สุภโชค สารชาติ แนวรุกตัวเก่งจากสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในศึก เจลีก 1 ประเทศญี่ปุ่น เปิดใจถึงความมุ่งมั่นและความกระหายในการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ อาเซียน คัพ 2024 ซึ่งครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญคือการได้ชูโทรฟี่ร่วมกับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น้องชายของเขาเป็นครั้งแรกในนามทีมชาติ
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
สุภโชคเคยคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2020 แต่เขายังไม่เคยได้สัมผัสความสำเร็จร่วมกับศุภณัฏฐ์ในเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทั้งสองพี่น้องจะได้สร้างประวัติศาสตร์ร่วมกัน
ความตั้งใจและการเตรียมตัวของสุภโชค
“เหตุผลหลักที่ผมมาร่วมการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนครั้งนี้ คือ ผมอยากคว้าแชมป์ร่วมกับน้องชาย (ศุภณัฏฐ์)” สุภโชคกล่าวอย่างหนักแน่น “ผมพยายามดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี ทั้งการกิน การอยู่ และการใช้ชีวิตในสนามและนอกสนาม ทุกอย่างผมตั้งใจเพื่อให้พร้อมที่สุด และหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ ผมอยากช่วยทีมชาติไทยให้ดีที่สุด”
สุภโชคยังเสริมถึงความกระหายที่เขามีต่อภารกิจครั้งนี้ว่า “ผมมีเป้าหมายที่ชัดเจนมาก ผมอยากทุ่มเทให้กับทีมชาติในทุกนัด ทุกนาทีที่ได้ลงสนาม และผมหวังว่าทุกคนจะช่วยเชียร์และส่งกำลังใจให้กับทีมชาติไทยในครั้งนี้”
ไทยในอาเซียน คัพ: บันทึกแห่งความสำเร็จ
ฟุตบอล อาเซียน คัพ หรือ ASEAN Mitsubishi Electric Cup ได้จัดมาแล้วทั้งหมด 14 ครั้ง โดย ทีมชาติไทย ครองตำแหน่งแชมป์มากที่สุดถึง 7 สมัย ขณะที่ สิงคโปร์ ได้แชมป์ 4 ครั้ง เวียดนาม 2 ครั้ง และ มาเลเซีย 1 ครั้ง ครั้งนี้ทีมชาติไทยอยู่ใน กลุ่ม เอ ร่วมกับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง มาเลเซีย, สิงคโปร์, กัมพูชา และ ติมอร์ เลสเต
โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทยในรอบแบ่งกลุ่ม
- 8 ธันวาคม 2567
ติมอร์ เลสเต พบ ทีมชาติไทย เวลา 20.00 น. ที่สนาม ฮัง เดย์ สเตเดียม (เวียดนาม) - 14 ธันวาคม 2567
ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย เวลา 20.00 น. ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน - 17 ธันวาคม 2567
สิงคโปร์ พบ ทีมชาติไทย เวลา 19.30 น. ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ - 20 ธันวาคม 2567
ทีมชาติไทย พบ กัมพูชา เวลา 20.00 น. ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน
รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ
- รอบรองชนะเลิศ
- เลกแรก: 26-27 ธันวาคม 2567
- เลกสอง: 29-30 ธันวาคม 2567
- รอบชิงชนะเลิศ
- เลกแรก: 2 มกราคม 2568
- เลกสอง: 5 มกราคม 2568
การแข่งขันครั้งนี้จะถ่ายทอดสดผ่านทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32, AIS PLAY, YouTube: BG Sports และ บ้านกีฬา แฟนบอลสามารถติดตามชมและส่งแรงเชียร์ให้กับทัพช้างศึกได้อย่างเต็มที่
ติดตามข่าวบอลไทยอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา