คนละครึ่งพลัสเฟส 2 เงินช่วย 4,000 บาท ที่มากกว่าของขวัญปีใหม่ แต่คือ “เครื่องช่วยหายใจ” ให้เศรษฐกิจฐานราก

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

โครงการ คนละครึ่งพลัส เฟส 2 กำลังจะกลายเป็นคำค้นหายอดฮิตของคนทั้งประเทศในช่วงปลายปี 2568 ต่อเนื่องไปถึงต้นปี 2569 เพราะนี่ไม่ใช่แค่โครงการแจกเงิน แต่คือมาตรการที่รัฐบาลตั้งใจใช้เป็น “เกียร์สำคัญ” ในการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน และเติมสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ

สำหรับคนที่พลาด คนละครึ่งพลัส เฟสแรก ไป ยังมีโอกาสลุ้นรับสิทธิใน เฟส 2 โดยมีเงินช่วยเหลือรวมสูงสุด 4,000 บาทต่อคน ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ระบบจะช่วยจ่ายบางส่วนให้โดยอัตโนมัติ ช่วยลดภาระค่าครองชีพในยุคที่ทุกอย่างแพงขึ้นแทบทุกเดือน

บ้านกีฬาเลยขอพามาไล่เรียงกันแบบครบๆ ตั้งแต่ความหมาย เงื่อนไข วิธีสมัคร ไปจนถึงทริคใช้สิทธิให้คุ้ม และมุมมองระยะยาวที่คนไทยควรรู้

คนละครึ่งพลัส เฟส 2 คืออะไร แตกต่างจากเฟสแรกยังไง

คนละครึ่งพลัส เฟส 2 คือการต่อยอดโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล ที่ออกแบบมาเพื่อ

  • ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
  • เพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน โดยเฉพาะคนรายได้น้อยถึงปานกลาง
  • กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ร้านโชห่วย ร้านอาหารเล็กๆ รถเข็น แผงลอย ได้อานิสงส์เต็มๆ
  • ทำให้เงินหมุนเวียนในระบบอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการใช้จ่ายจริง ไม่ใช่แค่รับเงินแล้วเก็บ

โครงสร้างหลักของโครงการยังคงคอนเซ็ปต์ “รัฐช่วยจ่าย ประชาชนจ่ายคนละครึ่ง” เหมือนเดิม เพียงแต่ในเฟส 2 มีเป้าชัดเจนว่าจะ

  • เน้นช่วยกลุ่มที่พลาดหรือตกหล่นจากเฟสแรก
  • อัดวงเงินช่วยเหลือรวมต่อคนให้แตะระดับ 4,000 บาท
  • คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ เดือนมกราคม 2569 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

ภาพง่ายๆ คือ รัฐให้ “ทุนช่วยจ่าย” อยู่ในแอปฯ เป๋าตัง แล้วประชาชนนำไปใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วม ตัวแอปจะตัดเงินแบบแบ่งจ่ายให้ ทั้งฝั่งประชาชนและฝั่งรัฐไปพร้อมกัน

คนละครึ่งพลัส เฟส 2 ใช้เงินยังไง ได้ 4,000 บาทแบบไหน

โครงการนี้ไม่ได้โอนเงินสดเข้าบัญชีให้ถอนออกมาใช้ แต่เป็นการให้ “วงเงินสิทธิช่วยจ่าย” ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ใช้จ่ายกับร้านที่ร่วมโครงการเท่านั้น เพื่อให้เงินไหลเข้าสู่ร้านค้าและเศรษฐกิจจริง

หลักการทำงานโดยภาพรวม

  • จำกัดวงเงินรวมต่อคนประมาณ 4,000 บาท ตลอดโครงการ (ตัวเลขอาจผูกกับเงื่อนไขสุดท้ายของรัฐ แต่เบื้องต้นใช้ตัวเลขนี้เป็นฐาน)
  • ทุกครั้งที่ใช้จ่าย รัฐช่วยจ่ายส่วนหนึ่ง เช่น 50% ของยอดซื้อ ตามเงื่อนไขที่กำหนด (เช่น จำกัดจำนวนต่อวัน หรือเพดานต่อครั้ง)
  • เมื่อใช้วงเงินช่วยจ่ายครบแล้ว ระบบจะไม่อุดหนุนเพิ่ม ประชาชนจะต้องจ่ายเต็มเอง

จุดสำคัญคือ ถ้าเราไม่ใช้สิทธิ วงเงินก็ “นอนเฉยๆ ในแอป” แล้วหมดอายุไปเฉยๆ ดังนั้นการวางแผนใช้เงินในโครงการนี้ให้คุ้ม จึงเป็นเรื่องที่ควรคิดตั้งแต่วันแรกที่เริ่มใช้สิทธิ

คุณสมบัติผู้มีสิทธิ “คนละครึ่งพลัส เฟส 2”

จากแนวทางโครงการที่ผ่านมา เงื่อนไขหลักของผู้ที่จะได้รับสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” มีแนวโน้มใกล้เคียงเดิม ดังนี้

  1. ต้องมี สัญชาติไทย
  2. อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
  3. มี บัตรประจำตัวประชาชน แบบสมาร์ตการ์ด
  4. ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามฐานข้อมูลกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568 (กลุ่มนี้จะมีชุดมาตรการช่วยเหลือเฉพาะของตัวเอง)
  5. ไม่เคยถูกระงับสิทธิ หรือถูกเรียกเงินคืน จากโครงการรัฐ เช่น
    • คนละครึ่ง ระยะที่ 1–5
    • คนละครึ่งพลัส เฟสแรก
    • หรือโครงการอื่นที่มีเงื่อนไขคล้ายกัน

ใครที่เคยใช้สิทธิคนละครึ่งมาก่อน แต่ใช้ตามกติกา ไม่โดนตัดสิทธิ ไม่โกง ไม่ขายสิทธิต่อผ่านคนกลาง ยังมีโอกาสเข้าร่วมเฟส 2 ได้ตามปกติ

ลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ต้องทำยังไง

หัวใจของโครงการนี้คือแอปฯ “เป๋าตัง” ใครไม่มีแอป เท่ากับยังเข้าไม่ถึงสิทธิเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น บ้านกีฬา ขอแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ

  1. ขั้นตอนการสมัครใช้งานแอปฯ เป๋าตัง (สำหรับมือใหม่)
  2. ขั้นตอนกดรับสิทธิคนละครึ่งพลัส เฟส 2

วิธีติดตั้งและสมัครใช้งาน “แอปฯ เป๋าตัง”

สำหรับคนที่ไม่เคยใช้เป๋าตังมาก่อน ให้ทำตามลำดับนี้

  1. ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปฯ เป๋าตัง จาก App Store หรือ Play Store
  2. เปิดแอปฯ เป๋าตัง
  3. ในขั้นตอนสมัคร แนะนำให้ ปิด Wi-Fi แล้วใช้เน็ตจากมือถือ เพื่อให้ระบบตรวจสอบเบอร์โทรกับซิมได้ง่าย
  4. อ่านรายละเอียดและกด “ยินยอม” เงื่อนไขการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (KYC Consent)
  5. กดยินยอมให้แอปฯ ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์
  6. กรอก เลขบัตรประชาชน และ เบอร์โทรศัพท์มือถือ
  7. รอรับ รหัส OTP ที่ส่งเข้าเบอร์โทร แล้วกรอกให้ถูกต้อง
  8. กรอกข้อมูลส่วนตัว หรือเลือกให้ระบบดึงข้อมูลจากแอป ThaiD (ถ้าเคยใช้งาน)
  9. เตรียม สแกนใบหน้า ตามคำแนะนำที่ขึ้นในหน้าจอ ขยับใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
  10. ตั้ง รหัส PIN 6 หลัก และยืนยันอีกครั้ง
  11. กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน
  12. เข้าสู่หน้าแรกของแอปฯ เป๋าตัง ถือว่า “สมัครใช้งานสำเร็จ”

หลังจากนี้ เป๋าตังจะกลายเป็น “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ที่รับทั้งสิทธิจากรัฐ และใช้จ่ายในร้านค้าที่เข้าร่วมได้

วิธีลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” ในเป๋าตัง

เมื่อมีแอปฯ เป๋าตังแล้ว ขั้นตอนลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส เฟส 2 โดยภาพรวมจะใกล้เคียงกับเฟสแรก ดังนี้

  1. เข้าแอปฯ เป๋าตัง
  2. เลือก G-Wallet หรือหน้ากระเป๋าหลัก
  3. กดเลือกแบนเนอร์ “โครงการคนละครึ่งพลัส”
  4. กด ลงทะเบียนรับสิทธิ
  5. ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลส่วนตัว
  6. รอระบบตรวจสอบ (อาจแจ้งผลผ่านแอปฯ หรือ SMS)
  7. เมื่อได้รับสิทธิแล้ว จะเห็นวงเงินสิทธิในหน้าโครงการ
  8. จากนั้นสามารถกดเข้าแบนเนอร์โครงการ และเริ่มใช้สิทธิในร้านที่เข้าร่วมได้ทันที

ใครที่ ไม่เคยร่วมเฟสแรก อาจต้องยืนยันตัวตนเพิ่ม เช่น ผ่านตู้ ATM กรุงไทย หรือสาขา เพื่อให้ระบบมั่นใจว่าเป็นเจ้าของบัตรประชาชนจริง

วิธียืนยันตัวตนผ่านตู้ ATM กรุงไทย เพื่อใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส เฟส 2

การยืนยันตัวตน (e-KYC) เป็นอีกขั้นตอนสำคัญ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยผูกข้อมูลกับเป๋าตังมาก่อน สามารถใช้ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย (ตู้สีเทา) ได้ ทั้งแบบมีปุ่มและหน้าจอสัมผัสเต็มจอ

ยืนยันตัวตนผ่านตู้ ATM กรุงไทย (ตู้สีเทาแบบมีปุ่มด้านล่าง)

  1. เลือกเมนู “ทำรายการด้วยบัตรประชาชน” (ไม่ต้องใช้บัตร ATM)
  2. เลือกเมนู “บริการยืนยันตัวตน”
  3. กดปุ่ม “รับทราบและรับรอง” เพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง
  4. เลือก “ยินยอม” เพื่อให้ระบบใช้ข้อมูลพิสูจน์ตัวตน
  5. กดปุ่ม “ถัดไป”
  6. เสียบ บัตรประชาชน และกดปุ่ม “ตกลง”
  7. รอระบบตรวจสอบข้อมูล
  8. เลือก “จบการทำรายการยืนยันตัวตน” และเก็บบัตรคืน แล้วจึงไปดำเนินการต่อในแอปฯ เป๋าตัง

ยืนยันตัวตนผ่านตู้ ATM กรุงไทย (ตู้สีเทาแบบจอสัมผัส)

  1. แตะหน้าจอในแถบสีฟ้า เพื่อเลือกบริการ (ไม่ต้องใช้บัตร ATM)
  2. เลือกเมนู “ยืนยันตัวตน / บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”
  3. เลือก “ยืนยันตัวตนธนาคารกรุงไทย”
  4. กด “รับทราบและรับรอง” เพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของบัตร
  5. เลือก “ยินยอม” เพื่อเปิดเผยข้อมูลและให้ระบบตรวจสอบ
  6. เสียบบัตรประชาชน และกด “ตกลง”
  7. รอให้ระบบตรวจสอบข้อมูล
  8. เลือก “จบการทำรายการยืนยันตัวตน” จากนั้นกลับไปทำขั้นตอนต่อในแอปฯ เป๋าตัง

หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จ แล้วเข้าเป๋าตัง ระบบจะพร้อมให้ใช้สิทธิโครงการต่างๆ ของรัฐ รวมถึงคนละครึ่งพลัส เฟส 2

คนละครึ่งพลัส กับผู้ถือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ได้อะไรบ้าง

แม้ผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) จะ “ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสโดยตรง” แต่รัฐบาลก็มีมาตรการช่วยเหลือแยกต่างหาก เพื่อไม่ให้กลุ่มนี้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

เงินช่วยเหลือสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ

  • รัฐบาลจัดสรรเงินช่วยเหลือเพิ่ม รวม 1,700 บาท
  • แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด ๆ ละ 850 บาท คือ
    • เดือนพฤศจิกายน 2568 โอน 850 บาท
    • เดือนธันวาคม 2568 โอน 850 บาท
  • เงินช่วยเหลือพิเศษนี้ เพิ่มเติมจากวงเงินเดิม 300 บาท/คน/เดือน

ดังนั้นในเดือน ธันวาคม 2568 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีเงินโอนเข้ารวม 1,150 บาท (850 บาท + 300 บาทเดิม) ใช้จ่ายได้ในร้านค้าธงฟ้า หรือร้านที่รับบัตรสวัสดิการฯ ตามปกติ

ใช้ไม่หมดถูกตัดสิทธิ ทบไปเดือนหน้าไม่ได้

จุดสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ

  • เงินที่โอนเข้าบัตรในแต่ละเดือน ถ้าใช้ไม่หมดภายในเดือนนั้น จะถูกริบกลับ
  • ไม่สามารถทบไปใช้เดือนถัดไป
  • ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดหรือโอนให้ผู้อื่นได้

ดังนั้นผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ควรวางแผนใช้เงินช่วยเหลือให้ครบภายในเดือน เช่น ใช้ซื้อของจำเป็น เครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวของในชีวิตประจำวัน

แล้วคนถือบัตรสวัสดิการฯ จะได้คนละครึ่งพลัส เฟส 2 ไหม?

ในเชิงหลักเกณฑ์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะถูกแยกมาตรการช่วยเหลือออกมาเป็นอีกชุด ไม่ซ้อนกับคนละครึ่ง เพื่อป้องกันการซ้ำซ้อนของงบประมาณ แต่สำหรับรายละเอียดสุดท้ายของ คนละครึ่งพลัส เฟส 2 ยังต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล

ตรงนี้จึงแนะนำให้

  • ติดตามข่าวจากช่องทางทางการของกระทรวงการคลัง
  • เช็กข้อมูลจากเว็บไซต์ราชการ หรือแอปฯ เป๋าตัง โดยตรง
  • ระวังมิจฉาชีพที่อ้างว่า “ช่วยลงทะเบียนให้” แล้วขอข้อมูลบัตรประชาชนหรือรหัส OTP

ใช้สิทธิ 4,000 บาทให้คุ้ม ต้องคิดแบบ “เงินช่วย แต่เราเป็นคนคุมเกม”

หลายคนพอได้ยินคำว่า “เงินช่วย 4,000 บาท” ก็เผลอคิดว่าเป็นเงินลอยฟ้า จะซื้อนู่นนี่อย่างไรก็ได้ แต่อย่าลืมว่าโครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ

  • ช่วยรายจ่าย จำเป็น ในชีวิตประจำวัน
  • กระตุ้นร้านค้ารายย่อย ไม่ใช่ใช้ซื้อของฟุ่มเฟือยอย่างเดียว

บ้านกีฬาเลยขอแนะนำแนวทางคิดง่ายๆ ให้ใช้สิทธิแบบ “คุ้มและมีสติ”

  1. จดรายการของจำเป็นรายเดือนก่อน
    • ข้าวสาร อาหารแห้ง ของใช้ในบ้าน
    • นม น้ำมันพืช ไข่ไก่ ของใช้เด็ก หรือของผู้สูงอายุ
  2. วางแผนใช้สิทธิเป็นรายสัปดาห์
    • แบ่งวงเงินใช้ประมาณสัปดาห์ละเท่าๆ กัน
    • อย่าใช้หมดในไม่กี่วันแรกของโครงการ
  3. เลือกใช้กับร้านขนาดเล็กหรือร้านในชุมชน
    • เงินเราช่วยให้ร้านเล็กๆ อยู่รอด
    • ช่วยให้ชุมชนมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น
  4. เช็กยอดในแอปเป๋าตังทุกครั้ง
    • ดูว่ารัฐช่วยจ่ายเท่าไร เราจ่ายเองเท่าไร
    • จะได้รู้ว่าคุมงบอยู่หรือเริ่มใช้เกินตัวไปแล้ว

ถ้าคิดแบบนี้ คนละครึ่งพลัส เฟส 2 จะไม่ใช่แค่โครงการที่ “ทำให้เราใช้เงินเยอะขึ้น” แต่เป็นเครื่องมือฝึกวินัยการเงินไปด้วยในตัว

ข้อดี–ข้อจำกัดของคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ที่ควรรู้

ข้อดี

  • ลดภาระค่าครองชีพจริงจัง
    ของกินของใช้ประจำวันถูกลงทันที เมื่อรัฐช่วยจ่ายบางส่วน
  • กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
    ร้านเล็กๆ รถเข็น ร้านอาหารข้างทาง มีลูกค้าแน่นขึ้น เงินไม่ไหลไปหาห้างใหญ่ฝ่ายเดียว
  • ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์
    แอปเป๋าตังช่วยให้คนไทยคุ้นกับการใช้จ่ายดิจิทัล ปลอดภัยกว่าถือเงินสดจำนวนมาก
  • เปิดโอกาสให้คนที่พลาดเฟสแรก
    คนที่ลงทะเบียนไม่ทัน ตกหล่น หรือมีปัญหาเทคนิค มีสิทธิแก้ตัวในเฟส 2

ข้อจำกัด

  • ต้องมี สมาร์ตโฟน ที่ลงแอปเป๋าตังได้
  • คนไม่ถนัดเทคโนโลยี เช่น ผู้สูงอายุ อาจต้องหาคนช่วยติว ใช้เวลาเรียนรู้
  • วงเงินช่วยเหลือยัง ไม่ใช่คำตอบทุกอย่างของปัญหาเศรษฐกิจครัวเรือน
    ถ้าไม่มีวินัยการเงิน ถึงมีโครงการช่วย ก็ยังชนเพดานรายจ่ายอยู่ดี

วิธีเตรียมตัวก่อนถึงคิวเปิดลงทะเบียนจริง

เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิคนละครึ่งพลัส เฟส 2 บ้านกีฬาแนะนำให้เตรียมตัวล่วงหน้าแบบนี้

  • โหลดและติดตั้งแอปฯ เป๋าตัง ให้เรียบร้อย
  • ตรวจสอบว่า เบอร์มือถือที่ใช้สมัครเป็นเบอร์ที่ใช้งานจริง
  • เช็กบัตรประชาชนว่า ยังไม่หมดอายุ
  • ฝึกเข้า–ออกแอปเป๋าตังให้คล่อง ตั้งรหัส PIN ที่จำได้แต่คนอื่นเดาไม่ได้
  • ติดตามวัน–เวลาที่รัฐเปิดให้ลงทะเบียนอย่างใกล้ชิด
  • หลีกเลี่ยงการกดลิงก์น่าสงสัยเกี่ยวกับ “ช่วยลงทะเบียน” จากแหล่งที่ไม่รู้จัก

สรุป คนละครึ่งพลัส เฟส 2 ในมุมมองบ้านกีฬา

ถ้ามองแบบคนเสพข่าวเศรษฐกิจและนโยบายสาธารณะ คนละครึ่งพลัส เฟส 2 ไม่ใช่แค่ตัวเลข 4,000 บาทต่อคน แต่คือกลไกที่รัฐบาลพยายามใช้เพื่อ

  • ประคองกำลังซื้อของประชาชนในช่วงค่าครองชีพสูง
  • เติมเลือดให้ร้านค้ารายย่อยและผู้ประกอบการเล็กๆ
  • ดึงคนไทยเข้าสู่ระบบดิจิทัลผ่านแอปฯ เป๋าตัง
  • ทำให้เงินช่วยเหลือ “เดินทางไปทั่วประเทศ” ผ่านการใช้จ่ายจริง

สำหรับประชาชนทั่วไป ถ้าเตรียมตัวดี ใช้สิทธิอย่างมีแผน คนละครึ่งพลัส เฟส 2 จะช่วยผ่อนแรงค่าใช้จ่ายไปได้มากในช่วงต้นปี 2569 และยังเป็นโอกาสฝึกวินัยการใช้เงินในยุคที่ทุกบาทต้องคิดให้รอบคอบ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าโครงการจะออกแบบรูปแบบสุดท้ายอย่างไร สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การได้สิทธิ คือ การใช้สิทธิให้คุ้มและปลอดภัย ไม่หลงเชื่อมิจฉาชีพ ไม่ขายสิทธิ ไม่ให้คนอื่นยืมบัตรประชาชนหรือรหัส OTP ไปใช้งานแทน

ใครอยากตามทุกความเคลื่อนไหวของมาตรการภาครัฐ เศรษฐกิจฐานราก และข่าวใหญ่รอบวัน อย่าลืมติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา