⚽️ เบื้องหลังการตัดสินใจครั้งใหญ่ของสมาคมฟุตบอลไทย
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาเคลียร์แบบตรงไปตรงมา หลังสมาคมประกาศแยกทางกับ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 โดยยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากอารมณ์หรือแรงกดดันภายนอก แต่เป็นไปตาม หลักเทคนิค สถิติ และข้อสัญญาที่ถูกต้องทุกประการ เพื่อความก้าวหน้าของวงการฟุตบอลไทยในระยะยาว
📝 เหตุผลหลักที่นำไปสู่การยุติสัญญา
มาดามแป้งได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า สมาคมฯ ใช้สิทธิ์ของผู้ว่าจ้างตามข้อตกลงในสัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยการประเมินทั้งหมดดำเนินการผ่าน ฝ่ายเทคนิค ที่พิจารณาอย่างรอบคอบ โดยยึดหลักสถิติและข้อมูลเชิงวิชาการ ไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัว
“การเปลี่ยนหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นเรื่องธรรมดาในวงการฟุตบอลทั่วโลก สมาคมฯ ต้องรับผิดชอบต่อผลงานของทีมชาติไทยและความคาดหวังของแฟนบอลทุกคน” — มาดามแป้งกล่าว
📊 เทียบผลงานกับยุคก่อนหน้า
ฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ ใช้ตัวเลขสำคัญ เช่น Winning Ratio (อัตราชนะ) เป็นเกณฑ์ชี้วัดหลัก โดยเปรียบเทียบกับผลงานยุคของ มาโน่ โพลกิ้ง ที่มีอัตราชนะประมาณ 56% และยุคของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่อยู่ราว 50% ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทีมชาติไทยตั้งเป้าไว้ การทำผลงานของอิชิอิที่ต่ำกว่าเกณฑ์นี้จึงถูกนำมาพิจารณาอย่างเข้มข้น
🏆 เป้าหมายที่ไม่บรรลุ
มาดามแป้งระบุว่า การแต่งตั้ง อิชิอิ เมื่อเดือนธันวาคม 2023 มีเป้าหมายสำคัญคือการพาทีมชาติไทยทะลุเข้ารอบ 3 ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก อย่างไรก็ตาม ผลงานตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งการพลาดเข้ารอบในเดือนมิถุนายน 2567 และการเสียแชมป์อาเซียนปี 2024 เป็นสัญญาณชัดว่าทีมต้องการการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อเดินหน้าต่อ
“ฟุตบอลทีมชาติไม่ใช่ห้องทดลอง แต่ละเกมมีความหมายในทุกวินาที สมาคมฯ จึงต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล ไม่ใช่อคติหรืออารมณ์” — มาดามแป้งกล่าว
🤝 สมาคมยืนยันดำเนินการตามสัญญา
มาดามแป้งย้ำว่า สมาคมฯ ให้ความเป็นธรรมกับอิชิอิทุกขั้นตอน โดยจ่ายค่าชดเชย ครึ่งหนึ่งของเงินเดือนตามสัญญาที่เหลืออยู่ พร้อมดำเนินการด้วยความสุภาพและมืออาชีพทุกประการ ไม่มีการละเมิดข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ชัดเจนว่าฟุตบอลไทยบริหารจัดการด้วยระบบ ไม่ใช่ความรู้สึก
🌍 การสื่อสารกับแฟนบอลและทิศทางต่อไป
ในช่วงท้ายของแถลงการณ์ มาดามแป้งได้กล่าวขอบคุณแฟนบอลไทยที่ให้การสนับสนุน และย้ำว่า สมาคมฯ จะเดินหน้าพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างเต็มกำลัง ทั้งในระดับโครงสร้าง ระบบพัฒนาเยาวชน และการเตรียมทีมชาติสำหรับทัวร์นาเมนต์สำคัญในอนาคต
“แป้งขอให้คำมั่นว่าจะนำฟุตบอลไทยไปข้างหน้าอย่างมีศักดิ์ศรี และน้อมรับทุกคำติชมจากแฟนบอลด้วยความเคารพ”
🧭 วัฒนธรรมความรับผิดชอบในฟุตบอลระดับนานาชาติ
ในวงการฟุตบอลระดับโลก การเปลี่ยนหัวหน้าผู้ฝึกสอนไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยให้ทีมเดินหน้าอย่างยั่งยืน สโมสรและทีมชาติระดับชั้นนำมักใช้ตัวเลขผลงานเป็นตัวชี้วัด ไม่ใช่ความนิยมส่วนตัว การเคลื่อนไหวของสมาคมฟุตบอลไทยจึงสะท้อนแนวทางบริหารแบบมืออาชีพที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น และสอดคล้องกับมาตรฐานฟุตบอลโลก
🚀 ฟุตบอลไทยในก้าวต่อไป
แม้การแยกทางครั้งนี้จะเป็นข่าวใหญ่ แต่ก็เปิดประตูให้สมาคมฟุตบอลไทยเดินหน้าสู่การสร้างทีมชาติที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในเวทีฟุตบอลโลกและอาเซียน ที่แฟนบอลไทยตั้งความหวังไว้สูง การคัดเลือกหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่จึงถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากทั้งสื่อและแฟนบอลทั่วประเทศ
ติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวฟุตบอลไทยแบบเจาะลึกได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา

