Wicked For Good หนังภาคจบที่ยิ่งใหญ่ แต่ควรเป็น “หนังเดียวที่ดีมาก” ตั้งแต่แรก? รีวิวสไตล์บ้านกีฬา จัดเต็มทุกประเด็นที่คอหนังมิวสิคัลต้องรู้

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ภาพรวมแบบไม่สปอยล์หนัก: เสียงสูงยังสะกด แต่จังหวะเล่าเรื่องยืดยาวเกินจำเป็น

Wicked: For Good ปิดฉากโปรเจ็กต์สองภาคของผู้กำกับ Jon M. Chu ที่ดัดแปลงจากมิวสิคัลบรอดเวย์ชื่อก้องโลก เนื้อหาภาคนี้ครอบคลุม “องก์ที่สอง” ของเวที ซึ่งเป็นช่วงที่ เอลฟาบา (Cynthia Erivo) เลือกยืนฝั่งตรงข้ามอำนาจเผด็จการของพ่อมดแห่งออซอย่างเต็มตัว ขณะที่ กลินดา (Ariana Grande) ยังคงเป็นไอคอนสายพีอาร์ของระบอบเดิม แม้หัวใจและมโนธรรมจะสั่นไหวเป็นระยะ จุดดีคือพลังการร้องและเคมีของสองตัวเอกยังฟาดไม่แผ่ว แต่ข้อกังขาคือเหตุใดเรื่องที่ควรบีบให้ “แน่น คม จบในสองชั่วโมงกว่า” ต้องขยายเป็นสองภาครวมรันไทม์ราวห้าชั่วโมง

เปิดฉากเดือด: จากทุ่งกว้างสู่ออซ—ฉากแอ็กชันพลังเวทที่มี “เดิมพันทางศีลธรรม”

หนังเริ่มด้วยภาพแรงงานสัตว์ถูกบังคับสร้างถนนอิฐเหลือง ก่อนเอลฟาบาจะลงจากฟ้าดังซุปเปอร์ฮีโร่เพื่อหยุดความรุนแรง ช็อตนี้ไม่ใช่แค่โชว์พลังซีจี แต่คือการตั้งธง “จุดยืน” ของหนังว่าความดี-ความเลวในออซไม่เคยขาวดำ ตั้งแต่ Madame Morrible (Michelle Yeoh) ปั่นข่าวใส่ร้าย ไปจนถึงเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อที่ถูกใช้เพื่อรักษาอำนาจ

ดราม่าความสัมพันธ์: ศัตรู-เพื่อน-คู่ขนาน

เสน่ห์ของ Wicked อยู่ที่ความสัมพันธ์อันซับซ้อน เอลฟาบา × กลินดา คือคู่ตรงข้ามที่สะท้อน “ภาพลักษณ์กับความจริง” ขณะที่ ฟิเยโร (Jonathan Bailey) รับภาระ “กึ่งทหาร กึ่งคนรัก” แบกความลังเลระหว่างหน้าที่กับหัวใจ เส้นนี้ช่วยเติมแรงเสียดทานให้ความรักสามเส้า ไม่ใช่เพื่อหวาน แต่เพื่อชี้ว่าความรักต้องแลกด้วยการเลือกข้างทางการเมืองเสมอ

จุดแข็งที่ยังโหด: เวทีเสียงร้องและการแสดงระดับท็อป

  • Cynthia Erivo ยิงโน้ตสูงและเล่นเลเยอร์ “ความแกร่งบนบาดแผล” ได้ทรงพลัง ทุกซีนที่เธออยู่กลางเฟรมคือแม่เหล็กของหนัง
  • Ariana Grande ทำ “กลินดา” ให้มีเลือดเนื้อเกินภาพตุ๊กตาผมบลอนด์ สวิตช์จากคอมเมดี้สู่ดราม่าได้ลื่น
  • Jonathan Bailey อบอุ่น มีเสน่ห์ มีประกายความเชื่อทางการเมืองที่ไม่ฟูมฟายเกินไป
  • Michelle Yeoh แม้ไลน์ร้องไม่เด่นเท่าผู้อื่น แต่คาริสม่าในบทมอร์ริเบิลทำให้ฝ่ายร้ายมีมิติ

ดนตรีและเพลงฮิต: “For Good” ยังพีค ส่วนเพลงใหม่เติมรันไทม์มากกว่าอารมณ์

พาร์ตดนตรียังเป็นหัวใจของหนัง “For Good” คือจุดสูงสุดขององก์สอง ทั้งในเชิงเมโลดี้และพลังอารมณ์ ส่วน “Wonderful” ของพ่อมดยังคงทำหน้าที่เสียดสี “บารมีปลอม” ได้ดี ทว่าบทเพลงใหม่อย่าง “No Place Like Home” และ “The Girl in the Bubble” เพิ่มน้ำหนักธีมไม่มากนักเมื่อเทียบกับเวลาที่ใช้ ทำให้จังหวะเล่าเรื่องแผ่กว้างโดยไม่จำเป็น

ทำไมสองภาค? มุมมองบ้านกีฬาเรื่อง “รูปเกมกับเวลาทดเจ็บ”

การแบ่งสองภาคเปรียบเหมือนแมตช์ที่คุมเกมได้ แต่ทดเวลาเกินเหตุ จุดพีกหลายช่วงเลยถูกยืดจนแรงกระแทกอารมณ์อ่อนลง หนังยัง “ชนะ” ด้วยเสียงร้อง-โปรดักชัน-อารมณ์ไคลแม็กซ์ แต่หากบีบให้เป็น “หนังยาวหนึ่งภาคที่คมกริบ” ภาพรวมจะทรงพลังกว่านี้มาก

โทนการเมือง: ตั้งคำถาม “ความดี/ความชั่ว” แต่ปลอดภัยเกินไป

ต้นฉบับนิยายของ Gregory Maguire มีความดุเดือดเชิงการเมือง-ชนชั้น-การกดทับที่แหลมคมกว่ามาก เวอร์ชันหนังเลือกขัดมุมคมให้เรียบขึ้นเพื่อให้บางตัวละคร “น่าเอาใจช่วย” มากขึ้น ผลคือประเด็น “ใครกันแน่คือคนดี” ถูกย่อยง่ายขึ้น แต่ก็แลกกับแรงกัดทางสังคมที่เบาลง

โปรดักชันดีไซน์-ภาพ-เสียง: ออซเวอร์ชันหนังที่ทั้งหรูและเข้าถึงง่าย

งานอาร์ตไดเร็กชันยังงดงาม ระบบสีเขียว/ทอง/ชมพูที่ขีดเส้นตัวตนของเอลฟาบา-กลินดา-นครมรกตทำงานชัด ชุดราตรีและพร็อพเวทมนตร์ถูกใช้เล่าเรื่อง ไม่ใช่แค่ประดับเฟรม งานบันทึกเสียงและมิกซ์มิวสิคัลคุมบาลานซ์วงกับเสียงนักแสดงได้ใสสะอาด

สำหรับคนยังไม่เคยดู Wicked: ดูอย่างไรให้ “อิน” มากขึ้น

  1. เข้าใจไทม์ไลน์โลกออซคร่าว ๆ ว่าหนังภาคนี้ขนานกับเหตุการณ์ The Wizard of Oz
  2. โฟกัส “การเลือกข้าง” มากกว่าเวทมนตร์ เพราะทุกตัวละครต้องตัดสินใจระหว่างความถูกต้องกับความสะดวกสบาย
  3. ฟังเนื้อเพลงเป็นหลัก—หลายประเด็นเล่าในไลน์ร้อง ไม่ได้พูดโต้ง ๆ ในบทสนทนา

ใครควรดู

  • คนรักมิวสิคัลที่อยากฟังโน้ตสูงและดูงานโปรดักชันใหญ่
  • แฟนบรอดเวย์ที่อยากเห็นการตีความใหม่ของ Elphaba/Glinda
  • คอหนังครอบครัวที่มองหาโชว์สเกลใหญ่ มีแง่คิดเรื่องความกล้าหาญและมิตรภาพ
  • สายวิจารณ์สังคมอาจรู้สึกว่าความคมทางการเมืองถูก “เบลอ” ไปบ้าง แต่ยังมีวัตถุดิบให้ถอดรหัส

บ้านกีฬาให้ฟีลแมตช์รีวิว: สกอร์อารมณ์-ช็อตไฮไลต์-แมนออฟเดอแมตช์

  • สกอร์อารมณ์: 8/10 เสียงร้องพาไปสุดทาง แม้จังหวะเล่าเรื่องจะหนืดช่วงกลาง
  • ช็อตไฮไลต์: ฉากเปิดช่วยสัตว์ที่ถนนอิฐเหลือง และคู่ดูเอ็ต “For Good”
  • แมนออฟเดอแมตช์: Cynthia Erivo และ Ariana Grande แบกหนังทั้งสองภาคไว้อย่างสง่างาม

บทสรุป: สวย ตรึงตา เต็มหัวใจ แต่ “ยาวกว่าที่ควร”

Wicked: For Good คือมิวสิคัลจอใหญ่ที่ทำด้วยความรักต่อวัตถุดิบต้นทาง ชนะเลิศที่พลังการแสดงและงานโปรดักชัน ทว่าความยาวและการแบ่งสองภาคทำให้แรงอิมแพ็กทางอารมณ์ลดหลั่นลง หากคุณพร้อมนั่งซึมซับเมโลดี้และดูสองดีว่าสาดพลังเต็มคันเร่ง หนังจะตอบแทนด้วยโมเมนต์ที่งามและน่าจดจำ แต่ถ้าถามแบบเชิงแท็คติก—นี่น่าจะเป็น “หนังภาคเดียวที่ดีมาก” ได้สบาย

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกกระแสใหญ่ของโลกหนัง-กีฬา-บันเทิง ที่เราเล่าให้ฟังแบบเข้มข้น ดุดัน และเข้าใจง่าย

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา