คณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาท ลงดาบหนักกับทั้ง ลำปาง เอฟซี และ แพร่ ยูไนเต็ด หลังเกิดเหตุการณ์วุ่นวายในสนาม ในการแข่งขันศึกไทยลีก 2 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งสองทีมต้องเผชิญกับบทลงโทษที่รุนแรง รวมถึงการแบนผู้เล่นและผู้ตัดสินจากเหตุการณ์ดังกล่าว
เหตุการณ์ความวุ่นวาย ในศึกไทยลีก 2 ระหว่าง ลำปาง เอฟซี และ แพร่ ยูไนเต็ด ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการวินัยอย่างเคร่งครัด โดย ลำปาง เอฟซี ถูกสั่งปรับเงินรวมถึง 93,332 บาท เนื่องจากเหตุการณ์ที่ กิตติศักดิ์ หมู่สวัสดิ์ ผู้เล่นของลำปาง เอฟซี ได้ย่ำใส่ใบหน้าของคู่แข่ง ทำให้เขาถูกแบน 3 นัด และปรับเงิน 26,666 บาท นอกจากนี้ วิทยา ดงใหญ่ กุนซือของลำปาง เอฟซี ที่สั่งการให้ผู้เล่นวอร์คเอาต์ออกจากสนามยังถูกลงโทษปรับเงินอีก 33,333 บาท
ในส่วนของ แพร่ ยูไนเต็ด ผู้เล่น อาทิตย์ พรหมขันธ์ ที่เป็นฝ่ายโต้กลับโดยการชกท้ายทอยของกิตติศักดิ์ ก็ไม่รอดจากการลงโทษ ถูกแบน 3 นัดเช่นกัน และปรับเงิน 26,666 บาท นอกจากนี้ ผู้ตัดสิน เสกสรร พันธ์ศรี และผู้ช่วยผู้ตัดสิน จักรกฤษ แก่นแก้ว ที่ไม่ยอมแจกใบแดงให้กับกิตติศักดิ์ ก็ถูกสั่งแบน 2 สัปดาห์
ในการประชุมครั้งที่ 2 ของคณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาท ฤดูกาล 2567/68 ที่มี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนาทีที่ 90+6 นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย เมื่อ กิตติศักดิ์ หมู่สวัสดิ์ ผู้รักษาประตูของลำปาง เอฟซี ได้ใช้เท้าเหยียบไปที่ใบหน้าของ อาทิตย์ พรหมขันธ์ ผู้เล่นของแพร่ ยูไนเต็ด ทำให้อาทิตย์ไม่พอใจและตอบโต้ด้วยการชกเข้าไปที่ท้ายทอยของกิตติศักดิ์ จนนำไปสู่การทะเลาะวิวาทในสนาม
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ตัดสินได้หยุดการแข่งขันทันทีและแจกใบแดงให้กับอาทิตย์ พรหมขันธ์ ในขณะที่กิตติศักดิ์ได้รับเพียงใบเหลือง จากนั้น การแข่งขันได้หยุดลงอีกครั้งในนาทีที่ 90+28 เมื่อนักกีฬาของลำปาง เอฟซี ตัดสินใจวอร์คเอาต์จากสนาม โดยมี วิทยา ดงใหญ่ หัวหน้าผู้ฝึกสอน เป็นผู้สั่งการ การแข่งขันจึงไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
คณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาทได้พิจารณาจากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน และพยานหลักฐานที่ได้รับ เห็นว่าการกระทำของ วิทยา ดงใหญ่ เป็นการเจตนาหยุดการแข่งขัน ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพไทยเป็นอย่างมาก จึงมีมติสั่งปรับเงิน 33,333 บาท และปรับสโมสรลำปาง เอฟซี ในจำนวนเงินเท่ากัน อีกทั้งยังสั่งแบนกิตติศักดิ์ หมู่สวัสดิ์เป็นเวลา 3 นัด และปรับเงิน 26,666 บาท
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมนี้เป็นที่น่าตกใจและกระทบต่อชื่อเสียงของวงการฟุตบอลไทยอย่างรุนแรง ดังนั้น คณะกรรมการวินัยและมารยาทจึงขอเตือนทุกทีมให้ระมัดระวังการปฏิบัติตัวในสนาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต
ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคู่แข่งขันอื่นๆ อย่างเช่น สโมสรพัทยา ยูไนเต็ด และ สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล ที่มีการขว้างปาสิ่งของลงสนาม คณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาทได้ลงโทษปรับเงิน สโมสรพัทยา ยูไนเต็ด เป็นจำนวน 20,000 บาท
ติดตามข่าวบอลไทยอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา