“กัน จอมพลัง” vs. ข้อบังคับมูลนิธิ ปมเชื่อมโยง “ธรรมนัส” ไขทุกชั้นความจริง–ข้อกฎหมาย–วิธีเช็กโปร่งใส (ฉบับอ่านเดียวจบ)

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ดราม่าร้อนฉ่าจนเทรนด์ขึ้นไทม์ไลน์ เมื่อมีประเด็นว่า “กัน จอมพลัง” ไม่มีชื่อเป็นประธาน/กรรมการใน “มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้” พร้อมเอกสารข้อบังคับที่ระบุว่า หากเลิกมูลนิธิ ทรัพย์สินตกเป็นของ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า” จนชาวเน็ตตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์เชิงโครงสร้าง ระหว่าง “กัน จอมพลัง” กับ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ผู้เขียน (ผู้หญิง) สรุปทุกประเด็นแบบ “บ้านกีฬา”—คม ชัด อ่านลื่น—และเติมคู่มือเช็กโปร่งใสที่ใช้ได้กับทุกมูลนิธิในไทย

ไทม์ไลน์ดราม่า: ใครว่าอะไร–เมื่อไหร่–อย่างไร

• จุดเริ่มข่าวลือ: มีการเผยข้อบังคับ “ข้อ 39” ของมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ว่าถ้าเลิก ทรัพย์สินทั้งหมดให้ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”
• ฝั่งกัน จอมพลัง ชี้แจง 1) ตน “ไม่ได้เป็นประธานหรือกรรมการ” แต่เป็น “ผู้ก่อตั้ง/ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์” 2) โครงสร้างแบบนี้ “ไม่ผิดกฎหมาย” 3) ปัจจุบัน “ไม่มีเงินโอนออกไปมูลนิธิธรรมนัส” และ 4) ได้ “เปลี่ยนผู้รับทรัพย์สินกรณีเลิก” เป็น “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ” แล้ว
• ฝั่งทนาย–นักการเมืองที่โพสต์เอกสาร: นำ “ข้อ 39” มาตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์มูลนิธิ–นักการเมือง และเหตุผลของการกำหนดปลายทางทรัพย์สิน
• ฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส: ยืนยัน “รู้จักและเคยทำงานช่วยประชาชนร่วมกัน” สนับสนุนในเชิงเครือข่าย แต่ “ไม่ใช่เรื่องเงินทอง”
• สรุปสถานะล่าสุด: มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ “ยังไม่เลิก” อ้างว่ามีการ “เปลี่ยนผู้รับทรัพย์สินเมื่อเลิก” แล้ว และกันย้ำว่าโครงสร้างการบริหารแบ่งหน้าที่เป็นเรื่อง “ทำงานจริงในภาคสนาม”

แกะทีละชั้น: ประเด็นข้อกฎหมายมูลนิธิที่ประชาชนควรรู้

มูลนิธิในไทย อยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมวดมูลนิธิ + ระเบียบหน่วยงานทะเบียนมูลนิธิ (กทม./จังหวัด) ประเด็นที่โผล่ในดราม่า สรุปสั้นๆ ดังนี้

  1. ใครเป็นกรรมการ–ประธาน: ไม่จำเป็นต้องเป็น “ผู้ก่อตั้ง” เสมอไป กฎหมายให้กำหนดในข้อบังคับได้ ว่าจะมีตำแหน่ง/วาระ/การสรรหาอย่างไร
  2. ข้อ 39 หรือหมวดการเลิก: มูลนิธิ “ต้อง” ระบุปลายทางทรัพย์สินเมื่อเลิก เพื่อมิให้ตกแก่เอกชนคนใดคนหนึ่ง—ปกตินิยมส่งต่อให้มูลนิธิสาธารณประโยชน์/หน่วยงานรัฐ
  3. แก้ข้อบังคับ: ทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน—มติกรรมการ + ยื่นต่อนายทะเบียนให้ “รับจดทะเบียนแก้ไข” จึงมีผลตามกฎหมาย (การ “ประกาศปากเปล่า” ยังไม่เพียงพอ)
  4. ความโปร่งใส: มูลนิธิต้องทำบัญชี–งบการเงิน–รายงานต่อหน่วยงานตามกำหนดเวลา ผู้บริจาค/ประชาชนมีสิทธิถามหาการเปิดเผยที่เหมาะสม

คำถามใหญ่ 5 ข้อจากสังคม และคำตอบแบบตรงไปตรงมา

Q1: ผู้ก่อตั้งไม่เป็นกรรมการ/ประธานได้ไหม?
A: ได้ หากข้อบังคับกำหนดไว้เช่นนั้น และนายทะเบียนรับจดแล้วก็ชอบด้วยกฎหมาย

Q2: ทำไม “ข้อ 39” เคยระบุส่งทรัพย์สินให้มูลนิธิของนักการเมือง?
A: ไม่ผิดกฎหมาย หากปลายทางเป็น “นิติบุคคลสาธารณประโยชน์” จริง แต่สังคมย่อมตั้งคำถามเรื่อง “ความเหมาะสม–ความขัดกันแห่งผลประโยชน์” ได้

Q3: ประกาศเปลี่ยนปลายทางทรัพย์สินแล้ว “มีผล” หรือยัง?
A: มีผลก็ต่อเมื่อดำเนินการ “แก้ข้อบังคับตามขั้นตอน” และนายทะเบียน “รับจดทะเบียนแก้ไข” แล้ว เอกสารคือคำตอบ

Q4: จะรู้ได้ยังไงว่าไม่มีเงินไหลออก?
A: ดู “งบการเงิน–หมายเหตุประกอบงบ–รายงานผู้สอบบัญชี” และ “รายงานภารกิจประจำปี” รวมถึงขอข้อมูลจากนายทะเบียนตามสิทธิของประชาชน

Q5: ความสัมพันธ์ “กัน–ธรรมนัส” กระทบความน่าเชื่อถือไหม?
A: ขึ้นกับ “หลักฐาน–เอกสาร–การปฏิบัติจริง” หากการสนับสนุนเป็นเชิงเครือข่าย (ไม่ใช่การเงิน) และการเงินโปร่งใส ตรวจสอบได้ ก็ลดความกังวลได้มาก

เช็กลิสต์ประชาชน: 7 ข้อก่อนบริจาคให้มูลนิธิไหนก็ได้

  1. ดูเอกสารจดทะเบียน–ข้อบังคับ: โดยเฉพาะหมวดกรรมการ/การเงิน/การเลิก
  2. เช็กงบการเงินล่าสุด: มีผู้สอบบัญชีรับรองหรือไม่ รายได้–ค่าใช้จ่าย–ทุนคงเหลือ
  3. เส้นทางเงินบริจาค: ช่องทางรับเงิน ระบุชื่อมูลนิธิชัดเจน มีใบเสร็จถูกต้อง
  4. การเปิดเผยข้อมูล: เว็บไซต์/เพจต้องสื่อสารโปรเจ็กต์–ผลลัพธ์–หลักฐานใช้งบ
  5. โครงสร้างกรรมการ: มีความหลากหลาย ลดการกระจุกตัวของอำนาจ
  6. ข้อ 39 ปลายทางทรัพย์สิน: ควรไปที่หน่วยงานสาธารณประโยชน์กลางๆ เพื่อลดข้อครหา
  7. ประวัติการร้องเรียน: ค้นข่าวและประกาศราชการประกอบเสมอ

ถอดบทเรียน “เคสนี้” ให้กลายเป็นมาตรฐานสังคม

ฝ่ายมูลนิธิ: ควรอัปโหลดข้อบังคับ/หนังสือรับจดแก้ไข/งบการเงิน ให้ค้นได้ง่าย—ตัดไฟแต่ต้นลม
ฝ่ายผู้บริจาค: ตั้ง “มาตรฐานตรวจสอบ” เดียวกันกับทุกมูลนิธิ ไม่สองมาตรฐานตามอคติทางการเมือง
หน่วยงานรัฐ: ยกระดับ “ระบบฐานข้อมูลมูลนิธิ” ให้ค้น–ดาวน์โหลดเอกสารสำคัญได้ในคลิกเดียว
สื่อ–คอนเทนต์ครีเอเตอร์: นำเสนอแบบ fact-check ชัดเจน แยก “ความเห็น” ออกจาก “ข้อเท็จจริง”

คำแถลง–คำชี้แจง (ตามที่เกี่ยวข้องในข่าว)

• กัน จอมพลัง: ยืนยันไม่ได้รับเงินจาก ร.อ.ธรรมนัส ทำงานช่วยเหลือประชาชนร่วมกับหลายฝ่าย และดำเนินการเปลี่ยนปลายทางทรัพย์สิน (กรณีเลิก) เป็น “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ” แล้ว
• ร.อ.ธรรมนัส: ยืนยันความสัมพันธ์คือ “งานช่วยเหลือสาธารณะ–เครือข่าย” ไม่ใช่เรื่องเงินทอง
• ฝ่ายผู้ตั้งคำถาม: ชี้ให้เห็น “ข้อ 39” เดิม เพื่อให้เกิดการตรวจสอบ–ทบทวนความเหมาะสมของข้อบังคับ

หมายเหตุ: บทความนี้สรุปจากข้อมูลที่ถูกอ้าง/ชี้แจงต่อสาธารณะในประเด็นข่าว เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจโครงสร้างมูลนิธิ–ข้อกฎหมาย–วิธีเช็กโปร่งใส ไม่ใช่คำพิพากษาทางกฎหมาย ผู้อ่านควรติดตามเอกสารทางการ (การรับจดแก้ไขข้อบังคับ/งบการเงิน) เพื่อยืนยันสถานะล่าสุดเสมอ

สรุปสั้นแบบบ้านกีฬา: เกมนี้ชนะด้วย “เอกสาร”

ดราม่าอาจดัง แต่ เอกสาร ดังที่สุด—ข้อบังคับที่ “นายทะเบียนรับจด” และ “งบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับรอง” จะปิดเกมทุกข้อสงสัย เคสนี้จึงเป็นจังหวะดีที่ทุกฝ่ายได้ยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสของมูลนิธิไทยให้ชัด เข้ม และตรวจสอบได้จริง

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา