
การแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย U17 2025 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง กลายเป็นค่ำคืนที่ไม่อาจลืมได้สำหรับ ทีมชาติไทย U17 ที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับ ซาอุดีอาระเบีย ไปด้วยสกอร์ 1-3 การต่อสู้อันดุเดือดและการทำประตูที่เฉียบคมจากทีมคู่แข่งสร้างความผิดหวังให้กับทัพ ช้างศึกยังบลัด อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U17 ได้ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ความแข็งแกร่งทางร่างกายของซาอุดีอาระเบีย คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทีมของเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้ในเกมนี้
จากการเปิดเผยของ จเด็จ มีลาภ หลังจบเกมที่สนาม โอคาซ สเตเดียม เขายอมรับว่า ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย U17 มีความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังที่พวกเขาสามารถใช้นักเตะที่มีความแข็งแรงสูงลงมาเปลี่ยนเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างแรงกดดันให้กับแนวรับของ ทีมชาติไทย U17 จนต้องเสียประตูอย่างต่อเนื่อง
เกมนี้ทัพ ช้างศึกยังบลัด พยายามทำเกมรุกเข้าใส่คู่แข่งอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำประตูเดียวได้จาก ศิวกร พลสรรค์ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะพาทีมคว้าชัยชนะได้ ความเร็วและความแข็งแกร่งของนักเตะซาอุดีอาระเบียส่งผลกระทบอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณปีกที่เป็นจุดที่พวกเขาใช้ในการโจมตีอย่างหนักหน่วง
“ทุกคนตั้งใจเล่นมากในเกมนี้ เรามาเพื่อเปิดเกมรุกใส่เขา หาจังหวะสวนกลับและพยายามสร้างโอกาสให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือ ซาอุดีอาระเบีย มีความแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะนักเตะริมเส้นที่มีความรวดเร็วและมีพละกำลังที่เหนือกว่าแบ็คของเรา ซึ่งบางคนยังมีอาการบาดเจ็บ ทำให้เราต้องใช้ผู้เล่นตำแหน่งปีกมารับมือกับเกมรุกของพวกเขา” จเด็จ มีลาภ กล่าวอย่างหนักแน่น
นอกจากความแข็งแกร่งของร่างกายแล้ว อากาศที่หนาวเย็น ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ ทีมชาติไทย U17 ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเล่น โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่ความเหนื่อยล้าและอาการบาดเจ็บเริ่มส่งผลอย่างชัดเจน ทำให้ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของทีมคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“หลังจากนาทีที่ 60-70 ซาอุดีอาระเบียเปลี่ยนตัวนักเตะที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงลงมา ทำให้เรารับมือได้ยากขึ้น นั่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เราต้องเสียประตูเพิ่ม พวกเขามีระบบการเล่นที่แข็งแกร่งและใช้ความได้เปรียบทางร่างกายอย่างเต็มที่ สิ่งที่เราต้องทำคือพัฒนาร่างกายของนักเตะให้แข็งแกร่งขึ้น และต้องมีการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันให้ได้” จเด็จ มีลาภ กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
แม้จะพ่ายแพ้ในเกมนี้ แต่เฮดโค้ชของ ทีมชาติไทย U17 ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของนักเตะทุกคน และย้ำว่าทีมยังคงมีโอกาสในการต่อสู้เพื่อเก็บแต้มจาก ทีมชาติจีน ในการแข่งขันนัดถัดไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทีมที่มีความแข็งแกร่งไม่แพ้กัน
“เกมหน้าเราต้องสู้เต็มที่ ผมเชื่อว่าเด็กๆ ทุกคนใจสู้กันอยู่แล้ว เพียงแต่เกมนี้ต้องยอมรับว่าซาอุดีอาระเบียมีความแข็งแกร่งจริงๆ พวกเขามีความแข็งแรงของร่างกายและการเล่นที่เป็นระบบที่เหนือกว่า เราต้องกลับไปปรับปรุงตัวเองเพื่อให้พร้อมสำหรับเกมถัดไป”
สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U17 2025 นัดที่สาม ทีมชาติไทย U17 จะต้องพบกับ ทีมชาติจีน U17 ในกลุ่ม A โดยจะลงสนามที่ โอคาซ สเตเดียม ในวันที่ 10 เมษายน 2568 เวลา 00.15 น. ตามเวลาประเทศไทย (คืนวันที่ 9 เมษายน) การแข่งขันนัดนี้จะมีการถ่ายทอดสดผ่านช่อง T Sports 7 และแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Facebook และ YouTube : ช้างศึก
นี่คืออีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่ทัพ ช้างศึกยังบลัด ต้องต่อสู้เพื่อเก็บแต้มสำคัญให้ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แฟนบอลชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและบทวิเคราะห์ที่เข้มข้นได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา