แรงงานหญิงและชายทั่วประเทศเฮกันลั่น! เมื่อ ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2568 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นับเป็นการ “อัปเกรดสิทธิแรงงานไทยครั้งใหญ่” ในรอบหลายปี ทั้งเรื่อง สิทธิลาคลอด 120 วัน, ลาช่วยภรรยา 15 วัน, และ ลาต่อดูแลลูกป่วยได้อีก 15 วัน พร้อมคุ้มครองลูกจ้างแบบจ้างเหมาบริการในหน่วยงานรัฐให้ได้รับสิทธิเท่าเทียมเอกชน

🔹 ภาพรวมกฎหมายแรงงานฉบับใหม่
พระราชบัญญัตินี้ออกโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อ “ยกระดับความมั่นคงในชีวิตของลูกจ้างไทย” โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์ รวมถึงแรงงานชายที่ต้องการมีส่วนร่วมในการดูแลครอบครัว นอกจากนี้ยังขยายความคุ้มครองไปถึงกลุ่มลูกจ้างภาครัฐที่จ้างในรูปแบบ “เหมาบริการ” ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยได้รับสิทธิตามกฎหมายแรงงานอย่างเต็มรูปแบบ
กฎหมายฉบับนี้อ้างอิงตาม มาตรา 26, 27 และ 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ระบุให้สามารถจำกัดสิทธิบางประการได้ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์สาธารณะและสร้างความมั่นคงในการจ้างงาน
👩🍼 ลาคลอดได้สูงสุด 120 วัน รับค่าจ้าง 60 วันเต็ม
ลูกจ้างหญิงที่ตั้งครรภ์มีสิทธิ “ลาเพื่อคลอดบุตร” ได้สูงสุด 120 วันต่อการตั้งครรภ์หนึ่งครั้ง ซึ่งรวมวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ไว้แล้ว โดยนายจ้างต้อง จ่ายค่าจ้างเท่ากับวันทำงานปกติเป็นเวลา 60 วัน ถือเป็นการเพิ่มสิทธิลาคลอดจากเดิมที่เคยจำกัดไว้เพียง 98 วัน
นอกจากนี้ หากบุตรที่คลอดออกมามี ภาวะผิดปกติ พิการ หรือเจ็บป่วยเสี่ยงโรคแทรกซ้อน ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาต่ออีก ไม่เกิน 15 วัน เพื่อดูแลบุตร โดยได้รับค่าจ้างในอัตรา ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง และต้องมีใบรับรองแพทย์ประกอบการลา

👨👩👧 แรงงานชายก็ได้สิทธิ “ลาช่วยภรรยาคลอด” 15 วัน
ไม่ใช่แค่แรงงานหญิงเท่านั้นที่ได้สิทธิ เพราะกฎหมายฉบับนี้เปิดทางให้แรงงานชายสามารถ ลาเพื่อช่วยเหลือภรรยาที่คลอดบุตรได้ไม่เกิน 15 วัน โดยสามารถใช้สิทธิก่อนหรือหลังคลอดได้ภายใน 90 วันนับจากวันที่ภรรยาคลอด
ระหว่างลานี้ นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างเต็มจำนวนเช่นเดียวกัน เพื่อสนับสนุนแนวคิด “พ่อมีส่วนร่วม” (Paternity Leave) ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ของการจ้างงานในยุคปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับบทบาทของบิดาในการเลี้ยงดูบุตร
💼 ขยายสิทธิคุ้มครองถึง “ลูกจ้างเหมาบริการภาครัฐ”
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของ พ.ร.บ. ฉบับนี้คือ การขยายความคุ้มครองไปยัง ลูกจ้างเหมาบริการในหน่วยงานของรัฐ เช่น กระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจ หรือองค์การมหาชน ซึ่งต้องได้รับสิทธิตามกฎหมายแรงงานเหมือนลูกจ้างเอกชน
นั่นหมายความว่าลูกจ้างเหมาบริการจะได้รับ
- ค่าตอบแทนการทำงานตามมาตรฐาน
- วันหยุดประจำสัปดาห์
- วันลาพักผ่อน วันลาป่วย และวันลาคลอด
- เวลาทำงานและเวลาพักตามเกณฑ์ที่กฎหมายแรงงานกำหนด
หากมีข้อพิพาทระหว่างลูกจ้างกับหน่วยงานรัฐ จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของ ศาลแรงงาน เช่นเดียวกับกรณีของเอกชน เพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดช่องว่างทางสิทธิ
📄 นายจ้างต้องรายงานสภาพการจ้างทุกปี
อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ นายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต้อง ยื่นรายงานสภาพการจ้างและการทำงาน ต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ภายในเดือนมกราคมของทุกปี เพื่อให้ภาครัฐใช้ข้อมูลนี้ในการตรวจสอบและพัฒนาคุณภาพแรงงานของประเทศ

⚖️ เหตุผลสำคัญในการออกกฎหมายฉบับนี้
กฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับเดิม (พ.ศ. 2541) ใช้มานานกว่า 27 ปี จึงมีหลายส่วนไม่สอดคล้องกับ สภาพเศรษฐกิจและสังคมยุคใหม่ โดยเฉพาะเมื่อรูปแบบการจ้างงานในปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก เช่น การจ้างงานแบบชั่วคราว จ้างเหมา หรือฟรีแลนซ์ ซึ่งบางกลุ่มตกหล่นจากระบบคุ้มครอง
ดังนั้น พ.ร.บ. ฉบับที่ 9 จึงออกมาเพื่อ
- สร้างความเท่าเทียมทางเพศและการจ้างงาน
- ส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานหญิงตั้งครรภ์และครอบครัว
- ปรับระบบบริหารแรงงานให้ทันสมัยและตรวจสอบได้ง่าย
- ลดช่องโหว่ของแรงงานเหมาบริการภาครัฐ
💬 มุมมองทางสังคม: ก้าวใหญ่ของแรงงานไทยในยุคใหม่
การประกาศใช้ กฎหมายแรงงานฉบับใหม่ ครั้งนี้ สะท้อนแนวโน้มของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับ “Work-Life Balance” และ “Family Support Policy” ซึ่งเป็นนโยบายที่หลายประเทศพัฒนาแล้วใช้มาอย่างยาวนาน
ในมุมมองของภาคเอกชน แม้จะเพิ่มภาระต้นทุนด้านค่าจ้างระหว่างลา แต่ในทางกลับกันก็ช่วยสร้างแรงจูงใจและความภักดีต่อองค์กร ขณะที่แรงงานหญิงจะได้รับความมั่นใจมากขึ้นในการวางแผนครอบครัวโดยไม่กระทบงาน

💡 เคล็ดลับรู้ไว้ก่อนใช้สิทธิ “ลาคลอด – ลาช่วยภรรยา”
- ลูกจ้างหญิงต้องยื่นใบลาและใบรับรองแพทย์ก่อนเริ่มลา
- การลาต่อเพื่อดูแลลูกต้องมีใบรับรองแพทย์ชัดเจน
- ฝ่ายชายต้องใช้สิทธิลาภายใน 90 วันหลังภรรยาคลอด
- นายจ้างไม่มีสิทธิปฏิเสธการลา หากเข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย
- สิทธินี้บังคับใช้ ภายใน 30 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา
🧭 บ้านกีฬา ชี้มุมมองกฎหมายแรงงาน = เกมชีวิตที่แฟร์ขึ้น
ในยุคที่ “แรงงานไทย” ต้องปรับตัวรับโลกการทำงานใหม่ บ้านกีฬา มองว่ากฎหมายนี้ไม่ใช่แค่ “เรื่องของสิทธิ” แต่คือ “การลงทุนในคุณภาพชีวิตแรงงาน” เพื่อให้ประเทศมีระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและมนุษย์ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดการอัปเดตสำคัญ ทั้งเรื่องแรงงาน เศรษฐกิจ และนโยบายสังคมที่กระทบชีวิตประจำวันของคนไทยทุกคน

