จาก : ผลบอลสด ไทยลีก ระหว่าง ชลบุรี เอฟซี 1-1 พลังกาญจน์ วันนี้ 12/12/68 – บ้านกีฬา
ที่สนามชลบุรี ไดกิ้น สเตเดียม ศึก ไทยลีก ฤดูกาล 2025/26 นัดที่ 11 เป็นการดวลกันของสองทีมหนีตาย ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับกลางค่อนไปล่าง เปิดบ้านรับมือ พลังกาญจน์ เอฟซี ที่กำลังดิ้นรนหนีโซนแดง เกมนี้แฟนบอลที่ตามเช็กสกอร์แบบ ผลบอลสด ลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย เพราะรูปเกมสู้กันมันทุกจังหวะทั้ง 90 นาที
⏱ ครึ่งแรก เกมรัดกุมแต่จังหวะลุ้นเพียบ
ต้นเกมทั้งสองทีมเลือกเล่นอย่างรัดกุม ชลบุรีพยายามขึ้นเกมจากแดนหลัง ผ่านคู่มิดฟิลด์อย่าง ปฐมชัย เสือสกุล กับ เคเว่น อินาซิโอ คอยคุมจังหวะ ส่วนพลังกาญจน์เน้นจู่โจมเร็ว ใช้ความจัดของ อาแล็ง โอยาร์ซุน และ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ โจมตีริมเส้น
โอกาสจะแจ้งส่วนใหญ่กลับเป็นของทีมเยือน โดยเฉพาะจังหวะส่องในเขตโทษของ มุสซ่า มาร่า ที่ได้หลุดไปดวลกับ เควิน เรย์ เมนโดซ่า แต่มือกาวชลบุรีอ่านเกมดีเซฟช่วยทีมเอาไว้หลายครั้ง ขณะที่ฉลามชลเองก็มีโอกาสตอบโต้จากลูกยิงของ โจนาธาน โบลิงกิ แต่ยังไม่ผ่านมือ กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก
แม้รูปเกมจะเดือด มีการปะทะหนักหลายหน ใบเหลืองแรกของเกมมาในช่วงกลางครึ่งแรกจากจังหวะทำฟาวล์ของ ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล แบ็กขวาพลังกาญจน์ ทว่าทั้งสองฝั่งยังไม่คมพอ จบ 45 นาทีแรก เสมอกัน 0-0
🔥 ครึ่งหลัง ดราม่าลูกโขก–ใบแดงท้ายเกม
ครึ่งหลังรูปเกมเปลี่ยน บ้านเจ้าถิ่นส่ง เกร๊ก ฮูล่า กับ ชัชนารงค์ พรมศรีแก้ว ลงมาช่วยเร่งสปีดเกมรุก ทันทีที่เปลี่ยนตัว ชลบุรีครองบอลได้มากขึ้น กดดันแนวรับทีมเยือนจนถอยลงไปตั้งบล็อกต่ำ
นาทีที่ 74 ความพยายามของฉลามชลได้ผล จากจังหวะที่ ฮูล่า เปิดบอลโค้งเข้าเขตโทษให้ โจนาธาน โบลิงกิ เบียดกองหลังขึ้นโขกกดลงพื้น บอลเด้งหนีมือ กิตติพงษ์ เข้าไปอย่างเฉียบขาด ส่งชลบุรีขึ้นนำ 1-0 เสียงเฮทั้งสนามดังสนั่น
แต่ดีใจได้แค่สองนาที นาทีที่ 76 แอนดรอส ทาวน์เซนด์ เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ และเป็น เอเวอร์ตัน ดา ซิลวา เปไรร่า มิดฟิลด์ตัวรับที่สอดขึ้นมาโหม่งเต็มศีรษะ เสียบเสาแรกสุดสวย พลังกาญจน์ตีเสมอ 1-1 แบบเจ็บลึก
ท้ายเกมกลายเป็นดราม่า เมื่อ เกอร์สัน โรดริเกซ ไปเตะบอลทิ้งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ รับใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง ถูกไล่ออกจากสนาม ทิ้งให้ทีมเยือนเหลือ 10 คนในช่วงนาทีสุดท้าย อย่างไรก็ตามชลบุรีเร่งไม่ทัน จบเกมเสมอกัน 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
📋 รายชื่อ 11 ตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
🦈 ชลบุรี เอฟซี (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- เควิน เรย์ เมนโดซ่า 7.5 – เซฟจังหวะสำคัญหลายครั้ง เป็นหนึ่งในฮีโร่ของเจ้าบ้าน
กองหลัง
- สันติภาพ จันทร์หง่อม 7.1
- ณัฐพงษ์ สายริยา (กัปตัน) 7.3
- จอน์จ เฟลลิเป้ 6.9
- เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส 7.1
กองกลาง
- ปฐมชัย เสือสกุล 6.8
- เคเว่น อินาซิโอ 6.8
- ชยธร เทพสุวรรณวร 6.8
- อับโบ อิซ่า 6.8
- อูเคอร์ ฟาน ลิงเกน 6.4
กองหน้า
- โจนาธาน โบลิงกิ 7.9 – เจ้าของประตูขึ้นนำ โหม่งสุดคม เกมนี้เด่นทั้งพักบอลและชนกองหลัง
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- เกร๊ก ฮูล่า 6.8 (น.57 แทน อับโบ อิซ่า) – แอสซิสต์ลูกโขกให้โบลิงกิ ยิงนำ
- ชัชนารงค์ พรมศรีแก้ว 6.9 (น.57 แทน ปฐมชัย เสือสกุล) – เพิ่มการเคลื่อนที่และเกมเพรสซิ่ง
- ธนเศรษฐ์ สุจริต 6.5 (น.69 แทน สันติภาพ จันทร์หง่อม)
- เลสลีย์ อบลอร์ห์ 6.2 (น.70 แทน เคเว่น อินาซิโอ) – ได้ใบเหลืองช่วงท้ายเกม
- อดิศักดิ์ ไกรษร 6.7 (น.86 แทน ชยธร เทพสุวรรณวร) – ลงมาช่วยไล่บี้แนวรับแต่ยังไม่มีจังหวะจบคม ๆ
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม: นพปกรณ์ กัดตูม, ธนวัฒน์ พันธอง, กีเก้ ลิเนเรส, ทรงชัย ทองค้ำ, กิตติพงศ์ แสนสนิท, รชตะ มรกต, สุกรรณ์ บุ้นตา
🐎 พลังกาญจน์ เอฟซี (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก 7.0 – เซฟจังหวะสำคัญหลายครั้ง โดยเฉพาะลูกยิงระยะใกล้ของโบลิงกิ
กองหลัง
- ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล 6.6 – โดนใบเหลืองเร็ว ทำให้เล่นยาก
- ปราชญา ฝัดสุภาพ 6.7
- ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ 7.4 – อ่านเกมดี ก่อนถูกเปลี่ยนช่วงท้าย
- ไรฮาน สจ๊วร์ต 6.9
กองกลาง
- เซร์คิโอ อเกวโร่ 7.2
- เอเวอร์ตัน ดา ซิลวา เปไรร่า 7.9 – คุมจังหวะกลางสนามและทำประตูตีเสมอ
- อาแล็ง โอยาร์ซุน 7.2
- เกอร์สัน โรดริเกซ 6.3 – มีส่วนสร้างโอกาส แต่จบด้วยใบแดง
- แอนดรอส ทาวน์เซนด์ (กัปตัน) 6.4 – แอสซิสต์ลูกตีเสมอด้วยการเปิดสุดแม่น
กองหน้า
- มุสซ่า มาร่า 6.4 – ขยับหาช่องดี แต่ยังขาดความเฉียบคมจังหวะสุดท้าย
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- พีรพัฒน์ โน๊ตชัยยา 6.3 (น.46 แทน ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล)
- สันติภาพ รัตนยอม 6.5 (น.46 แทน เซร์คิโอ อเกวโร่) – รับใบเหลืองช่วงท้ายเกม
- เฉลิมพงษ์ สำเภาดี 6.4 (น.46 แทน อาแล็ง โอยาร์ซุน) – เติมความแข็งแกร่งเกมรุกริมเส้น
- ดีเอโก้ บาร์ดันก้า 6.2 (น.74 แทน ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์) – ลงมาช่วยปิดเกมรับช่วงนำแต้มกลับบ้าน
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม: กฤษณะ พุ่มมาลี, วัฒนา กล่อมจิต, กฤษณา เกษมกุลวิลัย, สุเชาว์ นุชนุ่ม, อนุมัธน์ กุมาร, พงศ์พัฒน์ เหลืองรุ่งเรืองกิจ, ธนสิทธิ์ ศิริภาภา
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในเชิงรูปแบบการเล่น ชลบุรียืนระบบ 4-2-3-1 เน้นต่อบอลบนพื้นจากแดนหลัง ใช้คู่เซ็นเตอร์ ณัฐพงษ์–เฟลลิเป้ ขึ้นเกมสั้นก่อนให้บอลไปที่คู่กลาง ปฐมชัย กับ อินาซิโอ แล้วค่อยกระจายออกซ้าย–ขวาผ่าน อับโบ อิซ่า และ อับดุลเลาะห์ อีซ่า จุดเด่นคือการขยับหาช่องของโบลิงกิ ที่มักจะถ่างออกไปเล่นกับแบ็กซ้ายอย่างทาบินาส ทำให้สร้างโอเวอร์แลปได้หลายครั้ง
เกมรับของชลบุรีแม้จะรับลึกในบางช่วง แต่การยืนโซนในเขตโทษถือว่าทำได้ดี ลูกกลางอากาศส่วนใหญ่เคลียร์ได้หมด ยกเว้นจังหวะเสียประตูที่ปล่อยให้เอเวอร์ตันวิ่งสอดเข้ามาโหม่งค่อนข้างง่าย ซึ่งถือเป็นจุดที่โค้ชรังสรรค์ต้องกลับไปแก้เรื่องการประกบตัวในระยะ 6 หลา
ฝั่งพลังกาญจน์ใช้ระบบ 4-2-3-1 คล้ายกัน แต่โฟกัสไปที่การสวนกลับเร็ว เกมรุกอาศัยสปีดและประสบการณ์ของทาวน์เซนด์กับโอยาร์ซุน เปิดบอลเข้าในให้มาร่าปะทะกับคู่เซ็นเตอร์เจ้าบ้าน จุดแข็งคือการใช้บอลยาวฉีกแนวรับ ทำให้ได้ลุ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะช่วงต้นเกมที่แนวรับชลบุรียังตั้งลำไม่ทัน
เกมรับของทีมเยือนแม้จะมีจังหวะหลุดให้ชลบุรีได้ลุ้นหลายครั้ง แต่การยืนไลน์กองหลังค่อนข้างเป็นระเบียบ เอเวอร์ตันกับอเกวโร่ช่วยซ้อนแบ็กได้ดี อย่างไรก็ตามเมื่อโดนเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง ความแน่นของกลางสนามลดลงเห็นได้ชัด ทำให้ชลบุรีบุกได้ต่อเนื่อง นั่นคือสาเหตุที่บ้านกีฬาเห็นว่า หากมองในมุม วิเคราะห์บอล เกมนี้ฉลามชลควรปิดบัญชีได้มากกว่าหนึ่งประตู แต่ความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้ายยังไม่พอ
📊 สถิติการแข่งขัน
เมื่อมองจากตัวเลขหลังเกม ชลบุรีครองบอลได้ 45% ส่วนพลังกาญจน์ถือบอลมากกว่าเล็กน้อยที่ 55% แต่จำนวนโอกาสยิงกลับใกล้เคียงกัน เจ้าถิ่นกดไป 16 ครั้ง ส่วนทีมเยือนยิง 15 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเกมเปิดหน้าแลกกันตลอด
เซฟของผู้รักษาประตูบ่งบอกคุณภาพชัดเจน เมนโดซ่าต้องเซฟเพียง 1 ครั้ง ขณะที่กิตติพงษ์ต้องออกแรงถึง 6 เซฟ แปลว่าชลบุรียิงเข้ากรอบหนักหน่วงกว่า ลูกเตะมุมแบ่งกันฝั่งละ 5 ครั้ง ฟาวล์รวม 21 ครั้ง (ชลบุรี 10 พลังกาญจน์ 11) แสดงถึงความดุเดือดของเกมกลางสนาม
จำนวนการจ่ายบอล พลังกาญจน์ต่อบอลมากกว่าที่ 341 ครั้ง เทียบกับ 276 ของชลบุรี แต่แท็กเกิลสำเร็จเป็นฉลามชลที่ทำได้มากกว่า 18 ต่อ 14 แปลว่าทีมเจ้าบ้านอ่านเกมป้องกันได้แม่นยำกว่า ใบเหลืองรวมทั้งเกมมีถึง 9 ใบ (ชลบุรี 4 พลังกาญจน์ 5) และจบด้วยใบแดงของเกอร์สัน โรดริเกซ ทำให้บรรยากาศช่วงทดเจ็บเดือดจัดสมศักดิ์ศรีแมตช์หนีตาย
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- 🟨 นาทีที่ 25 ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล ทำฟาวล์หนักโดนใบเหลืองใบแรกของเกม
- 🔁 นาทีที่ 46 พลังกาญจน์เปลี่ยนสามคนรวด ส่ง พีรพัฒน์ โน๊ตชัยยา, สันติภาพ รัตนยอม และ เฉลิมพงษ์ สำเภาดี ลงมาแทน วัฒยุชูติกุล, เซร์คิโอ อเกวโร่ และ อาแล็ง โอยาร์ซุน เพื่อปรับเกมรุก
- 🔁 นาทีที่ 57 ชลบุรีแก้เกม ส่ง เกร๊ก ฮูล่า และ ชัชนารงค์ พรมศรีแก้ว ลงแทน อับโบ อิซ่า กับ ปฐมชัย เสือสกุล
- 🔁 นาทีที่ 69 ชลบุรีส่ง ธนเศรษฐ์ สุจริต ลงแทน สันติภาพ จันทร์หง่อม เสริมสดริมเส้น
- 🔁 นาทีที่ 70 เลสลีย์ อบลอร์ห์ ลงมาช่วยแดนกลางแทน เคเว่น อินาซิโอ และโดนใบเหลืองในช่วงทดเจ็บ
- ⚽ นาทีที่ 74 ชลบุรีขึ้นนำ 1-0 เกร๊ก ฮูล่า เปิดโค้งจากฝั่งขวาให้ โจนาธาน โบลิงกิ ขึ้นโขกกดพื้นเสียบตาข่าย
- 🔁 นาทีที่ 74 พลังกาญจน์ส่ง ดีเอโก้ บาร์ดันก้า ลงแทน ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ เสริมความสดแนวรับ
- ⚽ นาทีที่ 76 พลังกาญจน์ตีเสมอ 1-1 แอนดรอส ทาวน์เซนด์ เปิดจากด้านขวาให้ เอเวอร์ตัน โหม่งเต็มหัวเข้าเสาแรก
- 🟨 นาทีที่ 82 เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส ทำฟาวล์โดนใบเหลือง
- 🔁 นาทีที่ 86 ชลบุรีส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงแทน ชยธร เทพสุวรรณวร หวังล่าประตูชัย
- 🟨 นาทีที่ 87 สันติภาพ รัตนยอม ไปตัดฟาวล์กลางสนามโดนใบเหลือง
- 🟥 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกอร์สัน โรดริเกซ เตะบอลทิ้งต่อหน้ากรรมการ รับใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง ถูกไล่ออกจากสนาม ปล่อยให้พลังกาญจน์เหลือ 10 คนจนจบเกม
🌟 Player of the match
รางวัลยอดเยี่ยมของเกมนี้ตกเป็นของ เอเวอร์ตัน ดา ซิลวา เปไรร่า มิดฟิลด์ห้องเครื่องของพลังกาญจน์ คะแนน 7.9 จาก Sofascore เอเวอร์ตันเล่นได้ครบเครื่องทั้งรุกและรับ ช่วยตัดเกมกลางสนาม บดบังพื้นที่ของตัวรุกชลบุรีตลอด 90 นาที นอกจากนั้นยังเป็นคนโฉบขึ้นไปโหม่งประตูตีเสมอสุดสำคัญ ทำให้ทีมเยือนเก็บแต้มกลับบ้านได้แบบหายใจต่อในเส้นทางหนีตกชั้น
ฝั่งชลบุรีคนที่เด่นไม่แพ้กันคือ โจนาธาน โบลิงกิ ที่แบกแนวรุกไว้แทบทั้งแผง แต่เมื่อทีมไม่สามารถเก็บสามแต้มได้รางวัลเลยตกเป็นของฝั่งทีมเยือนอย่างสมเหตุสมผล
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนไทยลีก
หลังจบเกมนี้ ชลบุรีเก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนนจาก 15 นัด รั้งอันดับ 11 ของตาราง เหนือโซนตกชั้นเพียงไม่กี่แต้มเท่านั้น ฟอร์มโดยรวมยังถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะเสมอบ่อยและปิดเกมไม่ได้ ทั้งที่มีโอกาสในบ้าน
ส่วนพลังกาญจน์เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนนจาก 14 นัด อยู่ที่อันดับ 15 ยังในโซนแดง แต่แต้มเริ่มขยับเข้าใกล้ ลำพูน วอริเออร์ ที่มี 10 คะแนนเท่ากัน ต่างกันที่ประตูได้เสีย และยังห่างจากนครราชสีมา ทีมบ๊วยอยู่ 3 แต้ม เท่ากับว่าทุกคะแนนจากนี้มีค่ามหาศาลในภารกิจหนีตกชั้นของ “ม้าเหล็ก”
📅 ตารางบอลและโปรแกรมบอล นัดถัดไป
จาก ตารางบอล และ โปรแกรมบอล ที่อัปเดตล่าสุด ชลบุรีต้องเตรียมลุยสองรายการสำคัญ
- ไทยแลนด์ ลีกคัพ: บุกเยือน หนองบัว พิชญ ในวันที่ 27 ธันวาคม 2025 เวลา 18.00 น.
- ไทยลีก: ยกพลเยือน ราชบุรี เอฟซี วันที่ 11 มกราคม 2026 เวลา 19.00 น. ซึ่งเป็นเกมหนักนอกบ้านที่อาจกำหนดทิศทางครึ่งหลังของฤดูกาล
ด้านพลังกาญจน์ โปรแกรมโหดไม่แพ้กัน
- ช้าง เอฟเอ คัพ: เปิดบ้านเจอ โปลิศ เทโร วันที่ 20 ธันวาคม 2025 เวลา 19.00 น.
- ไทยลีก: บุกเยือน ปทุม ยูไนเต็ด วันที่ 24 ธันวาคม 2025 เวลา 19.00 น. เกมนี้ต้องเน้นสุดตัว เพราะทุกแต้มอาจเป็นตัวตัดสินอยู่รอดหรือร่วงสู่ลีกรอง
📺 ติดตาม บ้านผลบอล กับบ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของเกมไทยลีก ตั้งแต่ข่าวก่อนแข่ง สถิติหลังเกม ไปจนถึงอัปเดต บ้านผลบอล และมุมมองจัดจ้านสไตล์นักข่าวสายเดือด บ้านกีฬา พร้อมเสิร์ฟให้ครบจบในที่เดียว กดติดตามบ้านกีฬาเอาไว้ แล้วคุณจะไม่พลาดทุกดราม่าบนผืนหญ้าลูกหนังไทย
