บิ๊กแมตช์เดือดช้าง อารีนา ท่าเรือสิบคนพ่ายบุรีรัมย์หวิว 0-1
ศึกใหญ่ของเวที บีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง 2025/26 นัดที่ 15 กลายเป็นเกมร้อนฉ่าตั้งแต่นกหวีดแรก เมื่อ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี บุกเยือนถิ่นช้าง อารีนา ของจ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 0-1 ในเกมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความกดดัน และการตัดสินที่ถูกตั้งคำถามอย่างหนัก
ผลการแข่งขันนัดนี้ทำให้ การท่าเรือฯ แพ้เป็นครั้งแรกในลีกในรอบ 9 นัดหลังสุด หยุดสถิติความมั่นใจลงแบบเจ็บแสบ จากเดิมที่กำลังวิ่งแรงลุ้นเบียดจ่าฝูง ทว่าต้องกลับบ้านแบบไม่มีแต้ม แถมเหลือผู้เล่นไม่ครบ 11 คนในสนามอีกด้วย
ตัวเลขบนตารางที่บอกทุกอย่าง ความพ่ายแพ้ที่ราคาแพงสำหรับสิงห์เจ้าท่า
เมื่อผ่าน 15 นัดแรกของฤดูกาล การท่าเรือฯ เก็บผลงาน ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 4 มี 27 คะแนน รั้งอันดับ 2 ของตารางต่อไป แต่ช่องว่างกับบุรีรัมย์ฯ ยืดออกไปเป็น 10 คะแนน แถมยังแข่งมากกว่า 1 นัด ทำให้เส้นทางลุ้นแชมป์ของสิงห์เจ้าท่าเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ
ฝั่ง บุรีรัมย์ฯ ยังคงนิ่ง หวังเก็บคะแนนต่อเนื่องเพื่อคุมเกมบนหัวตาราง ส่วนท่าเรือที่ก่อนลงสนามยังเชื่อว่ามีลุ้นกดดันจ่าฝูงให้สะดุด กลับต้องมาเจอเกมที่เต็มไปด้วยใบเหลือง ใบแดง และจังหวะชนวนเดือดจนทำให้รูปเกมที่วางมา “พัง” ลงกลางอากาศ
เกมเดือด ใบเหลือง-ใบแดงปลิว ชุลมุนจนเสื้อขาด
แม้สกอร์จะจบแค่ 0-1 แต่ความดุเดือดของแมตช์นี้เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้ง 90 นาที มีใบเหลืองรวมถึง 10 ใบ และใบแดงถึง 2 ใบ ซึ่งทั้งคู่เป็นของฝั่ง การท่าเรือฯ คือ ชานุกูล ก๋ารินทร์ และ อัสนาวี มังกูวาลัม ทำให้ทีมเยือนต้องเล่นด้วยผู้เล่นที่เป็นรองในช่วงสำคัญของเกม
จุดพีกอีกอย่างของแมตช์นี้คือจังหวะชุลมุนระหว่าง เรบิน ซูลาก้า กับ ปีเตอร์ ซูลจ์ ที่ปะทะกันจนถึงขั้นเสื้อขาด สะท้อนให้เห็นชัดว่าความเดือดในสนามไม่ได้มีแค่ในจอถ่ายทอดสด แต่ทุกจังหวะคือแรงกดดันระดับบิ๊กแมตช์จริงๆ
กาม่าเดือดจัด มองลูกทีมเล่นดีกว่าแต่โดน “ใบแดง” เปลี่ยนเกม
หลังจบเกม อเล็กซานเดร กาม่า เฮดโค้ชชาวบราซิลของ การท่าเรือฯ ออกมาให้สัมภาษณ์แบบไม่อ้อมค้อม มองว่าลูกทีมควบคุมเกมได้ดี และมีช่วงที่เล่นเหนือกว่าจ่าฝูงด้วยซ้ำ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนทันทีหลังใบแดง
“เกมนี้ ท่าเรือ เล่นได้ดีกว่า บุรีรัมย์ ด้วยซ้ำ แต่จุดเปลี่ยนของเกมคือใบแดง ทำให้เกมของเราเปลี่ยนไป”
คำพูดของกุนซือใหญ่สะท้อนชัดว่าทีมงานสตาฟฟ์เชื่อในแท็กติกและความทุ่มเทของผู้เล่นบนสนาม แต่การเหลือผู้เล่นน้อยกว่าทำให้การเพรสซิ่ง แท็กติก และความมั่นใจทั้งหมด ถูกบีบให้ถอยลงมาตั้งรับมากกว่าที่เตรียมมา
ยิงตรงถึงสมาคมฯ กาม่าจวกเชิ้ตดำไม่ทันเกมบิ๊กแมตช์
ไฮไลต์ที่เดือดไม่แพ้เกมในสนาม คือการออกโรงวิจารณ์การทำหน้าที่ของ ผู้ตัดสิน ต่อพงษ์ สมสิงห์ ผู้ตัดสินระดับฟีฟ่า อีลิต ในเกมนี้ กาม่าพูดชัดเจนว่ามาตรฐานไม่สมกับเป็นเกมใหญ่ของลีกสูงสุด
“ผมขอฝากถึง สมาคมฯ หรือ ฝ่ายพัฒฯ ผู้ตัดสิน ช่วยหา ผู้ตัดสิน ที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับ 2 ทีม เพราะนี่คือเกมบิ๊กแมตช์ของ T1 เป็นการเจอกันระหว่าง ทีมอันดับ 1 พบ ทีมอันดับ 2 ของตาราง แต่ ผู้ตัดสิน ไม่ทันเกมและตัดสินใจผิดพลาด ทำให้ผู้เล่นอารมณ์หลุด”
ประโยคนี้ยิงตรงถึงฝ่ายจัดการ และเป็นเสียงสะท้อนจากข้างสนามที่แฟนบอลจำนวนไม่น้อยรู้สึกไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อเหตุการณ์ในเกมหลายจังหวะทำให้ทั้งนักเตะและแฟนบอลเดือดไปพร้อมๆ กัน
สถานการณ์ของการท่าเรือหลังเกมนี้ กดดันแต่ยังไม่ถึงทางตัน
แม้การแพ้ในเกมใหญ่แบบนี้จะเจ็บลึก โดยเฉพาะเมื่อเป็นคู่แข่งลุ้นแชมป์โดยตรงอย่าง บุรีรัมย์ฯ แต่ในมุมของซีซั่น 2025/26 เส้นทางของ การท่าเรือฯ ยังไม่จบ ทีมยังเกาะหัวตาราง มีแต้มเหนือทีมอันดับต่ำกว่า และมีศักยภาพพอจะกลับมาลุ้นเก็บชัยต่อเนื่องได้
สิ่งที่น่าจับตามองต่อจากนี้ คือการรับมือกับแรงกดดัน ทั้งจากฟอร์มการเล่น ผลงานในลีก รวมถึงอารมณ์ของนักเตะที่เพิ่งผ่านเกมเดือดใบแดง-ใบเหลืองมาแบบจัดเต็ม การรีเซ็ตสภาพจิตใจและโฟกัสกับเป้าหมายระยะยาว จะเป็นบททดสอบสำคัญของสิงห์เจ้าท่าชุดนี้
โปรแกรมต่อไป ช้าง เอฟเอ คัพ วัดใจในบ้านเจอทรู แบงค็อก
ภารกิจถัดไปของ การท่าเรือฯ ไม่มีเวลาให้พักฟอร์ม เพราะต้องหันไปลุยบอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ 2025/26 รอบ 32 ทีมสุดท้าย เปิดรัง แพท สเตเดียม รับการมาเยือนของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 21 ธ.ค. 68 เวลา 19.00 น.
เกมนี้ไม่ใช่แค่บอลถ้วยธรรมดา แต่เป็นโอกาสสำคัญในการเรียกความมั่นใจของทีมกลับมา รวมถึงเป็นเวทีให้ลูกทีมของกาม่าพิสูจน์ให้เห็นว่าพร้อมลุกขึ้นสู้ต่อ แม้เพิ่งผ่านค่ำคืนสุดเดือดที่ช้าง อารีนามาหมาดๆ ก็ตาม
ฟุตบอลไทยกับคำถามเรื่องมาตรฐานผู้ตัดสิน เกมใหญ่ต้องไม่พลาด
ประเด็นที่กาม่าพูดออกมา ไม่ได้สะท้อนแค่ความไม่พอใจหลังเกมเดียวจบ แต่ยังแตะหัวใจของแฟนบอลไทยจำนวนมากที่ตั้งคำถามเรื่องมาตรฐานผู้ตัดสินมาหลายปี โดยเฉพาะในเกมที่มีความหมายสูง ระดับทีมลุ้นแชมป์มาชนกัน การตัดสินทุกครั้งสามารถเปลี่ยนเกม เปลี่ยนผลลัพธ์ และเปลี่ยนเส้นทางทั้งฤดูกาลได้ในพริบตา
ลีกที่ต้องการยกระดับไปสู่มาตรฐานเอเชีย หรือหวังดึงนักเตะ-โค้ชต่างชาติระดับคุณภาพเข้ามา ระบบผู้ตัดสินและการสนับสนุนจากสมาคมฯ เป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้เรื่องคุณภาพนักเตะหรือแผนการตลาด การมีทีมแกร่งอย่าง การท่าเรือฯ และ บุรีรัมย์ฯ ทำให้เกมดูสนุก แต่ถ้า “คนเป่านกหวีด” ไม่ทันเกมหรือผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายคนที่เสียที่สุดคือภาพรวมของฟุตบอลไทยเอง
ในมุมของแฟนบอล การได้ชมเกมที่ดุเดือด เข้มข้น มีแท็กติก การเข้าปะทะ และอารมณ์ร่วมสูงคือเสน่ห์ของลูกหนัง แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมและความชัดเจนของกติกา นี่คือโจทย์ใหญ่ที่วงการลูกหนังไทยต้องช่วยกันหาคำตอบให้ได้ในระยะยาว
แฟนบอลที่อยากตามทุกดราม่า ทุกจังหวะสำคัญบนหน้าปกรอบสนามลูกหนังไทยและต่างประเทศ อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา

