ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! เมื่อ นีล โรเบิร์ตสัน นักสอยคิวมือ 19 ของโลกจากออสเตรเลีย ทำผลงานสุดระเบิด ในการแข่งขัน เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2025 รอบชิงชนะเลิศ ที่ ไคตักอารีนา เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยการอัด สจวร์ต บิงแฮม มือ 23 ของโลกจากอังกฤษ แบบไม่ให้ตั้งตัว ด้วยสกอร์ขาดลอยถึง 10-0 เฟรม สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการ สนุกเกอร์โลก ด้วยฟอร์มการแทงที่เฉียบขาดไร้ที่ติ
การแข่งขันในครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงความดุเดือดในโต๊ะสนุกเกอร์เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเงินรางวัลมหาศาล โดยผู้ชนะในปีนี้รับไปเต็ม ๆ 180,000 ปอนด์ หรือราว 7.8 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึงเกือบเท่าตัว แน่นอนว่าแรงจูงใจนี้ทำให้นักสอยคิวทุกคนหมายตาไปที่เงินรางวัลก้อนใหญ่ จึงสู้กันอย่างเต็มที่ในทุกเฟรม
ทว่าก่อนจะถึงรอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันต้องเจออุปสรรคจากการถอนตัวของนักสนุกเกอร์ดังถึง 3 คน เริ่มจาก รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 4 ของโลก ผู้เป็นเสมือน “ราชาแห่งวงการสนุกเกอร์” ที่ขอถอนตัวด้วยเหตุผลทางการแพทย์เหมือนเดิม ส่งผลให้ เดอะร็อกเก็ต จะไม่ได้สิทธิ์ลงแข่งขันในรายการใหญ่ ๆ ต่อไปอีก 2 รายการ ได้แก่ เพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ และ ทัวร์แชมเปี้ยนชิพ เนื่องจากอันดับคะแนนสะสม one year ranking ของเขาอยู่เพียงอันดับ 31 ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการผ่านเข้ารอบ
นอกจาก รอนนี่ ยังมี สตีเฟ่น แม็กไกวร์ มือ 27 ของโลกจากสกอตแลนด์ ที่ขอถอนตัวก่อนลงแข่งกับ ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 8 ของโลก ด้วยเหตุผลส่วนตัว ทำให้อันดับ one year ranking ของเขาหล่นไปอยู่ที่ 30 และหมดสิทธิ์ลงแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ เช่นเดียวกับ แจ๊ค ลิซอฟสกี้ มือ 25 ของโลกจากอังกฤษ ที่ถอนตัวกะทันหันเนื่องจากคุณพ่อป่วยหนัก และสุดท้ายได้จากไปอย่างน่าเศร้า ทำให้เขาพลาดโอกาสในการแข่งขันรายการใหญ่และคะแนนสะสมของเขาหยุดอยู่ที่อันดับ 18
เมื่อมาถึงรอบชิงชนะเลิศ แม้หลายคนจะคาดหวังความสูสีระหว่างสองนักสอยคิวที่เคยครองแชมป์โลกมาแล้ว แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อ นีล โรเบิร์ตสัน โชว์ฟอร์มระดับมาสเตอร์ ด้วยการกด สจวร์ต บิงแฮม ยับเยิน 10-0 เฟรม ทิ้งห่างแบบไม่มีทางกลับตัวได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ บิงแฮม เพิ่งจะเอาชนะ จัดด์ ทรัมป์ มือ 1 ของโลกในรอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์ 6-3 เฟรม นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการสนุกเกอร์อาชีพโลก เพราะนี่คือครั้งที่สองเท่านั้นที่รอบชิงชนะเลิศจบลงด้วยสกอร์ 10-0 เฟรม หลังจาก สตีฟ เดวิส เคยทำไว้ในศึก กรังด์ปรีซ์ 1989 ที่ชนะ ดีน เรย์โนลด์ส แบบขาดลอยเช่นเดียวกัน
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้ นีล โรเบิร์ตสัน เพิ่มสถิติการคว้าแชมป์ระดับ เวิลด์แรงค์กิ้ง เป็นรายการที่ 25 ในชีวิต อีกทั้งยังรับเงินรางวัลก้อนใหญ่ 180,000 ปอนด์ หรือราว 7.8 ล้านบาท พร้อมกับโกยคะแนนสะสมเต็ม ๆ 180,000 แต้ม ทำให้อันดับโลกของเขาพุ่งจากอันดับ 19 มาอยู่ที่ 11 และใน one year ranking ขึ้นมารั้งอันดับ 3 รองจาก จัดด์ ทรัมป์ และ ไคเรน วิลสัน เท่านั้น
ในขณะที่ สจวร์ต บิงแฮม ที่เหมือนเอาฟอร์มดีทั้งหมดไปใช้ในรอบรองชนะเลิศกับ จัดด์ ทรัมป์ ทำให้ในรอบชิงฯ เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีนัก แต่ถึงอย่างนั้นการได้รองแชมป์ก็ยังทำให้เขารับเงินรางวัล 80,000 ปอนด์ (ราว 3.5 ล้านบาท) พร้อมกับอันดับโลกที่ขยับขึ้นจาก 23 เป็น 20 และ one year ranking ขึ้นมาอยู่ที่ 14 ซึ่งเพียงพอให้เขาผ่านเข้ารอบไปลุยศึก เพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2025 ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
บ้านกีฬา ขอแสดงความยินดีกับ นีล โรเบิร์ตสัน กับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ และเชิญชวนแฟน ๆ สนุกเกอร์ทุกท่าน ติดตามข่าวสารและผลการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นแบบนี้ได้ที่ สนุกเกอร์สดบ้านกีฬา อย่างต่อเนื่อง!
