ทีม ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย อันดับที่ 47 ของโลก ผ่านการต่อสู้และความยากลำบากมากมายกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ การพิสูจน์ตัวเองของนักเตะหญิงในแต่ละช่วงเวลาไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งต้องอดทนและพยายามฝ่าฟันความท้าทายต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากแฟนบอลและผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อเปิดทางให้กับนักเตะรุ่นใหม่ที่ตามมา
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
หนึ่งในนักเตะที่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการสู้และความอดทนคือ “ปุ๋ย” พิสมัย สอนไสย์ ดาวเตะสารพัดประโยชน์วัย 35 ปี ผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับฟุตบอลหญิงไทยมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี เริ่มต้นจากการเข้าร่วมทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี ปุ๋ยเกิดและเติบโตในจังหวัดเลย และด้วยความมุ่งมั่นและฝีมือของเธอ ทำให้เธอสามารถยืนหยัดในวงการนี้มาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน
เส้นทางการเป็นนักเตะทีมชาติของ พิสมัย เต็มไปด้วยความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการพาทีมคว้าแชมป์ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พาทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในศึกเอเชีย และที่สำคัญ เธอเคยเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติที่ลุยศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก นอกจากนี้ เธอยังเคยคว้าตำแหน่ง ดาวซัลโวลีกฟุตบอลหญิงไทย ในปี 2009 ด้วยผลงานการยิง 21 ประตู ซึ่งเป็นที่จดจำในวงการฟุตบอลหญิงไทย
ประสบการณ์ที่สั่งสมและความพากเพียรทำให้เธอมีโอกาสไปค้าแข้งต่างแดนและสร้างรายได้จากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งถือเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักเตะหญิงชาวไทย พิสมัยมีประสบการณ์ค้าแข้งในลีกต่างแดนหลายประเทศ เช่น สเปรันซ่า เอฟซี โอซาก้า (ญี่ปุ่น) ในปี 2013, อินเตอร์ เถาหยวน (ไต้หวัน) ในปี 2020 และ ไทจง บลูเวลล์ (ไต้หวัน) ตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปัจจุบัน
แม้ว่า ลีกไต้หวัน อาจไม่ใช่ลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย แต่ถือว่าเป็นหนึ่งในลีกชั้นนำของทวีป การที่ พิสมัย สอนไสย์ ยืนหยัดเล่นฟุตบอลอาชีพในไต้หวันมาอย่างต่อเนื่องถึง 5 ฤดูกาลติดต่อกัน นั้นเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและความทุ่มเทของเธอ เธอจึงกลายเป็นนักฟุตบอลหญิงไทยคนแรกที่สามารถค้าแข้งต่างแดนยาวนานต่อเนื่องที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลหญิงไทย ด้วยการทำสถิติเล่นในลีกต่างแดนยาวนานถึง 5 ฤดูกาล ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่สาวไทยรุ่นใหม่ควรยึดเป็นแรงบันดาลใจในการฝ่าฟันและก้าวสู่การเป็นนักเตะอาชีพในระดับสากล
ติดตามข่าวบอลไทยอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา
