กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินหน้าโครงการ “เงินอุดหนุนบุตร” อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยลดภาระครอบครัวไทยในช่วงค่าครองชีพสูง โดยรอบเดือน พฤศจิกายน 2568 นี้ พม.เตรียม โอนเงิน 600 บาท เข้าบัญชีให้ผู้มีสิทธิตั้งแต่วัน จันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ครอบคลุมกว่า 2 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
💰 เงินอุดหนุนบุตรคืออะไร?
“เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด” เป็นโครงการช่วยเหลือของ กรมกิจการเด็กและเยาวชน (DCY) ภายใต้ พม. ที่จัดสรรเงิน เดือนละ 600 บาทต่อคน ให้แก่เด็กแรกเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตช่วงต้นให้กับเด็กในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
เงื่อนไขสำคัญคือ เด็กต้องมี สัญชาติไทย และอยู่ในครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ไม่จำกัดจำนวนบุตรในครอบครัว กล่าวคือ หากมีลูก 2 คน ก็จะได้รับเดือนละ 1,200 บาท และจะได้รับเงินต่อเนื่องจนกว่าเด็กจะครบ 6 ขวบ

📅 กำหนดโอนเงินเดือนพฤศจิกายน 2568
เงินอุดหนุนบุตรรอบนี้ โอนวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 (วันจันทร์) เข้าบัญชีธนาคารของผู้มีสิทธิโดยตรง ซึ่งเป็นรอบเดียวกับการโอนเงินช่วยเหลือสำหรับกลุ่มเปราะบางอื่น ๆ ได้แก่ เงินเบี้ยผู้สูงอายุ และ เงินเบี้ยคนพิการ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ
ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสถานะสิทธิและวันโอนเงินได้ 3 ช่องทางหลักคือ
- เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน 👉 http://csgcheck.dcy.go.th
- แอปพลิเคชัน “เงินเด็ก”
- แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
หากยังไม่ได้ลงทะเบียน สามารถยื่นคำร้องได้ที่
- กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเขต
- เมืองพัทยา : ศาลาว่าการเมืองพัทยา
- ภูมิภาคอื่น ๆ : เทศบาล หรือ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่อยู่อาศัยจริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นทะเบียนบ้าน)
หรือ ลงทะเบียนผ่านแอป “เงินเด็ก” โดยต้องยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้วจะเริ่มได้รับเงินตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนสำเร็จ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด
📞 08-2091-7245 / 08-2037-9767 / 08-3431-3533 / 06-5731-3199
หรือสายด่วน 1300 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ตลอด 24 ชั่วโมง

👶 โครงการเงินอุดหนุนบุตร ช่วยจริง บรรเทาภาระครอบครัว
เงิน 600 บาทต่อเดือนอาจดูไม่มาก แต่สำหรับครอบครัวรายได้น้อยถือเป็น “รายได้เสริม” ที่ช่วยแบ่งเบาค่าขนม นมผง ผ้าอ้อม หรือค่าเดินทางไปโรงพยาบาลได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยตั้งแต่เริ่มโครงการปี 2558 ถึงปัจจุบัน มีเด็กไทยได้รับสิทธิรวมแล้วกว่า 3 ล้านคนทั่วประเทศ ถือเป็นหนึ่งในโครงการสวัสดิการภาครัฐที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เงินอุดหนุนบุตรยังเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ครอบครัวอยู่ในระบบสวัสดิการของรัฐ ซึ่งต่อยอดสู่สิทธิสวัสดิการอื่น ๆ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือกองทุนประกันสุขภาพสำหรับแม่และเด็ก
👨👩👧 รวมอัปเดต “3 กลุ่มเปราะบาง” ที่ได้เงินพร้อมกันเดือนนี้
1. เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุที่มีสัญชาติไทยและไม่ได้รับสวัสดิการซ้ำซ้อนจากหน่วยงานอื่นจะได้รับเงินทุกเดือนตามช่วงอายุ
- อายุ 60–69 ปี ได้ 600 บาท
- อายุ 70–79 ปี ได้ 700 บาท
- อายุ 80–89 ปี ได้ 800 บาท
- อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้ 1,000 บาท
ตรวจสอบสิทธิผ่านแอป “ทางรัฐ” หรือเว็บไซต์กระทรวงการคลัง www.mof.go.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1111 ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ
2. เงินอุดหนุนบุตร
เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ได้เดือนละ 600 บาทต่อคน ไม่จำกัดจำนวนบุตร เงื่อนไขคือมีสัญชาติไทยและครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/ปี
ตรวจสอบสิทธิผ่านเว็บไซต์ http://csgcheck.dcy.go.th หรือแอป “เงินเด็ก”
3. เงินเบี้ยคนพิการ
ผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการมีสิทธิรับเงินเดือนละ 800–1,000 บาท
- อายุไม่เกิน 18 ปี ได้รับ 1,000 บาท/เดือน
- อายุ 18 ปีขึ้นไป ได้รับ 800 บาท/เดือน
และหากถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมเป็น 1,000 บาท/เดือน
ตรวจสอบสิทธิได้ที่ https://govwelfare.dep.go.th
📲 ช่องทางตรวจสอบสิทธิและสถานะการโอนเงิน
สำหรับผู้ที่รอเงินเข้าบัญชี สามารถเช็กข้อมูลได้ง่าย ๆ ดังนี้
- เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน : กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เพื่อดูผลการโอนล่าสุด
- แอป “ทางรัฐ” : รวมข้อมูลสวัสดิการทุกประเภทในที่เดียว
- แอป “เงินเด็ก” : อัปเดตสถานะสิทธิอย่างรวดเร็ว พร้อมแจ้งเตือนเมื่อเงินเข้า
แนะนำให้ตรวจสอบชื่อบัญชีและเลขที่บัญชีให้ถูกต้อง เนื่องจากหากชื่อไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร ระบบจะไม่สามารถโอนเงินได้
💬 ทำไมเงินอุดหนุนบุตรถึงสำคัญต่ออนาคตเด็กไทย
ในเชิงสังคมวิทยา “เงินอุดหนุนเด็ก” คือการลงทุนในอนาคตของประเทศ เพราะทุก 600 บาทที่รัฐจ่ายออกไป เป็นต้นทุนที่ช่วยให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งด้านโภชนาการ สุขภาพ และการศึกษาในระยะยาว งานวิจัยจากองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ระบุว่า โครงการลักษณะนี้ช่วยลดอัตราความยากจนในครอบครัวที่มีเด็กได้เฉลี่ยถึง 10–15% ต่อปี
ที่สำคัญ โครงการนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของ “รัฐสวัสดิการเพื่อเด็กทุกคน” ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไทยที่มุ่งสร้างความเท่าเทียมตั้งแต่ระดับครัวเรือน

📌 เคล็ดลับสำหรับผู้ปกครอง: รู้ไว้ไม่พลาดสิทธิ
- ลงทะเบียนก่อนวันที่ 25 ของเดือน จะเริ่มได้รับเงินตั้งแต่เดือนถัดไป
- หากมีการย้ายที่อยู่ ควรแจ้งหน่วยงานในพื้นที่ใหม่ภายใน 30 วัน
- ตรวจสอบบัญชีธนาคารให้พร้อมใช้งานทุกเดือน เพื่อป้องกันเงินตกค้าง
- เก็บหลักฐานการลงทะเบียนและสลิปโอนเงินไว้ทุกครั้ง
“เงินอุดหนุนบุตร” ไม่ใช่เพียงเงินช่วยเหลือ แต่คือ “แรงใจจากรัฐสู่ครอบครัวไทย” ที่สะท้อนแนวคิดสำคัญว่า “ไม่มีเด็กคนไหนควรถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

