กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 13 เตือนประชาชน 12 จังหวัดทั่วประเทศให้ระวังฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนของประเทศและภาคใต้ตอนบน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากแนวร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม ทำให้หลายจังหวัดมีฝนต่อเนื่องยาวไปอีกหลายวัน
🌧️ “ฝนตกถึงวันไหน?” คำตอบจากอุตุฯ
สถานการณ์ฝนรอบนี้คาดว่าจะตกต่อเนื่อง ถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ก่อนที่แนวร่องมรสุมจะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศ โดยช่วงวันที่ 2–5 พฤศจิกายน จะเป็นระยะที่ฝนตกหนักที่สุดในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้ตอนบนยังคงมีฝนชุกหนาแน่นต่อเนื่องไปจนถึงปลายสัปดาห์หน้า
🌀 พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก
กรมอุตุฯ ชี้ชัดว่า 12 จังหวัดที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก ได้แก่
ตาก, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, นครปฐม, พระนครศรีอยุธยา, เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนี้ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ก็มีแนวโน้มฝนตกสูงสุดถึง 70% ของพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังบางแห่งได้
🌦️ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (3 พ.ย. 68)
ภาคเหนือ: อากาศเย็นในตอนเช้า ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 โดยเฉพาะแม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร และพิจิตร
ภาคอีสาน: ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ โดยเฉพาะนครราชสีมา อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และยโสธร
ภาคกลาง: ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 โดยเฉพาะนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี และนครปฐม
ภาคตะวันออก: ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 มีฝนตกหนักบางแห่ง เช่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามันมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 บริเวณเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา
🌊 เตือนคลื่นลมแรงในทะเลอันดามัน
คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยคลื่นสูง 1–2 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงเกินกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการออกเรือในช่วงนี้ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่วางแผนไปทะเลช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางทุกครั้ง
🌱 เกษตรกรต้องรู้: เตรียมรับมือฝนปลายปี
ช่วงนี้เป็นช่วง “ร่องฝนสุดท้ายของปี” ก่อนที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาวในปลายเดือนพฤศจิกายน กรมอุตุฯ แนะนำให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มเตรียมขุดร่องน้ำระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะผู้ปลูกข้าวและพืชสวนผลไม้ เช่น กล้วย มะม่วง และทุเรียน เพื่อป้องกันรากเน่าและดินชื้นเกินไป
ขณะเดียวกัน ผู้เลี้ยงสัตว์ควรเตรียมที่พักให้สัตว์มีหลังคาและที่กันฝน เพราะอากาศชื้นอาจทำให้เกิดโรคทางระบบหายใจในสัตว์ได้
🚗 เมืองใหญ่ระวังน้ำขัง-จราจรติดขัด
โดยเฉพาะใน กรุงเทพฯ ปริมณฑล และเมืองใหญ่ในภาคกลาง ฝนที่ตกต่อเนื่องอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนสายหลัก เช่น ถนนเพชรเกษม ราชพฤกษ์ ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี และพระราม 2 ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงน้ำรอระบาย ควรเผื่อเวลาเดินทาง และเลี่ยงเส้นทางที่มีรายงานน้ำขังจากสำนักการระบายน้ำ
💧 ทำไมฝนยังไม่หยุด?
สาเหตุหลักมาจาก “แนวร่องมรสุมกำลังแรง” ที่พาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ขณะที่มวลอากาศเย็นจากจีนที่ปกคลุมตอนบนของไทยยังไม่แรงพอจะดันแนวฝนลงใต้ ทำให้ฝนยังคงปกคลุมหลายพื้นที่ต่อเนื่องอีกหลายวัน
🌤️ หลังฝนหยุด อากาศเย็นจะมาแทน
หลังวันที่ 6 พฤศจิกายน เป็นต้นไป คาดว่าแนวฝนจะลดลงและ อุณหภูมิจะเริ่มลดลง 2–4 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะเข้าสู่ “หน้าหนาว” อย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ส่วนภาคกลางรวมถึงกรุงเทพฯ จะสัมผัสอากาศเย็นในตอนเช้าได้ชัดเจนช่วงสัปดาห์ถัดไป
☔ เคล็ดลับดูแลตัวเองช่วงฝนตก
- พกร่มหรือเสื้อกันฝนติดตัวทุกวัน เพราะฝนในช่วงนี้ตกไม่แน่นอนและตกหนักในระยะสั้น
- หลีกเลี่ยงน้ำท่วมขัง เพื่อป้องกันโรคน้ำกัดเท้าและเชื้อรา
- หมั่นดื่มน้ำอุ่นและนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน
- ระวังไฟฟ้ารั่วในพื้นที่น้ำขัง โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
- ดูแลรถยนต์ ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝน ยาง และเบรกให้พร้อมใช้งาน
🌈 สรุปภาพรวม “ฝนตกถึงวันไหน?”
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ฝนรอบนี้จะตกต่อเนื่องถึง วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ก่อนที่ร่องมรสุมจะอ่อนกำลังลงและเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในสัปดาห์ต่อมา ดังนั้นประชาชนควรเตรียมรับมือทั้งฝนและอากาศเย็นที่กำลังจะตามมาในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
บ้านกีฬา ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนปลอดภัยจากอิทธิพลของฝนในช่วงปลายปี ดูแลสุขภาพกันให้ดี และอย่าลืมติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬาเพื่อไม่พลาดทุกการอัปเดตทั้งข่าวอากาศ กีฬา และเหตุการณ์สำคัญทั่วไทย
