พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี (Kalmaegi) ที่รู้จักในฟิลิปปินส์ว่า “Tino” ได้พัดเข้าสู่ทะเลจีนใต้หลังจากถล่มกลางประเทศฟิลิปปินส์เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2568 โดยส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และโคลนถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัด เซบุ (Cebu) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด จนถึงวันพฤหัสบดี 6 พ.ย. 2568 ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ ณ เวลาหนึ่ง อยู่ที่อย่างน้อย 114 ราย และมีผู้สูญหายอีกประมาณ 127 คนในฟิลิปปินส์ พายุลูกนี้ยังเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และคาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 6–7 พ.ย. 2568 โดยมีความเร็วลมสูงสุดกว่า 150 กม./ชม.

เหตุการณ์ในพื้นที่ฟิลิปปินส์
-
เมื่อพายุเคลื่อนเข้าสู่ฟิลิปปินส์ ได้ถูกประกาศเตือนและดำเนินการอพยพประชาชนหลายแสนคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยก่อนหน้า แต่ด้วยความรุนแรงของฝนและน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้หลายชุมชนถูกตัดขาดทันที และมีภาพประชาชนขึ้นไปหลบภัยบนหลังคาเพราะน้ำน้ำท่วมภายในเวลาไม่กี่นาที
-
ในจังหวัดเซบุ มีรายงานผู้เสียชีวิตมากที่สุด โดยในเมือง ลิโลอัน พบถึง 35 ศพ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในจังหวัดนี้เพิ่มเป็น 76 คน
-
นอกจากนี้ ในเขต เนกรอส มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน และสูญหายอีก 12 คน โดยสาเหตุหลักคือโคลน ถล่มและน้ำท่วมจากภูเขาไฟอ่อนตัวและแม่น้ำล้นตลิ่ง
-
มีรายงานว่าเหตุผลหนึ่งของความรุนแรงคือระบบควบคุมน้ำท่วมและอ่างเก็บน้ำที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ดำเนินการจริง รวมถึงการทำเหมืองหินซึ่งทำให้แม่น้ำอุดตัน
-
รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ (state of emergency) เพื่อเร่งการให้ความช่วยเหลือ

แนวทางและผลกระทบในเวียดนาม
-
เมื่อพายุเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ มีการประเมินว่าอาจขึ้นฝั่งที่เวียดนามตอนกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ กว๋างงาน และ เกียไล ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟที่ใหญ่ของประเทศ
-
มีรายงานว่าอาจมีลมแรงถึง 167–183 กม./ชม. ขณะเข้าใกล้ฝั่ง และคาดว่าฝนหนักจะเกิดขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร
-
เวียดนามจึงเตรียมการอพยพและระดมกำลังเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือการขึ้นฝั่งของพายุลูกนี้
บทเรียน – สิ่งที่ “บ้านกีฬา” อยากให้ทุกคนรู้ไว้
-
ประเทศอย่างฟิลิปปินส์เผชิญกับพายุโซนร้อนและไต้ฝุ่นราว 20 ลูกต่อปี ซึ่งไม่นับรวมแผ่นดินไหวภูเขาไฟ
-
เมื่อระบบระบายน้ำ สิ่งก่อสร้างควบคุมน้ำ หรือโครงสร้างพื้นฐานด้อยคุณภาพ ผสมกับฝนหนัก น้ำท่วม และ โคลนถล่ม จะยิ่งเพิ่มความรุนแรงของภัยพิบัติ
-
การเตรียมการล่วงหน้า เช่น อพยพก่อนพายุ มานั่งรอในที่ปลอดภัย และปิดเรือเดินทางเป็นสิ่งจำเป็นมาก
-
สำหรับประเทศไทย: แม้พื้นที่จะอยู่ห่าง แต่เมื่อพายุเคลื่อนผ่านทะเลจีนใต้ & เข้าสู่ไทย อาจทำให้ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก หรือคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน ดังนั้นทุกคนควรติดตามประกาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยา และเตรียมพร้อม

สิ่งที่ควรทำทันทีหากคุณอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
-
ตรวจสอบประกาศเตือนภัย และสัญญาณจากหน่วยงานท้องถิ่น
-
หากได้รับคำสั่งอพยพ ย้ายไปยังศูนย์พักพิงหรือที่ปลอดภัยทันที
-
ปิดไฟ แก๊ส และเตรียมสิ่งของจำเป็น เช่น ยา น้ำ ไฟฉาย ให้พร้อม
-
อย่าเข้าใกล้แม่น้ำ ลำธาร หรือพื้นที่ลาดเชิงเขาหลังฝนตกหนัก เพราะมีโอกาสเกิดโคลนถล่มหรือน้ำป่าไหลหลาก
-
หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเรือ และหลีกเลี่ยงชายฝั่งทะเลที่คลื่นอาจซัดแรง
สรุป
พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี (Kalmaegi / Tino) คือหนึ่งในพายุรุนแรงที่สร้างความเสียหายสูงในฟิลิปปินส์ ก่อนจะเข้าสู่เวียดนาม โดยเป็นบทเรียนที่ย้ำว่า เมื่อธรรมชาติร่วมมือกับโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เข้มแข็ง ภัยพิบัติย่อมรุนแรงกว่าที่คิด สำหรับพวกเราที่อยู่ในภูมิภาคนี้ การเตรียมพร้อมล่วงหน้า ติดตามข่าวสาร และความร่วมมือของชุมชนคือกุญแจสำคัญ
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

