พายุโคโตะ ถล่มทะเลจีนใต้ ไทยรอดฝนแต่หนาวจัดลมแรงทั่วประเทศ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ก่อนจะไปดูเส้นทางลม–ฝน มารู้จักชื่อ พายุโคโตะ กันก่อน คำว่า Koto มาจากภาษาญี่ปุ่น หมายถึง “พิณ” หรือ “เครื่องสายประเภทพิณ” ที่ใช้ในดนตรีคลาสสิกญี่ปุ่นดั้งเดิม ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เสนอชื่อนี้เข้าสู่บัญชีรายชื่อพายุของคณะกรรมการไต้ฝุ่น ภายใต้กรอบความร่วมมือ ESCAP/WMO Typhoon Committee

รายชื่อพายุในทะเลจีนใต้และมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก จะถูกนำมาจาก 14 เขต/ประเทศสมาชิก เช่น จีน ไทย กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย มาเก๊า ฮ่องกง เกาหลีเหนือ–ใต้ ฟิลิปปินส์ ไมโครนีเซีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา (ดินแดนในแปซิฟิก) โดยแต่ละประเทศเสนอชื่อของตัวเอง 10 ชื่อ ส่วนใหญ่เป็นคำที่เกี่ยวกับสัตว์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม หรือสิ่งที่คนในภูมิภาคคุ้นเคย เพื่อให้จดจำและสื่อสารง่ายเวลามีการเตือนภัย

เพราะฉะนั้น “โคโตะ” ที่เราเห็นบนแผนที่สภาพอากาศทุกวันนี้ จริง ๆ คือชื่อเครื่องดนตรี ที่ถูกหยิบมาใช้เป็นชื่อ พายุไต้ฝุ่น ลูกหนึ่งในปีนี้ ไม่ได้มีความหมายร้ายแรงอะไร แต่ถูกจดจำในฐานะ “พายุหมายเลข 15” ของฝั่งเวียดนาม และเป็นหนึ่งในหลายลูกของฤดูพายุปี 2025 ที่ทำให้ภูมิภาคต้องจับตาแบบห้ามกะพริบ

พายุโคโตะก่อตัวตรงไหน เส้นทางล่าสุดอยู่แถวใดของทะเลจีนใต้

ในเชิงวิชาการ พายุโคโตะ เริ่มจากหย่อมความกดอากาศต่ำแถว ๆ ฟิลิปปินส์ แรงขึ้นจนกลายเป็นพายุโซนร้อน เคลื่อนข้ามฟิลิปปินส์ (ใช้ชื่อท้องถิ่นว่า Verbena) ก่อนจะออกสู่ทะเลจีนใต้ และได้รับการจัดระดับเป็น พายุไต้ฝุ่น เหนือผืนน้ำตอนกลางของทะเลจีนใต้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน

ข้อมูลจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) และกรมอุตุนิยมวิทยาไทย ระบุว่า ช่วงค่ำวันที่ 26 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น พายุ “KOTO” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางราว 100–110 กม./ชม. เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย มุ่งหน้าเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนามตอนล่าง โดยข้างบนของพายุมีมวลอากาศเย็น/ความกดอากาศสูงจากจีนและเวียดนามกดทับอยู่ ทำให้เป็นระบบที่มีลักษณะ “แรงแต่เดินช้า” และมีโอกาสอ่อนกำลังลงก่อนขึ้นฝั่ง

ศูนย์พยากรณ์ในเวียดนามเองก็ประเมิน 2 ฉากทัศน์หลัก คือ

  • พายุเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งกลาง–ใต้เวียดนาม แล้วอ่อนกำลังก่อนขึ้นฝั่ง
  • หรือวนตัว/แผ่วกำลังลงบนทะเลจีนใต้โดยไม่ขึ้นฝั่ง แต่ยังปล่อยฝนหนัก–ลมแรงเข้าชายฝั่งตอนกลางของประเทศ

ไม่ว่าจะจบแบบไหน จุดโฟกัสของ พายุโคโตะ คือทะเลจีนใต้–เวียดนามเป็นหลัก ไม่ใช่ไทย

พายุโคโตะเข้าไทยไหม? คำตอบชัด ๆ จากกรมอุตุนิยมวิทยา

คำถามที่คนไทยอยากรู้ที่สุดคือ “พายุโคโตะเข้าไทยไหม?”

ประกาศของ กรมอุตุนิยมวิทยา ไทยย้ำชัดเจนในคำเตือนฉบับล่าสุดว่า พายุโคโตะ “ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย” เส้นทางหลักของศูนย์กลางพายุจะเกี่ยวข้องกับทะเลจีนใต้และชายฝั่งเวียดนามตอนล่างเป็นหลัก ไม่ได้พุ่งเข้าฝั่งอ่าวไทยหรือแผ่นดินไทยโดยตรง

แต่ข่าวดีครึ่งเดียว เพราะแม้ตัวพายุจะไม่เข้าไทย อิทธิพลของมวลอากาศเย็นและลมหนาว ที่ตามมาจะชัดเจนมาก ตั้งแต่ช่วงวันที่ 27–30 พฤศจิกายน จะมี “มวลอากาศเย็นกำลังแรง” ระลอกใหม่จากจีนแผ่ลงมาปกคลุมไทยตอนบนและอ่าวไทย ประกอบกับตำแหน่งของพายุช่วยดูดลม ทำให้ลมตะวันออกเฉียงเหนือแรงขึ้น

ผลที่คนไทยจะรู้สึกได้คือ

  • ภาคอีสาน: อุณหภูมิลดลง ประมาณ 4–7 องศาเซลเซียส อากาศเย็น–หนาว ลมแรง
  • ภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพฯ–ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน: อุณหภูมิลดลง 2–4 องศาเซลเซียส
  • ยอดดอย–ยอดภู: หนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุดราว 3–12 องศาเซลเซียส

นั่นแปลว่าเราจะไม่ได้เจอฝนถล่ม น้ำท่วมจากพายุลูกนี้โดยตรง แต่จะรู้สึก “หนาววูบ ลมแรง” กันถ้วนหน้าแทน โดยเฉพาะช่วงเช้า–กลางคืน

ทำไมพายุไม่เข้าแต่ไทยหนาว? ฟิสิกส์ง่าย ๆ ของลมหนาว–ไต้ฝุ่น

หลายคนสงสัยว่า พายุอยู่ไกลตั้งทะเลจีนใต้ ทำไมไทยตอนบนถึงหนาวหนัก คำตอบอยู่ที่การทำงานร่วมกันของ “ไต้ฝุ่น + มวลอากาศเย็น”

  1. ด้านบน มี ความกดอากาศสูงจากจีน แผ่ลงมา เหมือนแท่งอากาศเย็นหนัก ๆ กดทับแผ่นดินไทย
  2. ด้านล่าง ที่ทะเลจีนใต้ มี พายุไต้ฝุ่นโคโตะ เป็นศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ ดูดลมรอบ ๆ ให้หมุนเข้าหา

พอเอาสองอย่างนี้มารวมกัน ลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดลงมาแถวไทย–อ่าวไทย จะ “แรงและเย็น” กว่าปกติ อากาศเลยแห้ง ฟ้าเปิด เย็นลึก โดยไม่จำเป็นต้องมีฝนหนักทุกพื้นที่ ผลพวงคือ

  • กลางวันแดดอาจยังแรง แต่ลมเย็นพอให้รู้สึกหนาว
  • กลางคืน–เช้ามืด อุณหภูมิจะดรอปลงรวดเร็ว
  • ความชื้นต่ำ ลมแรง – เสี่ยง อัคคีภัย ง่ายขึ้น เพราะไฟลุกลามเร็วในอากาศแห้ง

นี่คือเหตุผลที่กรมอุตุเตือนทั้งเรื่องสุขภาพ และเรื่องไฟป่า–ไฟหญ้าในประกาศฉบับเดียวกัน ไม่ได้มีแค่ฝน–ลมอย่างเดียว

ผลกระทบในภูมิภาค: ฟิลิปปินส์–เวียดนามยังต้องระวังฝนหนัก

ถึงไทยจะไม่โดนตรง ๆ แต่เพื่อนบ้านเรายังหนีไม่พ้น

  • ฟิลิปปินส์: ใช้ชื่อพายุลูกนี้ว่า Verbena พัดผ่านหลายเกาะ สร้างฝนหนัก น้ำท่วม และดินถล่มในบางพื้นที่ ก่อนที่ศูนย์กลางพายุจะเคลื่อนออกสู่ทะเลจีนใต้ มีรายงานผู้สูญหายอย่างน้อย 2 รายในบางจังหวัดจากฝนและน้ำหลากที่เชื่อมโยงกับพายุลูกนี้และแนวร่องความกดอากาศต่ำ
  • เวียดนาม: ศูนย์พยากรณ์กลางของเวียดนามมองว่า พายุโคโตะ มีโอกาสสูงที่จะอ่อนกำลังลงบนทะเลหรือบริเวณชายฝั่ง แต่ยังอาจสร้างฝนหนัก ลมแรง คลื่นสูง และเสี่ยงดินถล่มในภาคกลาง–ภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เชิงเขาและริมน้ำ

ภาพรวมคือ พายุลูกนี้ “หลัก ๆ เล่นงาน” ฟิลิปปินส์กับเวียดนาม ส่วนไทยโดนในมุมอากาศหนาว ลมแรง คลื่นกลาง ๆ มากกว่า

เช็กลิสต์รับมือพายุ–ลมหนาว: ประชาชน เกษตรกร คนทำมาหากิน ต้องดูอะไร

ถึง พายุโคโตะ ไม่เข้าไทย แต่ผลที่ตามมาคืออากาศหนาวจัดและคลื่นสูงในบางช่วง บ้านกีฬา ขอรวบรวม “เช็กลิสต์เอาตัวรอด” ที่ใช้ได้ทุกปี ไม่ใช่แค่รอบนี้

1. คนทั่วไป – สุขภาพต้องมาก่อน

  • เตรียมเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคหัวใจ–ทางเดินหายใจ
  • ดื่มน้ำอุ่น ลดเครื่องดื่มเย็นจัด รักษาร่างกายให้อบอุ่น เพื่อลดโอกาสเป็นหวัด–ปอดบวม
  • ใช้เครื่องทำความร้อน หรือก่อไฟให้ระวังเรื่องการระบายอากาศ และความเสี่ยง อัคคีภัย ในช่วงอากาศแห้ง

2. เกษตรกร – กันหนาวให้พืช–สัตว์

  • ตรวจสภาพโรงเรือน ปิดช่องลมรั่วให้สัตว์เลี้ยง ลดโอกาสสัตว์ป่วยเพราะหนาว
  • พืชผักบางชนิดไม่ทนลมแรง–อากาศเย็นจัด ควรใช้ผ้าพลาสติกคลุม ลดการสูญเสีย
  • ติดตามประกาศกรมอุตุและเกษตรจังหวัดใกล้ชิด เพราะบางครั้งจะมีคำแนะนำเฉพาะพื้นที่ เช่น ช่วงที่เหมาะในการให้น้ำหรือใส่ปุ๋ย

3. ชาวประมง–เรือเล็ก–คนเดินเรือ

ประกาศกรมอุตุระบุว่า คลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันตอนบน “มีกำลังปานกลาง” คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และสูงได้มากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่แรงขึ้นและสภาพแวดล้อมจากพายุโคโตะ

คำแนะนำสำคัญคือ

  • เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่กรมอุตุออกคำเตือนไว้
  • เรือใหญ่ควรตรวจอุปกรณ์ความปลอดภัย เสื้อชูชีพ เครื่องมือสื่อสาร ให้พร้อมใช้งาน
  • ติดตามเรดาร์–พยากรณ์คลื่นลมก่อนออกเรือทุกครั้ง

ทำไมต้องสนใจชื่อพายุ? เรื่องเล็กที่ไม่เล็กสำหรับคนไทย

หลายคนมองว่า ชื่อพายุไต้ฝุ่น เป็นแค่ชื่อเรียก แต่สำหรับคนทำงานพยากรณ์อากาศ–กู้ภัย และสื่อมวลชน ชื่อเหล่านี้คือเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญ

  • ชื่อชัด ๆ อย่าง “โคโตะ” หรือ “มักกะฮ์” ทำให้แยกแยะพายุแต่ละลูกได้ง่าย เมื่อมีพายุหลายลูกหมุนอยู่ในมหาสมุทรเดียวกัน
  • ชื่อพายุถูกออกแบบให้คนในภูมิภาค “ออกเสียงได้” และจำง่าย ลดความสับสนเวลาออกคำเตือนฉบับด่วน
  • ถ้าพายุลูกไหนสร้างความเสียหายร้ายแรงมาก ชื่อนั้นอาจถูก “รีไทร์” หรือถอดออกจากบัญชี ไม่ถูกนำมาใช้ซ้ำ เพื่อให้เกียรติผู้ประสบภัยและลดความสับสนในประวัติศาสตร์พายุ

สำหรับไทย ชื่อที่เราส่งเข้าบัญชี เช่น “เมฆขลา” หรือชื่ออื่น ๆ ล้วนมีรากจากวัฒนธรรมและภาษาไทย ช่วยโปรโมตคำไทยบนแผนที่อากาศโลกไปในตัวด้วย

การรู้ที่มาของชื่อพายุอย่าง พายุโคโตะ เลยไม่ใช่แค่ความรู้เกร็ดเล็ก ๆ แต่ช่วยให้เราเข้าใจระบบเตือนภัยระดับภูมิภาค ว่าทุกประเทศต้องร่วมมือกัน ตั้งแต่การตั้งชื่อไปจนถึงการแชร์ข้อมูลจริงเวลาเกิดเหตุ

สรุป: พายุโคโตะไม่เข้าชนไทย แต่ลมหนาวระลอกนี้ห้ามประมาท

สรุปภาพใหญ่แบบเข้าใจง่ายสไตล์ บ้านกีฬา

  • พายุโคโตะ คือพายุไต้ฝุ่นที่ตอนนี้ปั่นป่วนอยู่แถวทะเลจีนใต้ตอนกลาง มุ่งหน้าไปทางเวียดนามตอนล่าง มีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเร็ว ไม่เข้าชนไทยโดยตรง
  • ไทยได้รับผล “ทางอ้อม” ผ่านมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากจีน ทำให้ อากาศหนาว–ลมแรง–อุณหภูมิลดลงหลายองศา ในช่วง 27–30 พฤศจิกายน โดยเฉพาะภาคอีสาน ภาคเหนือ และยอดดอย–ยอดภู
  • ทะเลไทย โดยเฉพาะอ่าวไทยและทะเลอันดามันตอนบน คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองสูงกว่านั้น ชาวเรือต้องระวังเป็นพิเศษ
  • ฟิลิปปินส์และเวียดนามคือสองประเทศที่ต้องจับตาฝนหนัก น้ำท่วม ดินถล่มจากพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด

สิ่งสำคัญที่สุดคือ “อย่าประมาท” แม้พายุจะไม่พุ่งเข้าตรง ๆ ก็ตาม ดูแลสุขภาพให้ดี เช็กข่าวจาก กรมอุตุนิยมวิทยา สม่ำเสมอ และอย่าลืมระวังไฟไหม้–ไฟป่าในช่วงอากาศแห้ง ลมแรง

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา