมุนหลักหมื่นล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจ 0.2% ต่อปี
จากรายงานของกระทรวงการคลังและข้อมูลวิเคราะห์ผลโครงการ ช่วงเฟสแรกของ คนละครึ่งพลัส มีประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิครบกว่า 3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายรวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท โดยรัฐร่วมจ่ายมากกว่าครึ่งหนึ่ง ขณะที่ประชาชนควักจ่ายเองอีกส่วนหนึ่ง ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจสูงกว่ามูลค่าที่รัฐอัดฉีดจริงหลายเท่า
เมื่อรวมผลกับโครงการเติมเงินใน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นักวิเคราะห์ประเมินว่า ทั้งสองมาตรการช่วยดันการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ราว 0.2–0.3% ต่อปี ซึ่งถือว่าไม่น้อยในภาวะเศรษฐกิจฝืดและค่าครองชีพสูง
ที่น่าสนใจคือ ข้อมูลจากการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ระบุว่า พื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ช่วงปลายปี 2568 มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 3.39 ล้านคน เกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในกลุ่มที่พึ่งพามาตรการของรัฐอยู่แล้ว สะท้อนให้เห็นชัดว่า “โครงการแบบคนละครึ่งพลัส” ไม่ใช่แค่ของเล่นบนกระดาษ แต่มันคือสายพานช่วยพยุงชีวิตคนตัวเล็กในพื้นที่ภัยพิบัติจริงๆ
ใช้สิทธิผ่านเป๋าตังยังไง? คู่มือสั้นๆ ก่อนถึงวันกด
รูปแบบการใช้สิทธิของ คนละครึ่งพลัสเฟส 2 จะยังเดินตามรอยเดิมของคนละครึ่งและคนละครึ่งพลัสเฟสแรก นั่นคือใช้ผ่าน แอปฯ เป๋าตัง เป็นหลัก โดยมีภาพรวมดังนี้
- ดาวน์โหลด/อัปเดตแอปฯ เป๋าตังให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ลงทะเบียน G-Wallet และยืนยันตัวตน (ถ้ายังไม่เคยทำ)
- ลงทะเบียนรับสิทธิคนละครึ่งพลัสเฟส 2 ในวันและเวลาที่ประกาศ
- เมื่อได้สิทธิ วงเงินรัฐจะถูกเติมเข้ากระเป๋าเฉพาะกิจในแอปฯ
- ใช้จ่ายโดยการสแกน QR กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการในเวลาโดยทั่วไปประมาณ 06.00–23.00 น.
- รัฐ “ร่วมจ่ายคนละครึ่ง” ตามเกณฑ์ เช่น ใช้จ่าย 200 บาท รัฐช่วย 100 บาท เราออกเอง 100 บาท (จนกว่าจะใช้เต็มวงเงิน 2,000 บาท)
สิ่งที่ควรทำล่วงหน้า คือ
- ตรวจสอบว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับเป๋าตังใช้งานได้จริง
- เตรียมอินเทอร์เน็ตให้พร้อม เพราะวันเปิดลงทะเบียนระบบมักหนาแน่น
- เช็กให้ชัวร์ว่าร้านประจำของเราร่วมโครงการหรือไม่ จะได้วางแผนใช้สิทธิให้คุ้มที่สุด
มุมมองระยะยาว: คนละครึ่งพลัสเป็นยาชูกำลัง หรือแค่หวานชั่วคราว?
ในแง่เศรษฐกิจมหภาค นักวิชาการมองว่าโครงการแบบ คนละครึ่งพลัส เป็นมาตรการ “Quick Win” ที่ช่วยพยุงกำลังซื้อในระยะสั้นได้ดี แต่ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ซึ่งยังต้องพึ่งมาตรการอื่นในระยะยาว ทั้งการยกระดับรายได้ การดึงการลงทุน และการขยายฐานภาษีให้ SME เข้าระบบอย่างเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของคนละครึ่งพลัสคือ
- ทำให้คนตัวเล็กเข้าถึงเงินช่วยเหลือได้ตรงและเร็ว
- ทำให้ร้านค้าเล็กๆ เข้าสู่ระบบดิจิทัล เรียนรู้การรับเงินแบบ QR และวอลเล็ต
- ทำให้รัฐมีข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics) ในการออกแบบนโยบายครั้งต่อไป
สิ่งที่ต้องระวังคือ “ภาวะเคยชิน” ถ้าสังคมติดกับการรอเงินอุดหนุนตลอดเวลา ผู้ประกอบการบางส่วนอาจวางแผนธุรกิจบนฐานของเงินรัฐมากเกินไป รัฐบาลจึงต้องมี Exit Strategy ที่ชัดเจน ว่าหลังจากช่วงอัดฉีด จะช่วยผลักผู้ประกอบการให้ยืนได้ด้วยขาตัวเองอย่างไร
สรุปมุมมองบ้านกีฬา: เกมใหญ่ของค่าครองชีพ ที่คนไทยต้องเล่นให้เป็น
สำหรับ บ้านกีฬา มองว่า คนละครึ่งพลัสเฟส 2 คืออีกหนึ่ง “เกมใหญ่” ของกระเป๋าสตางค์คนไทย ต้นปี 69 ฝั่งรัฐได้ภาพเศรษฐกิจคึกคัก ฝั่งประชาชนได้โล่งใจค่าของกินของใช้เบาลงสักพัก
สิ่งที่สำคัญคือ
- รัฐต้องออกแบบเกณฑ์ให้ ยุติธรรมและเข้าถึงได้จริง โดยเฉพาะกลุ่มที่เปราะบางอย่างผู้ประสบภัยน้ำท่วม และคนที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ
- ระบบหลังบ้านต้องแน่น อย่าให้มีปัญหาล่ม กดไม่ได้ หรือข้อมูลคลาดเคลื่อน จนประชาชนรู้สึกว่า “เหนื่อยเกินเงินที่ได้”
- ประชาชนเองก็ต้องวางแผนใช้สิทธิให้ คุ้มและมีสติ ไม่ใช้จ่ายเกินตัว เพียงเพราะมีเงินรัฐร่วมจ่าย
ถ้าเฟส 2 เดินเกมได้เนียน ทั้งระบบจ่ายเงิน ระบบร้านค้า และประสบการณ์ประชาชน คนละครึ่งพลัสก็มีโอกาสกลายเป็นหนึ่งในมาตรการระดับเรือธง ที่ถูกพูดถึงในฐานะ “ตัวจริง” ของการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ไม่ใช่แค่โปรชั่วคราวที่จบแล้วหายไป
และแน่นอนว่า บ้านกีฬา จะเกาะติดทุกสเต็ป ตั้งแต่วัน ครม. เคาะ จนถึงวันแรกที่คนไทยกดใช้สิทธิในร้านหน้าปากซอย
ใครไม่อยากพลาดทั้งข่าวเศรษฐกิจนโยบายใหม่ๆ ที่กระทบเงินในกระเป๋า ไปจนถึงฟอร์มร้อนในสนามกีฬา อย่าลืมติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา
