ไทยชุดซีเกมส์โชว์แกร่ง ยันเสมอจีน 0-0
วันที่ 14 ตุลาคม 2568 “ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์” ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ลงสนามอุ่นเครื่องรายการ CFA International U22 Men’s Friendly Match พบกับ ทีมชาติจีน U22 ผลการแข่งขันออกมาเสมอกัน 0-0 ในเกมที่เต็มไปด้วยจังหวะเข้าทำ, การต่อสู้กลางสนาม และการเล่นเกมรับอย่างมีวินัยของแข้งช้างศึกชุดเล็ก ที่ทำเอากองเชียร์ไทยพอใจไม่น้อย
เกมนี้ถือเป็นการทดสอบทีมอีกครั้งหลังเพิ่งดวลกับจีนไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นแมตช์สำหรับทดลองแท็กติก ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักเตะหน้าใหม่ได้พิสูจน์ตัวเองบนเวทีระดับนานาชาติ
🧠 มุมมองโค้ชวังหลังเกม
โดย “โค้ชวัง” เฮดโค้ชทีมชาติไทย U23 เผยหลังจบเกมว่า…”เกมนี้ก็ถือว่าเป็นเกมที่สองของเราที่เจอกับทีมชาติจีน เราได้ลองนักเตะหลายคน ที่ผมไม่เคยได้ร่วมงานไม่ว่าจะเป็น อรรถพล แสงทอง รวมถึง ชินเงิน ภูตันหยง, ยศกร นาถสิทธิ์ และ วิชั่น อินอร่าม ต่างก็ทำผลงานได้ดี หลายคนเป็นการออกมาเล่นต่างแดนครั้งแรกด้วย ก็ถือว่าทำได้ดี ที่เรามีตัวเลือกมากขึ้นสำหรับทัวร์นาเมนต์ต่อๆไป”
เขายังกล่าวต่ออีกว่า…”เรายังมีจุดที่ต้องแก้ไขเยอะ แต่ผมก็ชื่นชมนักเตะชุดนี้ ตั้งแต่แมตช์แรกที่เราเจอจีน ในเรื่องสปิริตทีม การควบคุมอารมณ์ การอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน ทุกคนก็พยายามช่วยกัน พยายามตั้งใจเล่นบอลอย่างเดียวกัน และใจสู้ด้วย ไม่ว่าจะนักเตะเก่าหรือใหม่ ทุกคนแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถโรเตชั่นลงไปทำผลงานได้ดี”
🧭 ซีเกมส์เป้าหมายใหญ่ – ปรับแผนต่อยอดแท็กติก
โค้ชวังเปิดเผยถึงทิศทางหลังจบเกมว่า…”การเตรียมทีมหลังจากนี้เป้าหมายต่อไปของเรา คือซีเกมส์ แต่การมาอุ่นเครื่องกับจีน เราได้อะไรเยอะ และต้องเจอเขาในชิงแชมป์เอเชียด้วย และเมื่อเราได้นำสิ่งเหล่านี้ไปปรับใช้ในการเจอกับทีมในอาเซียนด้วยกัน น่าจะทำให้เราสามารถพัฒนาขึ้นได้ และใช้ในซีเกมส์ครั้งนี้”
การแข่งขันครั้งนี้นับว่ามีประโยชน์ต่อการเตรียมความพร้อมอย่างยิ่ง เพราะทีมจากจีนมีจุดแข็งในเกมเพรสซิ่งและลูกกลางอากาศ ซึ่งต่างจากทีมในอาเซียนพอสมควร การเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้สไตล์นี้ช่วยให้ทีมชาติไทยรู้จุดแข็ง–จุดอ่อนของตัวเองชัดเจนขึ้น
🧱 เกมรับไทยยืนพื้นแข็งแกร่ง
“เรื่องเกมรับ ตั้งแต่แมตช์ปิด เราไม่ได้เสียประตูจากลูกตั้งเตะ เราบอกเป้าหมายเด็กว่าเราเสียประตูจากลูกตั้งเตะเกือบทุกแมตช์ และเกมนี้เราต้องเจอจีน ที่มีผู้เล่นรูปร่างสูงใหญ่ และพยายามโจมตีด้วยการครอส น้องๆสามารถที่จะเก็บคลีนชีต เกมรับที่เจอกับคนที่สูงใหญ่ เราป้องกันด้านข้างได้ด้วย หลังจากเสียมาในเกมแรก แต่เกมนี้เราทำได้ดีขึ้น ฝากแฟนบอลที่ติดตาม ก็อยากให้แฟนบอลเป็นกำลังใจให้น้องๆ ชุดนี้ต่อไปด้วยครับ”
จุดเด่นสำคัญของเกมนี้คือแนวรับที่เล่นกันอย่างมีระเบียบ ความเข้าใจระหว่างเซนเตอร์กับวิงแบ็กถูกยกระดับขึ้นชัดเจน การรับมือบอลยาวและลูกกลางอากาศที่เคยเป็นปัญหาในเกมแรกถูกแก้ไขจนสามารถ “เก็บคลีนชีต” ได้สำเร็จ
🧳 แผนเตรียมทีมก่อนลุยซีเกมส์
หลังจบแมตช์นี้ ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ จะเดินทางกลับทันที โดยจะถึง สนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 13.00 น. ก่อนที่ทีมสตาฟฟ์โค้ชจะประชุมเพื่อวางแผนการเก็บตัวในเดือนพฤศจิกายน
โดยโปรแกรมสำคัญรออยู่ 2 รายการใหญ่ นั่นคือ กีฬาซีเกมส์ 2025 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม 2568 และ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย วันที่ 6–24 มกราคม 2569 ถือเป็นสองเวทีสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับขุมกำลังดาวรุ่งของไทย
⚽ พื้นฐานสำคัญของทีมชาติไทย U23
การได้ลงสนามอุ่นเครื่องกับทีมแกร่งจากเอเชียตะวันออกไม่ใช่แค่เกมทดสอบธรรมดา แต่คือการสร้างประสบการณ์จริงในสถานการณ์ความกดดัน นักเตะชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นเลือดใหม่ที่กำลังไต่เต้าขึ้นมาเป็นอนาคตของทีมชาติ การปรับแท็กติก การเล่นเกมเร็ว และการรับมือแรงกดดันจะเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกต่อยอดสู่ซีเกมส์ปลายปี
อีกทั้งการมีเกมอุ่นเครื่องระดับนานาชาติช่วยให้ทีมสามารถปรับแผนรับมือคู่แข่งในอาเซียนได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทีมที่เล่นเพรสซิ่งหนักหรือเน้นสปีด การฝึกซ้อมในลักษณะนี้คือหัวใจของการพัฒนาทีมเยาวชนไทยให้แข็งแกร่งในระยะยาว
📰 ติดตามความเคลื่อนไหวช้างศึก
แฟนบอลสามารถติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และโปรแกรมเตรียมทีมของ ทีมชาติไทย U23 ก่อนลุยศึกซีเกมส์และฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา เพื่อลุ้นกันแบบติดขอบจอว่าขุนพลช้างศึกจะก้าวไปได้ไกลแค่ไหนในปีแห่งความหวังนี้

