ฟุตบอลชาย ทีมชาติไทย U23 ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชวัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล” เปิดฉากซ้อมอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่สนาม ยามาโอกะ ฮานาซากะ อะคาเดมี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเกมอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติอินเดีย U23 ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นเกมสำคัญในช่วง ฟีฟ่าเดย์ ก่อนเข้าสู่แคมป์สุดท้ายสู่ภารกิจใหญ่ใน ซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ
ช้างศึก U23 ซ้อมเข้มที่ยามาโอกะ! ฟื้นฟูร่างกาย-สร้างความเข้าใจเกม
การฝึกซ้อมเริ่มขึ้นในเวลา 16.30 น. โดยมีนักเตะเข้าร่วมทั้งหมด 26 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขุมกำลังจากทีมที่ผ่านศึก ชิงแชมป์เอเชีย U23 รอบคัดเลือก ก่อนหน้านี้ โค้ชวังเน้นไปที่การฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังจบเกมลีก และเน้นสร้างความสัมพันธ์ในทีมให้แน่นแฟ้น พร้อมปรับจังหวะการเล่นให้เข้ากับระบบใหม่ของทีม
บรรยากาศการซ้อมเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แข้งดาวรุ่งหลายรายที่ถูกเรียกติดธงครั้งแรกแสดงให้เห็นถึงความกระหาย ขณะที่นักเตะชุดเดิมก็ยังรักษามาตรฐานฟอร์มได้ดี สะท้อนให้เห็นถึงความต่อเนื่องของทีมที่กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่มั่นคง
โค้ชวังเผยถึงแนวทางของทีมว่า
“โครงสร้างชุดเดิมมาจากตอนชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก แต่ในแคมป์ที่จีนมีผู้เล่นหลายคนติดภารกิจ สำหรับผู้เล่นใหม่หลายคนทำได้ดีและต่อเนื่องในแคมป์นี้ ส่วนผู้เล่นที่ทำผลงานดีที่จีนก็เรียกมาต่อเนื่อง แม้ว่าบางคนต้องถอนตัวเพราะติดภารกิจสโมสร หรืออาการบาดเจ็บ รวมถึงบางคนถูกเรียกไปชุดใหญ่ เราจึงเรียกผู้เล่นใหม่ที่ไม่เคยเข้าแคมป์ก่อนหน้านี้ นี่คือแคมป์สุดท้ายก่อนซีเกมส์”
“โค้ชวัง” มั่นใจศักยภาพเด็กไทย! ตั้งเป้าทำผลงานให้สมศักดิ์ศรีเจ้าภาพ
หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U23 กล่าวต่อถึงจุดแข็งของทีมในครั้งนี้ว่า
“จุดเด่นของเราคือสไตล์และคาแรคเตอร์ชุด U23 มีความใจสู้ เล่นฟุตบอลอย่างมีพลัง หลายคนพยายามใส่แทคติกการเข้าทำ ผมเข้าใจความกดดันเพราะไทยไม่ได้เหรียญทองซีเกมส์มานาน แต่เราหวังสร้างผลงานให้ดีที่สุดในฐานะเจ้าภาพ และเชื่อว่าแฟนบอลจะให้กำลังใจเต็มที่”
คำพูดของโค้ชวังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการคืนความยิ่งใหญ่ให้กับ ฟุตบอลทีมชาติไทย U23 ที่กำลังไล่ล่าความสำเร็จอีกครั้ง หลังจากห่างเหินจากการคว้าเหรียญทองซีเกมส์มาหลายปี เป้าหมายในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเตรียมทีม แต่คือการสร้างทีมที่แข็งแกร่งและมีเอกลักษณ์ชัดเจนทั้งเกมรุกและเกมรับ
วิเคราะห์คู่แข่งซีเกมส์ – เวียดนาม, อินโดฯ, มาเลย์ ยังน่ากลัวแต่ไม่หวั่น
โค้ชวังยังเปิดเผยถึงการประเมินคู่แข่งหลักในซีเกมส์ครั้งนี้ว่า
“จากตอนชิงแชมป์อาเซียน เรามองว่า เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นคู่แข่งสำคัญ เราไม่ประมาทชาติอื่นเพราะทุกทีมมีการพัฒนาขึ้นมาก”
นี่คือการส่งสัญญาณว่าทีมงานสตาฟฟ์ได้เริ่มวิเคราะห์แนวทางของคู่แข่งหลักไว้เรียบร้อย และพร้อมปรับแท็กติกให้เหมาะสม เพื่อให้ทีมชาติไทยสามารถต่อกรกับชาติชั้นนำในอาเซียนได้อย่างสูสีและมีประสิทธิภาพ
เตรียมพร้อมเต็มที่ก่อนซีเกมส์ – แผนเก็บตัวและการตรวจสนาม
สำหรับแผนการเตรียมทีมต่อไป โค้ชวังเผยถึงเรื่องสถานที่แข่งขันและการเก็บตัวว่า
“ไม่ว่าจะแข่งที่ไหน การเป็นเจ้าภาพถือเป็นข้อได้เปรียบ สำหรับแผนไปสงขลาเพื่อตรวจสภาพอากาศและสนาม ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ ดีตรงไม่ต้องเดินทางไกล นักกีฬาจะฟื้นฟูร่างกายได้เต็มที่”
ทีมชาติไทย U23 จะเดินทางไปเก็บตัวเพิ่มเติมที่จังหวัดสงขลาในช่วงปลายเดือน เพื่อปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศและสนามแข่งขันจริง เนื่องจากซีเกมส์ 2025 จะใช้สนามในพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก โดยเน้นการซ้อมเช้า-เย็น และการจำลองสถานการณ์การแข่งขันจริงให้ใกล้เคียงที่สุด
โปรแกรมอุ่นเครื่องก่อนซีเกมส์ – ดวลเดือดอินเดีย U23 ที่ธรรมศาสตร์
สำหรับโปรแกรมนัดอุ่นเครื่องอย่างเป็นทางการของ ทีมชาติไทย U23 มีดังนี้
- วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.00 น. อุ่นเครื่องพบ ทีมชาติอินเดีย U23 ที่ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม รังสิต ถ่ายทอดสดทาง YouTube: BG Sports และ แอป TrueVisions NOW
เกมนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญก่อนลุยศึกซีเกมส์ เพราะอินเดียเป็นทีมที่มีเกมเพรสซิ่งเร็วและร่างกายแข็งแรง โค้ชวังต้องการใช้แมตช์นี้เพื่อดูความพร้อมของนักเตะในแต่ละตำแหน่ง รวมถึงการทดสอบแผนการเล่นที่ซ้อมมาตลอดแคมป์
ฟุตบอลไทยกำลังสร้างอนาคตใหม่ด้วยเลือดนักสู้รุ่นใหม่
แรงบันดาลใจของทีมชาติไทยชุด U23 ในครั้งนี้ คือการปูทางไปสู่อนาคตของฟุตบอลไทยในระดับนานาชาติ การพัฒนานักเตะรุ่นใหม่ให้เข้าใจเกมระดับสูงตั้งแต่เยาว์วัย เป็นสิ่งที่สมาคมฟุตบอลและทีมงานโค้ชวังให้ความสำคัญ เพราะพวกเขาคือกำลังหลักของ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในวันข้างหน้า
นี่ไม่ใช่เพียงการซ้อมเพื่อซีเกมส์เท่านั้น แต่คือการสร้างระบบฟุตบอลไทยให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน และเป็นก้าวแรกของการคืนความยิ่งใหญ่ให้วงการลูกหนังไทย
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ทีมชาติไทย U23 และข่าวฟุตบอลไทยครบทุกประเด็นได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา

