เปิดฉากชิงแชมป์เอเชียสุดร้อนแรงของแข้งช้างศึกจิ๋ว
ทัพ ทีมชาติไทย U17 โชว์ฟอร์มดุดันสมฉายา “ช้างศึกสายฟ้าจิ๋ว” เมื่อประเดิมสนามในศึก ชิงแชมป์เอเชีย U17 2025 รอบคัดเลือก กลุ่มเอฟ ด้วยการถล่ม มองโกเลีย U17 แบบขาดลอย 4-0 เกมนี้ พลพิทักษ์ รุ่งเรือง ระเบิดฟอร์มสุดฮอตเหมาคนเดียวสองประตู พาทีมเก็บสามแต้มขึ้นนำหัวตารางแบบสุดสะใจแฟนบอลชาวไทย
ในอีกคู่ของกลุ่มเดียวกัน เติร์กเมนิสถาน U17 ถล่ม มัลดีฟส์ 6-0 ทำให้ศึกกลุ่มเอฟเปิดมาดุเดือดตั้งแต่นัดแรก และเส้นทางลุ้นเข้ารอบยังเต็มไปด้วยความเข้มข้น
ภาพรวมการแข่งขัน: ไทยคุมเกมอยู่หมัดตั้งแต่นาทีแรก
ศึกนี้แข่งขันกันที่สนามกลางในประเทศไทย โดยทัพช้างศึก U17 เดินหน้าลุยตั้งแต่เปิดเกม นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย ทั้งสปีดบอล ความแม่นยำของการจ่าย และวินัยเกมรุก–เกมรับทำได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน
เริ่มเกมได้ไม่นาน ไทยมีโอกาสหลายครั้ง ทั้งจากลูกยิงไกลและการเจาะพื้นที่ว่างทางริมเส้น แต่โชคไม่เข้าข้าง ทำให้ 25 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 แม้รูปเกมจะเป็นฝ่ายไทยที่ครองบอลและสร้างโอกาสมากกว่าอย่างเด่นชัด
จุดเปลี่ยนสำคัญ: จุดโทษนาที 33 คลายความกดดัน
นาทีที่ 33 ไทยได้โอกาสทอง เมื่อ ธัญพิสิษฐ์ เพียรกสิกรรม ถูกผู้รักษาประตูมองโกเลียทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเลเป่าให้เป็นจุดโทษทันที และเป็น พลพิทักษ์ รุ่งเรือง ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างเฉียบขาด พาไทยออกนำ 1-0
หลังจากนั้นเกมเปิดสนุกขึ้นทั้งสองทีม แต่ไม่มีประตูเพิ่มในครึ่งแรก ไทยออกนำ 1-0 แบบมั่นใจและรูปเกมเหนือกว่าอย่างชัดเจน
ครึ่งหลังไทยยิ่งดุ เปิดเครื่องยิงเพิ่มสามเม็ด
กลับมาครึ่งหลัง ทัพช้างศึก U17 ยังเดินหน้ากดดันต่อเนื่องจนมองโกเลียแทบตั้งเกมไม่ได้ นาทีที่ 53 เกิดจังหวะสำคัญเมื่อ อชิรวัตติ์ วาปีฝ้าย เปิดบอลแรงเข้ากรอบ ผู้รักษาประตูมองโกเลียพยายามสกัดแต่ผิดเหลี่ยม บอลไปเข้าทาง พิชญะ ชัยวรางกุล แปโล่งๆ ให้ไทยนำห่างเป็น 2-0
นาทีที่ 71 แฟนบอลไทยได้เฮอีกครั้ง เมื่อ พลพิทักษ์ รุ่งเรือง สร้างผลงานยอดเยี่ยมเพิ่มอีกหนึ่งประตู ทำให้ไทยนำ 3-0 ก่อนที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+4 พสุธา มั่นเหมาะ จะซัดตอกฝาโลงให้ไทยหนี 4-0 แบบสุดจัดจ้าน
เมื่อจบ 90 นาทีเต็ม ไทย U17 เอาชนะ มองโกเลีย U17 ไปแบบเหนือชั้น 4-0 พร้อมส่งสัญญาณเตือนทุกทีมในกลุ่มว่าช้างศึกจิ๋วพร้อมชนทุกชาติ
ผลอีกคู่ และสถานการณ์กลุ่มเอฟ
ในเวลาพร้อมกัน เติร์กเมนิสถานโชว์ผลงานสุดโหด ถล่มมัลดีฟส์ 6-0 ทำให้ไทยและเติร์กเมนิสถานขึ้นนำกลุ่มอย่างสง่างาม โดยความได้เปรียบของไทยคือจำนวนประตูได้ที่สูง และการเก็บคลีนชีตตั้งแต่นัดแรก
ศึกกลุ่มเอฟกำลังเข้มข้น และสถานการณ์บอกชัดว่าทีมไหนที่พลาดแม้แต่นิดเดียวอาจหมดลุ้นเข้ารอบได้ทันที
โปรแกรมต่อไปของไทย U17
ทัพไทยยังคงมีคิวสำคัญรออยู่ในนัดที่ 2 โดยจะพบกับ
มัลดีฟส์ U17
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 19.30 น.
ณ ชลบุรี สเตเดียม
ถ่ายทอดสดทาง Facebook : FA Thailand, Thai Youth Football และ YouTube : Thairath Sport, BG SPORTS, ช้างศึก
เกมนี้เป็นโอกาสดีที่ไทยจะเก็บสามแต้มต่อเนื่อง เพราะมัลดีฟส์เพิ่งแพ้มาแบบยับเยิน แต่ก็ต้องไม่ประมาท เพราะฟุตบอลเยาวชนมักมีความพลิกผันอยู่เสมอ
รายชื่อ 11 ตัวจริงทีมชาติไทย U17
ธนพล ทับเจริญพงศ์ (GK), ประชาราษฎร์ ศิริขันติ, ปพนธีร์ เสริฐศรี, ณัฐกรณ์ รักษา (C), กฤตวัฒน์ นราฤทธิ์, พลพิทักษ์ รุ่งเรือง, ศุทธิพงษ์ เอกบัว, อชิรวัตติ์ วาปีฝ้าย, พิชญะ ชัยวรางกุล, พิชญะ วุฒิชัย, ธัญพิสิษฐ์ เพียรกสิกรรม
มุมมองเพิ่มเติมต่อการพัฒนาฟุตบอลเยาวชนไทย
ชัยชนะในนัดเปิดสนามไม่ใช่เพียงการเก็บสามคะแนน แต่สะท้อนถึงเส้นทางการพัฒนาเยาวชนของไทยที่เริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้น ทั้งระบบคัดตัว การวางแท็กติก และการสร้างมาตรฐานเยาวชนให้แข็งแรงในทุกตำแหน่ง หากทีมรุ่นเล็กสามารถรักษาระดับการเล่นแบบนี้ต่อเนื่องได้ นี่อาจเป็นสัญญาณสำคัญต่อความสำเร็จในระดับรุ่นโตของทีมชาติไทยในอนาคต
การได้ลงสนามในรายการใหญ่ยังเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าของนักเตะ ที่จะช่วยยกระดับความมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการก้าวขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ต่อไป
ภาพรวมล่าสุดของทัพช้างศึกจิ๋ว
ฟอร์มการเล่นที่แน่นอนทั้งเกมรุกและเกมรับในนัดนี้ ทำให้ไทย U17 ส่งสารไปถึงคู่แข่งทุกทีมว่าพวกเขามีดีมากกว่าชื่อชั้น และพร้อมลุยต่อกับเกมที่เหลือในรอบคัดเลือกแบบไม่เกรงหน้าใคร ทั้งระบบทีมเวิร์กที่ลงตัวและเครื่องหมายคำถามในตำแหน่งต่างๆ ที่กำลังถูกเติมเต็มด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของนักเตะดาวรุ่งชุดนี้
ติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา

