ท่ามกลางฟอร์มร้อนแรงของ เอมิล โรบัค แนวรุกตัวเก่งของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ซัดไปแล้ว 5 ประตูจาก 2 นัด ในช่วงเลกสองของ ไทยลีก 2024-25 และเป็นหนึ่งในคีย์แมนที่พา “กิเลนผยอง” ขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตาราง แต่ยังมีนักเตะอีกหนึ่งคนที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แม้จะไม่ได้เปรี้ยงปร้างหรือเป็นจุดสนใจมากนัก ทว่าความสม่ำเสมอและความเฉียบขาดของเขากลับเป็นสิ่งที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด ขาดไม่ได้
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
เขาคนนั้นก็คือ มูห์เซน อัล-กาสซานี่ ศูนย์หน้าทีมชาติโอมาน วัย 27 ปี ที่ย้ายมาจาก อัล-เซเอ๊บ สโมสรในลีกบ้านเกิดเมื่อช่วงต้นฤดูกาล และสามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบของ ธชตวัน ศรีปาน ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยผลงาน 9 ประตูจาก 16 เกมในไทยลีก ทำให้เขากลายเป็น รองดาวซัลโว ของลีก ตามหลังเพียงแค่ กีเญร์เม่ บิสโซลี่ เท่านั้น
นอกจากไทยลีกแล้ว ฟอร์มของ อัล-กาสซานี่ ในเวทีระดับทวีปก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 เขากดไปแล้ว 4 ประตูจาก 5 นัด รั้งอันดับ 3 ในตารางดาวซัลโว ของทัวร์นาเมนต์ นั่นหมายความว่าฤดูกาลนี้เขาลงสนามไปทั้งหมด 22 นัดในทุกรายการ และซัดไปถึง 13 ประตู ซึ่งเป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึง ความคงเส้นคงวา และ ความอันตรายในพื้นที่สุดท้าย
กองหน้าหมายเลข 9 ที่มากกว่าการเป็นเพชฌฆาต
สิ่งที่ทำให้ อัล-กาสซานี่ แตกต่างจากกองหน้าตัวเป้าคนอื่น คือเขาไม่ได้เป็นเพียง “จอมสังหาร” ที่รอบอลจบสกอร์เท่านั้น แต่ยังเป็น กองหน้าที่มีไหวพริบสูง อ่านเกมได้ดี และมี ความสามารถในการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับเพื่อนร่วมทีม
แม้ว่าจะยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า แต่ อัล-กาสซานี่ มีสไตล์การเล่นที่ยืดหยุ่น เขามักจะ ถอยลงมาต่ำ เพื่อดึงตัวประกบและเปิดพื้นที่ให้ตัวรุกจากแถวสองเข้าทำ หรือบางครั้งก็ ฉีกออกไปเล่นด้านข้าง เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมมีพื้นที่โจมตีมากขึ้น
อีกหนึ่งจุดเด่นของเขาคือ ความแข็งแกร่งและการเล่นลูกกลางอากาศ แม้จะมีส่วนสูงเพียง 1.84 เมตร แต่เขากลับสามารถเบียดปะทะกับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ตัวใหญ่กว่าได้แบบไม่เป็นรอง รวมถึงมีความสามารถในการ พักบอลและเชื่อมเกม ทำให้แบงค็อกสามารถเล่นเกมรุกได้อย่างหลากหลาย
ที่สำคัญคือเขาเป็น นักเตะที่เล่นเพื่อทีม และไม่ได้เน้นแต่การทำประตูเพียงอย่างเดียว หากเห็นว่าเพื่อนอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า เขาก็พร้อมที่จะจ่ายบอลให้ทันที นี่คือสิ่งที่ทำให้ อัล-กาสซานี่ แตกต่างจากกองหน้าทั่วไป และเป็นเหตุผลที่ทำให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด อันตรายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในฤดูกาลนี้
จุดเปลี่ยนของอัล-กาสซานี่ จากเสียงวิจารณ์สู่ฟอร์มสุดโหด
อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นฤดูกาล อัล-กาสซานี่ ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล เนื่องจากเขาทำได้เพียง 1 ประตูจาก 6 เกมแรก จนเกิดกระแสวิจารณ์ว่าเขาอาจไม่ใช่กองหน้าที่ดีพอสำหรับ ไทยลีก
แต่เมื่อสามารถปรับตัวได้ ฟอร์มของเขาก็ค่อย ๆ ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็น เครื่องจักรถล่มประตู ของแบงค็อกในปัจจุบัน ซึ่งนั่นพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นแค่กองหน้าธรรมดา แต่เป็น จิ๊กซอว์สำคัญ ที่ทำให้ทีมยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ทั้ง 4 รายการในฤดูกาลนี้
แบงค็อก ยูไนเต็ด กับโอกาสลุ้นแชมป์
ถึงแม้ว่าการลุ้นแชมป์ ไทยลีก 2024-25 อาจจะเป็นงานที่ยาก เพราะพวกเขายังตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงอยู่ 6 คะแนน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หาก แข้งเทพ สามารถรักษาฟอร์มและเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ พวกเขาก็ยังมีโอกาสสร้างปาฏิหาริย์
ขณะที่ในรายการฟุตบอลถ้วย แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังคงเป็น ตัวเต็ง โดยเฉพาะในศึก ช้าง เอฟเอ คัพ ที่พวกเขาเป็นแชมป์เก่า รวมถึง รีโว่ ลีก คัพ และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ซึ่งพวกเขายังคงอยู่ในเส้นทางที่ไปได้ไกล
การมี อัล-กาสซานี่ ในทีมเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก เพราะเขาเป็นกองหน้าที่สามารถ เปลี่ยนผลการแข่งขันได้ในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นเกมที่ต้องการประตู หรือการเล่นในระบบที่ต้องการความยืดหยุ่น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเป็น จิ๊กซอว์สำคัญ ของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้
สรุป
มูห์เซน อัล-กาสซานี่ อาจไม่ใช่กองหน้าที่ถูกพูดถึงมากที่สุดใน ไทยลีก 2024-25 แต่ผลงานของเขาพูดแทนทุกอย่าง 9 ประตูจาก 16 นัด ในลีก บวกกับ 4 ประตูในถ้วยเอเชีย นี่คือฟอร์มของศูนย์หน้าที่เป็นมากกว่าจอมสังหาร แต่คือ แกนหลักที่ขาดไม่ได้ ของ แบงค็อก ยูไนเต็ด
และหากเขายังคงรักษาฟอร์มที่ยอดเยี่ยมนี้ไว้ได้จนจบฤดูกาล แข้งเทพอาจจะมีลุ้นแชมป์มากกว่าที่หลายคนคาดคิด!
ติดตามข่าวบอลไทยอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา