กรมอุตุนิยมวิทยายืนยันชัด ช่วง 28 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2568 ประเทศไทยต้องเจอ “สูตรผสม” ทั้งลมหนาวจากจีน พายุโซนร้อน “โคโตะ” (KOTO) กลางทะเลจีนใต้ และพายุดีเปรสชันใกล้มาเลเซีย ส่งผลให้ตอนบนทั้งประเทศ – รวม กรุงเทพฯ และปริมณฑล – เย็นลงอย่างรู้สึกได้ ขณะที่ภาคใต้ตอนล่างยังต้องลุ้นฝนและคลื่นลมแรงในทะเล
ประเด็นใหญ่มี 3 เรื่องที่คนไทยต้องโฟกัสคือ
- มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากจีนแผ่ปกคลุมไทยตอนบน ทำให้ “หนาวจัด–ลมแรง” โดยเฉพาะ เหนือ–อีสาน
- พายุโซนร้อนกำลังแรง โคโตะ กลางทะเลจีนใต้ และ ดีเปรสชัน ทางตะวันออกของมาเลเซีย แม้ไม่เข้าประเทศไทย แต่ช่วย “เร่งลมตะวันออก–อีสาน” ให้แรงขึ้น เกิดคลื่นสูงในอ่าวไทย
- ปลายสัปดาห์อุณหภูมิจะ “เด้งกลับขึ้น” 4–7°C ทำให้เช้าหนาว–สายสบาย–ค่ำเย็น พร้อมมีหมอกตอนเช้าและฝนบางแห่งหลายโซน
พูดง่าย ๆ สัปดาห์นี้แฟนกีฬา–คนทำงาน–เกษตรกร ต้อง “เช็กฟ้า–เช็กลม” ทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน เพราะอากาศสวิงแรงกว่าปกติชัดเจน

ช่วง 28–29 พ.ย. 2568: หนาวจัด ลมแรง ยอดดอยเสี่ยงน้ำค้างแข็ง
ไทยตอนบน เย็นสะท้านเหมือนเตะบอลในห้องแอร์
ในช่วง 28–29 พฤศจิกายน มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากจีน แผ่ลงมาปกคลุม ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ–ปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน เต็มกำลัง ทำให้อุณหภูมิลดลงอีกราว 1–3 องศาเซลเซียส บางพื้นที่ถึง 3–5 องศาฯ โดยเฉพาะแถบภูเขาสูง
- ภาคเหนือ
- อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 8–13°C สูงสุด 25–29°C
- บริเวณยอดดอยหนาวถึงหนาวจัด ต่ำสุด 2–8°C มีโอกาสเห็นน้ำค้างแข็งบางแห่ง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- หนาวถึงหนาวจัด ลมแรง ต่ำสุด 7–13°C สูงสุด 25–28°C
- ยอดภูอาจแตะ 4–10°C ลมตะวันออกเฉียงเหนือ 15–35 กม./ชม.
- ภาคกลาง
- เย็นถึงหนาว ลมแรง ต่ำสุด 11–16°C สูงสุด 26–29°C
- ภาคตะวันออก
- เย็นถึงหนาว ลมแรง ต่ำสุด 13–19°C สูงสุด 27–30°C ทะเลมีคลื่นสูง 1–2 เมตร ห่างฝั่งประมาณ 2 เมตร
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล
- อากาศเย็นแบบ “เปิดหน้าต่างไม่ต้องเปิดแอร์” ต่ำสุดราว 16–18°C สูงสุด 28–30°C ลมตะวันออกเฉียงเหนือแรงพอให้รู้สึกหนาวจี๊ดเวลาเช้า ๆ
ภาคใต้: ตอนบนเย็น ตอนล่างลุ้นฝน–คลื่นสูง
- ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
- ตอนบน: เย็นถึงหนาว อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
- ตอนล่าง: มีฝนฟ้าคะนองราว 10–20% ของพื้นที่ โดยเฉพาะ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ยังเสี่ยงฝนหนักบางแห่ง
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ 20–35 กม./ชม. คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
- มีฝนฟ้าคะนอง 10–20% ของพื้นที่ แถบ ตรัง–สตูล เด่น
- คลื่นทะเลสูง 1–2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณฝนฟ้าคะนองสูงมากกว่า 2 เมตร
คนเดินทางลงใต้–ชาวประมง–เรือท่องเที่ยว ควรตามประกาศ พยากรณ์อากาศวันนี้ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะใครต้องลงทะเลและข้ามเกาะ

ช่วง 30 พ.ย.–4 ธ.ค. 2568: เย็นยาว มีหมอกเช้า–ฝนบางแห่ง
พอเข้าช่วง 30 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม มวลอากาศเย็นจากจีนจะเริ่มอ่อนกำลังลง อุณหภูมิไทยตอนบน “ดีดกลับ” ขึ้นประมาณ 4–7°C แต่เช้ายังเย็นสบาย มีหมอกบางพื้นที่
- เหนือ–อีสาน: จากหนาวจัดจะกลายเป็น “เย็นถึงหนาว” แต่กลางวันอุ่นขึ้นเล็กน้อย
- กลาง–ตะวันออก–กทม.–ใต้ตอนบน: เช้าเย็น สาย–บ่ายอุ่นขึ้น อากาศสบายเหมาะกับการออกกำลังกายกลางแจ้ง
- ช่วง 3–4 ธ.ค. ไทยตอนล่างบางส่วน โดยเฉพาะ อีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง กทม.–ปริมณฑล ภาคตะวันออก และใต้ตอนบน จะมีฝน/ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เพราะลมตะวันออก–ตะวันออกเฉียงใต้พาความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามา
ภาคใต้ตอนล่างฝนจะ “บางลง” เมื่อมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออ่อนกำลัง แต่ทะเลยังมีคลื่น 1–2 เมตร โดยเฉพาะช่วงมีฝนฟ้าคะนอง คลื่นยังขึ้นได้เกิน 2 เมตร
เจาะรายภาค: ใครหนาวสุด ใครต้องระวังฝน
ภาคเหนือ
- 28–29 พ.ย.: หนาวจัดหลายพื้นที่ ยอดดอยต่ำสุด 2–8°C
- 30 พ.ย.–4 ธ.ค.: เย็นถึงหนาว มีหมอกเช้า อุณหภูมิสูงขึ้นเป็นช่วง 11–17°C ต่ำสุด และ 28–33°C สูงสุด
แฟนท่องเที่ยวสายภูเขา–ดอยอินทนนท์–ภูชี้ฟ้า–ดอยแม่สลอง ได้บรรยากาศหนาวเต็มที่ ต้องเตรียมเสื้อกันหนาว ถุงมือ หมวกไหมพรมให้พร้อม โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- 28–29 พ.ย.: หนาวถึงหนาวจัด ลมแรง ต่ำสุด 7–13°C
- 30 พ.ย.–4 ธ.ค.: ยังเย็นถึงหนาวต่อเนื่อง แต่ดีขึ้นเล็กน้อย ต่ำสุด 10–18°C สูงสุด 28–33°C
- วันที่ 3–4 ธ.ค.: มีโอกาสเจอฝน/ฝนฟ้าคะนอง 10–30% ของพื้นที่ โดยเฉพาะโซนตอนล่าง
ภาคนี้ถือว่า “หนาวสุด” ของประเทศในช่วงนี้ ฝุ่น PM2.5 มักลดลงเพราะลมแรง แต่ต้องระวังอากาศแห้ง–เสี่ยงไฟป่าและอัคคีภัย

ภาคกลาง
- 28–29 พ.ย.: เย็นถึงหนาว ลมแรง ต่ำสุด 12–17°C
- 30 พ.ย.–4 ธ.ค.: เช้าเย็น หมอกบาง อุณหภูมิสูงขึ้น 4–6°C มีฝน/ฝนฟ้าคะนอง 30–40% ของพื้นที่ในช่วง 3–4 ธ.ค.
คนกรุงเทพฯ–ปริมณฑลจะรู้สึกชัดว่า “ตื่นเช้ามีลมเย็นปะทะหน้า ก่อนร้อนสบาย ๆ ช่วงกลางวัน” ใครวิ่งเช้า–ปั่นจักรยานต้องวอร์มร่างกายดี ๆ ป้องกันกล้ามเนื้อบาดเจ็บจากอากาศเย็นจัดช่วงเช้า
ภาคตะวันออก
- 28–29 พ.ย.: เย็นถึงหนาว ลมแรง คลื่นทะเลสูง 1–2 เมตร ห่างฝั่งราว 2 เมตร
- 30 พ.ย.–4 ธ.ค.: เย็นในตอนเช้า–มีหมอก มีฝน/ฝนฟ้าคะนองมากขึ้น 40–60% ของพื้นที่ช่วง 3–4 ธ.ค.
เมืองท่องเที่ยวอย่าง พัทยา ระยอง จันทบุรี ตราด ต้องระวังคลื่นลม, นักท่องเที่ยวเล่นน้ำทะเลควรฟังคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ชายหาด
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
- 28–29 พ.ย.: ตอนบนเย็น ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนอง 10–20% คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
- 30 พ.ย.–4 ธ.ค.: ตอนบนเช้าเย็นสบาย มีฝนประปราย 10–20%
- 3–4 ธ.ค.: ตอนล่างยังมีฝนเล็กน้อย ลมแปรปรวน คลื่น 1–2 เมตร ใครออกเรือเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
- 28–29 พ.ย.: ฝนฟ้าคะนอง 10–20% ส่วนมากแถวตรัง–สตูล คลื่น 1–2 เมตร
- 30 พ.ย.–4 ธ.ค.: ฝนเล็กน้อยประปราย ทะเลมีคลื่นสูงราว 1 เมตร แต่เวลามีพายุฝนฟ้าคะนอง คลื่นยังดีดขึ้นได้มากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพฯ และปริมณฑล
- 28–29 พ.ย.: เย็นลงชัดเจน ต่ำสุด 17–19°C สูงสุด 28–30°C
- 30 พ.ย.–4 ธ.ค.: เช้ามีหมอกบาง อุณหภูมิสูงขึ้น 4–6°C มีฝนได้ 30–40% ของพื้นที่ในช่วง 3–4 ธ.ค.
ใครต้องเดินทางเช้าตรู่–ขับรถไปทำงาน อาจเจอหมอกบาง ๆ บนถนน ควรเปิดไฟหน้าแทนไฟฉุกเฉิน และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ

พายุโคโตะ–ดีเปรสชันมาเลย์: ไม่เข้าไทยแต่ส่งแรงกระเพื่อมเต็ม ๆ
พายุโซนร้อนกำลังแรง “โคโตะ” (KOTO) ตอนนี้ป้วนเปี้ยนอยู่กลางทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนามตอนใต้ช่วง 1–2 ธันวาคม 2568 ขณะที่พายุดีเปรสชันด้านตะวันออกของมาเลเซียมีโอกาสเคลื่อนออกไปทะเลจีนใต้ตอนกลางในช่วง 30 พ.ย.–1 ธ.ค.
ข่าวดีคือ ทั้งสองระบบ “ไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย” เพราะถูกมวลอากาศเย็น–ความกดอากาศสูงจากจีนดันให้สลายตัวเร็วบริเวณใกล้เวียดนามและกลางทะเลจีนใต้ แต่ผลข้างเคียงที่คนไทยต้องเจอคือ
- ลมตะวันออก–ตะวันออกเฉียงเหนือแรงขึ้น โดยเฉพาะอ่าวไทยและภาคใต้
- คลื่นสูงในทะเล 1–2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ลมแรงทำให้อากาศ “ยิ่งหนาวจี๊ด” ในไทยตอนบนช่วงต้นสัปดาห์
นี่คือภาพคลาสสิกของ “พายุไม่เข้า แต่ลมกระแทกถึง” ที่คนไทยมักเจอทุกปีช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อควรระวังสำคัญ: สุขภาพ–การเดินทาง–การเกษตร–เดินเรือ
กรมอุตุนิยมวิทยาย้ำเตือนชัดเจนในช่วงนี้ว่า ประชาชนต้องให้ความสำคัญกับ 4 เรื่องหลัก
- สุขภาพในอากาศเย็น–หนาวจัด
- เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ–หัวใจ ต้องสวมเสื้อกันหนาวทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน
- หลีกเลี่ยงอาบน้ำเย็นจัดในตอนเช้า เพราะอุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนเร็ว เสี่ยงหน้ามืดเป็นลม
- ดื่มน้ำอุ่น–พักผ่อนให้พอ ป้องกันภูมิตก
- ไฟไหม้–อัคคีภัยจากอากาศแห้งและลมแรง
- งดการเผาหญ้า เผาเศษวัสดุการเกษตรโดยไม่จำเป็น เพราะไฟลุกลามเร็วในสภาพลมแรง
- ตรวจปลั๊กไฟ–สายไฟในบ้านให้เรียบร้อย โดยเฉพาะบ้านไม้–โกดังเก็บของ
- การเดินทางบนถนนในช่วงมีหมอก–ฝนฟ้าคะนอง
- เช้า ๆ ช่วง 30 พ.ย.–4 ธ.ค. หลายพื้นที่จะมีหมอกบางถึงปานกลาง ขับรถเร็วไม่ได้ ต้องเปิดไฟหน้า ไม่ใช้ไฟฉุกเฉิน
- ฝนตกสะสมบางพื้นที่ช่วง 3–4 ธ.ค. ให้ระวังถนนลื่น–น้ำขัง
- การเกษตร–สัตว์เลี้ยง
- เกษตรกรควรเตรียมโรงเรือนกันลม–กันหนาวให้สัตว์เลี้ยง วัว ควาย หมู ไก่
- พืชผักผลไม้ที่ไวต่ออุณหภูมิต่ำ เช่น ผักใบอ่อน ควรคลุมพลาสติกบาง–พรางแสง ลดการเสียหายจากอากาศหนาวจัดต่อเนื่อง
- การเดินเรือ–กิจกรรมทางทะเล
- เรือเล็กลำเลียง–เรือประมงพื้นบ้าน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงที่มีคลื่นสูง โดยเฉพาะอ่าวไทยตอนล่างและนอกชายฝั่ง
- นักท่องเที่ยวเล่นเรือสปีดโบ๊ต–เจ็ตสกี ควรฟังคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ท่าเรือและอุทยานอย่างเคร่งครัด
ทริคใช้ชีวิต–ออกกำลังกาย–เชียร์บอล ให้เข้ากับอากาศแบบบ้านกีฬา
แฟนกีฬา–สายฟิตเนส–คนวิ่งมาราธอน ถ้าจะใช้ประโยชน์จากอากาศเย็นให้คุ้มที่สุด บ้านกีฬาแนะนำว่า
- ช่วงเช้าอุณหภูมิต่ำ วิ่ง–ปั่นจักรยานได้สบาย แต่อย่าลืมวอร์มอัปให้นานขึ้น เพราะกล้ามเนื้อแข็งตัวง่ายในอากาศหนาว
- ใครมีแพลนไปดูบอลไทยลีก–ฟุตบอลท้องถิ่นตอนกลางคืน ควรพกแจ็กเก็ตบาง ๆ หรือผ้าพันคอไปสนามด้วย ลมแรงทำให้หนาวกว่าที่คิด
- คนทำงานนอกอาคาร เช่น รปภ., แม่ค้า, วินมอเตอร์ไซค์ ควรมีเสื้อกันลม–ถุงมือบาง ๆ เพื่อไม่ให้ปลายนิ้วชา
จำง่าย ๆ ว่า สภาพอากาศวันนี้ ไม่ได้มีผลแค่กับการเลือกเสื้อผ้า แต่ยังส่งผลกับสมรรถภาพในการทำงาน–เล่นกีฬา–ขับรถ และสุขภาพระยะยาวด้วย

สรุปภาพรวมสภาพอากาศไทย 28 พ.ย.–4 ธ.ค. 2568
- ช่วงต้นสัปดาห์ (28–29 พ.ย.): ไทยตอนบนหนาวจัด–ลมแรง เหนือ–อีสานเย็นสุด ยอดดอย–ยอดภูต่ำสุด 2–8°C ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังมีฝน–คลื่นสูง
- ช่วงปลายสัปดาห์ (30 พ.ย.–4 ธ.ค.): อุณหภูมิทยอยสูงขึ้น 4–7°C เช้าเย็น–มีหมอก สาย–บ่ายสบาย เริ่มมีฝนบางแห่ง โดยเฉพาะ 3–4 ธ.ค. ในอีสานตอนล่าง กลาง กทม.–ปริมณฑล ตะวันออก และใต้ตอนบน
- พายุ โคโตะ และดีเปรสชันใกล้มาเลเซียไม่เข้าไทยตรง ๆ แต่ทำให้ลมตะวันออก–ตะวันออกเฉียงเหนือแรงขึ้น ส่งผลให้คลื่นทะเลอ่าวไทย–ทะเลอันดามันสูง ต้องระวังการเดินเรือทุกประเภท
ใครมีแพลนเดินทาง–เที่ยวเหนือ–ล่องใต้–ดูบอลต่างจังหวัด สัปดาห์นี้ถือว่า “สวยแต่โหด” อากาศดีแต่ต้องเตรียมตัวดีเช่นกัน
ท้ายสุดนี้ อย่าลืมเช็กข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา เป็นระยะ เพราะสภาพอากาศและเส้นทางพายุสามารถเปลี่ยนได้เสมอ และถ้าอยากติดตามทั้งข่าวฟ้า–ข่าวฝน–ข่าวกีฬา–ข่าวรอบวันแบบจัดเต็ม บ้านกีฬาพร้อมอัปเดตให้คุณทุกเช้า–เย็น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา ไม่พลาดทุกสภาพอากาศและทุกเกมสำคัญในชีวิตคุณ

