
หนึ่งในละครที่กลายเป็นกระแสแรงที่สุดแห่งปี 2568 ต้องยกให้ “เมื่อตะวันลับฟ้าก็จะเป็นเวลาของดวงดาว” ละครแนวดราม่าเข้มข้นจาก ช่อง 3 ที่เปิดฉากด้วยเรื่องราวสะเทือนอารมณ์ตั้งแต่ตอนแรก ถ่ายทอดความรัก ความลับ และบาดแผลในอดีตที่ยังไม่จางหาย ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20:30 น. โดยตอนแรกออกอากาศเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 และกลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็วในโลกโซเชียล ด้วยชื่อเรื่องที่สะดุดตา เนื้อหาที่ลึกซึ้ง และการแสดงอารมณ์อย่างหนักหน่วงจากนักแสดงชั้นนำ ทำให้แฟนละครต่างเทใจรอชมทุกสัปดาห์อย่างไม่ละสายตา
จุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด ที่พาเข้าสู่เส้นทางแห่งความรักและการให้อภัย
เนื้อเรื่องของ เมื่อตะวันลับฟ้าก็จะเป็นเวลาของดวงดาว เริ่มต้นจากเหตุการณ์สะเทือนใจในวัยเด็กของ ‘นับดาว’ และ ‘น้ำฟ้า’ สองพี่น้องที่ประสบอุบัติเหตุ และได้รับความช่วยเหลือจากเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อ ‘คิมหันต์’ โดยที่ทั้งสามไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วพ่อของคิมหันต์คือผู้อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของครอบครัวนับดาว ความช่วยเหลือในวันนั้นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจ
เมื่อเติบโตขึ้น คิมหันต์กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จ แต่มีปมฝังใจเกี่ยวกับพ่อ ทำให้เขากลายเป็นคนเย็นชาและไม่ศรัทธาในความรัก ส่วนนับดาวเติบโตมาเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็งและมุ่งมั่น ก่อนชะตาจะพาเธอให้มาทำงานในบริษัทของคิมหันต์โดยไม่รู้ว่าเขาคือใคร และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ต้องเผชิญกับอดีต ความจริง และความเจ็บปวดที่พร้อมปะทุขึ้นเมื่อความลับถูกเปิดเผย
นักแสดงคุณภาพ ถ่ายทอดอารมณ์เข้าถึงหัวใจ
- ริว วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล รับบท คิมหันต์ บวรวิสุทธิ์ ชายหนุ่มผู้เก็บงำบาดแผลในใจ ภายนอกเย็นชาแต่ภายในเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
- มิ้นท์ รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร รับบท นับดาว ปทีปกมล หญิงสาวผู้แบกรับอดีตที่ยังตามหลอกหลอน และต้องต่อสู้กับความจริงที่เจ็บปวด
- มีน นิชคุณ ขจรบริรักษ์ รับบท ปฐวี บวรวิสุทธิ์ พี่ชายต่างมารดาของคิมหันต์ ผู้มีใจรักนับดาวแบบเก็บไว้ในเงามืด
- น้ำฟ้า ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ รับบท น้ำฟ้า ปทีปกมล น้องสาวของนับดาวที่มีบทบาทพลิกผันเกินคาดเดา
ผู้จัดละครคือ ปิยวดี มาลีนนท์ จากค่าย เวลาดี 2020 จำกัด ร่วมกับผู้กำกับมือเก๋า ณัฏฐ์กรณ์ สุทธาวาส ที่ขึ้นชื่อเรื่องการดึงอารมณ์นักแสดงให้ทะลุจอ สร้างผลงานที่เข้มข้นทั้งภาพ เสียง และบทสนทนา
เพลงประกอบที่สื่ออารมณ์ลึกถึงใจ
- “ไม่ไว้ใจ (Distrust)” ร้องโดย วรันธร เปานิล (อิ้งค์) ถ่ายทอดความรู้สึกไม่มั่นใจในความสัมพันธ์อันเปราะบางของคิมหันต์
- “Until the Sun Meets the Star” ร้องโดย รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์ และ กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ เพลงที่เป็นหัวใจของเรื่อง ร้อยเรียงอารมณ์และชื่อเรื่องไว้อย่างลงตัว
บทละครเล่าผ่านเส้นเวลาอย่างชาญฉลาด สร้างอารมณ์ร่วมให้คนดู
ตลอดหลายตอนที่ผ่านมา ละครใช้เทคนิคการเล่าเรื่องสลับไทม์ไลน์ได้อย่างลื่นไหล เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันอย่างมีชั้นเชิง เติมเต็มความลึกลับของตัวละคร และสร้างปมที่ค่อยๆ ถูกคลี่คลายไปพร้อมกับผู้ชม ความรักของคิมหันต์และนับดาวไม่ใช่แค่ความหวานซึ้ง แต่เต็มไปด้วยแรงปะทะจากอดีตและความจริงที่กำลังจะถูกเปิดโปง ทุกฉากมีพลังดราม่าที่อัดแน่น ทั้งจากตัวเอกและตัวรอง จนทำให้หลายตอนกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
ดูย้อนหลังและติดตามความดราม่าต่อเนื่อง
ผู้ชมสามารถรับชม “เมื่อตะวันลับฟ้าก็จะเป็นเวลาของดวงดาว” ย้อนหลังได้ทาง Ch3Plus หรือ YouTube ช่อง Ch3Thailand และสามารถติดตามการออกอากาศสดได้ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20:30 น. อย่าพลาดแม้แต่ตอนเดียว เพราะเรื่องราวกำลังดำเนินสู่จุดพีคของการเปิดเผยความจริง และบทสรุปของหัวใจที่ยังไม่อาจให้อภัย
บทสรุปที่น่าจดจำของละครดราม่าแห่งปี
เมื่อตะวันลับฟ้าก็จะเป็นเวลาของดวงดาว ไม่ใช่เพียงละครรักธรรมดา แต่เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยแง่มุมของมนุษย์ ความผิดพลาด ความแค้น และการเรียนรู้ที่จะให้อภัย ทุกตัวละครล้วนมีบาดแผล มีเหตุผล และมีทางเลือกของตัวเอง ละครเรื่องนี้ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิง แต่ยังชวนให้คนดูตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ การให้อภัย และอดีตที่เราเลือกจะเดินต่อไปอย่างไรในวันนี้
หากคุณไม่อยากตกกระแสดราม่าระดับท็อปของปีนี้ อย่าลืมติดตามบทความรีแคป เนื้อหาล่าสุด และไฮไลต์สำคัญของละครได้ที่ ข่าวกระแสมาแรงบ้านกีฬา เราจะพาคุณไปอินให้สุดทุกฉากทุกตอน!