
เมื่อเข้าสู่ช่วง “เทศกาลสงกรานต์” หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย ประเพณีที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมไทยมาอย่างยาวนานและเปี่ยมด้วยพลังศรัทธา หนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ การสรงน้ำพระพุทธรูป เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต และต้อนรับพลังมงคลเข้าสู่บ้านเรือนและจิตใจของทุกคน โดยเฉพาะในปี 2568 นี้ การสรงน้ำพระพร้อม บทสวดสรงน้ำพระสงกรานต์ ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่อย่างสง่างาม เปี่ยมด้วยความเคารพต่อพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เสริมบารมีให้ปีนี้เต็มไปด้วยสุข ปลอดภัย และเจริญรุ่งเรือง
หลายครอบครัวนิยมสวดมนต์ควบคู่กับการสรงน้ำเพื่อความสมบูรณ์ของพิธี โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ซึ่งเต็มไปด้วยความหมายดี ๆ ที่ควรทำร่วมกันทั้งครอบครัว และยังถือโอกาสกล่าวคำอวยพรดี ๆ อย่าง “สวัสดีวันสงกรานต์” เพื่อส่งมอบพลังบวกให้แก่กันด้วยหัวใจบริสุทธิ์
ความหมายและพลังของการสรงน้ำพระในวันสงกรานต์
การสรงน้ำพระ หมายถึง การทำความสะอาดพระพุทธรูปหรือองค์พระประจำบ้าน ทั้งเพื่อแสดงความเคารพบูชาและเพื่อขจัดสิ่งอัปมงคลที่สะสมมาตลอดปี ตามความเชื่อโบราณที่สืบทอดกันมายาวนาน เชื่อว่าการสรงน้ำพระช่วย “ชะล้างเคราะห์ร้าย เสริมสิริมงคล” ทำให้ผู้ปฏิบัติรู้สึกปลอดโปร่ง เบิกบาน และมีพลังบวกเข้าสู่ชีวิต พร้อมรับความโชคดีในปีใหม่ไทยอย่างเต็มที่
อุปกรณ์ในการประกอบพิธีสรงน้ำพระสงกรานต์ 2568
ก่อนเริ่มพิธี ควรเตรียมอุปกรณ์อย่างครบถ้วน เพื่อให้การสรงน้ำพระเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมบูรณ์ โดยของที่ต้องมี ได้แก่
- โต๊ะสะอาดสำหรับวางพระพุทธรูป
- ถาดรอง หรือพานสำหรับรองรับองค์พระ
- ผ้าสะอาดสำหรับเช็ดองค์พระก่อนและหลังสรงน้ำ
- ขันน้ำขนาดใหญ่ใส่น้ำสะอาด
- ขันน้ำเล็กสำหรับตักสรงน้ำ
- น้ำอบไทย, น้ำปรุง, ดอกมะลิ หรือดอกไม้หอม
- พวงมาลัยสำหรับบูชาพระ
ขั้นตอนการสรงน้ำพระอย่างถูกต้อง
- ตั้งจิตให้สงบ เริ่มต้นด้วยการสวด “นะโม 3 จบ”
- กล่าวคำขอขมาเพื่อขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัย
- ทำความสะอาดองค์พระด้วยผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำ
- อัญเชิญพระพุทธรูปไปวางบนพานหรือถาดที่เตรียมไว้
- เติมน้ำอบ ดอกไม้หอม ลงในขันน้ำใหญ่
- ตั้งนะโม 3 จบอีกครั้ง แล้วกล่าว บทสวดสรงน้ำพระสงกรานต์
- ใช้ขันเล็กตักน้ำจากขันใหญ่ สรงลงบนองค์พระด้วยความเคารพ
- ทำความสะอาดโต๊ะหมู่บูชา หิ้งพระ และรูปบูชาต่าง ๆ
- อัญเชิญพระพุทธรูปกลับไปประดิษฐาน ณ ที่เดิม
- อธิษฐานขอพรให้ชีวิตและครอบครัวมีแต่สิ่งดีงาม
บทสวดสรงน้ำพระสงกรานต์ 2568
เริ่มต้นด้วยการสวด “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ” (3 จบ)
คำขอขมา
“ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทะวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต”
แปลว่า
“ข้าพเจ้าขอขมาต่อพระรัตนตรัย ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ขอพระรัตนตรัยโปรดยกโทษให้ด้วยเถิด”
บทสวดสรงน้ำพระ
“อิมินา สิญฺจะเนเนวะ โรโค โสโก อุปัททะโว นิพพันตุ สัพพะโส เอเต สุขี โหนตุ นิรันตะรัง”
แปลว่า
“ด้วยเดชแห่งการสรงน้ำพระในครั้งนี้ ขอให้โรคภัย ความทุกข์ และสิ่งร้ายทั้งหลายจงมลายหายไป และขอให้ข้าพเจ้ามีความสุขตลอดไปเทอญ”
หลังสวดและสรงน้ำเสร็จ ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ต้องการเสริมพลังชีวิต เช่น สุขภาพ ความมั่นคง หน้าที่การงาน หรือความรัก เพื่อให้บทสวดและการกระทำในพิธีนั้นมีพลังหนุนส่งที่ยิ่งใหญ่
สรุปส่งท้าย
การสรงน้ำพระในวันสงกรานต์ ไม่ใช่เพียงแค่ประเพณี แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่อย่างสง่างาม เป็นการปรับสมดุลทางจิตใจ และเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนสามารถขอขมา ขอพร และขอพลังดี ๆ เข้าสู่ชีวิตได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะทำพิธีนี้คนเดียว หรือพร้อมหน้ากับครอบครัว สิ่งสำคัญคือ “ใจที่ศรัทธา” และ “ความตั้งมั่นในความดี” ที่จะนำพาให้ปีใหม่นี้เป็นปีที่ดีที่สุดของคุณ
อย่าลืมติดตามสาระดี ๆ และบทความเสริมดวงเข้มข้นในทุกเทศกาลได้ที่ ข่าวกระแสมาแรงบ้านกีฬา ศูนย์รวมเรื่องเด็ด ครบทุกแง่มุมของวิถีไทยตัวจริง!