เรื่องราวสุดสะเทือนวงการบันเทิงไทย เมื่ออดีตนักร้องชื่อดังจากเวที Academy Fantasia ซีซั่น 7 (AF7) ถูกแฉว่าร่วมกับภรรยาหลอกเหยื่อหลายนับสิบราย สูญเงินรวมกันกว่า 50 ล้านบาท ทั้งคู่ใช้ชีวิตหรูหรา ซื้อบ้าน รถหรู จัดปาร์ตี้เชิญ “เสก โลโซ” เล่นกลางงาน และเที่ยวต่างประเทศอย่างสุขสบาย ขณะที่เหยื่อบางรายถึงขั้นคิดสั้นเพราะหมดตัว
🔥 พฤติกรรมฉ้อโกงสุดแสบ – จากธุรกิจก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูป สู่คดีโกงมหาศาล
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 นายศุภภัทรพจน์ นิติศศธร และ น.ส.พัทธ์ธีรา วารัณิธิศวร์ ทนายความ ได้นำ นายณัฐธิชัย กัลยา อายุ 57 ปี นักธุรกิจบรรจุภัณฑ์ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เกียรติพล น้อยพิทักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อดำเนินคดีกับอดีตนักร้อง AF7 อักษรย่อ “น.” และภรรยา เจ้าของแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูปชื่อดัง
นายณัฐธิชัยเผยว่า ทั้งคู่สั่งผลิตซองบรรจุภัณฑ์ 1 ล้านซอง แต่ค้างชำระกว่า 200,000 บาท และยังนำซองไปใช้จำหน่ายสินค้าโดยไม่จ่ายเงิน พร้อมอ้างชื่อบุคคลอื่นเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยการฉ้อโกง
นอกจากนั้น เหยื่ออีกหลายรายเริ่มทยอยออกมาเปิดเผยพฤติกรรมหลอกลวงในรูปแบบเดียวกัน โดยอ้างว่า “ธุรกิจขาดสภาพคล่อง” และชักชวนให้ร่วมลงทุน ผลคือเงินหายเกลี้ยง

💔 เสียงสะอื้นจากเหยื่อ – จากนักลงทุนกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว
นางฐิตารีย์ ศรีสุนทร หรือ “ฝ้าย” วัย 42 ปี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่าถูกหลอกกว่า 12 ล้านบาท หลังภรรยานักร้อง AF7 ชักชวนให้ร่วมลงทุนขยายตลาดต่างประเทศ แต่กลับกลายเป็นฝันร้าย
“ตอนนั้นเครียดมากจนคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย แต่ต้องสู้เพื่อลูก เหลือเงินติดตัวแค่ร้อยกว่าบาท ต้องให้ลูกเอาขนมไปคืนเพราะไม่มีเงินจ่าย ขณะที่เขาใช้ชีวิตหรู ซื้อบ้าน รถหรู เที่ยวต่างประเทศ แต่กลับพูดเย็นชาว่า ‘อยากได้ให้ไปฟ้องเอา’”
อีกหนึ่งเหยื่อ นางเตือนใจ เลี่ยมเงิน วัย 54 ปี สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บบั้นปลายชีวิต เธอเผยว่าเคยขอเงินคืนเพื่อรักษาแม่ที่ป่วย แต่กลับถูกตอบว่า “คนเราทุกคนก็ต้องตาย” สุดท้ายแม่จากไปโดยไม่ได้รับการรักษา
🏠 ชีวิตหรูหราสุดขั้ว – บ้านหรู รถหรู และงานวันเกิดสุดอลัง
ผู้เสียหายเผยว่า ทั้งคู่ใช้ชีวิตสุดฟุ่มเฟือย ทั้งจัดงานวันเกิดนักร้องหนุ่ม เชิญ “เสก โลโซ” มาแสดงสด พร้อมแจกเงินหลักแสนกลางงาน รวมถึงทริปเที่ยวชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ประเทศอังกฤษ ขณะที่เหยื่อหลายคนกลับต้องขายบ้าน จำนองทรัพย์สิน หรือรูดบัตรเครดิตจนหมดตัว
มีรายงานว่า เหยื่อเริ่มรวมตัวร้องเรียนเพิ่มเติม ทำให้ยอดความเสียหายรวมอาจทะลุ 50 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นหนึ่งในคดีหลอกลงทุนวงการบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในรอบปี

⚖️ ทนายขยับ – รวบรวมหลักฐานขยายผล
ทีมทนายกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นฟ้องเพิ่มเติม พร้อมร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ โรงงานผลิตซองบรรจุภัณฑ์ และ ตราฮาลาล ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงินของคู่กรณีว่ามีการโยกย้ายทรัพย์สินหลบหนีหรือเปล่า
คดีนี้อาจเข้าข่าย ฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบว่ามีการหลอกหลายราย ศาลอาจเพิ่มโทษเป็นสองเท่า
📜 เปิดพฤติกรรมเดิม – เพื่อนร่วมรุ่นเคยแฉ “ยืมเงินไม่คืน”
โลกออนไลน์ต่างเชื่อมโยงกรณีนี้กับโพสต์ของ “ผ้าแพร AF7” เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่เคยออกมาแฉว่า “เพื่อนร่วมรุ่นยืมเงินไม่คืน” พร้อมข้อความว่า “อยากได้ให้ไปฟ้องเอา” ซึ่งคำพูดเดียวกันนี้ปรากฏในคำให้การของเหยื่อหลายราย ยิ่งทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่
💡 มุมมองทางสังคม – คดีหลอกลงทุนบันเทิงที่สะท้อนปัญหา “ความเชื่อใจ”
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกในวงการบันเทิงที่คนมีชื่อเสียงถูกกล่าวหาว่าหลอกลงทุน โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลสร้างภาพลักษณ์ให้คนดูน่าเชื่อถือ หลายคนลืมตรวจสอบข้อมูลทางการเงินและสัญญาก่อนร่วมลงทุน กฎหมายไทยเองก็ยังคงพยายามปรับตัวให้ทันรูปแบบการฉ้อโกงใหม่ๆ ที่มักใช้ “ชื่อเสียงและความไว้ใจ” เป็นเครื่องมือ
สำหรับประชาชนทั่วไป การป้องกันตนเองจากมิจฉาชีพประเภทนี้ควรเริ่มจากการ ตรวจสอบทะเบียนบริษัท, ประวัติผู้บริหาร, ใบอนุญาตธุรกิจ และความถูกต้องของเอกสารการลงทุน ก่อนโอนเงินทุกครั้ง เพราะคดีลักษณะนี้มักทิ้งร่องรอยทางเอกสารไว้เสมอ

💬 สรุปสถานการณ์
คดีนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีผู้เสียหายทยอยเข้าร้องเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าความเสียหายจะไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และอาจมีการอายัดทรัพย์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ในขณะที่สังคมยังรอคำชี้แจงจากอดีตนักร้อง AF7 และภรรยา ความเสียหายทางใจของเหยื่อจำนวนมากยังคงเป็นบาดแผลที่ยากเยียวยา — คดีนี้จึงกลายเป็นเครื่องเตือนใจถึง “ภัยจากความเชื่อใจในโลกธุรกิจ” ที่ทุกคนควรตระหนักไว้เสมอ
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกกระแสข่าวสำคัญของสังคมไทย

