บรรยากาศก่อนศึกใหญ่ ไทยดวลมาเลเซีย ศึกซีเกมส์รอบตัดเชือก
ไฟในแคมป์ ทีมชาติไทย ลุกโชนเต็มสูบ ก่อนเกมสำคัญดวล ทีมชาติมาเลเซีย ในศึก ฟุตบอลชายซีเกมส์ 2025 รอบรองชนะเลิศ เมื่อ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล จับคู่กับ “เจ้ากอล์ฟ” เสกสรรค์ ราตรี ขึ้นเวทีแถลงข่าวตอกย้ำความมั่นใจ ว่านี่คืออีกหนึ่งเกมชี้ชะตาเส้นทางล่าเหรียญทองของช้างศึกบนผืนหญ้าเจ้าภาพ
ซีเกมส์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องศักดิ์ศรีในสนาม แต่มันคือความคาดหวังของแฟนบอลไทยทั้งประเทศ ทุกสายตาจับจ้องไปที่ราชมังคลากีฬาสถาน รอดูว่าช้างศึกชุดนี้จะก้าวผ่านแรงกดดัน และพิสูจน์ให้เห็นว่าเราดีพอจะยืนบนหัวตารางฟุตบอลชายของภูมิภาคได้หรือไม่
โค้ชวังย้ำชัด นักเตะฟิตเต็มร้อย ผ่านรอบแรกในฐานะแชมป์กลุ่ม
ในมุมของแม่ทัพใหญ่ “โค้ชวัง” ยืนยันแบบไม่มีกั๊กว่า สภาพทีมตอนนี้พร้อมสุดขีดทั้งร่างกายและจิตใจ หลังฝ่าด่านรอบแรกมาได้แบบสวยหรูในฐานะแชมป์กลุ่ม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานและความสม่ำเสมอของทีมชุดนี้
“ความพร้อมของทีมก่อนเจอ มาเลเซีย วันพรุ่งนี้ แน่นอนเราผ่านรอบแรกในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่วนตัวผู้เล่นก็พร้อมแล้วแบบ 100% ครับ”
การเก็บชัยชนะต่อเนื่องในรอบแบ่งกลุ่มทำให้ความมั่นใจในทีมเพิ่มขึ้น แต่ในสายตาของโค้ชวัง นี่ยังไม่ใช่เวลาฉลอง เพราะรอบน็อกเอาต์เกมเดียวจบ พลาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว และทุกดีเทลเล็กๆ ในเกมกับมาเลเซียจะมีผลต่ออนาคตซีเกมส์ของช้างศึก
ไทยไม่ประมาท แต่พร้อมพิสูจน์ความแข็งแกร่งเหนือมาเลเซีย
คู่แข่งอย่าง ทีมชาติมาเลเซีย ถือเป็นของแข็งที่แฟนบอลอาเซียนรู้กันดีว่า เจอไทยทีไร เกมไม่เคยง่าย ทั้งสปีดบอล สไตล์การเล่นที่ดุดัน และความเขี้ยวในสถานการณ์กดดัน ทำให้การเจอกันในรอบตัดเชือกครั้งนี้แทบไม่ต่างจากนัดชิงเล็กๆ
”การเจอ มาเลเซีย ครั้งนี้ก็อยากจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ทีมชาติไทย แข็งแกร่ง แต่ยังไงก็ตามเราจะไม่สามารถประมาทคู่แข่ง และผมขอมองแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะคู่แข่งก็เป็นทีมที่มีคุณภาพ”
คำพูดของโค้ชวังสะท้อนชัดเจนว่า ไทยไม่ได้มองเกมนี้เป็นแค่ด่านผ่าน แต่เป็นโอกาสยืนยันให้ทั้งภูมิภาคเห็นว่า ช้างศึกยังยืนอยู่แถวหน้าของฟุตบอลอาเซียน และพร้อมยกระดับมาตรฐานไปอีกขั้น
โฟกัสทีละเกม ช้างศึกพร้อมชนทุกชาติบนเส้นทางล่าเหรียญทอง
ในรอบน็อกเอาต์แบบนี้ ถ้ามองไกลเกินไปอาจสะดุดล้มต่อหน้าแฟนบอลได้ทุกเมื่อ นั่นคือเหตุผลที่โค้ชวังเลือกยึดแนวคิด “ไปทีละสเต็ป” ไม่ปล่อยให้ทีมคิดถึงนัดชิงก่อนจะผ่านรอบรองให้ได้เสียก่อน
“ดังนั้นจึงขอโฟกัสพรุ่งนี้เป็นหลักก่อน ส่วนจะเจอใครในรอบต่อไปก็ให้เป็นเรื่องของโชคชะตา เพราะ ทีมชาติไทย พร้อมเจอทุกทีมอยู่แล้ว”
“ด้วยมาตรฐานของ มาเลเซีย ที่แข่งกับเรามาตลอดไม่ว่ารายการไหนก็ค่อนข้างอันตรายเสมอ”
ตรงไปตรงมา ไม่มีคำอวยเกินจริง ไม่มีคำดูถูกคู่แข่ง มีแต่ความจริงบนสนามและความเชื่อมั่นในนักเตะตัวเอง ว่าไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร ไทยก็มีศักยภาพมากพอจะรับมือได้ทั้งหมด
เป้าหมายเดียวชัดเจน: ไทยต้องคว้าแชมป์ซีเกมส์ในบ้านให้ได้
ในฐานะเจ้าภาพ แรงกดดันมันหลบไม่พ้นอยู่แล้ว แต่สำหรับโค้ชวัง เขาเลือกพลิกแรงกดดันให้กลายเป็นเชื้อเพลิงผลักดันทีมไปข้างหน้า เป้าหมายมีเพียงอย่างเดียวคือยืนบนโพเดียมสูงสุดเท่านั้น
“เป้าหมายยังชัดเจนฐานะเจ้าภาพต้องเป็นแชมป์ ซีเกมส์ 2025 ให้ได้สถานเดียวครับ ด้วยความหวัง ความกดดันจากแฟนบอล ที่จะขอแปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่น”
คำประกาศชัดๆ แบบนี้สะท้อนให้เห็นทั้งความกล้า ความรับผิดชอบ และความมั่นใจของสตาฟฟ์โค้ชชุดนี้ว่าพร้อมพาแฟนบอลไทยไปให้สุดทางในทัวร์นาเมนต์ครั้งประวัติศาสตร์บนแผ่นดินเราเอง
โค้ชวังฝากข้อความถึงกองเชียร์ไทย – ขอเสียงเชียร์ดังกว่าเดิม
นอกจากแท็กติกในสนาม สิ่งที่โค้ชวังให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ “พลังบนสแตนด์” ที่ส่งตรงจากแฟนบอลไทยทุกคน โดยเฉพาะใน 2 เกมแรกที่แฟนบอลแห่มาเข้าชมจนบรรยากาศในสนามลุกเป็นไฟ
“สุดท้ายอยากฝากถึงแฟนบอลใน 2 เกมแรกที่มาให้กำลังใจเยอะ จึงอยากชวนแฟนบอล หากมีโอกาสขอเข้ามาเชียร์พวกเราให้มากกว่าเดิมด้วยนะครับ” โค้ชวัง กล่าวปิด
เกมกับมาเลเซียในรอบรองฯ จึงไม่ใช่แค่การดวลกันของ 22 คนในสนาม แต่มันคือศึกศักดิ์ศรีของแฟนบอลทั้งสองชาติ และเสียงเชียร์จากบนอัฒจันทร์อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักให้ไทยก้าวไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้จริง
เสกสรรค์ ราตรี เปิดใจ กลางสนามรบช้างศึกกับภารกิจเหรียญทอง
ด้าน “กอล์ฟ” เสกสรรค์ ราตรี ห้องเครื่องคนสำคัญของช้างศึก ยืนยันว่าตอนนี้นักเตะทุกคนในทีมกำลังเร่งฟื้นฟูสภาพร่างกายและจูนความพร้อมให้ถึงจุดสูงสุด ก่อนลงสนามในเกมใหญ่กับมาเลเซีย
ด้าน “กอล์ฟ” เสกสรรค์ ราตรี กองกลาง ทีมชาติไทย เผยว่า “ตอนนี้ทุกคนพยายามฟื้นฟูร่างกายให้ทัน รวมถึงมีการเตรียมความพร้อมบ้างแล้ว”
“สำหรับเป้าหมายแบบเดียวกันเลยคือ เหรียญทอง ใน ซีเกมส์ 2025 และเราจะไม่ประมาทคู่แข่งอย่างแน่นอน”
“สุดท้ายขอเชิญชวนแฟนบอลชาวไทยมาเชียร์กันเยอะๆ นะครับ เพราะพวกคุณคือพลังสำคัญเสมอ และเราจะเก็บชัยชนะมาให้ได้ครับ” เจ้ากอล์ฟ กล่าวปิด
จากคำพูดของเสกสรรค์จะเห็นชัดว่า ในห้องแต่งตัวของช้างศึกไม่มีใครคิดถึงอย่างอื่นนอกจากคำว่า “เหรียญทอง” และไม่มีใครคิดจะลงสนามแบบเล่นให้จบไปวันๆ ทุกคนพร้อมบด พร้อมชน และพร้อมสู้เพื่อธงชาติไทยเต็มร้อย
โปรแกรมแข่ง ไทย พบ มาเลเซีย รอบรองฯ ซีเกมส์ 2025
สำหรับโปรแกรมแข่งของ ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย ศึก ฟุตบอลชายซีเกมส์ 2025 รอบรองชนะเลิศ วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68 เวลา 20.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง PPTV HD 36 และแอพพลิเคชั่น TrueVisions NOW
แฟนบอลที่ไปเชียร์ที่สนามเตรียมเสียงให้พร้อม ส่วนสายดูหน้าจอ กดรีโมตจองคิวให้แน่น แล้วมาร่วมลุ้นพร้อมกันทั้งประเทศว่า ไทยจะผ่านด่านเสือเหลืองเข้าสู่รอบชิงได้หรือไม่
ซีเกมส์กับทีมชาติไทย เส้นทางที่ผูกพันกับแฟนบอลทุกยุค
ฟุตบอลซีเกมส์ถือเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่อยู่ในความทรงจำแฟนบอลไทยมาอย่างยาวนาน หลายยุคหลายสมัย ช้างศึกเคยใช้เวทีนี้แจ้งเกิดนักเตะดาวรุ่ง สร้างตำนานเกมเดือดกับชาติคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการดวลกับมาเลเซีย เวียดนาม หรืออินโดนีเซีย
ทุกเหรียญทองที่เคยคว้ามาได้ ไม่ได้เป็นแค่ถ้วยรางวัลในตู้โชว์ แต่มันคือความภูมิใจร่วมกันของคนทั้งชาติ ยิ่งในฐานะเจ้าภาพปีนี้ ความหมายยิ่งทวีคูณ เพราะนี่คือโอกาสที่ฟุตบอลไทยจะได้แสดงให้เพื่อนบ้านเห็นว่า เรายังพัฒนาต่อเนื่องและพร้อมขยับขึ้นไปอีกระดับทั้งในเรื่องสภาพจิตใจ เกมรุก เกมรับ และการยืนระยะในทัวร์นาเมนต์ที่แข่งถี่แบบนี้
ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร การได้เห็นนักเตะรุ่นใหม่ของไทยแบกธงชาติลงสู้เต็มที่ในซีเกมส์ คือภาพที่แฟนบอลไทยไม่ควรพลาดแม้แต่วินาทีเดียว
ฝากถึงแฟนบอลไทย – รวมพลังเชียร์ไปพร้อม บ้านกีฬา
ศึกระหว่าง ไทย พบ มาเลเซีย ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เกมธรรมดา แต่คือบททดสอบสำคัญของช้างศึกชุดนี้ ทั้งเรื่องใจ แท็กติก และการรับแรงกดดันในบ้านตัวเอง แฟนบอลไทยทุกคนมีส่วนร่วมได้ง่ายๆ แค่ส่งเสียงเชียร์ดังๆ ทั้งในสนามและหน้าจอ ให้เด็กไทยรู้ว่าพวกเขาไม่ได้สู้คนเดียว
ใครอยากตามทุกมูฟเมนต์ของ ทีมชาติไทย ทั้งข่าวก่อนแข่ง อัปเดตหลังเกม บทวิเคราะห์จัดเต็ม และบรรยากาศซีเกมส์แบบใกล้ชิด แฟนบอลห้ามพลาด ติดตามทุกความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา

