ในเช้าวันที่ประเทศไทยต้องจารึกไว้ด้วยความอาลัย พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือที่สังคมรู้จักกันดีในพระนาม “ท่านชายใหม่” ถึงชีพิตักษัยอย่างสงบ ณ บ้านพักในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 08.13 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 สิริชันษา 78 ปี
ข่าวการจากไปครั้งนี้นำความโศกเศร้าแก่ผู้ที่เคารพรักและผู้ติดตามผลงานของท่านมายาวนาน ทั้งในแวดวงการทหาร วงราชสำนัก และสังคมไทยในภาพรวม
เฟซบุ๊กส่วนพระองค์ได้แจ้งข่าวให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการ พร้อมระบุว่า ท่านจากไปอย่างสงบ ท่ามกลางสมาชิกในครอบครัว ณ บ้านพักที่เชียงใหม่

พระชาติกำเนิด และสายพระโลหิตแห่งราชสกุลยุคล
หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ประสูติเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2490 เป็นพระโอรสใน
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ
- หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา
และเป็นพระนัดดาใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ รวมถึงเป็นพระราชปนัดดาใน รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี
ทรงมีพี่น้องร่วมอุทร 4 พระองค์ ได้แก่
- มาลินีมงคล อมาตยกุล
- ปัทมนรังษี เสนาณรงค์
- หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
- หม่อมเจ้านภดลเฉลิมศรี ยุคล
สายพระโลหิตของท่านสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ราชสกุลยุคล ซึ่งมีบทบาทสำคัญทั้งด้านการทหาร การบริหารบ้านเมือง และศิลปวัฒนธรรมไทยมายาวนาน จึงไม่น่าแปลกที่เส้นทางชีวิตของหม่อมเจ้าจุลเจิมจะผูกพันกับงานเพื่อชาติอย่างแนบแน่น
การศึกษาแบบนักรบ การเติบโตของชายหนุ่มผู้เลือกเส้นทางทหารด้วยหัวใจ
เส้นทางการศึกษาของท่านเริ่มต้นที่ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย และต่อที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ก่อนถูกส่งไปศึกษาต่อในโรงเรียนทหารที่สหรัฐอเมริกา คือ Kemper Military School รัฐมิสซูรี
ท่านสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้าน วิศวกรรมไฟฟ้า จาก Western Pacific University (ปัจจุบันคือ California Miramar University) และต่อยอดด้วยการศึกษาในระดับปริญญาโทด้าน การจัดการกีฬา ซึ่งสะท้อนความสนใจรอบด้านของท่าน นอกจากงานด้านกิจการความมั่นคง
เส้นทางราชการทหารที่ได้รับการยกย่อง
พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล เป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่อุทิศชีวิตกว่า 40 ปีให้แก่การปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ เส้นทางทหารที่โดดเด่นของท่านประกอบด้วย
- นายทหารยศร้อยตรี ศูนย์สงครามพิเศษ หน่วยรบที่ 1 (กรพ.) ค่ายวชิราลงกรณ์ จ.ลพบุรี
- นายทหารประจำส่วนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
- ปฏิบัติราชการที่กรมข่าวทหารบก และกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย (กรป.)
- ราชองครักษ์พิเศษรักษาพระองค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
- ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมราชองครักษ์
- ราชการสนามในเหตุการณ์ ปราบ ผกค. เขาค้อ ปี 2518
- ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ส.ช.2) ประเภทที่ 2
จุดสูงสุดของเส้นทางทหารคือในปี พ.ศ. 2562 เมื่อท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งยศเป็น “พลเอก” เป็นกรณีพิเศษ เพื่อดำรงตำแหน่งนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ตำแหน่งนี้ถือเป็นเกียรติสูงสุดที่สะท้อนถึงความจงรักภักดี และการทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างไม่เสื่อมคลาย

บทบาทในพระราชพิธีสำคัญและภารกิจถวายงาน
หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดของท่านคือการปฏิบัติหน้าที่ใน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยท่านมีบทบาทถวายงานในช่วงพิธีสรงพระมุรธาภิเษก ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจพิธีการ และความเที่ยงตรงอย่างสูงสุด
ท่านถวายบังคม 3 ครั้งก่อนเสด็จขึ้นมณฑปพระกระยาสนาน และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วย พระเต้านวเคราะห์ รัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องราชพิธีเก่าแก่ ก่อนเสด็จลงและถวายบังคมอีกครั้ง
เหตุการณ์นี้สะท้อนบทบาทของท่านในฐานะผู้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอย่างภักดีและสมพระเกียรติ
บทบาททางสังคม การเมือง และความคิดเห็นสาธารณะ
นอกเหนือจากงานรับใช้ในราชสำนัก “ท่านชายใหม่” ยังเป็นบุคคลสาธารณะที่มีบทบาทโดดเด่นในด้านความคิดเห็นต่อประเด็นบ้านเมือง โดยเฉพาะในยุคสื่อออนไลน์ที่เสียงของท่านได้รับการติดตามอย่างกว้างขวาง
ท่านมักออกมาแสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมือง การทหาร และประเด็นสังคมต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา กลายเป็นหนึ่งในเสียงสำคัญที่ผู้ติดตามจำนวนมากให้ความสนใจ
และในช่วงหนึ่ง ท่านยังเคยดำรงตำแหน่ง ประธานสโมสรฟุตบอลราชวิถี ซึ่งสะท้อนความผูกพันกับวงการกีฬาไทย
มรดกที่ท่านทิ้งไว้ให้สังคมไทย
แม้วันนี้ “ท่านชายใหม่” จะจากไปแล้ว แต่ชื่อของ หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ยังคงถูกจดจำในฐานะ
- นายทหารผู้กล้าหาญ
- ผู้ปฏิบัติภารกิจสำคัญเพื่อความมั่นคงของชาติ
- บุคคลสาธารณะที่กล้าพูด กล้าแสดงความเห็น
- เชื้อพระวงศ์ผู้ถวายงานราชสำนักอย่างภักดี
- นักเรียนทหารที่เติบโตจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- สมาชิกหนึ่งในราชสกุลยุคลที่สร้างคุณูปการมาอย่างยาวนาน
บทบาทเหล่านี้ทำให้ท่านเป็นตัวอย่างของผู้ที่อุทิศชีวิตเพื่อแผ่นดิน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่สังคมไทยจะจดจำตราบนานเท่านาน

สรุป
การจากไปของหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล คือการสูญเสียบุคคลระดับสำคัญผู้รับใช้ชาติอย่างไม่ย่อท้อ เส้นทางชีวิตของท่านประกอบด้วยความมุ่งมั่น จงรักภักดี และอุดมการณ์ที่ชัดเจนต่อบ้านเมือง
บทบาทด้านการทหาร ความผูกพันกับราชสำนัก และเสียงสะท้อนในแวดวงสังคมการเมือง ล้วนสร้างความทรงจำให้สังคมไทยอย่างลึกซึ้ง
เกล็ดความรู้
ราชสกุล “ยุคล” เป็นหนึ่งในราชสกุลสำคัญที่สืบเชื้อสายจากรัชกาลที่ 5 และมีสมาชิกหลายพระองค์รับราชการทหาร–ตำรวจ รวมถึงมีบทบาทในวงการภาพยนตร์ กีฬา และงานราชพิธีหลายยุคสมัย เป็นหนึ่งในตระกูลที่มีส่วนร่วมกับพัฒนาการของสังคมไทยในหลายด้านอย่างยาวนาน
ติดตาม บ้านกีฬา
ข่าวเด่น ข่าววันนี้ เรื่องสำคัญทั่วประเทศ ติดตามได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกเหตุการณ์ใหญ่ในไทยและต่างประเทศ

