
จาก : ผลบอลสด ไทยลีก ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-3 ชลบุรี เอฟซี วันนี้ 6/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก ไทยลีก 1 ที่ธันเดอร์โดม เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับ ชลบุรี เอฟซี เกมนี้ บ้านกีฬา นั่งไล่ดู ผลบอลสด แล้วต้องบอกเลยว่าใจหายใจคว่ำทั้งสองฝั่ง เพราะรูปเกมสูสี บดกันหนักตั้งแต่ต้น แต่ความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้ายตัดสินชัยเมื่อ อูเกอร์ ฟาน ลิงเก้น ระเบิดฟอร์มเหมาสอง แถม ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์ ซัดเพิ่มอีกลูก ช่วยให้ฉลามชลบุกชนะ 3-2 แม้เจ้าถิ่นจะฮึดไล่จาก 0-3 จนเกือบสร้างปาฏิหาริย์ก็ตาม
🕒 ครึ่งแรก: เมืองทองได้ลุ้น แต่ชลบุรีคมกว่าหนึ่งจังหวะ
เสียงนกหวีดเริ่มเกม ทั้งสองทีมเปิดแลกกันอย่างระมัดระวัง นาที 12 ต่างฝ่ายต่างได้ลองส่องกันคนละครั้ง แต่ยังไม่ใกล้เคียงประตูเท่าไร จังหวะหวาดเสียวจริงๆ มาเริ่มนาที 18 เมื่อ คคนะ คำยก ได้ลองซัดไกลด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่ยังตรงตัว เควิน เรย์ เมนโดซา ที่ยืนรับสบาย
ช็อตโต้กลับนาที 23 เป็นคิวของชลบุรี เมื่อ ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์ ลองใส่สกิลปั่นไกลนอกกรอบบ้าง บอลโค้งแต่หลุดเสาออกไปนิดเดียว จากนั้นนาที 25 โจนาธาน โบลินกิ ใช้ความเร็วฉีกแนวรับเมืองทอง หลุดเข้าไปยิงมุมแคบในเขตโทษ แต่ยังไม่ผ่านมือ กรกฎ พิพัฒน์นัดดา ที่ปิดมุมดี
เกมเปิดรุกสลับกัน นาที 27 เมืองทองได้โอกาสสวยเมื่อ คคนะ เปิดบอลโค้งจากฝั่งขวาเข้าหัว เอมิล โรบัค โขกเต็มๆ แต่บอลดันไม่ตรงกรอบ กระโดดลุ้นกันทั้งสนาม นาที 36 โบลินกิ ได้โหม่งอีกครั้งจากลูกครอสฝั่งซ้าย แต่คราวนี้ ball ไปเข้ามือ กรกฎ ตรงๆ
จุดเปลี่ยนช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 39 เมลวิน ลอเรนเซน ได้หลุดเดี่ยวไปซัดด้วยขวาในเขตโทษ แฟนเจ้าบ้านลุกเฮแล้วแต่บอลกลับไหลผ่านหน้าปากประตูออกเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
แล้วฟุตบอลก็ลงโทษ นาที 40 ชลบุรีขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับทางซ้าย อะโบ อิซ่า ลากตัดเข้าเขตโทษก่อนปาดเรียดเข้ากลางให้ อูเกอร์ ฟาน ลิงเก้น พุ่งยิงจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือ ฉลามชลนำ 1-0 และรักษาสกอร์นี้จนจบครึ่งแรก แม้รูปเกมเมืองทองจะครองบอลได้ แต่ความคมในกรอบเขตโทษเป็นฝ่ายทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่า
🔥 ครึ่งหลัง: จาก 0-3 สู่การไล่ล่าที่เกือบพลิกโลก
ครึ่งหลัง เมืองทองปรับหมากรุกหวังทวงประตู แต่กลับโดนหมัดสวนของชลบุรีเต็มหน้าเกือบหมดแรงสู้ นาที 56 ฟาน ลิงเก้น ใช้ความแข็งแกร่งฉีกตัวประกบ รับบอลทะลุช่องก่อนกดเต็มข้อเสียบตาข่ายให้ฉลามชลหนีเป็น 2-0
ไม่ถึง 4 นาทีต่อมา นาที 60 แนวรับเมืองทองเสียสมาธิอีกครั้ง เมื่อบอลไหลมาเข้าทาง ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์ ในเขตโทษ เจ้าตัวจับหนึ่งจังหวะก่อนอัดเต็มหลังเท้าไม่เหลือ ชลบุรีนำห่าง 3-0 และบรรยากาศฝั่งกิเลนผยองถึงขั้นเงียบกริบ
นาที 65 จอร์จ เฟลลิเป้ ขึ้นโขกลุ้นประตูที่สี่ให้ชลบุรี บอลลอยหลุดเสาออกไปนิดเดียว ถ้าเข้าเกมนี้อาจปิดกล่องเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ
แต่ฟุตบอลไม่มีคำว่ายอมแพ้ นาที 69 เมืองทองได้ประตูปลุกชีพจากตัวสำรอง อานาส อาฮันนาช ที่เก็บบอลได้แถวสองแล้วซัดไกลนอกกรอบ บอลพุ่งเรียดเสียบเสาแบบ เมนโดซาได้แต่มอง สกอร์ไล่มา 1-3 และทำให้เกมเดือดขึ้นทันที
นาที 79 กฤตภัค แสงสวัสดิ์ ตัวสำรองอีกคนได้โอกาสส่องไกลนอกกรอบฝั่งซ้าย บอลเฉี่ยวเสาออกไปแบบแฟนฉลามชลต้องกลั้นหายใจ เพราะถ้าเข้าเกมจะกลับมาสนุกตั้งแต่สิบนาทีสุดท้าย
จนกระทั่งนาที 88 เมืองทองได้ประตูไล่ 2-3 จากลูกครอสทางด้านข้างลอยมาที่ เมลวิน ลอเรนเซน เทคตัวโขกเต็มศีรษะตุงตาข่าย เสียงเชียร์เจ้าบ้านกลับมาลั่นอีกครั้ง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 7 นาทีสุดท้าย กิเลนผยองโหมบุกใส่แบบทุกคนดันสูง ทว่าแนวรับชลบุรีและเมนโดซาช่วยกันเคลียร์จนจบเกม ฉลามชลเอาชนะได้แบบหืดจับ 3-2 แต่สามแต้มล้ำค่ามากในสมรภูมิหนีตกชั้น

👥 รายชื่อนักเตะตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
🟥 เมืองทอง ยูไนเต็ด (3-4-2-1) – เรตติ้งเฉลี่ยราว 6.4
ผู้รักษาประตู
- กรกฎ พิพัฒน์นัดดา – 6.1 เซฟได้หลายครั้งแต่เจอลูกยิงคมๆ ของฟาน ลิงเก้น และณัฐนันท์ ที่ยากจะป้องกัน
กองหลังสามคน
- ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ – 6.2 พยายามคุมพื้นที่กลางอากาศ แต่มีจังหวะหลุดตำแหน่งให้ฟาน ลิงเก้นเล่นงาน
- สเตฟาน ซอนคอฟ – 6.2 อ่านเกมดีในบางจังหวะ แต่รับมือบอลทะลุช่องได้ไม่เด็ดขาด
- เนลสัน ออร์จิ – 6.0 ดวล 1 ต่อ 1 กับตัวรุกชลบุรีหนักตลอดเกม มีทั้งชนะและแพ้ปะปนกันไป
วิงแบ็กและมิดฟิลด์
- ทริสตอง โด – 6.2 เติมเกมรุกฝั่งขวาเยอะ เปิดบอลได้ลุ้นแต่มีจังหวะหลุดตำแหน่งจนโดนสวน
- สรวิทย์ พานทอง – 6.5 ช่วยซ้อนเกมรับและดันเกมขึ้นสูง มีส่วนร่วมกับจังหวะบุกริมเส้น
- ธีรภัทร์ นันทโกวัฒน์ – 6.3 คุมจังหวะกลางสนาม พยายามตัดเกมรุกฉลามชล
- เอมิล โรบัค – 6.2 เล่นเป็นวิงฝั่งซ้าย ได้โอกาสโหม่งน่าลุ้นครึ่งแรกแต่ไม่ตรงกรอบ
แนวรุก
- เมลวิน ลอเรนเซน – 7.0 ตัวทีเด็ดแดนหน้าของเจ้าบ้าน ยิง 1 ประตูท้ายเกม และมีโอกาสทองนาที 39 ที่หลุดเดี่ยวแล้วพลาด
- คคนะ คำยก – 6.6 เชื่อมเกมระหว่างกลางกับหน้า ได้ลองส่องไกลและเปิดให้เพื่อนหลายครั้ง
- เคนาน ตูราน – 6.2 ยืนเป็นหน้าต่ำคอยพักบอล แม้ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดแต่ช่วยเปิดพื้นที่ให้เพื่อน
ตัวสำรองที่ลงสนามเด่นๆ
- อานาส อาฮันนาช – 7.9 ยิงไกลสุดสวยตีไข่แตก เปลี่ยนโฉมหน้าการบุกของเมืองทองทันที
- กฤตภัค แสงสวัสดิ์ – 6.5 เกือบยิงประตูสำคัญนาที 79 บอลเฉี่ยวเสาแบบเสียดายสุดๆ
- ศิรดนัย พรหมศรี, กษิดิศ เวชตะยวง และเพื่อนๆ บนม้านั่งสำรอง ช่วยเติมพลังช่วงท้ายแต่ไม่ทันตีเสมอ
🟦 ชลบุรี เอฟซี (4-2-3-1) – เรตติ้งเฉลี่ยราว 6.9
ผู้รักษาประตู
- เควิน เรย์ เมนโดซา – 7.1 โชว์เซฟสำคัญทั้งลูกยิงไกลและลูกบอมบ์ท้ายเกม คีย์แมนที่ช่วยล็อกสามแต้มของทีม
กองหลังสี่คน
- สันติภาพ จันทร์หง่อม – 6.9 ขึ้นลงทั้งเกมทางขวา ทั้งช่วยเกมรับและเติมเกมรุกได้ดี
- ณัฐพงษ์ สายริยา – 6.7 ยืนเซ็นเตอร์คู่เฟลลิเป้ รับมือบอลครอสและลูกโด่งได้เยี่ยม
- จอร์จ เฟลลิเป้ – 6.7 เกือบโขกประตูที่ 4 นาที 65 เกมรับเล่นได้แข็งแกร่ง
- เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส – 5.9 มีจังหวะหลุดตำแหน่งบ้าง แต่ช่วยบล็อกหลายลูกสำคัญทางซ้าย
มิดฟิลด์ตัวรับ
- ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์ – 7.8 ยิง 1 ประตูสุดคม และคุมจังหวะกลางสนามได้เยี่ยม
- ปฐมชัย เสือสกุล – 6.4 ทำหน้าที่ตัดเกม สกรีนหน้าแผงหลังให้เพื่อน
สามตัวรุกหลังหน้าเป้า
- อะโบ อิซ่า – 7.2 แอสซิสต์ประตูเปิดหัวให้ฟาน ลิงเก้น ลากเลื้อยปั่นป่วนฝั่งซ้ายทั้งเกม
- ชยธร เทพสุวรรณวร – 7.2 สร้างสรรค์เกมจากกลางรุก จ่ายทะลุช่องงามๆ ให้เพื่อนทำประตู
- โจนาธาน โบลินกิ – 6.8 ใช้ความเร็วและพละกำลังกดดันแนวรับกิเลน มีโอกาสลุ้นหลายครั้ง
กองหน้าตัวเป้า
- อูเกอร์ ฟาน ลิงเก้น – 9.2 เหมาสอง แถมมีส่วนกับประตูที่สาม พังแนวรับเมืองทองเละเป็นโจ๊ก
ตัวสำรองที่ลงสนามเด่นๆ
- ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว – 6.5 ลงมาช่วยพักบอลแดนบน แม้โดนใบเหลืองแต่ช่วยดึงจังหวะเกมได้
- กิตติพงษ์ แสนสิน, เลสลีย์ อับลอร์ห์, รชตะ มรกศา, อดิศักดิ์ ไกรสร – ผลัดกันลงมาช่วยปิดเกม ช่วยให้ฉลามชลยืนหยัดได้จนเสียงนกหวีดสุดท้าย
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในแง่แท็กติก ถ้าเอาไปนั่งคุยกันแบบสาย วิเคราะห์บอล เมืองทอง ยูไนเต็ด วันนี้เลือกใช้ระบบ 3-4-2-1 เน้นครองบอลจากแดนหลัง ไล่ต่อบอลจากสามเซ็นเตอร์ไปสู่วิงแบ็กทั้งสองข้าง แล้วค่อยหาจังหวะจ่ายทะลุให้ เมลวิน ลอเรนเซน หรือ เคนาน ตูราน ทำชิ่งกับ คคนะ คำยก จุดเด่นคือการคุมบอลในแดนกลางและการโจมตีจากสองฝั่งที่หลากหลาย แต่ปัญหาคือการถอยกลับไม่ทันเมื่อเสียบอล โดยเฉพาะพื้นที่ด้านข้างหลังวิงแบ็ก ทำให้ชลบุรีใช้จุดนี้เล่นงานซ้ำๆ จนได้ประตูสำคัญ
เกมรับของเมืองทองแม้จะมีตัวประกบแน่น แต่ระยะห่างระหว่างแผงหลังกับคู่กลางเปิดช่องให้ตัวรุกชลบุรีรับบอลหันหน้าเข้าใส่บ่อย ฟาน ลิงเก้น จึงได้เล่นในพื้นที่อันตรายหลายครั้ง และเมื่อรวมกับจังหวะยืนไลน์ออฟไซด์ที่ไม่พร้อมกัน ทำให้โดนบอลแทงทะลุช่องสวยๆ สองลูกติดๆ กันในครึ่งหลัง
ฝั่งชลบุรี ยืนระบบ 4-2-3-1 ที่ชัดเจนมาก เกมรับพยายามตั้งบล็อกกลางสนาม ใช้ ณัฐนันท์ กับ ปฐมชัย เป็นตัวกันชน กดดันไม่ให้ตัวรุกเมืองทองมีเวลาจับบอลนาน เมื่อแย่งได้แล้วจะปล่อยให้ ชยธร เป็นจุดเริ่มเกม วางยาวออกซ้ายให้ อิซ่า หรือออกขวาให้ โบลินกิ วิ่งกดดัน แล้วให้ฟาน ลิงเก้น สอดขึ้นไปจบสกอร์
เกมรุกของฉลามชลอาจไม่ได้โหมรัวเหมือนทีมที่ครองบอลเหนือกว่า แต่ทุกครั้งที่หลุดเข้าเขตโทษจะมีตัวเติมเพิ่มอย่างเพลย์เมกเกอร์และแบ็กข้าง ทำให้แนวรับเมืองทองต้องเจอกับตัวประกบหลายชั้น และเมื่อโดนล่อเป้าบ่อยๆ ในพื้นที่สุดท้าย โอกาสเสียประตูก็เกิดขึ้นอย่างที่เห็น

📈 สถิติการแข่งขันที่สะท้อนรูปเกม
หลังเกมตัวเลขบอกชัดเจนว่า เมืองทองไม่ได้แย่ในเชิงรูปแบบ พวกเขาครองบอลราว 57% สร้างโอกาสยิง 13 ครั้ง ได้ลูกเตะมุม 6 ครั้ง และผ่านบอลรวม 384 ครั้ง ส่วนชลบุรีครองบอล 43% ยิง 9 ครั้ง ได้ลูกเตะมุมเพียง 1 ครั้ง ผ่านบอลราว 291 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าฉลามชลไม่เน้นครองบอล แต่เล่นงานเจ้าบ้านด้วยความคมและความผิดพลาดของแนวรับเป็นหลัก
ด้านเกมรับ เมืองทองทำฟาวล์ 19 ครั้ง รับใบเหลือง 3 ใบ ขณะที่ชลบุรีฟาวล์ 12 ครั้ง โดนใบเหลือง 4 ใบ บ่งบอกถึงความดุเดือดของเกมที่ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมอ่อนข้อให้กันง่ายๆ โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่เจ้าบ้านบุกกระหน่ำ ส่วนผู้รักษาประตู เมนโดซาต้องออกแรงเซฟ 3 ครั้ง ในขณะที่ กรกฎ เซฟไป 1 ครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ชลบุรีจบสกอร์แบบไม่ให้โอกาสเซฟด้วยซ้ำ
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 12’ ทั้งสองทีมได้ลุ้นกันฝั่งละจังหวะ แต่ยังไม่ตรงกรอบ
- ⚽ 18’ คคนะ คำยก ซัดไกลด้วยขวาให้เมืองทอง แต่เมนโดซาล้มตัวรับไว้ได้
- ⚽ 23’ ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์ ลองส่องไกลให้ชลบุรี บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว
- ⚽ 25’ โจนาธาน โบลินกิ หลุดไปยิงมุมแคบ แต่ยังเจอ กรกฎ ปิดมุมเซฟไว้
- ⚽ 27’ เมืองทองบุกอีกระลอก คคนะ เปิดให้ เอมิล โรบัค โหม่งแต่ไม่ตรงกรอบ
- ⚽ 36’ โบลินกิ ได้โขกอีกครั้ง บอลเข้ามือ กรกฎ ตรงๆ
- ⚽ 39’ เมลวิน ลอเรนเซน หลุดเดี่ยวซัดด้วยขวา บอลผ่านหน้าปากประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย
- ⚽ 40’ เมืองทอง 0-1 ชลบุรี – อะโบ อิซ่า ปาดจากซ้ายให้ อูเกอร์ ฟาน ลิงเก้น ยิงจ่อๆ เข้าไป
- ⏰ จบครึ่งแรก เมืองทองตามหลัง 0-1
- ⚽ 56’ เมืองทอง 0-2 ชลบุรี – ฟาน ลิงเก้น ใช้ความแข็งแกร่งหลุดเดี่ยวซัดไม่เหลือ
- ⚽ 60’ เมืองทอง 0-3 ชลบุรี – ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์ กดเต็มข้อในเขตโทษตุงตาข่าย
- ⚽ 65’ จอร์จ เฟลลิเป้ โขกลุ้นประตูที่สี่ให้ชลบุรี บอลหลุดกรอบนิดเดียว
- ⚽ 69’ เมืองทอง 1-3 ชลบุรี – อานาส อาฮันนาช ตัวสำรองซัดไกลสุดสวยตีไข่แตก
- ⚽ 79’ กฤตภัค แสงสวัสดิ์ ได้ยิงนอกกรอบ บอลเฉี่ยวเสาออกไปหวุดหวิด
- ⚽ 88’ เมืองทอง 2-3 ชลบุรี – เมลวิน ลอเรนเซน โขกลูกครอสเข้าไปจุดไฟท้ายเกม
- ⏰ ทดเวลา 7 นาที เมืองทองโหมบุกเต็มกำลังแต่ไม่ผ่านแนวรับฉลามชล
- 🔔 จบเกม เมืองทอง ยูไนเต็ด แพ้ ชลบุรี เอฟซี 2-3
🌟 Player of the Match – อูเกอร์ ฟาน ลิงเก้น หอกตัวแสบประจำค่ำคืน
แมนออฟเดอะแมตช์ต้องยกให้ อูเกอร์ ฟาน ลิงเก้น แบบไร้ข้อกังขา เหมาสองประตูบวกกับการมีส่วนร่วมในประตูของณัฐนันท์ เกมนี้เขาโชว์ครบทุกมิติ ทั้งการหาช่องวิ่งตัดหลังเซ็นเตอร์ การพักบอลบังตัวประกบ และการจบสกอร์ที่เยือกเย็นทุกครั้งที่มีโอกาส
ตลอด 90 นาที ฟาน ลิงเก้น ทำให้แนวรับเมืองทองไม่มีจังหวะได้หายใจ ทั้งการวิ่งเพรส การไถบอลสู้ตัวประกบ และการดึงกองหลังออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดพื้นที่ให้แนวรุกคนอื่น ทำให้เกมรุกของชลบุรีดูมีชีวิตชีวาและน่ากลัวทุกครั้งที่สวนกลับ ถือเป็นฟอร์มระดับหัวหอกต่างชาติที่ยกระดับมาตรฐานเกมรุกของฉลามชลชัดเจน

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนไทยลีก 1
จากอัปเดตล่าสุดของ บ้านผลบอล หลังจบเกมนี้ ชลบุรี เอฟซี กระโดดขึ้นมาที่อันดับ 12 ของตาราง มี 14 คะแนนจาก 14 นัด ลูกได้เสีย -4 หายใจโล่งขึ้นเล็กน้อยในกลุ่มหนีตกชั้น ส่วน เมืองทอง ยูไนเต็ด หล่นลงมาอันดับ 13 มี 13 คะแนนจาก 14 นัด ลูกได้เสีย -11 ยังคงยืนอยู่แถวหน้าของกลุ่มทีมเสี่ยงอันตราย
ชัยชนะของชลบุรีไม่ใช่แค่สามแต้มธรรมดา แต่คือการส่งสัญญาณว่าพวกเขาพร้อมหนีโซนแดงอย่างจริงจัง ขณะที่เมืองทองต้องกลับไปแก้เกมรับให้แน่นขึ้นด่วน เพราะแม้เกมรุกจะยิงประตูได้ต่อเนื่อง แต่หากยังเสียง่ายแบบนี้ โอกาสโดนทีมอื่นแซงในโค้งสุดท้ายมีสูงมาก
📅 ตารางบอลไทยลีก 1 นัดถัดไป & โปรแกรมบอล ที่ห้ามพลาด
มองไปข้างหน้าใน โปรแกรมบอล ไทยลีก 1 ช่วงปลายปีนี้
- ชลบุรี เอฟซี เตรียมกลับไปเล่นในรังตัวเอง รับการมาเยือนของ กาญจนบุรี พาวเวอร์ วันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลา 19.00 น. เกมนี้ถ้าฉลามชลเก็บชัยต่อได้ จะยิ่งดันตัวเองหลุดจากโซนล่างอย่างมีนัยสำคัญ
- เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้องออกไปเยือน ปทุม ยูไนเต็ด วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 19.00 น. ซึ่งถือเป็นโจทย์โหด เพราะปทุมเล่นในบ้านดุดันเสมอ
- ยังไม่หมด เมืองทองยังมีศึกบอลถ้วย ไทยเอฟเอคัพ พบ ลำพูน วอร์ริเออร์ วันที่ 20 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 น. โปรแกรมถี่ยิบแบบนี้โค้ชและสตาฟฟ์ต้องหมุนเวียนนักเตะให้ดี ไม่อย่างนั้นสภาพร่างกายอาจพังจนกระทบฟอร์มในลีกได้ง่ายๆ
แฟนบอลทั้งสองทีมเตรียมเช็ก ตารางบอล กันให้ดี เพราะทุกแต้มหลังจากนี้มีความหมายต่อการหนีตายและลุ้นพื้นที่บนตารางแบบห้ามพลาดแม้แต่เกมเดียว
📣 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
ใครอยากตามทุกจังหวะของไทยลีก ตั้งแต่ผลการแข่งขันสดๆ ไฮไลต์เด็ด ไปจนถึงบทวิเคราะห์จัดหนัก บ้านกีฬา ขอชวนให้ติดตาม บ้านผลบอล ผ่านทุกช่องทางของเรา ทั้งเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย อัปเดตสกอร์สด ข่าวก่อน–หลังเกม และมุมมองเชิงลึกแบบคนดูบอลตัวจริง
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ตั้งแต่ไทยลีกไปจนถึงเวทีใหญ่ยุโรป อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา

